Kubinka Tank Museum
สวัสดีครับ วันนี้ผมจะพาเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์รถถังที่ใหญ่ที่สุดในรัสเซียกันนะครับผม
ที่นี่มีรถถังมากมายหลายเชื้อชาติเลยทีเดียว ใครมาเที่ยวรัสเซียและเป็นคออาวุธสงครามห้ามพลาด
ซึ่งเมื่อได้รับชมแล้วบอกได้ว่าคุ้มค่าแก่เวลา ในราคาไม่แพงครับผม
แนะนำให้มาเที่ยวเองไม่ต้องจ้างทัวร์ครับเพราะราคาเป็นหมื่น หากไม่ต้องการไกด์คอยอธิบายลายละเอียดรถถังต่างๆ


ก่อนอื่นผมเองมารัสเซียเพื่อที่จะมาเรียนภาษาที่มหาวิทยาลัยมอสโก สถาบันเอเชียและแอฟริกาศึกษาเป็นเวลา 5 เดือนครับ
ซึ่งตอนนี้มหาลัยยังไม่เปิดเทอมผมเลยถือโอกาส ไปเที่ยวที่นี่เลยครับ ใฝ่ฝันมานาน 555




นี่ม.ของผมเองเป็นหอพัก น.ศ.ด้วย ไม่ต้องถามว่าหนาวรึป่าว 555
ภาพข้างล่างคือหน้าต่างห้องนอนผมครับ


เริ่มต้นการเดินทางตั้งแต่เจ็ดโมงครึ่ง ผมนั่งรถตู้จากมหาวิทยาลัยแบบในภาพ
ไปสถานีรถไฟใต้ดิน metro อูนีเวียรซิเตี๊ยด ในราคา 20 รูเบิ้ล



ถึงเมโทร ผมต้องนั่งจากสถานี     Университет สายสีแดง ไปสถานี Парк культуры (ปาร์ค คูลตูรึย)
เพื่อเปลี่ยนสายเป็นสีน้ำตาล แล้วนั่งต่อไปจนถึง Белорусская (เบลารุสสกาย่า) ท่านก็จะถึงสถานีรถไฟเพื่อไปเมืองคูบินก้าแล้วครับ


รอรถไฟใต้ดินสถานี Университет


ออกจากเมโทรมาก็จะเจอสถานีรถไฟเบลารุสสกาย่าเลย
มาถึงก็ดูตารางรถไฟออก ซึ่งเมืองKubinka จะมีรถไฟไปตอนเช้า เวลา 7.07 น. กับ 9.28 น. ครับ
ผมเลือกไปตอนเก้าโมง  



ที่นี่มีตู้ขายตั๋วอัตโนมัติครับ ตอนแรกพวกผมกับเพื่อนๆก็งงๆ ใช้ไงวะ 555 พึ่งมาครั้งแรก ตู้นี้ใช้บัตรเดบิตวีซ่าจ่ายได้
ราคาตั๋วไม่แพงราคาเที่ยวละ 140 กว่ารูเบิ้ลเองครับ  กดชื่อเมืองที่ต้องการจะไป แล้วกดจ่ายตังค์เลยย

จะได้ตั๋วหน้าตาแบบนี้ เก็บไว้กับตัวนะเพราะต้องใช้แสกนตอนเข้าชานชาลา กับมีคนตรวจบนรถไฟด้วย


ชานชาลา

ยังไม่ได้กินอะไรเลย ซื้อขนมปังไส้กรอกเก็บไว้กิน


รถไฟผมเอง ...... ตามสภาพ ไปคูบินก้าจะอยู่ชานชาลาที่ 6 ครับ


เข้ามาข้างในแล้ว แหม่ ไม่ต่างจากไทยเท่าไหร่นะ ดีกว่าตรงที่ ตรงเวลา


คนรัสเซียสูบบุหรี่จัดมาก แล้วก็จะทิ้งบุหรี่ไว้ตามทางเต็มไปหมด ทำให้ดูสกปรก (จุดขาวๆในภาพคือบุหรี่ที่โยนทิ้ง)


ออกเดินทางแล้วครับผม (กระจกมัวมากกก)  ใช้เวลาเดินทางจากมอสโกไปทางตะวันตก ที่เมืองคูบินก้าใช้เวลา 1 ชั่วโมงครับ


บนรถไฟก็จะเหมือนไทยเลยครับมีคนขึ้นมาขายของ บางทีก็ขอทานทำบุญบ้างก็มี 555
จะมีป้ามีลุงมายืนอยู่หัวตู้รถไฟ แล้วก็จะตะโกนขายของนี้ๆราคาเท่าไหร่ เสียงดัง
บางคนขายถุงเท้า ยกถุงมาใหญ่ๆ เดินวางถุงเท้าไว้สองคู่ไปตามที่นั่งตั้งแต่ด้านหน้าสุดไปจนหลังสุด
ใครซื้อก็หยิบมาวางตังค์ทิ้งไว้ครับ แล้วเขาก็จะกลับมาเก็บคืนครับถ้าไม่ซื้อ (ถุงเท้าคู่ละ 100 รูเบิ้ล)

รถไฟก็จะจอดแต่ละสถานีไปเรื่อยๆจนกว่าจะถึง คนก็จะมานั่งเต็มขึ้นเรื่อยๆ

ชั่วโมงนึงก็ถึง Kubinka แล้วว


หนาวกว่ามอสโกอีกฮะ บลึ๋ยยยย  ตัวสั่นมือชาเลย ใส่เสื้อยืดมาแค่ชั้นเดียวทับด้วยเสื้อกันหนาว


เมืองนี้ก็เป็นเมืองเล็กๆครับ มีตึกมีบ้านเป็นหลังๆมากมาย มากกว่ามอสโกที่มักจะเป็นตึกคอนโด




ไม่รู้จะไปทางไหนก็ เดินชมเมืองไปซักพัก  สุดท้ายก็ไปคุยกับแท็กซี่บอกไป มูเซ เขาก็เข้าใจ
ตกลงราคากัน ฟังเขาพูดไม่ทัน อะไรนะราคา 50 รูเบิ้ลเหรอ อ่ะโอเค ไปๆ


ถึงงแล้วว ถนนทางไปหิมะค่อนข้างหนาอยู่เลย ลึกเข้าไปในซอยนิดนึง ไม่ติดกับถนนหลัก
พอเขาจอดก็ยื่น แบงค์ 50 รูเบิ้ล เขาก็มองๆ แล้วพูดรัวๆ
ผมกับเพื่อนอีกสองคนก็งงๆ ฟังไม่ทัน สรุปปรากฎว่า 250 รูเบิ้ล คนขับแท็กซี่ก็หัวเราะๆ
แบบบอกว่าพูดย้ำหลายครั้งแล้วนะ ผมก็ขำๆ บอกเขาว่ายังฟังรัสเซียได้ไม่ค่อยดี จ่ายเสร็จก็เดินเข้าพิพิธภัณฑ์ไป


มาถึงประตูทางเข้าก็จะมี ร้านขายของฝาก กับมีพนักงานขายตั๋วครับ ผมยื่นบัตรนักศึกษาไป
เขาก็ส่ายหน้า สรุปเอามาเป็นส่วนลดไม่ได้ ต้องจ่ายค่าตั๋วคนละ 1,700 รูเบิ้ลครับ
จ่ายด้วยบัตรเดบิตได้ (ผมใช้บัตรของกรุงเทพสมาร์ทเฟิสนะ)  
ก่อนเข้าก็จะมียามมาตรวจกระเป๋า และมีเครื่องแสกนอาวุธครับ พร้อมตรวจตั๋ว

แล้วก็ได้เข้ามาจะเจอทางตามภาพครับ

เดินมาจากข้างบนแผนที่ลงมานะครับ
จุดโรงแสดงรถถังของแต่ละชาติ วาดในมือถือ งานหยาบครับ 555



อย่าลืมกดโหวตให้ด้วยนะคร้าบ
เดี๋ยวมาต่อนะ