[CR] แชร์ขั้นตอนและเทคนิคการสอบใบขับขี่ ตุลาคม 2561

สวัสดีค่ะ เราเพิ่งได้ใบขับขี่มาสดๆร้อน เลยอยากมาแชร์ข้อมูล ขั้นตอน วิธีการ รวมถึงเทคนิคที่น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่กำลังจะสอบใบขับขี่ค่ะ

*ข้อมูล ณ เดือนตุลาคม 2561 นะคะ

บ้านเราอยู่แถวฝั่งธนฯ ขนส่งสาขาที่ใกล้บ้านเราที่สุด และที่เราไปสอบคือ บางขุนเทียน

ตอนแรกเราพยายามจะหาทางทำใบขับขี่วัน เสาร์ อาทิตย์ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเสียวันลา
การทำใบขับขี่วัน เสาร์- อาทิตย์ จะมีบริษัทเอกชนร่วมกับขนส่งฯ จัดอบรมและสอบใบขับขี่เดือนละครั้ง
ด้วยช่วงที่ต้องการสอบ เป็นเดือนของบริษัท ฮอนด้า แต่ว่าโทรไม่ติด ไม่มีคนรับเลย พยายามโทรหลายครั้งมาก ก็ไม่สำเร็จ
เดือนถัดไป พ.ย. เป็นของบริษัท บริดจสโตน เจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำดีมากๆ เจ้าหน้าที่ย้ำชัดเลยว่าต้องส่งเอกสารใบสมัครวันไหน เอกสารมีอะไรบ้าง รับทั้งหมดกี่ที่ และสอบวันไหน ด้วยความที่จัดสอบที่จตุจักร และเราไม่สะดวก เลยไม่ได้สมัครไป

จากนั้นเราจึงพยายามเข้าไปจองคิวอบรมออนไลน์ในเว็บขนส่ง สาขาบางขุนเทียน พบว่าคิวเต็มไปอีก 3 เดือนข้างหน้า และวันอบรมที่ไกลไปกว่านั้นก็ยังไม่เปิดให้จอง

สุดท้ายเราเลยไปอบรมที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี จะจัดอบรมเดือนละครั้ง เสียเงิน 400 บาท

สามารถโทรสอบถามข้อมูลที่เบอร์ด้านล่างได้ค่ะ ไม่ต้องจองคิว
เจ้าหน้าที่แนะนำให้ไปถึง 7 โมงเช้าเพื่อรับบัตรคิว และจะเริ่มอบรมเวลา 08.00 - 13.00  รวม 5 ชั่วโมง
ระหว่างอบรมจะมีพักเบรคสั้นๆ และมีอาหารว่างให้นิดหน่อยค่ะ สถานที่อบรมสะดวกสบายดี
เอกสารที่ต้องใช้คือ บัตรประชาชนตัวจริงพร้อมสำเนา 1 ชุด

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
ศูนย์การศึกษาต่อเนื่อง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
โทร. 0-2470-9630-4  โทรสาร. 0-2427-9633
(ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.30 – 16.30 น.)

หลังจากอบรมเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็จะได้ใบรับรองการอบรมมา (ใบรับรองการอบรมจะมีอายุ 6 เดือน)

ขั้นตอนต่อไปคือการไปขอใบรับรองแพทย์ค่ะ
พอดีเป็นช่วงที่บริษัทเรามีตรวจร่างกายประจำปี เราเลยขอใบรับรองแพทย์มาด้วยพร้อมกันไม่เสียเงิน แต่จากที่หาข้อมูลมา ใบรับรองแพทย์ตามคลีนิกก็ใช้ได้นะคะ (ใบรับรองแพทย์มีอายุ 1 เดือนเท่านั้นนะคะ หากท่านใดจะขอใบรับรองแพทย์ต้องคำนึงถึงระยะเวลาที่เราจะสามารถไปสอบใบขับขี่ด้วยค่ะ ถ้าเกิน 1 เดือนต้องขอใหม่เสียเงินหลายรอบนะ)

เมื่อมีใบอบรม + ใบรับรองแพทย์เรียบร้อยไปถึงขนส่ง ยื่นเอกสารเลยค่ะ เข้าช่อง 204


เจ้าหน้าที่จะให้รอสักพัก แล้วเรียกให้รับเอกสารเพื่อไปทดสอบร่างกาย
ให้เราเขียนชื่อ-นามสกุลเราในเอกสารนั้น เดินขึ้นไปชั้นบนวางเอกสารแล้วนั่งดูวิดีโอ วิธีการทดสอบร่างกาย

พอดูวีดีโอจนจบ เจ้าหน้าที่จะเรียกชื่อ เพื่อแจกเอกสารคืน แล้วเราก็ไปต่อแถวเพื่อทดสอบร่างกายกันค่ะ
เท่าที่จำได้จะมี
ทดสอบตาบอดสี จากบอร์ดที่มีหลายๆสีปนกัน
ทดสอบปฏิกิริยาเท้า ให้เหยียบเบรคหลังจากสัญญาไฟสีแดงขึ้น
ทดสอบสายตาทางกว้าง โดยให้สายตามองตรง แล้วดูว่าด้านซ้ายขวาของเราเห็นเป็นสีอะไรโดยเจ้าหน้าที่จะกดสีสลับกันไป ให้ตอบให้ถูกค่ะ
ทดสอบสายตาเชิงลึก จะมีแท่งไม้สองแท่ง โดยแท่งนึงอยู่ใกล้เรา แท่งนึงอยู่ห่างออกไป ต้องกดปุ่มให้แท่งที่อยู่ห่างเลื่อนเข้ามาจนได้ระยะเดียวกันกับอีกแท่งค่ะ

ที่ขนส่งบางขุนเทียนมีห้องทดสอบลับค่ะ รูปด้านบนจะเป็นรูปบริเวณหน้าห้องที่เรานั่งดูวีดีโอวิธีการอบรม
ส่วนรูปด้านล่างจะเป็นห้องที่อยู่ติดกันกับห้องดูวีดีโอ แต่ถัดมาด้านหลังค่ะ เจ้าหน้าที่จะเดินมาต้อนแถวที่ยาวๆไปที่ห้องนั้นทีละสิบกว่าคน
ที่ห้องนี้ทดสอบได้ทั้งหมดในคราวเดียวเลยค่ะ เจ้าหน้าที่ทำงานเร็วมากๆ ไม่ต้องต่อแถวยาวๆทีละขั้นตอนตามรูปแรก เย้

หลังจากทดสอบร่างกายผ่านแล้ว ก็ไปสอบข้อสอบ 50 ข้อกันค่ะ
ต้องเดินลงมาด้านล่าง ห้อง 203 วางเอกสารแล้วรอเจ้าหน้าที่เรียกค่ะ

พอเจ้าหน้าที่เรียกเข้าไปในห้อง เราจะได้บัตรแม่เหล็กมา 1 ใบค่ะ
ให้เอาบัตรแม่เหล็กนั้น ติ๊ดกับเครื่องทดสอบ แล้วเริ่มทำข้อสอบได้เลยค่ะ
ถ้าข้อไหนตอบช้า ระบบจะมีไฟกระพริบในแต่ละตัวเลือกสลับกันไปค่ะ (อันนี้ทำให้เราแอบเขวหน่อยๆ หลังๆเลยอ่านแล้วพยายามตอบไวๆ)

การทำข้อสอบถ้าเตรียมตัวมาดีผ่านแน่นอนค่ะ  แอพที่เราแนะนำคือแอพตามลิ้งค์ด้านล่าง (ios ก็มีแอพนี้ให้โหลดนะคะ)
เราฝึกทำก่อนไปสอบสองสามวัน วันไปสอบนี่อ่านช้อยส์แล้วตอบได้เลยค่ะ ไม่อ่านคำถาม ฮ่าๆ
https://play.google.com/store/apps/details?id=com.starvision.drivinglicence&hl=th

หลังจากทำข้อสอบเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็รอผลค่ะ ถ้าผ่านเจ้าหน้าที่จะให้ใบนัดมา เพื่อมาสอบปฏิบัติภายหลัง
เราไปถึงขนส่ง 8.30 ขั้นตอนตั้งแต่เริ่มต้นยื่นเอกสาร ทดสอบร่างกาย ทำข้อสอบเสร็จ และได้รับใบนัดประมาณ 10.30 ค่ะ

พยายามจะขอเจ้าหน้าที่สอบปฏิบัติบ่ายเลย ไม่อยากเสียเวลามาอีกครั้ง แต่เจ้าหน้าที่บอกว่าคิวเต็มค่ะ ทั้งที่นัดมาสอบวันนี้และมาสอบซ่อม ยังไงก็ต้องมาสอบปฏิบัติวันหลัง

การมาสอบปฏิบัติสามารถมาในวันนัด หรือหลังจากวันนัดได้ภายใน 90 วันนะคะ
ในเอกสารระบุว่าสอบรอบเช้าได้ตั้งแต่เวลา 8.30 น. แต่เจ้าหน้าที่เริ่มทำงานตั้งแต่ 7.30 นะคะ
วันที่มาสอบปฏิบัติ ให้นำคลิปที่เจ้าหน้าที่วางเตรียมไว้ให้ หนีบประชาชนกับใบนัด วางใส่ในตะกร้าได้เลยค่ะ แล้วรอเจ้าหน้าที่เรียกชื่อ
สนามสอบจะเปิด 8.30 หลังจากรับบัตรคิวแล้วมาทานข้าว เดินดูสนามสอบ ดูวีดีโอวิธีสอบปฏิบัติรอได้ค่ะ ไม่นาน

พอ 8.30 เจ้าหน้าที่จะลงมาที่สนาม อธิบายวิธีการสอบ และสาธิตขับให้ดูค่ะ
ขั้นตอนการสอบคือจะต้องนำบัตรแม่เหล็กที่ได้รับ แตะกับเครื่องที่ตั้งอยู่ในแต่ละท่าค่ะ
ต้องแตะทุกท่านะคะ ก่อนแตะให้สังเกตว่าเครื่องจะต้องขึ้นว่า "R U Ready ?"
และหลังจากแตะ เครื่องต้องขึ้นหมายเลขคิวของเรา และนับเวลาถอยหลัง 240 วินาทีค่ะ
ถ้าเครื่องไม่เป็นไปตามที่บอกมาด้านบน แสดงว่าผิดพลาดค่ะ อาจจะเป็นช่วงเวลาทดสอบของรถคันหน้าอยู่
ทำให้เราไม่ผ่าน หรือผู้ทดสอบก่อนหน้าไม่ผ่าน จะต้องเสียเวลาใหม่ค่ะ

ที่ขนส่งบางขุนเทียนจะสอบท่าที่ 2 ก่อน คือท่าเดินหน้า ถอยหลังตรง
อันนี้เราผ่านแบบชิวๆ เดินหน้าจนสุดให้ท้ายรถเลยเส้นดำ (จริงๆถ้าขับจนสุดเกือบถึงที่กั้นก็จะเลยอยู่แล้วค่ะ)
แล้วถอยรถจนสุด ให้หน้ารถพ้นเส้นดำ รอสักพักให้เครื่องประกาศผล "ท่าที่สองผ่านค่ะ" หลังจากนั้นก็ขับไปท่าถัดไปได้ค่ะ

ท่าถัดไปคือท่าที่ 1 จอดรถเทียบทางเท้า ระยะห่างไม่เกิน 25 ซม. ห้ามเบียด ปาด ชน ห้ามหยุดจอด หรือถอยหลังค่ะ
ท่านี้เป็นท่าที่เราตกในการสอบปฏิบัติครั้งแรก เนื่องจากมาครั้งแรกค่ะ ฮ่าๆ พอมาครั้งที่สองก็ผ่าน เลยอยากจะมาแชร์กัน
ท่านี้จุดแตะบัตรแม่เหล็กจะอยู่ที่ลูกศรในภาพค่ะ  ถนน ณ บริเวณนั้นจะเป็นสองเลน โดยที่ๆเราจะต้องแตะบัตร แน่นอนอยู่เลนขวา

แต่ๆๆ !!! พอขับมาปุ๊บ เราจะต้องเทียบทางเท้าด้านซ้ายให้ได้ ปัญหาคือ ..
ถ้าเราอยู่เลนขวา แล้วต้องเทียบทางเท้าด้านซ้ายให้ไม่เกิน 25 ซม. ให้ได้ ในระยะทาง"โค้ง"ที่ "สั้น"มากๆ
เราสอบครั้งแรก ล้อเราเบียดค่ะ เพราะกลัวว่าจะไม่ชิดทางเท้า

พอไปครั้งที่สองตั้งสติค่ะ จอดรถให้อยู่ชิดด้านซ้ายของเลนขวา เราแนะนำให้เดินลงจากรถมาแตะบัตรเริ่มสอบค่ะ
เพราะถ้าอยู่ในรถแตะบัตร แสดงว่ารถเราจะต้องชิดด้านขวามากๆ และจะโค้งเพื่อจอดเทียบด้านซ้ายยากค่ะ
เมื่อเราแตะบัตรเรียบร้อยแล้ว ให้ตีรถออกไปทางซ้ายเลยค่ะ (ระยะนี้อาจจะยังไม่ต้องชิดมาก แต่ให้ประคองรถแนบไปกับทางโค้งให้มากที่สุด)
ตรงส่วนที่เป็นทางโค้ง ด้านซ้ายจะเป็นยางล้อรถจะยังไม่มีเซนเซอร์  ตัวเซนเซอร์คือแท่งสีขาวๆ จะมีเมื่อมีเส้นสีขาวบนพื้นถนนค่ะ

การฝึกก็สำคัญค่ะ เราแนะนำให้ใช้รถตัวเองฝึก และใช้รถตัวเองไปสอบ ครั้งแรกเราเช่ารถที่ขนส่ง เราไม่ชิน + กะระยะรถไม่ถูกด้วยค่ะ
เตรียมตัวครั้งที่สองเราเลยตั้งใจฝึก และใช้รถเราสอบ ทำให้เรากะระยะได้ บางคนอาจจะใช้ปรับกระจกข้างให้มองต่ำลงก็พอช่วยได้ค่ะ
สิ่งที่สำคัญอีกอย่างนึงคือ ขับช้า ช้า ช้าาา ขับให้ช้าที่สุดค่ะ เพราะเราจะสามารถเบี่ยงเข้าหรือออกได้ทัน เนื่องจากระยะทางหลังจากโค้งเพื่อจอดสั้นมากค่ะ
ตอนเราฝึก เราพบว่ารถเราช้ามาก(แบบไม่ได้ตั้งใจ)โดยการดึงเบรคมือค้างไว้ค่ะ พอฝึกชินเพิ่งทราบว่าเบรคมือค้าง เลยเอาออกก็ต้องแตะเบรคถี่ๆแทนค่ะ
ใครจะลองใช้วิธีดึงเบรคมือเพื่อให้รถช้าก็ได้นะคะ แต่รถพังไม่รับผิดชอบเน้ออ

*สิ่งที่แอบคิดในใจตอนก่อนสอบคือเราจะยึดส่วนที่พื้นขาวๆด่างๆกลางเลนเป็นหลักหรือลูกศรบนพื้นถนนเป็นหลัก โดยให้ตัวเราอยู่บนแนวเส้นนั้นพอดี ไม่แน่ใจว่าใช้ได้ผลมั้ยนะคะ ถ้าใครลองบอกหน่อยนา แต่ตกไม่รับผิดชอบอีกเช่นกันค่ะ ฮ่าๆ

อีกสิ่งที่ยากหลังจากขับเทียบไม่ให้เกิน 25 ซม. คือการจอดให้หน้ารถอยู่ระหว่างเส้นสองเส้นค่ะ
บางคนบอกว่าให้มองสิ่งแวดล้อมรอบๆ ว่าตัวเราจะอยู่ในระยะไหนเมื่อหน้ารถอยู่ระหว่างเส้นสองเส้น แล้วให้หยุดรถเมื่อตัวเราถึงจุดๆนั้น
แต่ตอนสอบเนื่องด้วยเป็นรถเราเอง เราเลยกะระยะได้ค่ะ ไม่ได้อ้างอิงของรอบๆตัวเท่าไหร่


เมื่อหยุดจอดเรียบร้อยแล้ว รอสักพัก จนมีเสียงแจ้งว่า "ท่าที่ 1 ผ่านค่ะ/ไม่ผ่านค่ะ" จึงขับรถตรงไปสอบท่าที่ 3 ค่ะ

ในท่าที่ 3 เจ้าหน้าที่จะเอาเอกสารของเราไป ติ้ดกับเครื่องให้ และจะเก็บเอาไปเลยค่ะ เพื่อประกอบกับใบแจ้งผล
ท่าที่ 3 สำหรับเราไม่ค่อยยากเท่าไหร่ค่ะ เนื่องจากจอดรถที่บ้านในท่านี้เป็นประจำ ท่านี้สอบผ่านตั้งแต่ครั้งแรกค่ะ
คลิปที่เราว่าดูแล้วเข้าใจ แนะนำเป็นคลิปด้านล่างนะคะ ส่วนตัวดูแล้วเข้าใจง่ายดีค่ะ
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
หลังจากสอบครบทุกท่าเสร็จเรียบร้อย ให้นำรถไปจอด แล้วนั่งรอค่ะ จะประกาศผลประมาณ 9.30 พร้อมกันครั้งละหลายๆคน
ถ้าผ่านไม่ครบทุกท่า จะได้รับบัตรประชาชนคืน + ใบนัดที่มีรายละเอียดแจ้งว่าเราไม่ผ่านท่าใดบ้าง พร้อมรูปหลักฐาน ฮ่าๆ
และจะนัดให้มาสอบใหม่ในอีก 3 วันทำการถัดไปค่ะ   ถ้าไม่ว่างมาในวันนัดจะมาภายหลังก็ได้ค่ะ แต่ภายใน 90 วันนะคะ

ถ้าผ่านทุกท่า เจ้าหน้าที่จะคืนเอกสารทั้งชุดให้ ให้เราไปติดต่อที่ช่อง 202 เพื่อตรวจผล และเอกสารทั้งหมดอีกครั้ง
หลักจากเจ้าหน้าที่ตรวจเสร็จ จะได้บัตรคิวมาเพื่อรอถ่ายรูป ทำใบขับขี่ค่ะ

เมื่อถึงคิวแล้ว เจ้าหน้าที่จะเรียกเข้าไปตรวจเอกสารอีกครั้ง ชำระเงิน 205 บาท ถ่ายรูป และรับบัตรกลับบ้านได้เลยจ้าา

** สรุปนะคะ ทำใบขับขี่ครั้งนี้ **

เราลาทั้งหมด 4 วันค่ะ
วันแรก ลาไปอบรมกับขนส่งเอกชน (อบรม 5 ชม.)
วันที่สอง ลาไปทดสอบร่างกาย และสอบข้อสอบ 50 ข้อค่ะ
วันที่สาม ลาไปสอบปฏิบัติ (ผ่านท่า 1 และ 3 , ตกท่า 2 ค่ะ)
วันที่สี่ ลาไปสอบปฏิบัติท่าที่สอง และผ่าน เย้ !

(จริงๆวันที่ 2 3 4 จะลาแค่ครึ่งวันเช้าก็ได้นะคะ ถ้าใครอยากประหยัดวันลา)

ค่าใช้จ่ายที่เสียไป ทั้งหมด 705 บาท (ไม่รวมค่าเดินทางและค่าถ่ายเอกสารนะคะ) แบ่งเป็น
ค่าอบรม 400 บาท
ค่าเช่ารถ 100 บาท - ในวันสอบปฏิบัติครั้งแรก
ค่าทำใบขับขี่ 205 บาท

สุดท้ายนี้ถ้าข้อมูลผิดพลาด ไม่ถูกต้องหรือตกหล่นประการใด สามารถแชร์หรือแจ้งได้นะคะ
ถ้าใครมีข้อสงสัยหรืออยากสอบถามเพิ่มเติม ถ้าเราสามารถช่วยได้ยินดีเลยค่า ยิ้ม
ชื่อสินค้า:   สอบใบขับขี่ ขนส่งบางขุนเทียน
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่