" พรหมลิขิตมันไม่ได้เกิดขึ้นตลอดเวลา ถ้าอยากใช้คำว่าพรหมลิขิตต้องให้มันเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่คับขันด้วยความบังเอิญให้บ่อยที่สุด "
สวัสดี เราแทนชื่อตัวเองว่าเจส
เหตุการณ์ที่เราจะเล่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับเราเองค่ะ เกิดขึ้นประมาณเดือน มกราคม ปี 2558 ปีที่แล้วนั่นเอง
ถ้านับอายุตอนนั้นก็ 20 แต่ยังโสดซิงจิงกะเบลอยู่เลย อิอิ
อันที่จริงเราก็มีแฟนนะ แต่เมื่อสี่ก่อน เอิ่มมม ไม่น่าพูดเนอะ 5555
แต่เราหน้าตาก็โอนะ โอโหหห hereจริงๆ เห้ยยย บ้าหรา พอพาแม่ไปวัดไปวาได้แหล่ะน่ะ
นึกภาพตามนะ เราสวยแบบแมนๆอ่ะ ไม่ใช่สาวหวาน แต่งหน้าไม่เป็นแต่ก็ชอบแต่งหน้า ชอบคิดว่าตัวเองเป็นแพรรี่พาย
เวลาแต่งหน้าแต่งตามาเรียน คำแรกที่เพื่อนทัก "
อีกระเทย " แสสส กระเทยบ้านเมิงสิ่คะเพื่อน ความมั่นหน้าลดเหลือ 20% หึ
แต่ถึงกระน๊านนน เจสคนนี้ก็ยังมั่นหน้ามั่นโหนกต่อไป จนผ่านไปปีแล้วปีเล่า ก็มานั่งคิด
" เอ๊ะ นี่ก็โสดมาสองปีละนะทำไมไม่มีแฟนให้กระชุ่มกระชวยหัวใจสักทีฟะ รึว่าเค้าไม่กล้าเข้ามาจีบเรา "
น่านนน นังนี่ พูดอะไรเกรงใจหนังหน้าตัวเองเลย 55555 ยังคงมั่นหน้าต่อไป
พอเข้าปีที่สามก็คิดได้ว่า เอาวะ ไหนๆก็โสดแล้วตูจะต้องสวยให้ผู้ชายเสียดายที่ปล่อยให้เราโสดแบบเน๊
ปณิธานแน่วแน่ก็เกิดขึ้น คือ
เราจะวิ่งงิ่งงิ่งงิ่ง (จะแอคโคเพื่อ) คือเราทั้งอยากผอมและก็อยากไปส่องหนุ่มๆที่มหาลัยฯด้วย 55555 นังนี่มันร้าย
และแล้วสัปดาห์การออกกำลังกายครั้งยิ่งใหญ่ก็เริ่มขึ้น
วันที่หนึ่ง = เดิน 100 เมตร วิ่ง 100 เมตร เอาจริงๆก็ไม่ถึงหนึ่งรอบสนามหรอก เหนื่อยซะก่อน
วันที่สอง = เอาวะวิ่งซะหน่อย สุดท้ายก็เดินมองหนุ่ม นั่งมองหนุ่มอยู่อย่างนี้ไม่ได้วิ่งแม้แต่น้อย
และก็ล้มเหลวไม่เป็นท่าเหมือนเดิม เอาหน่าอาจจะยังไม่ชิน
วันที่สาม = วันนี้มีการแข่งกีฬาที่ ม. เราเลยทักแชทเพื่อนเก่าเราไป ว่าเราจะไปวิ่งได้มั้ย
ครึ่ง ชม. ผ่านไปนางก็ไม่ตอบ หึ ไม่หล่อแล้วหยิ่งด้วยหรอ ไม่ได้ดั่งใจละชอบพาล ไม่ไหวๆ 5555
เราเลยทักเพื่อนเก่าอิกนางนึงไป นางเรียนครูพละและนางก็ชอบวิ่งด้วย เราแทนชื่อนางว่า "เทา"
ทักไปไม่ถึงสิบนาทีนางก็ตอบกลับมา
เจส : แกๆ วันนี้ที่ ม. เค้ามีแข่งกีฬาใช่ป่ะ เราไปวิ่งได้มั้ย
เทา : ได้ดิ่ เจสจะไปวิ่งหรอ
เจส : อื้ม กะว่าจะไปวิ่งอ่ะ อยากสวย 5555
เทา : ระวังขาใหญ่กว่าเดิมนะ
เจส : เดี๋ยวโดนเตะ
เทา : กลัวละๆ ขาใหญ่ด้วยอ่ะ 55555
เจส : กวน teen
เทา : แล้วไปวิ่งกับใครอ่ะ
เจส : เค้าไปคนเดียว ชวนเพื่อนแต่เพื่อนไม่ยอมไปกัน
เทา : อ่อ ให้เค้าไปวิ่งเป็นเพื่อนป่าว
( หืมมมมม )
เจส : ได้ดิ่ แต่เค้าวิ่งก็เหมือนไม่ได้วิ่งอ่ะ วิ่งนิดหน่อยก็เหนื่อยละ แกไปวิ่งเองจะดีกว่ารึป่าว
เทา : ไม่เป็นไรๆ เค้าวิ่งกับแกแหล่ะ วิ่งเป็นเพื่อนกัน
ว๊าย แกอ่อยชั้นป่ะวะ ^///^ นานๆทีจะมีผู้ชายมาให้จั๊กจี้หัวใจ 555555
จะอ่อยชั้นรึ ไม่ได้แอ้มชั้นร๊อก ( เดี๋ยวนะๆ นางยังไม่ได้จีบแกเลยนะยัยเจส มโนแลนด์แดนมหัศจรรย์มากข่าา )
แต่ถึงจะพูดไปอย่างนั้นเราก็ยังวิ่งคนเดียวอยู่ เพราะพ่อแม่สอนให้รักนวลสงวนตัว
โทษค่ะ มันไม่น่าเกี่ยวกัน อิอิ
ที่ไปวิ่งคนเดียวเป็นเพราะเราเกรงใจเทาต่างหาก แต่ถึงอย่างนั้นเราก็ยังคุยกันทางแชทนะ
ส่วนมากนางจะทักมา บางครั้งเราก็ทักไป
เราลืมบอกไปว่าเราเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่มัธยมละ แต่อยู่คนละห้อง
ตอนนั้นเราเป็นเด็กใหม่ที่พึ่งเข้ามาตอน ม.4 เทอม 2 แต่เราได้อยู่ห้องที่ค่อนข้างเก่ง คือห้องสอง
แต่ห้องนางอยู่ห้อง 5 จะว่าไปห้องห้านี่ท้ายสุดเลยแหล่ะ 55555
แต่เราก็สนิทกันนะ รู้จักกันผ่านทางเพื่อนๆ เรียกได้ว่าถ้าคุยกันทุกวัน ตลกโปกฮา กวนทีน อารมณ์ดี
ใครที่ได้คุยกับนางจะเรียกได้ว่าคลั่งไคล้กันเลยทีเดียว จะว่าไปเราก็เกือบจะชอบนางละเหมือนกันนะ ^^
ด้วยความที่นางเฟรนลี่ ทำให้เราทั้งคู่สนิทกัน หลังๆเราจะเรียกแทนชื่อกันว่า "ห้อย"
เพราะปากของเราเอิบอิ่มราวกับ แองเจลิน่า โจลี่
แต่เราเป็นเพื่อนกันนะ นั่งยัน นอนยัน เอาหัวเป็นประกันเลย เพราะเราไม่ชอบคนเจ้าชู้
และอีกอย่างนางก็มีแฟนแล้ว ส่วนเราก็มีคนที่ชอบอยู่แล้ว
แต่พอเราจบ ม. 6 เราทั้งคู่ก็แยกย้ายกันไป
และเราก็กลับมาเจอกันอีกทีตอนที่เราซิ่ว เเล้วเราก็ได้มาเริ่มเรียนใหม่ที่ ม. เดียวกับเทา
ทำให้เราได้เจอกันและกลับมาทำความรู้จักกันใหม่อีกครั้ง...
เรียกว่าความตั้งใจ หรือใช้คำว่าพรหมลิขิต...
สวัสดี เราแทนชื่อตัวเองว่าเจส
เหตุการณ์ที่เราจะเล่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับเราเองค่ะ เกิดขึ้นประมาณเดือน มกราคม ปี 2558 ปีที่แล้วนั่นเอง
ถ้านับอายุตอนนั้นก็ 20 แต่ยังโสดซิงจิงกะเบลอยู่เลย อิอิ
อันที่จริงเราก็มีแฟนนะ แต่เมื่อสี่ก่อน เอิ่มมม ไม่น่าพูดเนอะ 5555
แต่เราหน้าตาก็โอนะ โอโหหห hereจริงๆ เห้ยยย บ้าหรา พอพาแม่ไปวัดไปวาได้แหล่ะน่ะ
นึกภาพตามนะ เราสวยแบบแมนๆอ่ะ ไม่ใช่สาวหวาน แต่งหน้าไม่เป็นแต่ก็ชอบแต่งหน้า ชอบคิดว่าตัวเองเป็นแพรรี่พาย
เวลาแต่งหน้าแต่งตามาเรียน คำแรกที่เพื่อนทัก " อีกระเทย " แสสส กระเทยบ้านเมิงสิ่คะเพื่อน ความมั่นหน้าลดเหลือ 20% หึ
แต่ถึงกระน๊านนน เจสคนนี้ก็ยังมั่นหน้ามั่นโหนกต่อไป จนผ่านไปปีแล้วปีเล่า ก็มานั่งคิด
" เอ๊ะ นี่ก็โสดมาสองปีละนะทำไมไม่มีแฟนให้กระชุ่มกระชวยหัวใจสักทีฟะ รึว่าเค้าไม่กล้าเข้ามาจีบเรา "
น่านนน นังนี่ พูดอะไรเกรงใจหนังหน้าตัวเองเลย 55555 ยังคงมั่นหน้าต่อไป
พอเข้าปีที่สามก็คิดได้ว่า เอาวะ ไหนๆก็โสดแล้วตูจะต้องสวยให้ผู้ชายเสียดายที่ปล่อยให้เราโสดแบบเน๊
ปณิธานแน่วแน่ก็เกิดขึ้น คือ เราจะวิ่งงิ่งงิ่งงิ่ง (จะแอคโคเพื่อ) คือเราทั้งอยากผอมและก็อยากไปส่องหนุ่มๆที่มหาลัยฯด้วย 55555 นังนี่มันร้าย
และแล้วสัปดาห์การออกกำลังกายครั้งยิ่งใหญ่ก็เริ่มขึ้น
วันที่หนึ่ง = เดิน 100 เมตร วิ่ง 100 เมตร เอาจริงๆก็ไม่ถึงหนึ่งรอบสนามหรอก เหนื่อยซะก่อน
วันที่สอง = เอาวะวิ่งซะหน่อย สุดท้ายก็เดินมองหนุ่ม นั่งมองหนุ่มอยู่อย่างนี้ไม่ได้วิ่งแม้แต่น้อย และก็ล้มเหลวไม่เป็นท่าเหมือนเดิม เอาหน่าอาจจะยังไม่ชิน
วันที่สาม = วันนี้มีการแข่งกีฬาที่ ม. เราเลยทักแชทเพื่อนเก่าเราไป ว่าเราจะไปวิ่งได้มั้ย
ครึ่ง ชม. ผ่านไปนางก็ไม่ตอบ หึ ไม่หล่อแล้วหยิ่งด้วยหรอ ไม่ได้ดั่งใจละชอบพาล ไม่ไหวๆ 5555
เราเลยทักเพื่อนเก่าอิกนางนึงไป นางเรียนครูพละและนางก็ชอบวิ่งด้วย เราแทนชื่อนางว่า "เทา"
ทักไปไม่ถึงสิบนาทีนางก็ตอบกลับมา
เจส : แกๆ วันนี้ที่ ม. เค้ามีแข่งกีฬาใช่ป่ะ เราไปวิ่งได้มั้ย
เทา : ได้ดิ่ เจสจะไปวิ่งหรอ
เจส : อื้ม กะว่าจะไปวิ่งอ่ะ อยากสวย 5555
เทา : ระวังขาใหญ่กว่าเดิมนะ
เจส : เดี๋ยวโดนเตะ
เทา : กลัวละๆ ขาใหญ่ด้วยอ่ะ 55555
เจส : กวน teen
เทา : แล้วไปวิ่งกับใครอ่ะ
เจส : เค้าไปคนเดียว ชวนเพื่อนแต่เพื่อนไม่ยอมไปกัน
เทา : อ่อ ให้เค้าไปวิ่งเป็นเพื่อนป่าว
( หืมมมมม )
เจส : ได้ดิ่ แต่เค้าวิ่งก็เหมือนไม่ได้วิ่งอ่ะ วิ่งนิดหน่อยก็เหนื่อยละ แกไปวิ่งเองจะดีกว่ารึป่าว
เทา : ไม่เป็นไรๆ เค้าวิ่งกับแกแหล่ะ วิ่งเป็นเพื่อนกัน
ว๊าย แกอ่อยชั้นป่ะวะ ^///^ นานๆทีจะมีผู้ชายมาให้จั๊กจี้หัวใจ 555555
จะอ่อยชั้นรึ ไม่ได้แอ้มชั้นร๊อก ( เดี๋ยวนะๆ นางยังไม่ได้จีบแกเลยนะยัยเจส มโนแลนด์แดนมหัศจรรย์มากข่าา )
แต่ถึงจะพูดไปอย่างนั้นเราก็ยังวิ่งคนเดียวอยู่ เพราะพ่อแม่สอนให้รักนวลสงวนตัว
โทษค่ะ มันไม่น่าเกี่ยวกัน อิอิ
ที่ไปวิ่งคนเดียวเป็นเพราะเราเกรงใจเทาต่างหาก แต่ถึงอย่างนั้นเราก็ยังคุยกันทางแชทนะ
ส่วนมากนางจะทักมา บางครั้งเราก็ทักไป
เราลืมบอกไปว่าเราเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่มัธยมละ แต่อยู่คนละห้อง
ตอนนั้นเราเป็นเด็กใหม่ที่พึ่งเข้ามาตอน ม.4 เทอม 2 แต่เราได้อยู่ห้องที่ค่อนข้างเก่ง คือห้องสอง
แต่ห้องนางอยู่ห้อง 5 จะว่าไปห้องห้านี่ท้ายสุดเลยแหล่ะ 55555
แต่เราก็สนิทกันนะ รู้จักกันผ่านทางเพื่อนๆ เรียกได้ว่าถ้าคุยกันทุกวัน ตลกโปกฮา กวนทีน อารมณ์ดี
ใครที่ได้คุยกับนางจะเรียกได้ว่าคลั่งไคล้กันเลยทีเดียว จะว่าไปเราก็เกือบจะชอบนางละเหมือนกันนะ ^^
ด้วยความที่นางเฟรนลี่ ทำให้เราทั้งคู่สนิทกัน หลังๆเราจะเรียกแทนชื่อกันว่า "ห้อย"
เพราะปากของเราเอิบอิ่มราวกับ แองเจลิน่า โจลี่
แต่เราเป็นเพื่อนกันนะ นั่งยัน นอนยัน เอาหัวเป็นประกันเลย เพราะเราไม่ชอบคนเจ้าชู้
และอีกอย่างนางก็มีแฟนแล้ว ส่วนเราก็มีคนที่ชอบอยู่แล้ว
แต่พอเราจบ ม. 6 เราทั้งคู่ก็แยกย้ายกันไป
และเราก็กลับมาเจอกันอีกทีตอนที่เราซิ่ว เเล้วเราก็ได้มาเริ่มเรียนใหม่ที่ ม. เดียวกับเทา
ทำให้เราได้เจอกันและกลับมาทำความรู้จักกันใหม่อีกครั้ง...