มันเหมือนกระทู้โง่ ๆ นะเลยครับมาประจานตัวเองแท้ ๆ 555 คือว่าวันที่ 3/2/59 ผมได้มีโอกาสไปสัมภาษณ์งานที่บริษัทชื่อดังด้านร้านสะดวกซื้อ ซึ่งตอนแรกผมก็สมัครงานในตำแหน่งพนักงานร้านกาแฟในเครือของเขาทางเว็บสมัครงานครับเลือกลงสาขาใกล้บ้าน พอวันรุ่งขึ้นก็มีพี่ฝ่ายHRโทรมาให้เข้าไปสัมภษณ์งาน แต่เบื้องต้นตอนคุยโทรศัพท์กับพี่เขาพี่เขาถามก่อนว่าผมจบวุฒิอะไรมา ผมก็ตอบไปว่าผมจบวุฒิ ปวช.สาขาภาษาต่างประเทศ จากวิทยาลัยแห่งหนึ่ง พี่เขาเลยเสนอตำแหน่ง เจ้าหน้าที่ฝ่ายจัดซื้อต่างประเทศ ให้อีกตำแหน่งนึงซึ่งผมก็รู้สึกว่าตำแหน่งนี้เขาน่าจะรับคนจบป.ตรีมากกว่าหรือเปล่านะ??? แต่พี่HRก็ยืนยันว่าสมัครได้นะเพราะทางเรารับคนจากความสามารถ ผมก็เลยเอาว่ะลองดูล่ะกันภาษาก็ไม่ได้ใช้จริง ๆ จัง ๆ นานแล้วด้วยลืมจะหมดแล้วแต่อยากลองเสี่ยงดูเราอาจจะทำได้ก็ได้นะ วันรุ่งขึ้นผมก็ไปสมัครตำแหน่ง พนักงานชงกาแฟ กับ เจ้าหน้าที่ฝ่ายจัดซื้อต่างประเทศ ตอนแรกฝ่ายHRไม่ให้สมัคร ตำแหน่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายจัดซื้อต่างประเทศ เพราะรับแต่ผู้จบป.ตรีและและต้องสามารถสนทนาภาษาอังกฤษได้ ผมก็งง ๆ นะไหนในสายที่คุยเมื่อวานบอกว่าสมัครได้นิ ก็เลยลองแย้งไปเขาก็บอกว่าสมัครไม่ได้นะให้สมัครได้แค่ ตำแหน่งพนักงานชงกาแฟ เท่านั้นผมก็โอเคเพราะเราตั้งใจจะทำตำแหน่งนี้แต่แรกอยู่แล้ว OKผมก็สัมภาษณ์กับHRคนที่ไม่ให้สมัครนี้แหละ และก็ผ่านสัมภาษณ์ได้งานตำแหน่งพนักงานชงกาแฟมา ซึ่งผมก็เข้าใจว่าอาจจะมีการเข้าใจผิดเรื่องวุฒิของผมหรือเปล่าก็ไม่เป็นไรทำตำแหน่งนี้ก็ได้น่าสนุกดีชงกาแฟ พอวันรุ่งขึ้นตอนเช้าHRของทางบริษัทก็โทรมาหาผมผมก็นึกว่าคงจะโทรมานัดวันเริ่มงานล่ะมั้ง? แต่ไม่ใช่พี่HRถามว่า "เมื่อวานน้อง...มาสมัครงานใช่ไหมค่ะน้องไม่สนใจตำแหน่ง เจ้าหน้าที่ฝ่ายจัดซื้อต่างประเทศ แล้วหรอค่ะ???" ผมก็ตอบไปว่าสมัครไปแล้วครับแต่พี่HRอีกท่านบอกว่าไม่สามารถสมัครได้เพราะวุฒิไม่ถึง พี่เขาเลยบอกว่าที่นี้จะมีHRหลายส่วนค่ะน้องคงไปเจออีกส่วนนึงแล้วเมื่อวานพี่ก็ไม่อยู่ออฟฟิตด้วยคงจะสื่อสารกันไม่เข้าใจ งั้นวันนี้น้องเข้ามาสัมภาษณ์อีกรอบตอนสี่โมงเย็นได้ไหมค่ะ (ในใจผมไม่อยากไปแล้วผมทำตำแหน่งชงกาแฟก็ได้ขี้เกียจเดินทางแล้วคิดในใจว่าเราคงไม่ได้หรอกตำแหน่งแบบนั้น) แต่สุดท้ายพี่เขาก็กล่อมว่าอย่างนู้นอย่างนี้ พอดีผมเคยแจ้งพี่เขาไปด้วยว่าตอนนี้ผมกำลังเรียน ปวส. ภาควันอาทิตย์อยู่ถ้าทำฝ่ายนี้มันเป็นออฟฟิตนะได้หยุดส.-อา.แน่นอนถ้าชงกาแฟทางบริษัทให้หยุดไปเรียนได้ก็จริงแต่ได้หยุดสัปดาห์ล่ะวันเองนะเราจะเหนื่อยไปไหม ผมก็เลยตัดสินใจอ่ะไปก็ได้ลองดูว่ะ!!! พอไปถึงสี่โมงเย็นก็ได้เข้าห้องสัมภาษณ์เลยและสิ่งที่กลัวที่สุดคือการสัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษเพราะผมเตรียมตัวมาน้อยมากเนื่องด้วยจากที่ไม่รู้ล่วงหน้าว่าจะมีโอกาสได้มาสัมภาษณ์อีกครั้ง และต้องสัมภาษณ์ทั้งหมด 3 รอบเป็นภาษาอังกฤษทุกรอบ รอบแรกกับทางHRที่เกี่ยวข้องคำถามก็พื้น ๆ ทั่ว ๆ ไปแต่ผมสั่นมากกลัวผิดไปหมดสุดท้ายก็ผ่านใช้เวลาประมาณ20นาที แต่พี่HRบอกว่าแค่นี้ยังไม่ดีพอที่จะผ่านรอบสองได้เลยนะ รอบสองผมสัมภาษณ์กับทางพี่ผู้จัดการแผนกฝ่ายจัดซื้อต่างประเทศ และเหมือนเดิมผมสั่นมากกว่าเก่าอีกหัวมึนมากนึกอะไรแทบจะไม่ออกจนพี่เขาหัวเราะกันแล้วบอกว่าใจเย็น ๆ ตั้งสติค่อย ๆ นึกคำพูด วินาทีนั้นแหละผมนึกเลยว่าเราต้องดึงที่มีทุกอย่างในตัวในหัวออกมาใช้สิอย่ากลัว แค่นั้นแหละผมพูดไม่หยุดเลยผิดหลักกระจายมั่วแกรมม่าใช้Tenseไม่ถูก แต่พูดไปเรื่อยคุยสัพเพเหระกับพวกพี่เขาไปเรื่อย เล่าด้วยว่าชอบดูการประกวดนางงามจักรวาล,โลก ชอบฟังเพลงเกาหลี พี่เขาก็หัวเพราะกันใหญ่เพราะเราก็ไม่เก่งภาษาเลยจริง ๆ สุดท้ายก็ผ่านที่พี่เขาให้ผ่านเพราะเห็นว่ากล้าพูดกล้าคุยยังพอเข้าใจประโยคง่าย ๆ พื้นฐานได้อยู่ แต่ติดตรงที่ว่าผมไม่เคยทำงานด้านออฟฟิตมาก่อนเลยทำแต่งานบริการเขาเลยกังวลว่าจะทำได้จริง ๆ หรอผมเลยตอบไปว่า "ถ้าได้มีโอกาสร่วมงานกับที่นี้ผมต้องทำได้แน่นอนและไม่ให้พวกพี่ ๆ เสียใจในตัวผมคนอื่นทำได้แล้วผมทำไมจะทำไม่ได้" พี่เขาเลยให้ผ่านใช้เวลาในรอบนี้ไป1ชั่วโมงเต็ม ๆ และสุดท้ายคือการสัมภาษณ์กับผู้จัดการฝ่ายบุคคลที่จะเป็นตัวตัดสินเลยว่าผมจะได้ตำแหน่งนี้หรือไม่ และก็เหมือนโชคดีของผมที่ผู้จัดการท่านนี้ท่านใจดีมากชวนคุยตลก ๆ ตลอดเวลาคุยภาษาอังกฤษกันบ้างนิดหน่อยท่านบอกว่าถ้าผ่านสองรอบนั้นมาได้คุณก็มีดีพอตัวอยู่นะ และท่านก็อธิบายระเบียบการรับพนักงานเข้าทำงานว่าปกติจะบลา ๆๆๆๆๆๆๆ บวกกับประสบการณ์ทำงานบริการของผมอีก8ปีเต็มท่านเลยบอกว่าชอบนะคนที่มีความมั่นใจในตัวเองกล้าที่จะมาแสดงให้เราได้เห็นแบบคุณ และยังผ่านการสัมภาษณ์มาได้ด้วยสรุปผมรับคุณเข้าทำงานตำแหน่ง เจ้าหน้าที่ฝ่ายจัดซื้อต่างประเทศ เริ่มงานวันที่../../..นะ ผมได้ยินเท่านั้นแหละน้ำตาจะไหลเข้าใจเลยครับว่าคนที่เขาอยากได้งานที่หวังไว้มาก ๆ มันเป็นยังไง ไม่นึกเลยว่าคนอย่างเราเขาก็เห็นคุณค่า ก่อนหน้านี้หลายปีมาแล้วตอนจบจากปวช.มาใหม่ ๆ ไปสมัครที่ไหน ๆ ตำแหน่งที่เกี่ยวกับฝ่ายที่ต้องใช้ภาษาก็โดนปฏิเสธตลอดเพราะวุฒิน้อยบ้างไม่มีประสบการณ์ตรงบ้าง จนท้อเลยแหละเคยโดนหลอกให้ไปยืนขายคอลลาเจ่นตามสถานีรถไฟฟ้าบ้างตอนแรกบอกว่าตำแหน่งเจ้าหน้าการตลาดญี่ปุ่นก็แหมคอลลาเจ่นที่เอามาให้ขายมันนำเข้าจากญี่ปุ่นนิ โดนหลอกให้ไปขายประกันบ้าง โดนหลอกให้ไปหาคนบริจากเงินเข้าองค์กร...ตามหน้าตู้ATMบ้าง จนสุดท้ายหันมาเอาดีด้านงานบริการดีกว่าและทำมา8ปี ตอนนี้ในที่สุดก็ได้งานที่ยากทำแล้ว ต่อไปนี้คงต้องมาปรับตัวเรื่องงานเอกสารและด้านการประสานงาน ผมไม่รู้ว่ามันยากไหมแต่คนอื่นทำได้เราก็ต้องทำได้สิ^^