"ศรัทธา ความเชื่อ"
" ..
พระพุทธองค์สอนให้มีความเชื่อ "ก็ให้เชื่อพระธรรมคำสอนของท่าน
เชื่อความจริง เชื่อเหตุ เชื่อผล ต้องพิจารณาไตร่ตรองให้ดี
อย่าไปเชื่อมงคลตื่นข่าวเชื่อลม ๆ แล้ง ๆ ไม่มีเหตุผลเพียงพอ
เชื่อตามคำ ทำตามเขาไปตามเขา" ก็เลยกลายเป็นเหมือนควาย
ที่ถูกเขาจูงจมูกถ้าเขาร้อยจมูกได้แล้ว เสร็จเลย
แล้วแต่เขาจะจูงไปทางไหน
"จูงไปกินเหล้า จูงไปเล่นการพนัน
จูงไปเที่ยวกลางคืนและจูงไปทำชั่วทำผิดอีกหลายอย่างแล้วผลของการกระทำก็ตามมา
ได้รับความทุกข์ความเดือนร้อน" ไม่เฉพาะแต่ตัวผู้ทำเท่านั้น
แม้แต่พ่อแม่และญาติพี่น้อง ก็ต้องพลอยเดือดร้อนวุ่นวายไปด้วย
เสียเงินเสียทรัพย์สิน เสียเกียรติและศักดิ์ศรี
เป็นอันกล่าวได้ว่า "เราทำผิดทำชั่วคนเดียวเพราะถูกจูงจมูก
แต่ผลลัพธ์ออกมา ขยายเป็นวงกว้างออกไป ถึงวงศาคณาญาติอีกด้วย" .. "
หลวงปู่ชา สุภัทโท
ศรัทธา ความเชื่อ (หลวงปู่ชา สุภัทโท)
"ศรัทธา ความเชื่อ"
" .. พระพุทธองค์สอนให้มีความเชื่อ "ก็ให้เชื่อพระธรรมคำสอนของท่าน
เชื่อความจริง เชื่อเหตุ เชื่อผล ต้องพิจารณาไตร่ตรองให้ดี
อย่าไปเชื่อมงคลตื่นข่าวเชื่อลม ๆ แล้ง ๆ ไม่มีเหตุผลเพียงพอ
เชื่อตามคำ ทำตามเขาไปตามเขา" ก็เลยกลายเป็นเหมือนควาย
ที่ถูกเขาจูงจมูกถ้าเขาร้อยจมูกได้แล้ว เสร็จเลย
แล้วแต่เขาจะจูงไปทางไหน "จูงไปกินเหล้า จูงไปเล่นการพนัน
จูงไปเที่ยวกลางคืนและจูงไปทำชั่วทำผิดอีกหลายอย่างแล้วผลของการกระทำก็ตามมา
ได้รับความทุกข์ความเดือนร้อน" ไม่เฉพาะแต่ตัวผู้ทำเท่านั้น
แม้แต่พ่อแม่และญาติพี่น้อง ก็ต้องพลอยเดือดร้อนวุ่นวายไปด้วย
เสียเงินเสียทรัพย์สิน เสียเกียรติและศักดิ์ศรี
เป็นอันกล่าวได้ว่า "เราทำผิดทำชั่วคนเดียวเพราะถูกจูงจมูก
แต่ผลลัพธ์ออกมา ขยายเป็นวงกว้างออกไป ถึงวงศาคณาญาติอีกด้วย" .. "
หลวงปู่ชา สุภัทโท