อุทาหรณ์ สำหรับการซื้อคอนโดไม่มีห้องตัวอย่าง และประสบการณ์การซื้อคอนโดในเครือ "เมเจอร์"

สวัสดีค่ะ เราเป็นผู้หญิงอายุ 30 ต้น ในกระทู้ขออนุญาตเรียกแทนตัวเองว่า “เรา” นะคะอมยิ้ม17

          เราได้ติดตามกระทู้ต่างๆในพันทิพย์มาเป็นเวลาหลายปีแล้ว ถึงแม้หลังๆมีกระทู้ที่ไม่สร้างสรรค์เพิ่มขึ้น แต่โดยส่วนใหญ่เราก็ยังได้ประโยชน์จากหลายๆกระทู้ เช่น เมื่อเร็วๆนี้มีกระทู้รีวิวประกันชีวิตแบบเหมาจ่าย หรือกระทู้ธนาคารสอดใส้แบงค์ 500 ในบึกแบงค์แสน ท้ายที่สุดเรายังรู้สึกว่า ที่แห่งนี้เป็นที่ๆเราได้รับความรู้ที่มีประโยชน์กับชีวิตประจำวัน แบบที่หาเรียนที่ไหนไม่ได้ ก็ต้องขอบคุณสมาชิกที่เสียสละเขียนกระทู้ดีให้อ่านค่ะ

          กระทู้นี้เป็นกระทู้แรก(อีกแล้วค่ะ^^) เราพยายามแบ่งพาร์ทให้เห็นชัดเจน และลำดับเวลาให้เข้าใจง่ายนะคะ แต่ถ้าผิดพลาดประการใดขออภัยด้วย และที่สำคัญ เรายินดีรับพังความเห็น ทั้งเห็นด้วยและเห็นต่าง และหวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์กับสมาชิกคนอื่นเช่นกyo

จุดประสงค์
⁃    บอกเล่าปัญหา ข้อเสียเปรียบต่างๆ เพื่อเตือนใจ (สำหรับผู้ที่จะซื้อคอนโด"เพื่ออยู่อาศัยเอง" ย้ำนะคะ!!  สำหรับคนทำมาหากิน ไม่ใช่นักเก็งกำไร) เพื่อป้องกันการเสียรู้ค่ะ เพราะทริคของดีเวลลอปเปอร์บางส่วน เราเพิ่งทราบด้วยการขวนขวายถึงทราบ และแน่นอนว่าน่าจะเจออีกภายหลัง ซึ่งจะมาอัพเดตค่ะ
⁃    ขอรับคำปรึกษา/ชี้แนะ ว่าเราสามารถดำเนินการอะไรเพิ่มเติมได้บ้าง
⁃    เล่าประสบการณ์และปัญหาที่มีกับบริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ เอสเตด ตั้งแต่เริ่มทำสัญญา จนถึงปัจจุบัน

คำเตือน : กระทู้นี้ไม่เหมาะสำหรับกลุ่มคนเหล่านี้
⁃    นักเก็งกำไร เนื่องคุณไม่ใด้ซื้ออยู่ คุณคงไม่เสียเวลาใส่ใจรายละเอียด มีคนแนะนำมาว่านักเก็งกำไรบางคนก็ใส่ใจค่า ขอโทษนะคะ
⁃    คนที่รวยมาก ระดับที่เห็นเงินหลักหมื่นหลักแสนเป็นเรื่องจิ๊บๆ คือถือว่าซื้อคอนโดแค่ซื้อ space แล้วโครงการให้อะไรมาก็รื้อ ลอก ทำใหม่หมด


+++  เราขอเล่าละเอียดและยาววววนะคะ เพราะระหว่างทางมันมีเรื่องของอารมณ์และความรู้สึกอยู่ในนั้นเต็มไปหมด ผู้ใดสนใจแต่ขี้เกียจอ่านยาว อ่านพาร์ทที่สามที่เป็นพาร์ทสุดท้ายได้เลยค่ะ เป็นส่วนสรุปค่ะ อมยิ้ม07 +++

...ย้อนไปสองปีก่อน ต้นปี 2557...
          เรากับแฟนวางแผนจะแต่งงานกัน เลยเริ่มมองหาบ้าน พวกเราเป็นคนกรุงเทพบ้านอยู่คนละมุมเมืองกันค่ะและทำงานกลางเมือง เราเริ่มออกตามหาบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม ... สุดท้ายเราค้นพบว่าในราคาพอที่แบ้งค์จะอนุมัติให้กู้ (ไม่เกิน 10 ล้าน) เราจะได้บ้านในทำเลที่ต้องขับรถ เช้า 2 ชั่วโมง เย็น 2 ชั่วโมง ไปทำงานทุกวัน เมื่อตระเวนดูหลายๆที่เราได้ข้อสรุปว่า เราคงต้องตัดใจเพราะเราอยากมีเวลามากกว่าที่จะเอาไปเสียบนถนนทุกวัน เราจึงเริ่มมองคอนโดกลางเมือง สองห้องนอน ใกล้รถไฟฟ้า (เราขับรถ แฟนใช้รถไฟฟ้าไปทำงาน และอีกห้องนอนไว้ เผื่อมีลูกในอนาคตค่ะ)

          เมื่อดูรีวิว และตระเวนดูโครงการต่างๆจนข้อมูลท่วมหัว สุดท้ายเราพบความจริงอีกว่า คอนโดที่ทำเลดี ดีเวลลอปเปอร์น่าเชื่อถือ ใบจองจะอยู่ในมือนักเก็งกำไรหมดเลยค่ะ น่าน้อยใจนะคะ ที่คนไม่ได้เป็นเศรษฐี ไม่มีเวลาเหลือให้คิดหน้าคิดหลังไตร่ตรองว่าที่นี่ดีไม่ดี บางแห่ง ถูกจองใต้โต๊ะ กระทั้งเหลือถึงวันพรีเซลล์แค่ 20-30%

          สุดท้ายเราตัดสินใจซื้อใบจอง โครงการ Maestro 12 ราชเทวี เป็นคอนโด low rise 8 ชั้น ของบริษัทเมเจอร์ค่ะ ซื้อต่อจากนักเก็งกำไรคนนึง ในที่นี้ขอเรียกว่าน้องO (โอ) นะคะ น้องOจองซื้อห้องนี้ตั้งแต่เปิดโครงการ ราคา 7.8M เราเห็นน้องO ประกาศขายในเนต เราเลยไปติดต่อขอซื้อต่อจากน้องO โดยเราทำสัญญากับบริษัทเมเจอร์เป็นผู้จะซื้อร่วมกันน้องOอีกที (สาเหตุเพราะ น้องOจ่ายจอง และผ่อนกับโครงการมาประมาณ 1 ปีแล้ว เป็นเงินประมาณ 8 แสน แต่เรายังไม่มีเงินจ่ายน้องO เต็มจำนวน เนื่องจากเราต้องเอาเงินเก็บไปเรียนต่อ ตปท.ช่วงสั้นๆ และกลับมาแต่งงาน และต้องผ่อนดาวน์ต่อยอดอีกประมาณ 4 แสน เลยทำสัญญานอก จ่ายบางส่วนให้น้องO ไป แล้วที่เหลือค่อยเอาเงินที่ได้จากการกู้แบงค์มาคืน) ...ฟังดูน้องO ดูใจกว้างมากนะคะ เราโชคดีเจอเจ้าหนี้น่ารัก อีกปัจจัยหนึ่งที่เรามั่นใจว่ากู้ได้คือเราเป็นหมอค่ะ แบงค์ชอบคิดว่าหมอจะไม่เบี้ยวหนี้ค่ะ (แต่เราเป็นหมอประเภทจนค่ะ กู้ 100%ซะเลย) ป.ล.เราทำสัญญาจะซื้อต่อจากน้องOในราคา 8.5M ค่ะ ราคาสุดท้ายของโครงการก่อนโอนขายอยู่ที่ 8.2M ที่แพงขึ้นกว่าราคาแรกเพราะสร้างไปสร้างมาพื้นที่งอก

          กลับมาเรื่องโครงการกันค่ะ โครงการ Maestro Residences เปิดตัวครั้งแรกเกือบ 3 ปีที่แล้วมี 3 โครงการ ที่สุขุมวิท 39 ราชเทวี และ ร่วมฤดีค่ะ โดยเมเจอร์เปิดเซลล์แกลลอรี่ที่เดียว ที่สุขุมวิท 39 ที่นั่นมีโมเดลตัวตึกให้ดูค่ะ **ไม่มีห้องตัวอย่าง** และมีแผ่นรวมสเปกของขนาดประมาณเท่าโต๊ะเรียนสมัยเด็กๆ คือ พื้นแบบนี้ เฟอร์บุอันนี้ ท๊อปครัวแบบนี้ กระเบื้องแบบนี้ โดยที่สามโครงการ สเปกของไม่เหมือนกันค่ะ


โดยเวลานั้นไม่ได้ถ่ายของ ราชเทวีมานะคะ แค่จำได้ว่าห่วยสุด แต่เข้าใจว่าเป็นเพราะค่าทำเลแพงสุด สเปกของเลยต้องลดลงมา จำใจยอมรับค่ะ

           สรุป เราทำสัญญาจะซื้อจะขาย มีน้องO เป็นผู้จะซื้อ เราเป็นผู้จะซื้อร่วม เราได้สำเนาสัญญาจะซื้อจะขายฉบับแรกมา และมีบันทึกแนบท้ายสัญญาเรื่องเข้าเป็นผู้จะซื้อร่วม แล้วรายละเอียดเกี่ยวกับห้องที่เรารู้มีแค่

1.Unit Layout ในสัญญา ตามรูปนี้ค่ะ
2.รูป Room Interior 3 ใบจากเวปของ Maestro12 ค่ะ
3.กระดานสเปควัสดุ ที่ไปดูที่เซลล์แกกลอรี่ค่ะ



           แล้วเราก็เริ่มผ่อนดาวน์ต่อตั้งแต่กลางปี 2557 ค่ะ ตลอดเวลาปีกว่าๆ เราก็เทียวขับรถไปดูตั้งแต่ตึกยังขึ้นได้แค่ครึ่งเดียว ใจเราก็ห่วงๆว่าจะได้บ้านแบบไหน เพราะอย่างที่บอกคือรู้ข้อมูลน้อยมาก จุดที่เราเป็นห่วงเป็นพิเศษก็คืองานระบบ ปลั๊กพอมั้ย อยู่บริเวณไหน แอร์ติดตรงไหน ก๊อกน้ำพอมั้ย เรื่องนี้ไม่มีข้อมูลใน unit layout ค่ะ แล้วเราเองก็นั่งมอง layout และคิดถึงการตกแต่งส่วนต่างๆไว้บ้างแล้ว

          เราโทรติดต่อลูกค้าสัมพันธ์ของเมเจอร์ครั้งแรก ต้นปี 58 ตอนนั้นตึกขึ้นใกล้ครบชั้นแล้ว ถามเรื่องอยากขอย้ายตำแหน่งตู้บิ้วอินทีโครงการให้มา และถามตำแหน่งปลั๊ก และเรื่องเพิ่มปลั๊ก เราได้คำตอบว่า "เรื่องตู้บิ้วอินย้ายไม่ได้ต้องทำตามแบบ คุณลูกค้าต้องเข้าใจนะคะ ว่าถ้าทุกห้องขอย้าย งานจะเดินได้ยากมาก แต่ในส่วนงานระบบ ต้องรอให้ตึกขึ้นเสร็จก่อนนะคะ ตอนนี้ยังไม่สามารถให้ข้อมูลได้" ...เราก็พยายามทำความเข้าใจค่ะ (ถึงคำตอบที่ได้จะไม่ค่อยถูกใจเรา แต่เรากับพนักงานก็พูดกันดีๆนะคะ เราเข้าใจว่าเค้ามีหน้าที่พิทักษ์ผลประโยชน์ของบริษัท)

(มีเพิ่มเติมนิดนึงค่ะ ประมาณตอนกลางปี อยู่ๆ ขนาดห้องที่เราซื้อ ในเวปไซด์ของเมเจอร์ ก็เปลี่ยนไป จาก 60.5 เป็น 67.5 m2 layout ห้องก็เปลี่ยนไปนิดนึงตามรูปค่ะ ตอนนั้นบริษัทไม่แจ้ง เคยโทรเข้าไปถาม ได้คำตอบว่าสร้างตามสัญญาที่ลูกค้าถือค่ะ สรุปคือยังไง งง? เราเลยพยายามจะวิ่งหลบยาม ขึ้นไปดูห้องเองหลายครั้ง แต่ไม่มีช่อง เพราะคนงานเยอะ ตอนนั้นกังวลเรื่องค่าห้องที่จะแพงขึ้นอีกค่ะ)  จากนั้นเราก็รอจนตึกขึ้นครบชั้น เราติดต่อลูกค้าสัมพันธ์เมเจอร์อีกครั้งประมาณเดือนตุลาค่ะ เราถามคำถามเดิม เรื่องจะขอย้ายตำแหน่งตู้บิ้วอิน และอยากทราบเรื่องตำแหน่งปลั๊กและการเพิ่มปลั๊ก ครั้งนั้นเจ้าหน้าที่บอกจะติดต่อกลับ แล้วก็หายไปเลย (ประกอบกับตอนนั้นเราวุ่นเรื่องเตรียมงานแต่งทุกวัน เราเลยลืมตามเรื่องค่ะ)


          ต้นเดือนธันวา ได้ข่าวว่าห้องชั้นล่างเริ่มให้เข้าตรวจแล้ว และตอนนั้น น้องO ก็ได้ติดต่อคนรู้จักที่ทำงานแบ้งค์กรุงศรีให้เพื่อยื่นเอกสารกู้ค่ะ เจ้าหน้าที่แบ้งค์ทานนั้นก็ช่วยเดินเรื่องติดต่อคอนโด เพื่อขอใบประมาณค่าใช้จ่ายวันโอนจากโครงการ เพื่อเสนอแบ้งค์อนุมัติกู้ แล้วเราก็ได้สำเนานี้มาโครงการโดยความช่วยเหลือจากกรุงศรีค่ะ สังเกตดูนะคะ มีช่องค่าเปลี่ยนแปลงแบบด้วย!!

          
          คราวนี้เราโทรเข้าไปที่โครงการค่ะ (ไม่ได้โทรเข้าบริษัทนะคะ) เพื่อสอบถามว่าห้องเสร็จรึยัง มีกำหนดตรวจรับเมื่อไหร่ สายของเราถูกโอนให้ฝ่ายรับโอนที่ชื่อคุณโน้ต เราสอบถามคุณโน้ตเพิ่มเรื่องเดิมไป ได้ความว่าเรื่องตู้ย้ายไม่ได้แล้วค่ะ เพราะติดตั้งไปแล้ว ส่วนปลั๊ก รบกวนเข้ามาดูของจริงวันตรวจห้องก่อนนะคะ แล้วเราก็ได้นัดวันตรวจห้องเป็นวันที่ 9 มกราคม เราขอตรวจช่วงเช้า คุณโน้ตจึงนัดเราตอน 9 โมง

          ตอนนั้นเราคิดว่า เราจะรอดูห้องก่อนก็ได้ แล้วถ้าต้องเพิ่มปลั๊กอะไร ก็คงมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม เราโอเค (ประมาณ 6-7 ปีที่แล้ว เราเคยซื้อห้องเล็กๆของเครือลุมพินี เครือนี้มีห้องตัวอย่าง มีหนังสือแจ้งก่อนว่าลูกค้าตั้องการเพิ่มปลั๊กหรือไม่ค่ะ ดีมากๆ เราก็เพิ่มไป มีค่าใช้จ่ายเพิ่มแบบสมเหตุสมผล) ก่อนวันนัด เราโทรหาคุณโน้ตเพื่อจะคอนเฟริ์มอีกที..ติดต่อไม่ได้ค่ะ เราโทรเข้าโครงการ สายถูกโอนให้แผนกรับโอนอีกคนชื่อคุณกิ๊บ คุณกิ๊บบอกว่าจะเป็นตัวเองที่มาเจอวันตรวจห้อง

                                                                          และแล้ว... วันที่เรารอคอยก็มาถึง

          เรามาถึงคอนโดวันนัดตรวจห้อง ก่อนนัดประมาณ 20 นาที ทีมตรวจห้องเรามี เรา สามี น้องสาวเรา สามีน้อง และวิศวกรของบริษัทรับตรวจบ้านและคอนโดชื่อ QCM อีกสองคน รวมทั้งหมด 6 ชีวิต นั่งรอคุณกิ๊บกันอยู่ 8:50 ไม่มีการเคลื่อนไหว   9:00 เราโทรหาคุณกิ๊บ โดนตัดสายทิ้งไปสองรอบ โทรหาคุณโน้ต ไม่มีสัญญาณ   9:10 มีเจ้าหน้าที่ใส่เสื้อของเมเจอร์เดินมา(น่าจะเป็นฝ่ายขายค่ะ) เราแจ้งเค้าว่านัดแผนกรับโอนไว้ 9โมง เค้าบอกจะติดต่อให้ ...บรรยากาศตอนนั้นก็มาคุอย่างที่คิดค่ะ เราอารมณ์เสีย น้องเราก็เริ่มแปะปากมองบน   เวลาผ่านไป 9:30 มีเจ้าหน้าที่เข้ามาคนนึงค่ะ แสดงตัวว่าเป็นฝ่ายรับโอน ก็บอกว่าขอโทษนะคะ วันนี้คุณกิ๊บไม่ไข้งาน!! ...ค่ะ ง่ายๆอย่างงี้เลย ไม่ได้ดูกระตือรือร้น ขอโทษขอโพย แสดงความรับผิดชอบแต่อย่างใด แล้วเราถึงได้ขึ้นไปตรวจห้องค่ะเม่าเหม่อ

ต่อข้างล่างนะคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
ประกาศ
เรียนเพื่อนสมาชิก ทางบริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด(มหาชน) ขอชี้แจงรายละเอียดในประเด็นดังกล่าว ตามไฟล์เอกสารที่แนบมานี้ ค่ะ

จดหมายชี้แจง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่