สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 53
บริวารลิ่วล้อ นักบวชคึกฤทธิ์ พากันเข้ามาบิดเบือนคำสอนของพระพุทธเจ้ากันสนุกสนาน
ประพฤติตนราวกับว่า มี นักบวชคึกฤทธิ์เป็นศาสดา
ประเด็น ที่ นักบวชคึกฤทธิ์ กล่าวว่า โสดาบัน ถ้าดื่ม(สุรา) จะต้องไม่ผิดสัมมาวาจา 4
นี่เป็นการตีความที่ไม่แยบคาย จากการอ่านพระสูตรของนักบวชคึกฤทธิ์
แล้วก็พยายาม
ไปยกพระสุตรที่พระพุทธเจ้ากล่าวถึงคุณสมบัติข้อที่ไม่ได้กล่าวถึงการงดดื่มสุรา มาอ้าง
การที่พระพุทธเจ้ามิได้กล่าวถึงไว้ แปลว่า ให้ทำได้ หรือ ?
ทำไมไม่ดูที่พระสูตรอื่น ว่าทำไม่ได้มาเปรียบเทียบกัน
โธ่...ทำไมพวกคุณ ไม่มีความคิดบ้างหรือว่า
การที่ นักบวชคึกฤทธิ์กล่าวเช่นนั้น มันขัดแย้งกับคำสอนของพระพุทธเจ้า
แม้จะมีบางสูตรบางตอน ที่พระพุทธเจ้า
มิได้กล่าวถึงผู้ที่ได้บรรลุธรรมเป็นโสดาบันเลยว่า ต้องรักษาศีล หรือ สิกขาบท ข้อใด ๆ
ดังที่ผมยกตัวอย่าง การบรรลุธรรม ของ พระอัญญาโกณฑัญญะ พระโมคคัลลานะ พระสารีบุตร เป็นต้น
ตรงนี้ พวกคุณจะตีความด้วยไหมว่า
พระพุทธเจ้ากล่าวถึงเพียงแต่ดวงตาเห็นธรรม มิได้ห้ามฆ่าสัตว์....จนถึงห้ามดื่มสุรา
ดังนั้น พระอริยสาวกจึงทำได้ อย่างนั้นหรือ
ตัวอย่าง พุทธพจน์ ที่กล่าวถึง งดเว้นสุรา
เปรียบเทียบกับคำพูดของ นักบวชคึกฤทธิ์บัญญัติ ว่าดื่มได้ แต่ต้องไม่ผิดสัมมาวาจา 4
พระพุทธเจ้าบัญญัติไว้ผิดใช่ไหม ?
นักบวชคึกฤทธิ์ นี้ ท่าทางจะสติไม่ค่อยดี
บางคราว บอกว่า ตนไม่มีคำพูดของตนเองมีแต่พูดคำของพระพุทธเจ้า
แต่พอจับได้ ว่าตนเองนั่นแหละมั่ว อธิบายวิเคราะห์ผิด เกินเยิ่นเย้อ
กลับแก้ตัว ว่า วิเคราะห์ให้ฟังเฉย ๆ
คนดีชอบแก้ไข....คนอะไร ? ชอบแก้ตัว
บางคราว นักบวชคึกฤทธิ์ บอกว่า อธิบายพระสูตรเทียบพระสูตร
ถ้าเทียบจริง ก็ต้องไม่ขัดแย้งกับคำพูดของพระพุทธเจ้า
นี่เทียบแล้วขัดแย้งกัน จะทำไงดี
ตัวอย่าง
จะทิ้งคำสอนที่พระพุทธเจ้า กล่าวว่า อริยสาวกงดเว้นจากการดื่มสุรา
เปลี่ยนเป็น อริยสาวกดื่มได้แต่ต้องไม่ผิดสัมมาวาจา 4 หรือ ? ตามคึกฤทธิ์บัญญติ !!!???
ตัวอย่าง
เพื่อเป็นการสนอง นักบวชคึกฤทธิ์บัญญัติ ควรแก้ไขคำพูดของพระพุทธเจ้า เป็นดังนี้
บริวารลิ่วล้อ นักบวชคึกฤทธิ์ ช่วยกันบิดเบือนธรรม ได้กุศลเจริญขึ้นมากไหม....!!!...???
.
ประพฤติตนราวกับว่า มี นักบวชคึกฤทธิ์เป็นศาสดา
ประเด็น ที่ นักบวชคึกฤทธิ์ กล่าวว่า โสดาบัน ถ้าดื่ม(สุรา) จะต้องไม่ผิดสัมมาวาจา 4
นี่เป็นการตีความที่ไม่แยบคาย จากการอ่านพระสูตรของนักบวชคึกฤทธิ์
แล้วก็พยายาม
ไปยกพระสุตรที่พระพุทธเจ้ากล่าวถึงคุณสมบัติข้อที่ไม่ได้กล่าวถึงการงดดื่มสุรา มาอ้าง
การที่พระพุทธเจ้ามิได้กล่าวถึงไว้ แปลว่า ให้ทำได้ หรือ ?
ทำไมไม่ดูที่พระสูตรอื่น ว่าทำไม่ได้มาเปรียบเทียบกัน
โธ่...ทำไมพวกคุณ ไม่มีความคิดบ้างหรือว่า
การที่ นักบวชคึกฤทธิ์กล่าวเช่นนั้น มันขัดแย้งกับคำสอนของพระพุทธเจ้า
แม้จะมีบางสูตรบางตอน ที่พระพุทธเจ้า
มิได้กล่าวถึงผู้ที่ได้บรรลุธรรมเป็นโสดาบันเลยว่า ต้องรักษาศีล หรือ สิกขาบท ข้อใด ๆ
ดังที่ผมยกตัวอย่าง การบรรลุธรรม ของ พระอัญญาโกณฑัญญะ พระโมคคัลลานะ พระสารีบุตร เป็นต้น
ตรงนี้ พวกคุณจะตีความด้วยไหมว่า
พระพุทธเจ้ากล่าวถึงเพียงแต่ดวงตาเห็นธรรม มิได้ห้ามฆ่าสัตว์....จนถึงห้ามดื่มสุรา
ดังนั้น พระอริยสาวกจึงทำได้ อย่างนั้นหรือ
ตัวอย่าง พุทธพจน์ ที่กล่าวถึง งดเว้นสุรา
เปรียบเทียบกับคำพูดของ นักบวชคึกฤทธิ์บัญญัติ ว่าดื่มได้ แต่ต้องไม่ผิดสัมมาวาจา 4
พระพุทธเจ้าบัญญัติไว้ผิดใช่ไหม ?
นักบวชคึกฤทธิ์ นี้ ท่าทางจะสติไม่ค่อยดี
บางคราว บอกว่า ตนไม่มีคำพูดของตนเองมีแต่พูดคำของพระพุทธเจ้า
แต่พอจับได้ ว่าตนเองนั่นแหละมั่ว อธิบายวิเคราะห์ผิด เกินเยิ่นเย้อ
กลับแก้ตัว ว่า วิเคราะห์ให้ฟังเฉย ๆ
คนดีชอบแก้ไข....คนอะไร ? ชอบแก้ตัว
บางคราว นักบวชคึกฤทธิ์ บอกว่า อธิบายพระสูตรเทียบพระสูตร
ถ้าเทียบจริง ก็ต้องไม่ขัดแย้งกับคำพูดของพระพุทธเจ้า
นี่เทียบแล้วขัดแย้งกัน จะทำไงดี
ตัวอย่าง
จะทิ้งคำสอนที่พระพุทธเจ้า กล่าวว่า อริยสาวกงดเว้นจากการดื่มสุรา
เปลี่ยนเป็น อริยสาวกดื่มได้แต่ต้องไม่ผิดสัมมาวาจา 4 หรือ ? ตามคึกฤทธิ์บัญญติ !!!???
ตัวอย่าง
เพื่อเป็นการสนอง นักบวชคึกฤทธิ์บัญญัติ ควรแก้ไขคำพูดของพระพุทธเจ้า เป็นดังนี้
บริวารลิ่วล้อ นักบวชคึกฤทธิ์ ช่วยกันบิดเบือนธรรม ได้กุศลเจริญขึ้นมากไหม....!!!...???
.
ความคิดเห็นที่ 9
คหบดีวรรคที่ ๕
๑. ปัญจเวรภยสูตรที่ ๑
[๑๕๑] พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระเชตวัน
อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี เขตพระนครสาวัตถี ...
ครั้งนั้นแล ท่านอนาถบิณฑิกคฤหบดีเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ
ถวายอภิวาท แล้วนั่งอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง
ครั้นนั่งเรียบร้อยแล้ว พระผู้มีพระภาคได้ตรัสกะท่านอนาถบิณฑิกคฤหบดีว่า
ดูกรคฤหบดี เมื่อใดแล ภัยเวร ๕ ประการ
ของอริยสาวกสงบแล้ว เมื่อนั้นอริยสาวก
ย่อมประกอบด้วยธรรมเป็นองค์แห่งโสดาปัตติ ๔ อย่าง
และญายธรรมอย่างประเสริฐ
อริยสาวกเห็นดีแล้ว แทงตลอดด้วยปัญญา
อริยสาวกนั้นหวังอยู่พึงพยากรณ์ตนด้วยตนเองได้ว่า
เราเป็นผู้มีนรกสิ้นแล้ว มีกำเนิดสัตว์ดิรัจฉานสิ้นแล้ว
มีปิตติวิสัยสิ้นแล้ว มีอบาย ทุคติ วินิบาตสิ้นแล้ว
เราเป็นโสดาบันมีอันไม่ตกต่ำเป็นธรรมดา เป็นผู้เที่ยงจะตรัสรู้ในภายหน้า ฯ
[๑๕๒] ภัยเวร ๕ ประการสงบแล้วเป็นไฉน
ดูกรคฤหบดี บุคคลผู้ฆ่าสัตว์ ย่อมประสพภัยเวรใด
อันมีในชาตินี้บ้าง อันมีในชาติหน้าบ้าง
ย่อมเสวยเจตสิกทุกข์คือโทมนัสบ้าง เพราะปาณาติบาตเป็นเหตุ
ภัยเวรของอริยสาวกผู้เว้นขาดจากปาณาติบาตสงบแล้วด้วยอาการอย่างนี้
บุคคลผู้ลักทรัพย์ย่อมประสพภัยเวรใด อันมีในชาตินี้บ้าง อันมีในชาติหน้าบ้าง
ย่อมเสวยเจตสิกทุกข์คือโทมนัสบ้าง
เพราะอทินนาทานเป็นเหตุ
ภัยเวรของอริยสาวกผู้เว้นขาดจากอทินนาทานสงบแล้วด้วยอาการอย่างนี้
บุคคลผู้ประพฤติผิดในกาม ย่อมประสพภัยเวรใด
อันมีในชาตินี้บ้าง อันมีในชาติหน้าบ้าง
ย่อมเสวยเจตสิกทุกข์คือโทมนัสบ้าง
เพราะกาเมสุมิจฉาจารเป็นเหตุ
ภัยเวรของอริยสาวกผู้เว้นขาดจากกาเมสุมิจฉาจารสงบแล้วด้วยอาการอย่างนี้
บุคคลผู้พูดเท็จ ย่อมประสพภัยเวรใด
อันมีในชาตินี้บ้าง อันมีในชาติหน้าบ้าง
ย่อมเสวยเจตสิกทุกข์คือโทมนัสบ้าง
เพราะมุสาวาทเป็นเหตุ
ภัยเวรของอริยสาวกผู้เว้นขาดจากมุสาวาท
สงบแล้วด้วยอาการอย่างนี้
บุคคลผู้ตั้งอยู่ในความประมาท เพราะดื่มน้ำเมาคือสุราและเมรัย
ย่อมประสพภัยเวรใด อันมีในชาตินี้บ้าง อันมีในชาติหน้าบ้าง
ย่อมเสวยเจตสิกทุกข์คือโทมนัสบ้าง
เพราะการดื่มน้ำเมาคือสุราและเมรัย
อันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาทเป็นเหตุ
ภัยเวรของอริยสาวกผู้เว้นขาดจากการดื่มน้ำเมาคือสุราและเมรัย
อันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาทสงบแล้วด้วยอาการอย่างนี้
ภัยเวร ๕ ประการนี้สงบแล้ว ฯ
http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=16&A=1812&Z=1883
พระพุทธเจ้าตรัสธรรม ไม่ขัดแย้งกัน เห็นด้วยไหมครับ
การแสดงธรรมของพระพุทธเจ้า มีตามกาลเวลา
ถ้าเป็นอย่างที่คุณ traf2003 กล่าวไนความเห็นที่ 5 นั้น
โสดาบันก็ดื่มสุราได้ หรือ ?
ถ้าเช่นนั้นก็ขัดแย้งกับ พระสูตรที่ผมยกมาแสดงให้ดู
คุณช่วยหาตัวอย่าง พระโสดาบันดื่มสุรา ที่มีในพระไตรปิฏก ให้ดูได้ไหม.
หรืออีกนัยหนึ่ง
เป็นไปได้ไหม ที่พระอริยสาวกของพระพุทธเจ้า
ที่บวชรุ่นแรก ๆ ก็ไม่ต้องรักษาสิกขาบท แล้วก็พากันดื่มสุรา
ข้อนั้นเพราะอะไร
เพราะ ตอนนั้นยังไม่มีสิกขาบทเลย
หรือแม้แต่ มีสิกขาบท เรื่องเกี่ยวกับการดื่มสุราแล้ว
โสดาบันก็ยังดื่มได้ !!
แต่...เพียงเพื่อไม่ผิดสัมมาวาจา 4 ดังที่ นักบวชคึกฤทธิ์ บัญญัติ !!
อย่างนั้นหรือ ?
.....
หรือตัวอย่าง การบัญญัติสิกขาบท ข้อต่อไปนี้
***
เป็นปาจิตตีย์ ในเพราะดื่มสุราและเมรัย.
http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/r.php?B=2&A=11971&w=%E0%C1%C3%D1%C2
สิกขาบทนี้ บัญญัติเวลาไหนก็ไม่รู้แน่ชัด
ภิกษุผู้บวชก่อนต้องรักษาสิกขาบทข้อนี้ไหม ?
พระพุทธเจ้าเพิ่งจะมาบัญญัติในภายหลัง ใช่ไหม ?
อย่างนี้ จะขัดแย้งกับภิกษุผู้บวชก่อนที่ยังไม่มีสิกขาบทนี้ไหม ?
คุณ traf2003 เคย นำสุราไปให้ นักบวชคึกฤทธิ์ ดื่มบ้างไหม ครับ !
ลองนำไปให้ นักบวชคึกฤทธิ์ ดื่ม โชว์ บันทึกภาพต่อสื่อมวลชน
ให้กะพอประมาณ ไม่ผิดสัมมาวาจา 4 ...
.
๑. ปัญจเวรภยสูตรที่ ๑
[๑๕๑] พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระเชตวัน
อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี เขตพระนครสาวัตถี ...
ครั้งนั้นแล ท่านอนาถบิณฑิกคฤหบดีเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ
ถวายอภิวาท แล้วนั่งอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง
ครั้นนั่งเรียบร้อยแล้ว พระผู้มีพระภาคได้ตรัสกะท่านอนาถบิณฑิกคฤหบดีว่า
ดูกรคฤหบดี เมื่อใดแล ภัยเวร ๕ ประการ
ของอริยสาวกสงบแล้ว เมื่อนั้นอริยสาวก
ย่อมประกอบด้วยธรรมเป็นองค์แห่งโสดาปัตติ ๔ อย่าง
และญายธรรมอย่างประเสริฐ
อริยสาวกเห็นดีแล้ว แทงตลอดด้วยปัญญา
อริยสาวกนั้นหวังอยู่พึงพยากรณ์ตนด้วยตนเองได้ว่า
เราเป็นผู้มีนรกสิ้นแล้ว มีกำเนิดสัตว์ดิรัจฉานสิ้นแล้ว
มีปิตติวิสัยสิ้นแล้ว มีอบาย ทุคติ วินิบาตสิ้นแล้ว
เราเป็นโสดาบันมีอันไม่ตกต่ำเป็นธรรมดา เป็นผู้เที่ยงจะตรัสรู้ในภายหน้า ฯ
[๑๕๒] ภัยเวร ๕ ประการสงบแล้วเป็นไฉน
ดูกรคฤหบดี บุคคลผู้ฆ่าสัตว์ ย่อมประสพภัยเวรใด
อันมีในชาตินี้บ้าง อันมีในชาติหน้าบ้าง
ย่อมเสวยเจตสิกทุกข์คือโทมนัสบ้าง เพราะปาณาติบาตเป็นเหตุ
ภัยเวรของอริยสาวกผู้เว้นขาดจากปาณาติบาตสงบแล้วด้วยอาการอย่างนี้
บุคคลผู้ลักทรัพย์ย่อมประสพภัยเวรใด อันมีในชาตินี้บ้าง อันมีในชาติหน้าบ้าง
ย่อมเสวยเจตสิกทุกข์คือโทมนัสบ้าง
เพราะอทินนาทานเป็นเหตุ
ภัยเวรของอริยสาวกผู้เว้นขาดจากอทินนาทานสงบแล้วด้วยอาการอย่างนี้
บุคคลผู้ประพฤติผิดในกาม ย่อมประสพภัยเวรใด
อันมีในชาตินี้บ้าง อันมีในชาติหน้าบ้าง
ย่อมเสวยเจตสิกทุกข์คือโทมนัสบ้าง
เพราะกาเมสุมิจฉาจารเป็นเหตุ
ภัยเวรของอริยสาวกผู้เว้นขาดจากกาเมสุมิจฉาจารสงบแล้วด้วยอาการอย่างนี้
บุคคลผู้พูดเท็จ ย่อมประสพภัยเวรใด
อันมีในชาตินี้บ้าง อันมีในชาติหน้าบ้าง
ย่อมเสวยเจตสิกทุกข์คือโทมนัสบ้าง
เพราะมุสาวาทเป็นเหตุ
ภัยเวรของอริยสาวกผู้เว้นขาดจากมุสาวาท
สงบแล้วด้วยอาการอย่างนี้
บุคคลผู้ตั้งอยู่ในความประมาท เพราะดื่มน้ำเมาคือสุราและเมรัย
ย่อมประสพภัยเวรใด อันมีในชาตินี้บ้าง อันมีในชาติหน้าบ้าง
ย่อมเสวยเจตสิกทุกข์คือโทมนัสบ้าง
เพราะการดื่มน้ำเมาคือสุราและเมรัย
อันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาทเป็นเหตุ
ภัยเวรของอริยสาวกผู้เว้นขาดจากการดื่มน้ำเมาคือสุราและเมรัย
อันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาทสงบแล้วด้วยอาการอย่างนี้
ภัยเวร ๕ ประการนี้สงบแล้ว ฯ
http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=16&A=1812&Z=1883
พระพุทธเจ้าตรัสธรรม ไม่ขัดแย้งกัน เห็นด้วยไหมครับ
การแสดงธรรมของพระพุทธเจ้า มีตามกาลเวลา
ถ้าเป็นอย่างที่คุณ traf2003 กล่าวไนความเห็นที่ 5 นั้น
โสดาบันก็ดื่มสุราได้ หรือ ?
ถ้าเช่นนั้นก็ขัดแย้งกับ พระสูตรที่ผมยกมาแสดงให้ดู
คุณช่วยหาตัวอย่าง พระโสดาบันดื่มสุรา ที่มีในพระไตรปิฏก ให้ดูได้ไหม.
หรืออีกนัยหนึ่ง
เป็นไปได้ไหม ที่พระอริยสาวกของพระพุทธเจ้า
ที่บวชรุ่นแรก ๆ ก็ไม่ต้องรักษาสิกขาบท แล้วก็พากันดื่มสุรา
ข้อนั้นเพราะอะไร
เพราะ ตอนนั้นยังไม่มีสิกขาบทเลย
หรือแม้แต่ มีสิกขาบท เรื่องเกี่ยวกับการดื่มสุราแล้ว
โสดาบันก็ยังดื่มได้ !!
แต่...เพียงเพื่อไม่ผิดสัมมาวาจา 4 ดังที่ นักบวชคึกฤทธิ์ บัญญัติ !!
อย่างนั้นหรือ ?
.....
หรือตัวอย่าง การบัญญัติสิกขาบท ข้อต่อไปนี้
***
เป็นปาจิตตีย์ ในเพราะดื่มสุราและเมรัย.
http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/r.php?B=2&A=11971&w=%E0%C1%C3%D1%C2
สิกขาบทนี้ บัญญัติเวลาไหนก็ไม่รู้แน่ชัด
ภิกษุผู้บวชก่อนต้องรักษาสิกขาบทข้อนี้ไหม ?
พระพุทธเจ้าเพิ่งจะมาบัญญัติในภายหลัง ใช่ไหม ?
อย่างนี้ จะขัดแย้งกับภิกษุผู้บวชก่อนที่ยังไม่มีสิกขาบทนี้ไหม ?
คุณ traf2003 เคย นำสุราไปให้ นักบวชคึกฤทธิ์ ดื่มบ้างไหม ครับ !
ลองนำไปให้ นักบวชคึกฤทธิ์ ดื่ม โชว์ บันทึกภาพต่อสื่อมวลชน
ให้กะพอประมาณ ไม่ผิดสัมมาวาจา 4 ...
.
สมาชิกหมายเลข 2621080 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 700487 ถูกใจ, ตรัยพล ถูกใจ, kittie ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 809877 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1111318 ถูกใจ
ความคิดเห็นที่ 19
ความคิดเห็นที่ 18
อนึ่ง คริปที่ จขกท.ไปตัดต่อมานั้น ผมไปลองดูคริบเต็มมีดังนี้ครับ
https://www.youtube.com/watch?v=DP_fpU7A-kA
เพื่อนสมาชิกลองพิจารณาดูละกันนะครับ
traf2003
คุณเข้าใจผิดนะครับ ผมมิได้ตัดต่อคลิป
แต่ไปพบในโซเชียล
ฟังแล้ว มั่นใจว่า ในสาระสำคัญผู้ตัดคลิป ได้นำเนื้อหามาครบ
กระทู้ถามหาอะไร อ่านไหม่ นะครับ
ฟังไหม่นะครับ
ที่เวลา 0.46
https://www.youtube.com/watch?v=RbkjuL6gJIk
ถ้าดื่ม(สุรา) จะต้องไม่ผิดสัมมาวาจา 4 นี้เป็นคำสอนของใคร ?
อนึ่ง คริปที่ จขกท.ไปตัดต่อมานั้น ผมไปลองดูคริบเต็มมีดังนี้ครับ
https://www.youtube.com/watch?v=DP_fpU7A-kA
เพื่อนสมาชิกลองพิจารณาดูละกันนะครับ
traf2003
คุณเข้าใจผิดนะครับ ผมมิได้ตัดต่อคลิป
แต่ไปพบในโซเชียล
ฟังแล้ว มั่นใจว่า ในสาระสำคัญผู้ตัดคลิป ได้นำเนื้อหามาครบ
กระทู้ถามหาอะไร อ่านไหม่ นะครับ
ฟังไหม่นะครับ
ที่เวลา 0.46
https://www.youtube.com/watch?v=RbkjuL6gJIk
ถ้าดื่ม(สุรา) จะต้องไม่ผิดสัมมาวาจา 4 นี้เป็นคำสอนของใคร ?
ความคิดเห็นที่ 23
ความคิดเห็นที่ 18
อนึ่ง คริปที่ จขกท.ไปตัดต่อมานั้น ผมไปลองดูคริบเต็มมีดังนี้ครับ
https://www.youtube.com/watch?v=DP_fpU7A-kA
เพื่อนสมาชิกลองพิจารณาดูละกันนะครับ
ตอบกลับ
2 0
traf2003
57 นาทีที่แล้ว
---------------------------
ถอดคลิปดังกล่าวมาได้ดังนี้
โยม : ศีล ๕ ข้อ ๕ คือ ดื่มเหล้าบ้าง นิดหน่อย แล้วก็โสดาบันจะยังได้อยู่หรือไม่ ？
คึกฤทธิ์ : พระพุทธเจ้าไม่ได้บอกว่า ได้ นะ แต่นี่เราวิเคราะห์ก้นเองโดยวิบาก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
อีกคลิปหนึ่ง คนละสถานที่ คนละเวลา
ถอดคลิปดังนี้
คึกฤทธิ์ : พระโสดาบัน ถ้าดื่มจะต้องไม่ผิดสัมมาวาจา ๔ เพราะไปดูคุณสมบัติพระโสดาบันในข้อที่ไม่พูดถึงเรื่องสุรา
แต่เพิ่มสัมมาวาจา ๔ สถานเข้าไป โสดาบันตรงนี้ ไม่มีข้อสุรา
---------------
ท่านๆ ชมคลิปแล้ว คิดว่าคลิปมีการตัดต่อตรงไหน ?
อนึ่ง คริปที่ จขกท.ไปตัดต่อมานั้น ผมไปลองดูคริบเต็มมีดังนี้ครับ
https://www.youtube.com/watch?v=DP_fpU7A-kA
เพื่อนสมาชิกลองพิจารณาดูละกันนะครับ
ตอบกลับ
2 0
traf2003
57 นาทีที่แล้ว
---------------------------
ถอดคลิปดังกล่าวมาได้ดังนี้
โยม : ศีล ๕ ข้อ ๕ คือ ดื่มเหล้าบ้าง นิดหน่อย แล้วก็โสดาบันจะยังได้อยู่หรือไม่ ？
คึกฤทธิ์ : พระพุทธเจ้าไม่ได้บอกว่า ได้ นะ แต่นี่เราวิเคราะห์ก้นเองโดยวิบาก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
อีกคลิปหนึ่ง คนละสถานที่ คนละเวลา
ถอดคลิปดังนี้
คึกฤทธิ์ : พระโสดาบัน ถ้าดื่มจะต้องไม่ผิดสัมมาวาจา ๔ เพราะไปดูคุณสมบัติพระโสดาบันในข้อที่ไม่พูดถึงเรื่องสุรา
แต่เพิ่มสัมมาวาจา ๔ สถานเข้าไป โสดาบันตรงนี้ ไม่มีข้อสุรา
---------------
ท่านๆ ชมคลิปแล้ว คิดว่าคลิปมีการตัดต่อตรงไหน ?
ความคิดเห็นที่ 81
ความคิดเห็นที่ 79
สติแตก เหรอครับท่าน ?
อยู่ดีๆ มาคร่ำครวญ ถามหาประเด็นกระทู้ ทำไม ?
สรุปก็คือ
สหายร่วมบาปของท่านเอง ก็ได้เข้ามาตอบคำถามโดยอ้างอิงหลักฐานเป็นการถอดเทป ถ้อยคำของท่านพระวัดนาฯ
ซึ่งระบุข้อเท็จจริงว่า พระท่านก็บอกอยู่แล้วชัดๆ นี่ครับ ว่าพระพุทธเจ้าไม่ได้ตรัส เป็นความเห็นของพระท่านเอง
แล้วท่านเจ้าของกระทู้ มาเซ้าซี้ถามอะไร อึกหละครับ ?
ใน คคห ที่ยี่สิบสาม ท่านเจ้าของกระทู้ ก็อ่านแล้วนี่ครับ เห็นหลักฐาน เห็นคำตอบ แล้วนี่ครับ แถมยังคลิ๊กถูกใจ อึกต่างหาก
แต่เมื่อมาถึงตอนนี้ ท่านกลับเสียสติ มาร้องถามผมว่า ประเด็นกระทู้ คืออะไร ?
5555555555
ประเด็น ที่ท่านถามไว้ สหายร่วมบาป เขาตอบให้แล้วนี่ครับ
ว่าประเด็นนึ้ เรื่องนี้ เป็นคำของใคร ? แล้วยังจะมาฟาดงวงหาดงา แถกแถ ตั้งคำถามบ้าๆบอๆ อะไรกันอึก
กรุณา พูดอิงอรรถอิงธรรม
กล่าวตามหลักฐาน ด้วยครับท่าน
โอ๊ยยยยยยย ฮาว่ะ
สมาชิกหมายเลข 2810765
3 ชั่วโมงที่แล้ว
การที่ท่านสมาชิกหมายเลข 1111318 เข้ามาแสดงความคิดเห็นใน 23 นั้น
เนื่องจาก สมาชิก นามว่า traf2003 ได้กล่าวบิดเบือนว่า ผมคือผู้ตัดต่อคลิป
ลำดับเหตุการณ์
การที่ คุณสมาชิก 1111318 แกะเนื้อความ ทั้ง 2 คลิป
เพื่ออะไร
เพื่อเปรียบเทียบให้เห็นว่า ทั้ง 2 คลิปนั้น เหมือนหรือไม่เหมือนกันอย่างไร ?
ผมตัดต่อหรือไม่ ?
...................
ความคิดเห็นของคุณ...318 คือ เป็นคำถามว่า
ท่านๆ ชมคลิปแล้ว คิดว่าคลิปมีการตัดต่อตรงไหน ?
ผมมีความเห็นว่า มิได้เป็นการตอบคำถามประเด็นกระทู้ แต่อย่างใดเลย .
อธิบาย ภาพ
1.นักบวชคึกฤทธิ์ กล่าว ว่า ผู้ถ่ายทอดคำพระตถาคต ต้อง ตรง ๆ เป้ะ ๆ
(ผมถามหา คำที่เป็นพุทธพจน์ ตรง ๆ เหมือนอย่างที่คึกฤทธิ์พูดไว้ ก็ถูกพาดพิงว่าเป็นพาลเสียนี่..!!!)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
2.นอกจากคำพระพุทธเจ้าต้องถ่ายทอดตรง ๆ เป้ะ ๆ แล้ว
นักบวชคึกฤทธิ์ ยังประกาศอีกว่า
"ไม่มีการพิจารณาของตนเอง พูดคำพระศาสดาเหมดเลย"
โดยนัย ก็คือ นักบวชคึกฤทธิ์ ต้องพูดตรง ๆ เป้ะ ๆ ดังที่ประกาศไว้ที่ "1"
3.ในการสนทนาธรรม สถานที่แห่งหนึ่ง ในจังหวัดระยอง
นักบวชคึกฤทธิ์ กล่าวกดหมิ่นผู้อธิบายความ ขยายคำพุทธพจน์ว่า
"ไม่ต้องแก้ครับ ไม่ต้องคิดว่า เรามีไอเดียที่ดีมาขยายความอะไร ไม่ต้องครับ"
นักบวชคึกฤทธิ์ ก็ไม่ควรที่จะอธิบาย ขยายความเช่นกัน (เน่าะ..)
-
แต่แล้ว...ในคลิปนั้น
นักบวชคึกฤทธิ์...แต่ตนเอง นั่นแหละ กลับขยายความ เสียเอง !!!
ก็ถ้า ลิ่วล้อ บริวาร นักบวชคึกฤทธิ์
เห็นว่า นักบวชคึกฤทธิ์ พูดแต่คำพระพุทธเจ้า ตรง ๆ เป้ะ ๆ
ก็หาคำพระพุทธเจ้ามารับรองคำพูดของนักบวชนี้
และการที่ห้ามผู้อื่นอธิบายขยายความ
แต่ตนเองกลับทำเสียเอง ....-->นักบวชนี้ ก็พูดจากลับกลอกไปมา
พอสรุปได้ไหมว่า
พฤติกรรมวาจา ของนักบวชคึกฤทธิ์ เป็นเช่นไร ?
---------------
ลิ่วล้อ ก็มีความเพียร จะเข้ามาเก็บกวาด เช็ดถูให้วาจาของนักบวชนี้ดูสะอาดขึ้น
ถ้าใคร จะหาพุทธพจน์ ตรง ๆ เป้ะ มารับรองคำพูดของนักบวชนี้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เชิญครับ.!!
หรือว่า ถ้าหาไม่ได้ ก็ รับทราบว่า นักบวชนี้ พูดจากลับกลอกไปมา ก็ ตามสะดวกครับ.
.
สติแตก เหรอครับท่าน ?
อยู่ดีๆ มาคร่ำครวญ ถามหาประเด็นกระทู้ ทำไม ?
สรุปก็คือ
สหายร่วมบาปของท่านเอง ก็ได้เข้ามาตอบคำถามโดยอ้างอิงหลักฐานเป็นการถอดเทป ถ้อยคำของท่านพระวัดนาฯ
ซึ่งระบุข้อเท็จจริงว่า พระท่านก็บอกอยู่แล้วชัดๆ นี่ครับ ว่าพระพุทธเจ้าไม่ได้ตรัส เป็นความเห็นของพระท่านเอง
แล้วท่านเจ้าของกระทู้ มาเซ้าซี้ถามอะไร อึกหละครับ ?
ใน คคห ที่ยี่สิบสาม ท่านเจ้าของกระทู้ ก็อ่านแล้วนี่ครับ เห็นหลักฐาน เห็นคำตอบ แล้วนี่ครับ แถมยังคลิ๊กถูกใจ อึกต่างหาก
แต่เมื่อมาถึงตอนนี้ ท่านกลับเสียสติ มาร้องถามผมว่า ประเด็นกระทู้ คืออะไร ?
5555555555
ประเด็น ที่ท่านถามไว้ สหายร่วมบาป เขาตอบให้แล้วนี่ครับ
ว่าประเด็นนึ้ เรื่องนี้ เป็นคำของใคร ? แล้วยังจะมาฟาดงวงหาดงา แถกแถ ตั้งคำถามบ้าๆบอๆ อะไรกันอึก
กรุณา พูดอิงอรรถอิงธรรม
กล่าวตามหลักฐาน ด้วยครับท่าน
โอ๊ยยยยยยย ฮาว่ะ
สมาชิกหมายเลข 2810765
3 ชั่วโมงที่แล้ว
การที่ท่านสมาชิกหมายเลข 1111318 เข้ามาแสดงความคิดเห็นใน 23 นั้น
เนื่องจาก สมาชิก นามว่า traf2003 ได้กล่าวบิดเบือนว่า ผมคือผู้ตัดต่อคลิป
ลำดับเหตุการณ์
การที่ คุณสมาชิก 1111318 แกะเนื้อความ ทั้ง 2 คลิป
เพื่ออะไร
เพื่อเปรียบเทียบให้เห็นว่า ทั้ง 2 คลิปนั้น เหมือนหรือไม่เหมือนกันอย่างไร ?
ผมตัดต่อหรือไม่ ?
...................
ความคิดเห็นของคุณ...318 คือ เป็นคำถามว่า
ท่านๆ ชมคลิปแล้ว คิดว่าคลิปมีการตัดต่อตรงไหน ?
ผมมีความเห็นว่า มิได้เป็นการตอบคำถามประเด็นกระทู้ แต่อย่างใดเลย .
อธิบาย ภาพ
1.นักบวชคึกฤทธิ์ กล่าว ว่า ผู้ถ่ายทอดคำพระตถาคต ต้อง ตรง ๆ เป้ะ ๆ
(ผมถามหา คำที่เป็นพุทธพจน์ ตรง ๆ เหมือนอย่างที่คึกฤทธิ์พูดไว้ ก็ถูกพาดพิงว่าเป็นพาลเสียนี่..!!!)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
2.นอกจากคำพระพุทธเจ้าต้องถ่ายทอดตรง ๆ เป้ะ ๆ แล้ว
นักบวชคึกฤทธิ์ ยังประกาศอีกว่า
"ไม่มีการพิจารณาของตนเอง พูดคำพระศาสดาเหมดเลย"
โดยนัย ก็คือ นักบวชคึกฤทธิ์ ต้องพูดตรง ๆ เป้ะ ๆ ดังที่ประกาศไว้ที่ "1"
3.ในการสนทนาธรรม สถานที่แห่งหนึ่ง ในจังหวัดระยอง
นักบวชคึกฤทธิ์ กล่าวกดหมิ่นผู้อธิบายความ ขยายคำพุทธพจน์ว่า
"ไม่ต้องแก้ครับ ไม่ต้องคิดว่า เรามีไอเดียที่ดีมาขยายความอะไร ไม่ต้องครับ"
นักบวชคึกฤทธิ์ ก็ไม่ควรที่จะอธิบาย ขยายความเช่นกัน (เน่าะ..)
-
แต่แล้ว...ในคลิปนั้น
นักบวชคึกฤทธิ์...แต่ตนเอง นั่นแหละ กลับขยายความ เสียเอง !!!
ก็ถ้า ลิ่วล้อ บริวาร นักบวชคึกฤทธิ์
เห็นว่า นักบวชคึกฤทธิ์ พูดแต่คำพระพุทธเจ้า ตรง ๆ เป้ะ ๆ
ก็หาคำพระพุทธเจ้ามารับรองคำพูดของนักบวชนี้
และการที่ห้ามผู้อื่นอธิบายขยายความ
แต่ตนเองกลับทำเสียเอง ....-->นักบวชนี้ ก็พูดจากลับกลอกไปมา
พอสรุปได้ไหมว่า
พฤติกรรมวาจา ของนักบวชคึกฤทธิ์ เป็นเช่นไร ?
---------------
ลิ่วล้อ ก็มีความเพียร จะเข้ามาเก็บกวาด เช็ดถูให้วาจาของนักบวชนี้ดูสะอาดขึ้น
ถ้าใคร จะหาพุทธพจน์ ตรง ๆ เป้ะ มารับรองคำพูดของนักบวชนี้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เชิญครับ.!!
หรือว่า ถ้าหาไม่ได้ ก็ รับทราบว่า นักบวชนี้ พูดจากลับกลอกไปมา ก็ ตามสะดวกครับ.
.
แสดงความคิดเห็น
ถ้าดื่ม(สุรา) จะต้องไม่ผิดสัมมาวาจา 4 นี้เป็นคำสอนของใคร ?
ถ้าดื่มจะต้องไม่ผิดสัมมาวาจา 4
ที่มา
https://www.youtube.com/watch?v=RbkjuL6gJIk
***
คำถาม
พระพุทธเจ้าสอนไว้ในพระสูตรไหน มีบาลีพุทธพจน์ว่าอย่างไร ?
ถ้าไม่มี ก็เป็นคำปลอมของ นักบวชคึกฤทธิ์
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ภาพจาก http://ppantip.com/topic/34743139/comment22
http://ppantip.com/topic/32682301/comment29