อันดับแรกถ้าจะใช้งานมันต้องไปกรอกเอกสารที่ สนง. ใกล้บ้านคุณก่อนนะ รายละเอียดของขั้นตอนต่างๆจะเป็นประมาณนี้ครับ เขียนคำร้องเสร็จแล้วจะมีช่างไปวัดสัญญาณที่บ้านให้คุณก่อนว่าผ่านหรือไม่ผ่าน จะผ่านได้สัญญาณที่รับจะต้อง <= 75 dBm. ลงไป ค่าติดตั้งแถวบ้านผมจ่ายไปอยู่ที่ 1605 บาท ครับฟรีทุกอย่างไม่เก็บ 3-5000 แบบพื้นที่อื่นที่ผมเห็นนะ ถ้าเก็บเกินร้องเรียนด้วยนะครับ + เราเตอร์อีก 1590 บาทอันนี้จะเอาก็ได้ไม่เอาก็ได้นะ

---

- ก่อนอื่นคุณเห็นหน้าตาของเบส WiNet ที่คุณจะไปใช้งานแล้วหรือยังครับ? หน้าตาของเบส WiNet ผมขอยึดจากบ้านผมนะ เบสที่อื่นอุปกรณ์จะไม่เหมือนผมละไม่มีรุ่นอื่นผสมแต่ตัว Sector ยังเป็นตัวเดียวกันอยู่ เพราะทั้งเบสและตัวอุปกรณ์ที่บ้านลูกค้าผมจะใช้รุ่น Ubi ทั้งหมด :


** หมายเหตุ : Sector ที่ติดอยู่บนยอดเสาเบส จะให้บริการได้สูงสุดแค่ 15 รายเท่านั้น (กรณีทุกบ้านขอที่ 10 Mbps) เพราะ 1 Sector มี BW. มาให้แค่ 150 Mbps ครับ

---

- สื่อสัญญาณที่ใช้ คือ สาย Fiber ครับช่างลากมาให้ที่เบส เป็นสาย Fiber แบบ Active โรงงานออกค่าอุปกรณ์ไปทั้งหมด 200,000 กว่าบาท

---

- อุปกรณ์ที่บ้านลูกค้า เรียกว่า CPE. ตัวที่ผมใช้จะเป็นรุ่น Ubi. NanoStation Loco M5 ครับ โดยระยะทางจากบ้านผมไปยังเบส WiNet อยู่ที่ 1.2 กิโลครับ โดยอ้างอิงจากหน้า Main ของ CPE. เสาท่อแปปที่ใช้ตั้ง CPE ช่างมีให้นะครับ แต่เป็นท่อนสั้นๆ ถ้าจะเอาสูงแบบบ้านผม ต้องบริการด้วยตนเองคือไปซื้อมาเตรียมรอเลยครับ ในกรณีที่รู้ว่าบ้านตัวเองมีสิ่งกีดข้าง เช่น ต้นไม้ เป็นต้น ของผมมีสิ่งกีดขวางคือสวนยางครับ คั่นกลางเลย
หน้าตาของ CPE ทั้งที่บ้านผมและที่บ้านป้า :











** หมายเหตุ : ทาง TOT จำกัดการให้บริการ WiNet ไว้ที่สูงสุด 5 กิโลนะครับ แต่เอาจริงๆมันเกิน 5 กิโลได้สบายๆ แต่เขาป้องกันการให้บริการครับ ถ้าเสียทีช่างวิ่งไปไกลคงไม่ใช่เรื่อง เลยให้แค่นั้นละ

---

- อุปกรณ์ในบ้านเราจะมี POE ที่คอยจ่ายไฟ + เน็ตที่รับมาจากเบสปล่อยออกมาทางสาย Lan ครับ จากนั้นเอาสาย Lan นั้นไปเสียบเข้ากับเราเตอร์ก็เป็นอันใช้งานได้

---

- หน้า Main CPE :

** หมายเหตุ : หน้า Main สีฟ้าเป็นของบ้านป้าครับ FW. จะเป็น v5.5.0 ระดับสัญญาณอยู่ที่ -69 , -70 dBm. ที่ความถี่ 5785 MHz. Channel ที่ 157 ครับ

** หมายเหตุ : หน้า Main สีเหลืองเป็นของบ้านผมครับ เพราะติดช้าไป 1 ปี FW. จะเป็น v5.5.6 ระดับสัญญาณอยู่ที่ -62 , -63 dBm. ที่ความถี่ 5785 MHz. Channel ที่ 157 เหมือนกันครับ

** หมายเหตุ : เบสที่สแกนเจอครับ (หายไป 2 อัน เพราะไม่ได้หันมาในทิศทางที่บ้านครับ ระดับสัญญาณเลยอ่อน CPE เลยจับไม่ได้ เลยผุบๆโผล่ๆ นานๆจะออกมาให้เห็นสักที)

---

- การ Test Speed :

** หมายเหตุ : ครั้งที่ 1 เทสที่บ้านป้าผม

** หมายเหตุ : ครั้งที่ 2 เทสที่บ้านผมเอง

---

- เรื่องการให้บริการ เมื่อเน็ตล่ม, ไฟดับ,  CPE เสีย :
พื้นที่ผมโทรตามไป รอสักพักช่างก็มาแล้วครับ พื้นที่อื่นผมไม่ทราบนะว่าเป็นยังไง ส่วนมากที่บ้านลูกค้า CPE จะไม่ค่อยเป็นอะไรครับ ใช้งานได้ปกติตั้งแต่ติดมาเลยเจอหน้าช่างแค่ 2-3 รอบเอง ตามมายกเสาให้แค่นั้นครับ นอกนั้นก็อยู่ที่เบสละ แถวบ้านผมไฟไม่ค่อยนิ่ง ดับแล้วเบสจะไปเลย ถ้าดับนานๆไฟมาเบสอาจจะไม่มีก็ได้ครับ หลับยาวเลย ต้องตามช่างมาสับเบรกเกอร์ที่เบสขึ้นให้มันทำงานครับ ถึงจะกลับมาใช้งานได้ตามปกติ

---

แลดูจะดีไปซะทุกอย่างนะครับ แต่ไร้สายมันก็คือไร้สาย สู้สายไม่ได้ครับ ยิ่งเป็นอุปกรณ์รุ่นๆที่ช่างเอามาติดที่บ้านลูกค้าแล้วละก็ พากันล่มจมทุกเบสครับ นั้นก็คือรุ่น Mikrotik ดูยังไงว่ามี Mikrotik เข้ามาแล้ว สำหรับผมที่ใช้ Ubi ดุง่ายๆคือค่า airMAX จะหายไปครับ ค่าๆนั้นหายเมื่อไหร่ หายนะจะมาเยือนทันที นี่ละครับสิ่งที่คุณจะเจอแน่ๆไม่ต้องห่วง เพราะคุณจะได้ใช้ Mikrotik แน่ๆ
- หน้าตาของ Mikrotik และหน้า Main CPE ของมันเป็นแบบนี้ครับ :

---

สุดท้ายนี้ผมอยากจะฝากคุณไว้ว่า ปัจจุบันนี้ WiNet มันใช้งานไม่โอเคแล้วครับ (กรณีที่เป็นเบสลูกผสมคือ Ubi + Mikrotik) เอามาใช้งานผมมั่นใจเลยว่า 3 วันดี 4 วันไข้แน่ๆ ช่วงแรกๆที่ติดอาจจะดี พอใช้ไปเรื่อยๆมันจะออกลายให้คุณเห็นเองครับ ถ้ามีสายผมวอนให้คุณไปใช้สายเถอะครับ แพงแต่ก็กัดฟันทนหน่อย เพราะมันเสถียรกว่าเห็นๆแถมเป็น Fiber ด้วย ถึงแม้เบส WiNet จะลาก Fiber เข้ามาเหมือนกันแต่มันก็ให้อารมณ์ไม่เหมือนสายจริงๆเหรอครับ เป็นที่อุปกรณ์ CPE ที่บ้านลูกค้าละครับ ยิ่งบ้านไหนสัญญาณแน่ๆแล้วมาเกาะเบสเดียวกับคุณด้วยแล้ว อย่าหวังเลยว่าคุณจะใช้งานอย่างมีความสุข เพราะมันจะฉุดคุณเน่าไปเลยครับ

---

ตกหล่นเรื่องไหนบอกนะครับ เดี๋ยวผมอธิบายให้ฟัง