หลาย ๆ คน อาจจะได้ยินเรื่องของเงินเก็บฉุกเฉินสำหรับการตกงานที่ควรเผื่อไว้ซัก 6 เดือน
ผมคิดว่าเราควรจะมีเงินเก็บก้อนที่ใหญ่กว่านั้นอีกก้อนเป็นเงินเก็บในการเปลี่ยนสายงาน

ในการทำงานต่าง ๆ ประสบการณ์ ทักษะความเชี่ยวชาญเป็นสิ่งสำคัญ แต่ทักษะเหล่านั้นอาจจะสูญเสียมูลค่าได้ตามเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไป
เช่น คนที่มีประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญในการขับรถแท๊กซี่ ขับรถโดยสาร ขับรถบรรทุก จะมีคุณค่ามากในงานด้านการขนส่ง
แต่ในอนาคตเราจะมีเทคโนโลยีรถยนต์ที่ขับขี่ได้อัติโนมัติ ทำให้ทักษะการขับรถมี Demand ที่ลดลง

ถึงตอนนั้นเราควรมีเงินเก็บสักก้อน เพื่อที่จะมีเวลาไปฝึกสกิลใหม่ ๆ ไปเรียนในมหาวิทยาลัยใหม่
หรือเริ่มต้นในสายงานใหม่ ที่อาจจะรับรายได้น้อยลงในช่วงแรก ๆ โดยที่ยังสามารถใช้ชีวิตได้โดยที่คุณภาพชีวิตไม่ลดลงมาก

ในทางกลับกัน การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี หรือการทำธุรกิจ ทำให้เกิด Demand ใหม่ ๆ ที่ทำให้ Supply ในปัจจุบันไม่เพียงพอกับความต้องการ
ถ้าคุณมีเงินเก็บมากพอที่สามารถไปเริ่มต้นในสายงานใหม่ที่กำลังร้อนแรงได้ อาจจะช่วยทำให้รายได้รวมของคุณในระยะยาว รวม ๆ แล้วมากกว่าการที่คุณยังทำงานอยู่ในสายงานเดิมไปเรื่อย ๆ

อันนี้เราพูดในแง่ของผลตอบแทน Demand, Supply อย่างเดียวนะ แต่ว่าทั้งนี้ทั้งนั้นการเลือกงานแต่ละอย่าง อาจจะต้องดูที่ความชอบ ความถนัด พื้นฐานของแต่ละคนด้วยอะไรงี้ ถ้าเป็นคนที่ทำงานที่ความชอบมากกว่าเงิน อาจจะมองเป็นว่าเก็บเงินไว้ เผื่อวันนึงไม่ชอบงานปัจจุบันขึ้นมา สามารถออกเพื่อไปหางานอื่นที่ชอบได้โดยไม่ต้องทนต่ออะไรแบบนี้