สวัสดีค่า ^____^ กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกของเราเลยยยย
จะมาแบ่งปันประสบการณ์ชีวิต ( ของตัวเอง 555 ) ของวัยรุ่นธรมดาคนนึงที่ไม่ชอบทำงานประจำ ><''
เริ่มเลยละกันเนอะ
จขกท.เป็นเด็กวัยรุ่นค่ะ อายุยี่สิบกว่า ๆ ผ่านการทำงานมาหลายที่ หลายงานค่ะ
ไม่ว่าจะเป็นรับและตอบออเดอร์จากลูกค้า ฝ่ายผลิตที่โรงงาน ลูกจ้างร้านก๋วยเตี๋ยว ฯลฯ
ทำได้ไม่นานก็ออกค่ะ !! เพราะทนกับแรงกดดันต่าง ๆ ไม่ไหว เราก็เริ่มคิดหาทางอื่นและก็เริ่มสนใจที่จะเป็น "แม่ค้า"
แรงคัดค้านจากที่บ้านเยอะมากค่ะ แต่เราไม่ฟัง 55555
✦ ธุรกิจแรก !! "น้ำแข็งใส & น้ำปั่น"
เราเริ่มจากเงิน 1000 บาทค่ะ ( ยืมพ่อมา )
ด้วยความที่แม่เป็นคนชอบซื้อของเกี่ยวกับเครื่องครัว อาหาร ทุกชนิด !! เราเลยไม่ต้องเสียเงินซื้อเครื่องปั่น และเครื่องทำน้ำแข็งใสค่ะ
ส่วนวัตถุดิบเราก็ไปซื้อที่ตลาดสดช่วงเช้า ๆ ค่ะ มีให้เลือกทุกอย่างแถมได้ราคาถูกอีกด้วย
เราก็เลือกที่คิดว่าลูกค้าน่าจะชอบอย่าง ลูกชิด(ลูกจาก) มันเชื่อม เม็ดแมงลัก สับปะรดเชื่อม และก็เฉาก๊วย
มีน้ำแดง น้ำเขียว น้ำมะลิ และก็หัวเชื้อน้ำผลไม้สำหรับทำน้ำปั่นค่ะ งบเราก็ยังเหลือไว้ทอนและหมุนต่อไปค่ะ
และดีหน่อยที่เราไม่ต้องเสียค่าเช่าที่ เพราะขายหน้าบ้านตัวเองค่ะ น้ำ ไฟ ฟรีไม่จำกัด เพราะพ่อจ่าย 5555 (สบายกระเป๋ามาก)
และก็ดีตรงที่บ้านเราทำอู่ซ่อมรถค่ะ ขายลูกค้าพ่อ ลูกน้องพ่อ และก็คนในบ้าน แทบไม่มีคนที่ผ่านไปมาแวะซื้อเลย
แต่ก็มีบ้างที่มาซื้อ และทุกคนที่มาซื้อก็กลับมาซื้อเราทุกวันค่ะ เพราะเราให้เยอะมั้งคะ 5555 เราขายของเป็นครั้งแรก
เราไม่รู้ว่าควรใส่แค่ไหน เห็นว่าของที่เราซื้อมาไม่ได้แพงอะไรเราก็ใส่เต็มที่ค่ะ อย่างลูกจากที่อื่นใส่กันแค่สามสี่ลูก
แต่เราใส่เป็นช้อนค่ะ 555 บางทีเรามองดูถุงที่เราตักเสร็จ เราเห็นว่ามันน้อยเราก็ใส่เพิ่ม
จนลูกค้าที่มาซื้อถามเราค่ะว่าเราขายถุงละเท่าไหร่
เห็นเขียนว่า 10 บาท เราก็บอกค่ะว่า 10 บาทจริง ๆ เค้าก็งงไปเลยค่ะ ถามเราว่าเราได้กำไรมั้ยให้เยอะขนาดนี้
มันทำให้เราคิดนะว่าเราให้เยอะเกินไปหรอ ? แต่มันดีตรงที่เค้ามาซื้อเราทุกวันค่ะ ซื้อวันละ 5-10 ถุง (เอาไปแจกคนงานตัดอ้อย)
ขายได้ประมาณอาทิตย์นึงเราได้ทุนคืนพ่อแล้วค่ะ และเราก็ขายต่อได้ไม่นานก็เข้าหน้าหนาว :'( #ร้องไห้หนักมาก
เราก็เลยเลิกขาย เพราะไม่มีใครซื้อกิน 555 ธุรกิจนี้ก็จบลงไปเลยค่ะ เราก็ไปทำงาน !
- ได้ทุนคืน กำไรนิดหน่อย และมีของเหลือไว้ทำกินเองด้วย #คุ้มค่ะ
ของที่เหลือเอามาจัดงานวันเกิดให้น้อง ๆ ค่ะ อร่อยกันถ้วนหน้า ใส่ไม่อั้น เครื่องๆเน้น ๆ 555
แต่เรายังไม่หมดหวังนะคะ ระหว่างที่ทำงานอยู่เราก็หาข้อมูลไปเรื่อย ๆ
ว่าจะขายอะไรดี ลงทุนน้อยกำไรดี หาอยู่นานมากจนอยากจะเลิกคิดเลย 55
เราก็เปิดคอมวาดรูปเล่น ออกแบบอะไรเรื่อยเปื่อยลงเพจตัวเอง ก็คิดมาว่าจะวาดรูปขาย
✦ ธุรกิจที่สอง !! " รับวาดรูปและออกแบบ"
ธุรกิจนี้ไม่ต้องเอาเงินตัวเองมาลงทุนอะไร เพราะเปิดขายในเฟสบุ๊คของตัวเอง
และเพจเล็ก ๆ ของตัวเอง (ไม่ได้มีคนติดตามเยอะ) ก็มีเพื่อน ๆ สนใจค่ะ
นี่ก็เป็นผลงานที่เราทำให้ลูกค้า ส่วนมากก็จะเป็นเพื่อน ๆ อุดหนุนกันเอง 5555
มีโลโก้บ้าง วาดภาพ สมุดโน๊ต ออกแบบปกเฟสบุ๊ค ใส่กรอบ
ส่ง ปณ. ไม่ก็ส่งเป็นไฟล์
ทุกคนชอบงานที่เราทำส่งให้เราก็ดีใจค่ะ
แต่งานนี้ก็มีข้อจำกัดสำหรับเราค่ะ อย่างเรื่องอุปกรณ์ในการวาดเราใช้แค่เมาส์หนูธรรมดา กับโน๊ตบุ๊คเครื่องเก่า ๆ
มันก็ทำให้เราไม่สามารถรับงานที่รายละเอียดเยอะ ๆ ไม่ได้ และอีกอย่างเราไม่ได้เรียนมาทางด้านนี้ค่ะ
เราทำได้ขนาดนี้เพราะเราชอบและฝึกฝนเอาจากเน็ต และหนังสือ และด้วยความที่งานพวกนี้ไม่สามารถสร้างรายได้ให้เราทุกวัน
เราก็ไม่ได้ทำอีกเลย แต่เพจก็ยังอยู่ และถ้ามีคนสนใจก็ยังรับอยู่ค่ะ (ส่วนมากจะเป็นงานฟรี) #ร้องไห้ไปเพื่อนก็ไม่เข้าจายยย 555
แต่เราก็ทำงานไปด้วยนะตอนนั้น
หลังจากนั้นเราก็พักเรื่องรัก เอ้ย !! เรื่องค้าขายไปก่อนค่ะ
ตั้งหน้าตั้งตาทำงาน และเราก็ไปทำงานไกลบ้านค่ะ ไปอยู่กับเพื่อน
แต่ด้วยความที่งานโรงงานมันได้เงินน้อยเราก็เลยต้องกลับมาคิดหาทางค้าขายอีกครั้ง !!
เราเริ่มจากคิดค่ะว่าตัวเองถนัดอะไรมากที่สุด เพราะที่ผ่านมามันสอนให้เรารู้ว่า
"สิ่งที่เราชอบหรือถนัด เรามักจะทำมันออกมาได้ดีกว่าสิ่งที่เราไม่ได้ชอบ" ก็หนีไม่พ้นเรื่องกินค่ะ เรื่องใหญ่มาก 555
ตอนเราอยู่บ้านเราชอบที่จะทำอะไรกินเอง อย่างโรตีพันไส้กรอก โตเกียว ละก็ทาโกะยากิ !!
และก็ทาโกะยากิก็ทำให้เราได้ไอเดียดี ๆ เพราะลงทุนไม่เยอะมากและก็มีเครื่องทำ (ของแม่อีกแล้ว 55)
ก็เลยไม่ได้ใช้ทุนเยอะ แต่เราทำแบบบ้าน ๆ นะคะ เพราะสถานที่ที่เราอยู่มัน "กันดาร" มาก ๆ
ชาวบ้านก็เป็นชาวไร่ ชาวนาหาปูหาปลากินกันค่ะ เราต้องขายในราคาที่ไม่แพง
✦ ธุรกิจที่สาม !! " ทาโกะยากิบ้านๆ "
ตลาดขายลูกละ 5 บาทใช่มั้ยคะ ? แต่เราขายลูกละ 2 บาทค่ะ 55555555555555 #ถูกเท่านี้ไม่มีแล้ว
เราจัดใส่ถาดโฟมถาดละ 10 บาท ขายดิบขายดีมากคนแถวนั้นบอกว่าไม่เคยกิน มันแปลกดี กรอบนอกนุ่มใน
หวานมันเค็ม ราดมายองเนสอย่างเดียวค่ะ คนแก่ถามหากันเลยล่ะเวลาเราไม่ได้ขาย 555
#หน้าตาทาโกะยากิแบบบ้าน ๆ ค่ะ
แม้ว่าเราจะขายลูกละ 2 บาทแต่เราก็ได้กำไรนะ ได้ครึ่งต่อครึ่งเลย
แต่ก็นะ... ไม่รู้อะไรแกล้งสาวน้อยอย่างเราอีก 5555555 เราได้เปลี่ยนงานค่ะ
ไปเจองานนรกที่ทำให้เราไม่เคยได้เห็นพระอาทิตย์เลยสักวัน นอกจากวันหยุด ทำให้เราไม่มีเวลาขายของเลย
เราก็ล้มเลิกไปอีกธุรกิจ :'(
________________________________________________
** กระทู้ที่สองค่ะ : " ไม่เรียนก็รู้ได้ " จากกระทู้...เมื่อฉันอยากเป็น "แม่ค้า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://ppantip.com/topic/34763685 **
ใครที่กำลังหาแรงบรรดาลใจลองเข้าไปอ่านดูนะคะ ขอบคุณค่ะ
เมื่อฉันอยากเป็น "แม่ค้า"
จะมาแบ่งปันประสบการณ์ชีวิต ( ของตัวเอง 555 ) ของวัยรุ่นธรมดาคนนึงที่ไม่ชอบทำงานประจำ ><''
เริ่มเลยละกันเนอะ
จขกท.เป็นเด็กวัยรุ่นค่ะ อายุยี่สิบกว่า ๆ ผ่านการทำงานมาหลายที่ หลายงานค่ะ
ไม่ว่าจะเป็นรับและตอบออเดอร์จากลูกค้า ฝ่ายผลิตที่โรงงาน ลูกจ้างร้านก๋วยเตี๋ยว ฯลฯ
ทำได้ไม่นานก็ออกค่ะ !! เพราะทนกับแรงกดดันต่าง ๆ ไม่ไหว เราก็เริ่มคิดหาทางอื่นและก็เริ่มสนใจที่จะเป็น "แม่ค้า"
แรงคัดค้านจากที่บ้านเยอะมากค่ะ แต่เราไม่ฟัง 55555
✦ ธุรกิจแรก !! "น้ำแข็งใส & น้ำปั่น"
เราเริ่มจากเงิน 1000 บาทค่ะ ( ยืมพ่อมา )
ด้วยความที่แม่เป็นคนชอบซื้อของเกี่ยวกับเครื่องครัว อาหาร ทุกชนิด !! เราเลยไม่ต้องเสียเงินซื้อเครื่องปั่น และเครื่องทำน้ำแข็งใสค่ะ
ส่วนวัตถุดิบเราก็ไปซื้อที่ตลาดสดช่วงเช้า ๆ ค่ะ มีให้เลือกทุกอย่างแถมได้ราคาถูกอีกด้วย
เราก็เลือกที่คิดว่าลูกค้าน่าจะชอบอย่าง ลูกชิด(ลูกจาก) มันเชื่อม เม็ดแมงลัก สับปะรดเชื่อม และก็เฉาก๊วย
มีน้ำแดง น้ำเขียว น้ำมะลิ และก็หัวเชื้อน้ำผลไม้สำหรับทำน้ำปั่นค่ะ งบเราก็ยังเหลือไว้ทอนและหมุนต่อไปค่ะ
และดีหน่อยที่เราไม่ต้องเสียค่าเช่าที่ เพราะขายหน้าบ้านตัวเองค่ะ น้ำ ไฟ ฟรีไม่จำกัด เพราะพ่อจ่าย 5555 (สบายกระเป๋ามาก)
และก็ดีตรงที่บ้านเราทำอู่ซ่อมรถค่ะ ขายลูกค้าพ่อ ลูกน้องพ่อ และก็คนในบ้าน แทบไม่มีคนที่ผ่านไปมาแวะซื้อเลย
แต่ก็มีบ้างที่มาซื้อ และทุกคนที่มาซื้อก็กลับมาซื้อเราทุกวันค่ะ เพราะเราให้เยอะมั้งคะ 5555 เราขายของเป็นครั้งแรก
เราไม่รู้ว่าควรใส่แค่ไหน เห็นว่าของที่เราซื้อมาไม่ได้แพงอะไรเราก็ใส่เต็มที่ค่ะ อย่างลูกจากที่อื่นใส่กันแค่สามสี่ลูก
แต่เราใส่เป็นช้อนค่ะ 555 บางทีเรามองดูถุงที่เราตักเสร็จ เราเห็นว่ามันน้อยเราก็ใส่เพิ่ม
จนลูกค้าที่มาซื้อถามเราค่ะว่าเราขายถุงละเท่าไหร่
เห็นเขียนว่า 10 บาท เราก็บอกค่ะว่า 10 บาทจริง ๆ เค้าก็งงไปเลยค่ะ ถามเราว่าเราได้กำไรมั้ยให้เยอะขนาดนี้
มันทำให้เราคิดนะว่าเราให้เยอะเกินไปหรอ ? แต่มันดีตรงที่เค้ามาซื้อเราทุกวันค่ะ ซื้อวันละ 5-10 ถุง (เอาไปแจกคนงานตัดอ้อย)
ขายได้ประมาณอาทิตย์นึงเราได้ทุนคืนพ่อแล้วค่ะ และเราก็ขายต่อได้ไม่นานก็เข้าหน้าหนาว :'( #ร้องไห้หนักมาก
เราก็เลยเลิกขาย เพราะไม่มีใครซื้อกิน 555 ธุรกิจนี้ก็จบลงไปเลยค่ะ เราก็ไปทำงาน !
- ได้ทุนคืน กำไรนิดหน่อย และมีของเหลือไว้ทำกินเองด้วย #คุ้มค่ะ
ของที่เหลือเอามาจัดงานวันเกิดให้น้อง ๆ ค่ะ อร่อยกันถ้วนหน้า ใส่ไม่อั้น เครื่องๆเน้น ๆ 555
แต่เรายังไม่หมดหวังนะคะ ระหว่างที่ทำงานอยู่เราก็หาข้อมูลไปเรื่อย ๆ
ว่าจะขายอะไรดี ลงทุนน้อยกำไรดี หาอยู่นานมากจนอยากจะเลิกคิดเลย 55
เราก็เปิดคอมวาดรูปเล่น ออกแบบอะไรเรื่อยเปื่อยลงเพจตัวเอง ก็คิดมาว่าจะวาดรูปขาย
✦ ธุรกิจที่สอง !! " รับวาดรูปและออกแบบ"
ธุรกิจนี้ไม่ต้องเอาเงินตัวเองมาลงทุนอะไร เพราะเปิดขายในเฟสบุ๊คของตัวเอง
และเพจเล็ก ๆ ของตัวเอง (ไม่ได้มีคนติดตามเยอะ) ก็มีเพื่อน ๆ สนใจค่ะ
นี่ก็เป็นผลงานที่เราทำให้ลูกค้า ส่วนมากก็จะเป็นเพื่อน ๆ อุดหนุนกันเอง 5555
มีโลโก้บ้าง วาดภาพ สมุดโน๊ต ออกแบบปกเฟสบุ๊ค ใส่กรอบ
ส่ง ปณ. ไม่ก็ส่งเป็นไฟล์
ทุกคนชอบงานที่เราทำส่งให้เราก็ดีใจค่ะ
แต่งานนี้ก็มีข้อจำกัดสำหรับเราค่ะ อย่างเรื่องอุปกรณ์ในการวาดเราใช้แค่เมาส์หนูธรรมดา กับโน๊ตบุ๊คเครื่องเก่า ๆ
มันก็ทำให้เราไม่สามารถรับงานที่รายละเอียดเยอะ ๆ ไม่ได้ และอีกอย่างเราไม่ได้เรียนมาทางด้านนี้ค่ะ
เราทำได้ขนาดนี้เพราะเราชอบและฝึกฝนเอาจากเน็ต และหนังสือ และด้วยความที่งานพวกนี้ไม่สามารถสร้างรายได้ให้เราทุกวัน
เราก็ไม่ได้ทำอีกเลย แต่เพจก็ยังอยู่ และถ้ามีคนสนใจก็ยังรับอยู่ค่ะ (ส่วนมากจะเป็นงานฟรี) #ร้องไห้ไปเพื่อนก็ไม่เข้าจายยย 555
แต่เราก็ทำงานไปด้วยนะตอนนั้น
หลังจากนั้นเราก็พักเรื่องรัก เอ้ย !! เรื่องค้าขายไปก่อนค่ะ
ตั้งหน้าตั้งตาทำงาน และเราก็ไปทำงานไกลบ้านค่ะ ไปอยู่กับเพื่อน
แต่ด้วยความที่งานโรงงานมันได้เงินน้อยเราก็เลยต้องกลับมาคิดหาทางค้าขายอีกครั้ง !!
เราเริ่มจากคิดค่ะว่าตัวเองถนัดอะไรมากที่สุด เพราะที่ผ่านมามันสอนให้เรารู้ว่า
"สิ่งที่เราชอบหรือถนัด เรามักจะทำมันออกมาได้ดีกว่าสิ่งที่เราไม่ได้ชอบ" ก็หนีไม่พ้นเรื่องกินค่ะ เรื่องใหญ่มาก 555
ตอนเราอยู่บ้านเราชอบที่จะทำอะไรกินเอง อย่างโรตีพันไส้กรอก โตเกียว ละก็ทาโกะยากิ !!
และก็ทาโกะยากิก็ทำให้เราได้ไอเดียดี ๆ เพราะลงทุนไม่เยอะมากและก็มีเครื่องทำ (ของแม่อีกแล้ว 55)
ก็เลยไม่ได้ใช้ทุนเยอะ แต่เราทำแบบบ้าน ๆ นะคะ เพราะสถานที่ที่เราอยู่มัน "กันดาร" มาก ๆ
ชาวบ้านก็เป็นชาวไร่ ชาวนาหาปูหาปลากินกันค่ะ เราต้องขายในราคาที่ไม่แพง
✦ ธุรกิจที่สาม !! " ทาโกะยากิบ้านๆ "
ตลาดขายลูกละ 5 บาทใช่มั้ยคะ ? แต่เราขายลูกละ 2 บาทค่ะ 55555555555555 #ถูกเท่านี้ไม่มีแล้ว
เราจัดใส่ถาดโฟมถาดละ 10 บาท ขายดิบขายดีมากคนแถวนั้นบอกว่าไม่เคยกิน มันแปลกดี กรอบนอกนุ่มใน
หวานมันเค็ม ราดมายองเนสอย่างเดียวค่ะ คนแก่ถามหากันเลยล่ะเวลาเราไม่ได้ขาย 555
#หน้าตาทาโกะยากิแบบบ้าน ๆ ค่ะ
แม้ว่าเราจะขายลูกละ 2 บาทแต่เราก็ได้กำไรนะ ได้ครึ่งต่อครึ่งเลย
แต่ก็นะ... ไม่รู้อะไรแกล้งสาวน้อยอย่างเราอีก 5555555 เราได้เปลี่ยนงานค่ะ
ไปเจองานนรกที่ทำให้เราไม่เคยได้เห็นพระอาทิตย์เลยสักวัน นอกจากวันหยุด ทำให้เราไม่มีเวลาขายของเลย
เราก็ล้มเลิกไปอีกธุรกิจ :'(
________________________________________________
** กระทู้ที่สองค่ะ : " ไม่เรียนก็รู้ได้ " จากกระทู้...เมื่อฉันอยากเป็น "แม่ค้า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ **
ใครที่กำลังหาแรงบรรดาลใจลองเข้าไปอ่านดูนะคะ ขอบคุณค่ะ