สวัสดีค่าาาา ท่านผู้อ่านทุกๆๆท่าน
ด้วยความที่จขกท.ได้ไปสอบและได้รับใบขับขี่รถยนต์มาสดๆร้อนๆเมื่อวานนี้เอง เก็บความตื่นเต้นไว้ไม่อยู่ก็เลยอยากมาแบ่งปันประสบการณ์ให้กับทุกท่าน
หวังว่าจะมีสาระและประโยชน์ต่อท่านบ้างไม่มากก็น้อย โดยจะแบ่งเป็น 2วันนะคะ วันแรก ทดสอบสมรรถภาพ อบรม และสอบภาคทฤษฎี อีกวันคือสอบปฏิบัติลงสนามจริง
มาเริ่มกันเลยนะคะ!!
-อย่างแรกเลย ที่ขนส่งเจ้าหน้าที่จะไม่รับผู้ใช้บริการแบบ Walk in ค่ะต้องโทรเข้าไปจองหรือว่าจองผ่านเว็ปก็ได้เช่นกัน ของเราจองตั้งแต่เดือนธันวาคมปี2558 ให้ตายสิกว่าจะได้คิวก็คือวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2559 รอนานมากกกกกกกกกกกกกกกกกกก
http://www.dlt.go.th/th/index.php?option=com_content&view=article&id=3518
มีบางคนอยากลองเสี่ยงก็เดินเข้าไปได้ค่ะ แต่วันที่ไปถึงเนี่ยเค้าจะได้แค่ทดสอบสมรรถภาพ4อย่างเท่านั้นแล้วกลับบ้าน รอนัดมาสอบภาคทฤษฎีอีกครั้ง ถ้าใครไม่อยากเสียเวลาไปหลายรอบแนะนำให้จองก่อนดีกว่าค่ะ ประหยัดเวลาและค่าเดินทางด้วย
-จขกท.จองผ่านเว็บนะคะ ก็จะเป็นหน้าตาแบบนี้ ให้เราเลือกวันที่เราสะดวกเลยค่ะ
เมื่อจองเรียบร้อยก้จะได้เลขticket ID เอามาแสดงกับจนท.วันที่เรามายื่นเรื่องขอสอบทฤษฎีค่ะ
ต่อมาเราจะได้รายละเอียดประเภทใบอนุญาต สถานที่ เวลาในการเข้าห้องอบรมค่ะ
-เสร็จสิ้นกระบวรการจองคิว เราก็มาเตรียมเอกสารกันเถอะ
เอกสารที่ต้องใช้มีดังนี้ค่ะ
1.บัตรประจำตัวประชาชนฉบับบจริง พร้อมสำเนา1ฉบับ เซ็นรับรองสำเนาถูกต้องพร้อมเขียนเบอร์โทรศัพท์ที่สามารถติดต่อได้ (เขียนเอาไว้เลยค่ะไม่ต้องรอจนท.สั่ง)
2.ใบรับรองแพทย์ ออกก่อนวันที่ยื่นเรื่องเข้าอบรมไม่เกิน1เดือน(30 วัน) ไปขอจากคลินิกได้นะคะไม่ต้องกังวลว่าจะต้องขอจากโรงพยาบาลค่ะ เวลามีการแก้คำผิดให้แพทย์ขีดฆ่าแล้วเซ็นชื่อกำกับเอาไว้ด้วย
**ไม่ต้องใช้สำเนาทะเบียนบ้านนะคะ
Next step ในที่สุดก็ถึงวันที่เรารอคอย
เวลานัดหมายคือแปดโมงเช้า การเดินทางมาไม่ยากเลยค่ะ สำหรับคนใช้รถไฟฟ้าBTSออกทางออกที่2ค่ะ ส่วนMRT ออกทางออกที่4ค่ะ รถเมลล์ถ้าเขียนว่ามาหมอชิต/จตุจักรก้ผ่านทุกคัน(มีป้ายจอดหน้ากรมฯเลย) เดินมาเรื่อยๆเลยค่ะกรมฯอยู่ฝั่งตรงข้ามตลาดนัดจตุจักร ถ้าเดินผ่านสถาบันการบินพลเรือนก็คือมาถูกทางแล้ว เดินมาอีกนิดเดียวเลยสะพานลอยมาเลี้ยวซ้ายเข้าประตูได้เลยค่ะ ถ้าใครขี้เกียดเดินจะใช้บริการพี่วินก็ไม่ว่ากัน เพราะอาคาร4อยู่ในสุดเลยนะคะ ได้เหงื่อยังกะไปเดินวิ่งการกุศล
แปะภาพไว้ให้ดูประกอบค่า
เมื่อถึงอาคาร4แล้วเดินเข้าไปเลยถ้าใครลืมถ่ายเอกสารมีมุมบริการถ่ายเอกสารที่ชั้น1นะคะ เรียบร้อยเดินไปชั้น2กันเลย นี่คิดว่าไปถึงเร็วแล้วนะ ไปถึงก่อนครึ่งชม.คนยังเยอะพอๆกับที่แย่งกันซื้อรองเท้าเลยทีเดียว ยืนรอประตูเปิดเลยค่ะเจ้าหน้าที่เปิดประตูตรงเวลามากคือ 8โมงตรง หลังจากนั้นก็ยื่นเอกสารให้เจ้าหน้าที่โดยที่ผู้ทำใบขับขี่ใหม่จะต่อแถว2แถวแรกนะคะ จนท.จะให้บัตรคิวเรามาและรอเข้าสู่กระบวรการต่อไป
**จนท.ที่นี่บริการดีค่ะ ยิ้มแย้มไม่วีนไม่เหวี่ยงน่ารักมาก
หลังจากนั้นเราก้เดินไปอีกห้องนึงชั้นเดียวกันค่ะไปถ่ายรูปแล้วก็ทำประวัติ จากนั้นจนท.จะส่งเรากลับมาห้องเเรกมานั่งรอด้านหลังเคาว์เตอร์รับเรื่องแล้วจัดทำเอกสารเพื่อไปทดสอบสมรรถภาพต่อไป
มาๆต่อกันเลย ไปทดสอบสมรรถภาพเดินขึ้นไปที่ชั้น 3ค่ะเดินเข้าไปเเล้วเลี้ยวขวาเลยฝูงชนที่นั่งชมวีดีทัศน์ไปที่เคาว์เตอร์ด้านหลังจะมีจนท.รับเอกสารเราไป แล้วให้บัตรคิวเรามา หลังจากกนั้นก็ชมวิธีการทดสอบสมรรถภาพ4อย่างค่ะว่าต้องทำอะไรบ้าง ไม่ยากค่ะ เหมือนเราไปเล่นเกมนั่นแหละจากนั้นจนท.ก็จะเรียกคิวเราเข้าไปในห้อง
1.ทดสอบสายตา ตาบอดสี
จะยืนห่างประมาน3-4เมตรแล้วให้บอกสีของไฟจราจรโดยจนท.จะกดสลับกันไปมาประมาร4-5ครั้ง ไม่ได้เรียงเหมือนที่เราเห็นตามทางแยกนะคะ ใครท่องมาหมดสิทธิฮ่าๆๆ
2.ทดสอบสายตาทางลึก
จะมีปุ่มให้เรากด 2 ปุ่ม โดยให้กดปุ่มสีแดงก่อนเพื่อให้เสาทางด้านซ้ายเลื่อนเข้าไปด้านในให้สุดหลังจากนนั้นให้กดปุ่มเขียวเพื่อให้เสาทางด้านซ้ายกลับมาขนานกันกับเสาทางด้านขวาใช้สายตากะประมาณเอาค่ะ ไม่ยากๆ
3. ทดสอบความเร็วของสายตาและเท้าในการเหยียบคันเร่งและเหยียบเบรค
เหมือนเล่นเกมBurnout takedownเลยนะ
อย่างแรกคือเหยียบคันเร่งจะเห็นเป็นไฟสีเขียว พอเห็นไฟสีแดงให้รีบเหยียบเบรคก่อน 0.75 วินาที มิเช่นนั้นเครื่องจะส่งเสียงสัญญาณออกมา
4.ทดสอบสายตาทางกว้าง
ให้เอาสันจมูกมาแตะตรงช่องด้านหน้า คนใส่แว่นถอดแว่นนะคะ มองตรงไปข้างหน้าค่ะ แล้วจนท.จะกดไฟสีให้เราตอบไฟจะขึ้นด้านข้างค่ะ จนท.จะถามทีละด้านให้เราตอบค่ะ
จบการทดสอบสมรรถภาพ
หลังจากนั้นก้ออกมาห้องฝั่งตรงข้าม จะเป็นการยื่นเอกสารและลงทะเบียนเพื่อเข้าฟังการอบรมค่ะ
จะได้บัตรหนีบเสื้อคนละ1ใบแล้วเข้าไปนั่งในห้องตามหมายเลขที่ได้ห้ามไปนั่งที่คนอื่นนะคะ อบรมแบ่งเป็น2ช่วงค่ะ ช่วงที่หนึ่ง 10.00-12.00 จะมีจนท.เข้ามาบรรยายให้เราฟังถึงเครื่องหมายต่างๆ กฎ ระเบียบ ข้อควรระวัง ช่วงนี้ง่วงมากค่ะแต่ตั้งใจฟังก้ดีค่ะข้อสอบเยอะเลยแล้วก้จะมีจนท.เอาหนังสือคู่มือมาขาย เล่มละ50.- ภาพ4สีสวยงามมีข้อสอบในนั้นทั้งหมดค่ะ ไม่บังคับซื้อนะคะตามความสมัครใจเลย แต่ตอนฟังบรรยายจขกท.ขี้เกียดจดก็อ่านตามคู่มือเนี่ยแหละค่ะผ่านชัวๆ หน้าตาเป็นแบบนี้ มี114หน้าเหมือนจะเยอะแต่อ่านแปปเดียวจบค่ะ มาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ จนท.แอบกระซิบมาว่าตามโรงเรียนที่เค้ารับสอบก็ซื้อไปขายเป็นร้อยเลย
หลังจากนั้นพักทานข้าว12.00-13.00 (มีร้านอาหารอยู่ข้างๆอาคารค่ะ ลงมาถึงชั้น1เเล้วเลี้ยวซ้ายตรงที่มีรถเข้ามาตรวจสภาพเยอะๆ นั่นแหละค่ะเดินไปด้านหลังนิดนึงราคาไม่แพงค่ะไม่เกิน50บาท แล้วก็ห้องน้ำที่เห็นมีชั้น3-4นะคะ) อบรมช่วงที่2เวลา 13.00-15.00 มี+- นิดหน่อยค่ะต้องเซ็นชื่อเข้าห้องนะคะ รอบนี้จนท.จะเปิดวีดีทัศน์ให้เราดูเป็นเรื่องเกี่ยวกับอุบัติเหตุ ความมีน้ำใจบนท้องถนน เทคนิคการขับรถค่ะ หลังจากนั้นก้จะมีจนท.มาแนะนำการเข้าสอบต้องทำอย่างไร ระบบเป็นทัชสกรีนใช้ง่ายค่ะ เวลาที่ใช้สอบคือ1ชม. เริ่มประมาณ 15.00 แล้วแต่จนท.จะปล่อยออกจากห้องบรรยายนะคะ มาเข้าห้องสอบจะมีช่องให้วางของด้านหน้าค่ะ ติดตัวได้เฉพาะกระเป๋าตังค์และโทรสัพท์ ปิดเครื่องด้วยนะคะ แล้วไปต่อแถวเพื่อรับการ์ดอิเล็กทรอนิคเพื่อใช้ทำข้อสอบ อันนี้ไม่ต้องต่อคิวนะคะ อยากทำก่อนต่อก่อนเลยค่ะ กดเลือกระบบ แตะการ์ด ถ่ายรูปและเริ่มสอบ หลังจากนั้นเราก็ตะลุยข้อสอบกัน มีข้อสอบทั้งหมด 50ข้อ จะต้องผ่าน95%ก็คือผิดได้เพียง 5ข้อเท่านั้น ข้อสอบเป็นแบบ4ตัวเลือกค่ะ เอาจริงๆตั้งใจฟังในห้องและเน้นพวกเครื่องหมายสีเหลือง ดูรูปให้ชัด แยกแยะคำว่า "ห้าม" "ให้" "นอก" "ใน " "จอด" "หยุด" ให้ดีๆก็ผ่านกันเยอะค่ะ บางคนใช้เวลาไม่ถึง20นาทีเลย ทำเสร็จเช็คคำตอบและดูเฉลยได้ค่ะไม่ต้องรีบเวลาเหลือแน่นอนหลังจากนั้นกดส่งข้อสอบ กดถ่ายรูป แล้วระบบจะปริ้นใบผลคะแนนมาให้ เราก็นำไปยื่นกับเจ้าหน้าที่หน้าห้องสอบเลยค่ะ
--คนที่ผ่านก้ไปนัดสอบปฎิบัติกับจนท.ได้เลย ได้ตั้งแต่วันรุ่งขึ้นเป็นต้นไป9โมงตรง สอบปฎิบัติได้ภายใน90วันหลังจากที่สอบทฤษฎีผ่าน
--ส่วนคนที่สอบไม่ผ่านวันรุ่งขึ้นมาแก้ตัวได้ค่ะ นัดเวลากับเจ้าหน้าที่หน้าห้องเลย ไม่ต้องฟังบรรยายแล้วนะคะ
**จขกท.โดนจนท.เชียร์ให้สอบวันรุ่งขึ้นเลย 2 กุมภาพันธ์ 2559 เวลา 09.00น. ลองดูเผื่อฟลุ้คผ่านลองดูไม่เสียหาย จนท.จะให้ใบนัดเรามาค่ะเก็บรักษาดีๆนะคะ ภาระกิจวันนี้ลุล่วงกลับบ้านได้ค่ะ กว่าจะเสร็จก็เกือบ4โมงเย็นเลยทีเดียว หมดแรงมากค่ะ
เย่ 2 กุมภาพันธ์ 2559 วันทดสอบภาคปฎิบัติแล้ว ได้เวลาลงสนามจริงกันแล้วววว
วันสอบจนท.จะให้เราไปที่อาคาร8นะคะ อยู่ด้านหลังอาคาร4อีกเดินทะลุประตูหลังไปเลย อาคาร8เป็นอาคาร2ชั้นสีม่วงค่ะ มีสนามทดสอบอยู่ทางด้านซ้าย
เอาใบนัดพร้อมกับบัตรประชาชนไปยื่นให้เจ้าหน้าที่ชั้น1ค่ะ หลังจากนั้นจะได้บัตรคิวมา จากนั้นเดินขึ้นชั้น2เลยค่ะเข้าห้องอบรมอีกครั้ง เจ้าหน้าที่จะเปิดวีดีทัศน์ให้ดูและบอกเทคนิคการสอบให้ ท่าสอบไหนคนสอบตกเยอะ ท่าไหนต้องระวังอะไรบ้างบอกหมดค่ะ ตั้งใจฟังดีๆ ด้วยความที่สนามสอบที่นี่เป็นระบบ e-driving แห่งเดียวในประเทศที่ใช้ระบบเซ็นเซอร์ตรวจจับระยะของรถ จนท.เพียงช่วยอำนวยความสะดวก จัดคิว และตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารเท่านั้นค่ะ ไม่สามารถใช้ดุลพินิจช่วยเหลือผู้เข้าสอบได้ ค่อนข้างยุ่งยากนิสนึงค่ะฟังวิธีการดีๆ (เจ้าหน้าที่บริการดี๊ดี ชอบมากค่ะ)
ใครที่นำรถมาเองค่อนข้างคุ้นเคยกับรถจะได้เปรียบกว่านิดนึงและต้องจำเลขทะเบียนมาแจ้งเจ้าหน้าที่ด้วยนะคะ ส่วนใครที่ไม่มีรถมาเองจะมีรถยนต์ให้เช่านะคะเป็น Honda City เป็นเกียร์ autoค่ะมีทั้งหมด8คัน ค่าเช่า 100บาท ถ้ารถเสียหายเราต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดค่ะ จากนั้นจนท.จะออกใบเสร็จไว้ให้แนบเข้ากับเอกสารของเราค่ะ
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จะมาแนะนำวิธีการใช้รีโมทค่ะหน้าตาแบบนี้เลย
หลังจากฟังบรรยายจบจนท.จะเรียกมาอีกห้องหนึ่งเพื่อรอรับเอกสาร รับรีโมท และปล่อยคิวลงไปสอบค่ะ
จขกท.ใช้บริการรถเช่าของสนามค่ะ ให้เราจำNo.ประจำรถและสีของรถไว้ด้วยนะคะ เผื่อว่ามีข้อครหาเราจะได้ไปขอดูภาพจากกล้องได้ เดินลงมาข้างล่างค่ะจะเห็นสะพานข้ามไปอีกฝั่งหนึ่งทางด้านขวาเดินไปเลยค่ะ จะมีคนมายืนรอคิวอยู่ก่อนแล้ว
เมื่อนั่งในรถแล้วต้องคาดเข็มขัดนิรภัยทันทีค่ะ ปรับเบาะ ปรับกระจกหลัง ซ้าย ขวา ตามที่เราถนัดเลยค่ะ แล้วก้เสียบรีโมทให้เรียบร้อย เข้าเกียร์แล้วไปลุยกันเลย เวลาเลี้ยวเปิดไฟด้วยค่ะ
ท่าสอบปฏิบัติเพื่อขอใบอนุญาติขับขี่รถยนต์ มีท่ามาตรฐานที่จะต้องสอบอยู่ 3 ท่าด้วยกัน ได้แก่
1.ท่าเดินหน้า ถอยหลังตรง
2.ท่าจอดรถเทียบทางเท้า
3.ท่าถอยหลังเข้าจอดในที่ว่างด้านซ้าย
1. ท่า เดินหน้าถอยหลังตรง
เป็นท่าสอบปฏิบัติเพื่อขอในอนุญาติขับขี่รถยนต์ที่จะว่ายากก็ไม่ยากเทียบจากทั้ง3ท่าอันนี้ง่ายสุด แต่ก็มีข้อควรระวังอยู่เหมือนกัน บางครั้งผู้มาสอบหลายคนประมาทค่อยๆขยับรถค่ะไม่ต้องแตะคันเร่งเลยจะดีที่สุด ฐานนี้จะมี2ช่องสอบนะคะแล้วแต่จนท.จัดให้เรา แต่จขกท.รู้สึกว่าช่องสอบ3กว่าตอนเลี้ยวเข้าเพราะมีฟุตบาตกั้นทางด้านซ้ายด้วย กลัวรถจะไปครูดเอา
หลักเกณฑ์
เดินหน้าและถอยหลังรถตรงๆในช่องทางที่เจ้าหน้าที่ได้กำหนดไว้โดยที่รถต้องไม่ชนกับสิ่งกีดขวาง
*ข้อควรระวังของการสอบท่านี้ก็คือ ต้องพยายามตั้งรถให้ตรง มิเช่นนั้น รถของท่านอาจจะชนกับสิ่งกีดขวางด้านข้างได้
[CR] (CR) สอบใบขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคลปี2559 @กรมขนส่งจตุจักร ลุยเดี่ยวตั้งแต่ต้นจนได้ใบขับขี่มาครอบครอง ;)
ด้วยความที่จขกท.ได้ไปสอบและได้รับใบขับขี่รถยนต์มาสดๆร้อนๆเมื่อวานนี้เอง เก็บความตื่นเต้นไว้ไม่อยู่ก็เลยอยากมาแบ่งปันประสบการณ์ให้กับทุกท่าน
หวังว่าจะมีสาระและประโยชน์ต่อท่านบ้างไม่มากก็น้อย โดยจะแบ่งเป็น 2วันนะคะ วันแรก ทดสอบสมรรถภาพ อบรม และสอบภาคทฤษฎี อีกวันคือสอบปฏิบัติลงสนามจริง
มาเริ่มกันเลยนะคะ!!
-อย่างแรกเลย ที่ขนส่งเจ้าหน้าที่จะไม่รับผู้ใช้บริการแบบ Walk in ค่ะต้องโทรเข้าไปจองหรือว่าจองผ่านเว็ปก็ได้เช่นกัน ของเราจองตั้งแต่เดือนธันวาคมปี2558 ให้ตายสิกว่าจะได้คิวก็คือวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2559 รอนานมากกกกกกกกกกกกกกกกกกก http://www.dlt.go.th/th/index.php?option=com_content&view=article&id=3518
มีบางคนอยากลองเสี่ยงก็เดินเข้าไปได้ค่ะ แต่วันที่ไปถึงเนี่ยเค้าจะได้แค่ทดสอบสมรรถภาพ4อย่างเท่านั้นแล้วกลับบ้าน รอนัดมาสอบภาคทฤษฎีอีกครั้ง ถ้าใครไม่อยากเสียเวลาไปหลายรอบแนะนำให้จองก่อนดีกว่าค่ะ ประหยัดเวลาและค่าเดินทางด้วย
-จขกท.จองผ่านเว็บนะคะ ก็จะเป็นหน้าตาแบบนี้ ให้เราเลือกวันที่เราสะดวกเลยค่ะ
เมื่อจองเรียบร้อยก้จะได้เลขticket ID เอามาแสดงกับจนท.วันที่เรามายื่นเรื่องขอสอบทฤษฎีค่ะ
ต่อมาเราจะได้รายละเอียดประเภทใบอนุญาต สถานที่ เวลาในการเข้าห้องอบรมค่ะ
-เสร็จสิ้นกระบวรการจองคิว เราก็มาเตรียมเอกสารกันเถอะ
เอกสารที่ต้องใช้มีดังนี้ค่ะ
1.บัตรประจำตัวประชาชนฉบับบจริง พร้อมสำเนา1ฉบับ เซ็นรับรองสำเนาถูกต้องพร้อมเขียนเบอร์โทรศัพท์ที่สามารถติดต่อได้ (เขียนเอาไว้เลยค่ะไม่ต้องรอจนท.สั่ง)
2.ใบรับรองแพทย์ ออกก่อนวันที่ยื่นเรื่องเข้าอบรมไม่เกิน1เดือน(30 วัน) ไปขอจากคลินิกได้นะคะไม่ต้องกังวลว่าจะต้องขอจากโรงพยาบาลค่ะ เวลามีการแก้คำผิดให้แพทย์ขีดฆ่าแล้วเซ็นชื่อกำกับเอาไว้ด้วย
**ไม่ต้องใช้สำเนาทะเบียนบ้านนะคะ
Next step ในที่สุดก็ถึงวันที่เรารอคอย
เวลานัดหมายคือแปดโมงเช้า การเดินทางมาไม่ยากเลยค่ะ สำหรับคนใช้รถไฟฟ้าBTSออกทางออกที่2ค่ะ ส่วนMRT ออกทางออกที่4ค่ะ รถเมลล์ถ้าเขียนว่ามาหมอชิต/จตุจักรก้ผ่านทุกคัน(มีป้ายจอดหน้ากรมฯเลย) เดินมาเรื่อยๆเลยค่ะกรมฯอยู่ฝั่งตรงข้ามตลาดนัดจตุจักร ถ้าเดินผ่านสถาบันการบินพลเรือนก็คือมาถูกทางแล้ว เดินมาอีกนิดเดียวเลยสะพานลอยมาเลี้ยวซ้ายเข้าประตูได้เลยค่ะ ถ้าใครขี้เกียดเดินจะใช้บริการพี่วินก็ไม่ว่ากัน เพราะอาคาร4อยู่ในสุดเลยนะคะ ได้เหงื่อยังกะไปเดินวิ่งการกุศล
แปะภาพไว้ให้ดูประกอบค่า
เมื่อถึงอาคาร4แล้วเดินเข้าไปเลยถ้าใครลืมถ่ายเอกสารมีมุมบริการถ่ายเอกสารที่ชั้น1นะคะ เรียบร้อยเดินไปชั้น2กันเลย นี่คิดว่าไปถึงเร็วแล้วนะ ไปถึงก่อนครึ่งชม.คนยังเยอะพอๆกับที่แย่งกันซื้อรองเท้าเลยทีเดียว ยืนรอประตูเปิดเลยค่ะเจ้าหน้าที่เปิดประตูตรงเวลามากคือ 8โมงตรง หลังจากนั้นก็ยื่นเอกสารให้เจ้าหน้าที่โดยที่ผู้ทำใบขับขี่ใหม่จะต่อแถว2แถวแรกนะคะ จนท.จะให้บัตรคิวเรามาและรอเข้าสู่กระบวรการต่อไป
**จนท.ที่นี่บริการดีค่ะ ยิ้มแย้มไม่วีนไม่เหวี่ยงน่ารักมาก
หลังจากนั้นเราก้เดินไปอีกห้องนึงชั้นเดียวกันค่ะไปถ่ายรูปแล้วก็ทำประวัติ จากนั้นจนท.จะส่งเรากลับมาห้องเเรกมานั่งรอด้านหลังเคาว์เตอร์รับเรื่องแล้วจัดทำเอกสารเพื่อไปทดสอบสมรรถภาพต่อไป
มาๆต่อกันเลย ไปทดสอบสมรรถภาพเดินขึ้นไปที่ชั้น 3ค่ะเดินเข้าไปเเล้วเลี้ยวขวาเลยฝูงชนที่นั่งชมวีดีทัศน์ไปที่เคาว์เตอร์ด้านหลังจะมีจนท.รับเอกสารเราไป แล้วให้บัตรคิวเรามา หลังจากกนั้นก็ชมวิธีการทดสอบสมรรถภาพ4อย่างค่ะว่าต้องทำอะไรบ้าง ไม่ยากค่ะ เหมือนเราไปเล่นเกมนั่นแหละจากนั้นจนท.ก็จะเรียกคิวเราเข้าไปในห้อง
1.ทดสอบสายตา ตาบอดสี
จะยืนห่างประมาน3-4เมตรแล้วให้บอกสีของไฟจราจรโดยจนท.จะกดสลับกันไปมาประมาร4-5ครั้ง ไม่ได้เรียงเหมือนที่เราเห็นตามทางแยกนะคะ ใครท่องมาหมดสิทธิฮ่าๆๆ
2.ทดสอบสายตาทางลึก
จะมีปุ่มให้เรากด 2 ปุ่ม โดยให้กดปุ่มสีแดงก่อนเพื่อให้เสาทางด้านซ้ายเลื่อนเข้าไปด้านในให้สุดหลังจากนนั้นให้กดปุ่มเขียวเพื่อให้เสาทางด้านซ้ายกลับมาขนานกันกับเสาทางด้านขวาใช้สายตากะประมาณเอาค่ะ ไม่ยากๆ
3. ทดสอบความเร็วของสายตาและเท้าในการเหยียบคันเร่งและเหยียบเบรค
เหมือนเล่นเกมBurnout takedownเลยนะ
อย่างแรกคือเหยียบคันเร่งจะเห็นเป็นไฟสีเขียว พอเห็นไฟสีแดงให้รีบเหยียบเบรคก่อน 0.75 วินาที มิเช่นนั้นเครื่องจะส่งเสียงสัญญาณออกมา
4.ทดสอบสายตาทางกว้าง
ให้เอาสันจมูกมาแตะตรงช่องด้านหน้า คนใส่แว่นถอดแว่นนะคะ มองตรงไปข้างหน้าค่ะ แล้วจนท.จะกดไฟสีให้เราตอบไฟจะขึ้นด้านข้างค่ะ จนท.จะถามทีละด้านให้เราตอบค่ะ
จบการทดสอบสมรรถภาพ
หลังจากนั้นก้ออกมาห้องฝั่งตรงข้าม จะเป็นการยื่นเอกสารและลงทะเบียนเพื่อเข้าฟังการอบรมค่ะ
จะได้บัตรหนีบเสื้อคนละ1ใบแล้วเข้าไปนั่งในห้องตามหมายเลขที่ได้ห้ามไปนั่งที่คนอื่นนะคะ อบรมแบ่งเป็น2ช่วงค่ะ ช่วงที่หนึ่ง 10.00-12.00 จะมีจนท.เข้ามาบรรยายให้เราฟังถึงเครื่องหมายต่างๆ กฎ ระเบียบ ข้อควรระวัง ช่วงนี้ง่วงมากค่ะแต่ตั้งใจฟังก้ดีค่ะข้อสอบเยอะเลยแล้วก้จะมีจนท.เอาหนังสือคู่มือมาขาย เล่มละ50.- ภาพ4สีสวยงามมีข้อสอบในนั้นทั้งหมดค่ะ ไม่บังคับซื้อนะคะตามความสมัครใจเลย แต่ตอนฟังบรรยายจขกท.ขี้เกียดจดก็อ่านตามคู่มือเนี่ยแหละค่ะผ่านชัวๆ หน้าตาเป็นแบบนี้ มี114หน้าเหมือนจะเยอะแต่อ่านแปปเดียวจบค่ะ มาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ จนท.แอบกระซิบมาว่าตามโรงเรียนที่เค้ารับสอบก็ซื้อไปขายเป็นร้อยเลย
หลังจากนั้นพักทานข้าว12.00-13.00 (มีร้านอาหารอยู่ข้างๆอาคารค่ะ ลงมาถึงชั้น1เเล้วเลี้ยวซ้ายตรงที่มีรถเข้ามาตรวจสภาพเยอะๆ นั่นแหละค่ะเดินไปด้านหลังนิดนึงราคาไม่แพงค่ะไม่เกิน50บาท แล้วก็ห้องน้ำที่เห็นมีชั้น3-4นะคะ) อบรมช่วงที่2เวลา 13.00-15.00 มี+- นิดหน่อยค่ะต้องเซ็นชื่อเข้าห้องนะคะ รอบนี้จนท.จะเปิดวีดีทัศน์ให้เราดูเป็นเรื่องเกี่ยวกับอุบัติเหตุ ความมีน้ำใจบนท้องถนน เทคนิคการขับรถค่ะ หลังจากนั้นก้จะมีจนท.มาแนะนำการเข้าสอบต้องทำอย่างไร ระบบเป็นทัชสกรีนใช้ง่ายค่ะ เวลาที่ใช้สอบคือ1ชม. เริ่มประมาณ 15.00 แล้วแต่จนท.จะปล่อยออกจากห้องบรรยายนะคะ มาเข้าห้องสอบจะมีช่องให้วางของด้านหน้าค่ะ ติดตัวได้เฉพาะกระเป๋าตังค์และโทรสัพท์ ปิดเครื่องด้วยนะคะ แล้วไปต่อแถวเพื่อรับการ์ดอิเล็กทรอนิคเพื่อใช้ทำข้อสอบ อันนี้ไม่ต้องต่อคิวนะคะ อยากทำก่อนต่อก่อนเลยค่ะ กดเลือกระบบ แตะการ์ด ถ่ายรูปและเริ่มสอบ หลังจากนั้นเราก็ตะลุยข้อสอบกัน มีข้อสอบทั้งหมด 50ข้อ จะต้องผ่าน95%ก็คือผิดได้เพียง 5ข้อเท่านั้น ข้อสอบเป็นแบบ4ตัวเลือกค่ะ เอาจริงๆตั้งใจฟังในห้องและเน้นพวกเครื่องหมายสีเหลือง ดูรูปให้ชัด แยกแยะคำว่า "ห้าม" "ให้" "นอก" "ใน " "จอด" "หยุด" ให้ดีๆก็ผ่านกันเยอะค่ะ บางคนใช้เวลาไม่ถึง20นาทีเลย ทำเสร็จเช็คคำตอบและดูเฉลยได้ค่ะไม่ต้องรีบเวลาเหลือแน่นอนหลังจากนั้นกดส่งข้อสอบ กดถ่ายรูป แล้วระบบจะปริ้นใบผลคะแนนมาให้ เราก็นำไปยื่นกับเจ้าหน้าที่หน้าห้องสอบเลยค่ะ
--คนที่ผ่านก้ไปนัดสอบปฎิบัติกับจนท.ได้เลย ได้ตั้งแต่วันรุ่งขึ้นเป็นต้นไป9โมงตรง สอบปฎิบัติได้ภายใน90วันหลังจากที่สอบทฤษฎีผ่าน
--ส่วนคนที่สอบไม่ผ่านวันรุ่งขึ้นมาแก้ตัวได้ค่ะ นัดเวลากับเจ้าหน้าที่หน้าห้องเลย ไม่ต้องฟังบรรยายแล้วนะคะ
**จขกท.โดนจนท.เชียร์ให้สอบวันรุ่งขึ้นเลย 2 กุมภาพันธ์ 2559 เวลา 09.00น. ลองดูเผื่อฟลุ้คผ่านลองดูไม่เสียหาย จนท.จะให้ใบนัดเรามาค่ะเก็บรักษาดีๆนะคะ ภาระกิจวันนี้ลุล่วงกลับบ้านได้ค่ะ กว่าจะเสร็จก็เกือบ4โมงเย็นเลยทีเดียว หมดแรงมากค่ะ
เย่ 2 กุมภาพันธ์ 2559 วันทดสอบภาคปฎิบัติแล้ว ได้เวลาลงสนามจริงกันแล้วววว
วันสอบจนท.จะให้เราไปที่อาคาร8นะคะ อยู่ด้านหลังอาคาร4อีกเดินทะลุประตูหลังไปเลย อาคาร8เป็นอาคาร2ชั้นสีม่วงค่ะ มีสนามทดสอบอยู่ทางด้านซ้าย
เอาใบนัดพร้อมกับบัตรประชาชนไปยื่นให้เจ้าหน้าที่ชั้น1ค่ะ หลังจากนั้นจะได้บัตรคิวมา จากนั้นเดินขึ้นชั้น2เลยค่ะเข้าห้องอบรมอีกครั้ง เจ้าหน้าที่จะเปิดวีดีทัศน์ให้ดูและบอกเทคนิคการสอบให้ ท่าสอบไหนคนสอบตกเยอะ ท่าไหนต้องระวังอะไรบ้างบอกหมดค่ะ ตั้งใจฟังดีๆ ด้วยความที่สนามสอบที่นี่เป็นระบบ e-driving แห่งเดียวในประเทศที่ใช้ระบบเซ็นเซอร์ตรวจจับระยะของรถ จนท.เพียงช่วยอำนวยความสะดวก จัดคิว และตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารเท่านั้นค่ะ ไม่สามารถใช้ดุลพินิจช่วยเหลือผู้เข้าสอบได้ ค่อนข้างยุ่งยากนิสนึงค่ะฟังวิธีการดีๆ (เจ้าหน้าที่บริการดี๊ดี ชอบมากค่ะ)
ใครที่นำรถมาเองค่อนข้างคุ้นเคยกับรถจะได้เปรียบกว่านิดนึงและต้องจำเลขทะเบียนมาแจ้งเจ้าหน้าที่ด้วยนะคะ ส่วนใครที่ไม่มีรถมาเองจะมีรถยนต์ให้เช่านะคะเป็น Honda City เป็นเกียร์ autoค่ะมีทั้งหมด8คัน ค่าเช่า 100บาท ถ้ารถเสียหายเราต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดค่ะ จากนั้นจนท.จะออกใบเสร็จไว้ให้แนบเข้ากับเอกสารของเราค่ะ
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จะมาแนะนำวิธีการใช้รีโมทค่ะหน้าตาแบบนี้เลย
หลังจากฟังบรรยายจบจนท.จะเรียกมาอีกห้องหนึ่งเพื่อรอรับเอกสาร รับรีโมท และปล่อยคิวลงไปสอบค่ะ
จขกท.ใช้บริการรถเช่าของสนามค่ะ ให้เราจำNo.ประจำรถและสีของรถไว้ด้วยนะคะ เผื่อว่ามีข้อครหาเราจะได้ไปขอดูภาพจากกล้องได้ เดินลงมาข้างล่างค่ะจะเห็นสะพานข้ามไปอีกฝั่งหนึ่งทางด้านขวาเดินไปเลยค่ะ จะมีคนมายืนรอคิวอยู่ก่อนแล้ว
เมื่อนั่งในรถแล้วต้องคาดเข็มขัดนิรภัยทันทีค่ะ ปรับเบาะ ปรับกระจกหลัง ซ้าย ขวา ตามที่เราถนัดเลยค่ะ แล้วก้เสียบรีโมทให้เรียบร้อย เข้าเกียร์แล้วไปลุยกันเลย เวลาเลี้ยวเปิดไฟด้วยค่ะ
ท่าสอบปฏิบัติเพื่อขอใบอนุญาติขับขี่รถยนต์ มีท่ามาตรฐานที่จะต้องสอบอยู่ 3 ท่าด้วยกัน ได้แก่
1.ท่าเดินหน้า ถอยหลังตรง
2.ท่าจอดรถเทียบทางเท้า
3.ท่าถอยหลังเข้าจอดในที่ว่างด้านซ้าย
1. ท่า เดินหน้าถอยหลังตรง
เป็นท่าสอบปฏิบัติเพื่อขอในอนุญาติขับขี่รถยนต์ที่จะว่ายากก็ไม่ยากเทียบจากทั้ง3ท่าอันนี้ง่ายสุด แต่ก็มีข้อควรระวังอยู่เหมือนกัน บางครั้งผู้มาสอบหลายคนประมาทค่อยๆขยับรถค่ะไม่ต้องแตะคันเร่งเลยจะดีที่สุด ฐานนี้จะมี2ช่องสอบนะคะแล้วแต่จนท.จัดให้เรา แต่จขกท.รู้สึกว่าช่องสอบ3กว่าตอนเลี้ยวเข้าเพราะมีฟุตบาตกั้นทางด้านซ้ายด้วย กลัวรถจะไปครูดเอา
หลักเกณฑ์
เดินหน้าและถอยหลังรถตรงๆในช่องทางที่เจ้าหน้าที่ได้กำหนดไว้โดยที่รถต้องไม่ชนกับสิ่งกีดขวาง
*ข้อควรระวังของการสอบท่านี้ก็คือ ต้องพยายามตั้งรถให้ตรง มิเช่นนั้น รถของท่านอาจจะชนกับสิ่งกีดขวางด้านข้างได้