“พลอย พลอยพรรณ” ประกาศลั่นจะไม่ปล่อยให้เรื่องเงียบ ต่อให้ถึง 10 ปีก็จะรอ กร้าวเพจแอนตี้ต้องคุกสถานเดียว กุข่าว “พูม่า” ลูกชู้ ซัดขี้ขลาดสร้างปมในใจเด็ก จับตรวจดีเอ็นเอไม่เกี่ยว “ปีเตอร์” แค่ไม่อยากให้สังคมตั้งคำถามว่าทำไมลูกชาย 2 คนหน้าไม่เหมือนกัน
อยู่ๆ ก็จับลูกชายคนเล็ก “น้องพูม่า” ตราวจ DNA สำหรับ “พลอย พลอยพรรณ ทวีรัตน์” ภรรยา “ปีเตอร์ คอร์ป ไดเรนดัล” ซึ่งได้เดินทางมาเปิดใจในรายการข่าวช่อง2 ทาง ช่อง 2 ยอมรับเดือดจัดหลังเพจแอนตี้กล่าวหาว่าลูกชายคนเล็กไม่ใช่ลูกของพระเอกปากกว้าง ประกาศจะเอาเรื่องคนทำเพจดังกล่าวเต็มที่ หากมีการฟ้องร้องจะไม่เรียกเงินสักบาท ลั่นต้องติดคุกสถานเดียว
“ตอนนี้ทำงานเหนื่อยหน่อย แต่พอได้รับรายได้ที่มันสมเหตุสมผลเราก็ไม่ค่อยเหนื่อยมาก เราพยายามสร้างรากฐานที่มันมั่นคงสำหรับครอบครัว เดี๋ยวเดือนมีนาคมนี้จะต้องกลับไปเป็นแอร์ฯ แล้ว ก็เลยรู้สึกว่ารายได้จากทางการบินอย่างเดียวอาจจะไม่พอ อาจจะต้องมีทำอย่างอื่นที่มันจะเข้ามาเสริมตรงนี้ เพื่อให้มันครอบคลุมว่าดูแล ค่ากินอยู่ ค่าเทอมว่าอะไรพวกนี้ด้วย”
ลั่น “ปีเตอร์” ยังไม่ติดต่อมา คุยกันครั้งสุดท้ายหลัง “น้องพูม่า” เกิด
“ยังเลยค่ะ ยาวไปถึงตอนโน้นยังไม่ได้ติดต่อมาเลย คุยครั้งสุดท้ายคือตอนพูม่าเกิด เราไม่ค่อยมีเวลาที่จะไปตาม คือต้องมองไปข้างหน้า แล้วก็ทำอะไรที่สมควรทำ เช่น ต้องดูแลลูก ต้องทำงานหาเลี้ยงตัวเองแล้วก็ลูกด้วยค่ะ เบอร์เขาก็มีนะแต่ไม่เคยลองโทร. เพราะไม่รู้ว่าเขาเปลี่ยนเบอร์หรือยัง”
บอกด่าตน ตนไม่ว่า แต่มาเล่นแรงบอก “น้องพูม่า” เป็นลูกชู้ยอมไม่ได้ เด็กไม่ได้รู้อะไรด้วย
“ประเด็นตรงนี้ต้องบอกก่อนว่ามันไม่ใช่ว่าจะมาเรียกร้องอะไรจากทางฝ่ายสามี หรือว่าพ่อของลูกนะคะ แต่ว่ามันมีเพจอยู่เพจหนึ่งชื่อว่าสตอเบอร์รี่ตัวแม่ตั้งขึ้นมาตอนแรกตั้งใจด่าเรา ก็พูดให้เราเสียหาย ดิสเครดิตมากมาย แต่ว่ามันโอเคนะ คนเรามีคนรักก็ต้องมีคนเกลียดเพราะฉะนั้นถ้าอยากจะด่าก็ด่าไปเถอะ แต่ว่าจริงๆ ก็ขอให้อยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง ด่าในเรื่องที่จริง”
“แต่พอตอนหลังเริ่มมานอกเรื่อง ว่าลูกเราคนเล็ก ซึ่งเด็กที่เพิ่งเกิดนะคะเราถือว่าเขาเป็นการทำร้ายจิตใจเราโดยตรง จะว่าเรา เราเฉยๆ ไม่มีปัญหาแต่พอมาว่าลูก เขาเป็นดวงใจเรา เหมือนมาทำร้ายลูกเราอันนี้เป็นสิ่งที่ยอมไม่ได้ แล้วก็ทำให้เพื่อนเราที่เขาแอบอยู่ตั้งนาน แอบเป็นสาวอยู่ตั้งนานทำให้ทุกคนรู้ว่าเขาก็ไม่ได้ 100%”
“เพื่อนเขาไม่เครียดหรอกค่ะ เขาอยากเป็นพ่อของเด็กด้วยซ้ำ แต่ด้วยเพศที่ 3 ของเขาเนี่ยรู้สึกว่าเขาเป็นแม่จะเหมาะกว่า(หัวเราะ) ขอเป็นแม่ทูนหัว เพราะว่าทุกวันนี้เด็กๆ ก็จะเรียกว่าป้าแบงค์ เราก็อยู่กันอย่างนี้ เพื่อนก็จะมีสาวๆ นิดหนึ่ง แต่ว่าก็เคยคุยกันแล้วว่าแกก็ต้องพยายามให้ดูแมนนิดหนึ่ง เพราะว่าเด็กๆ จะได้ทำตามได้ เพื่อนก็จะแต่งตัวทำอะไรที่ดูเป็นผู้ชายนิดหนึ่ง จะได้เป็นตัวอย่างที่ดี แต่เรียกป้าแบงค์(หัวเราะ)”
ซัดพวกขี้ขลาด ไม่เป็นลูกผู้ชาย ลั่นตรวจดีเอ็นเอ “น้องพูม่า” ไม่เกี่ยวอยากให้ปีเตอร์มั่นใจว่าเป็นลูก
“จะว่าเราไม่เป็นไร หลังจากมีเรื่องมาว่าลูกเราเสร็จ เราวิ่งไปที่กองปราบปราม หน่วยปราบปรามทางเทคโนโลยี เราก็ไปเลย เห็นพี่เตอร์เคยไปเราก็ไปบ้าง(หัวเราะ) เอาจริงๆ นะเก่งแต่ด่าแต่ไม่เก่งรับผิดชอบคำพูดของตัวเอง ซึ่งคนที่มาทำอย่างนี้ มาว่าเราก็ถือว่าเรายังพอสู้กันได้ เราเป็นผู้ใหญ่เหมือนกัน แต่การที่เขามาว่าเด็กตัวเล็กๆ โดยที่เขาไม่รู้เรื่องจริงว่าคืออะไร เรารู้สึกว่าคนนั้นเป็นคนขี้ขลาด และไม่เป็นลูกผู้ชาย”
“เราไปปอท.มาก่อนไปตรวจดีเอ็นเอ พอหลังจากไปอันนั้นเสร็จก็พุ่งไปที่โรงพยาบาลรามาธิบดีต่อเลย เพราะว่าไม่อยากให้ใครมาเคลือบแคลงสงสัยในด้านที่ว่าพูม่ากับแพนเตอร์หน้าไม่เหมือนกัน แพนเตอร์จะหน้าฝรั่ง พูม่าจะหน้าออกตี๋ๆ หน่อย แล้วหน้าเขาจะไม่ได้ขาวเหมือนแพนเตอร์ เพราะฉะนั้นอันนั้นมันอาจจะทำให้คนอื่นสงสัยได้ ต้องการจะตัดความสงสัย ไม่ได้ต้องการจะทำเพื่อว่าให้ทางฝั่งพี่เตอร์เขารู้ว่าเป็นลูกเขานะ อันนี้ไม่เกี่ยวนะ”
ไม่อยากให้ลูกโตมาแล้วเป็นแผลในใจ บอกฟ้องร้องไม่เอาตังค์ ติดคุกสถานเดียว นาน 10 ปีก็จะรอ
“อันนี้ทำให้เพื่อลูก โตขึ้นมาแม่เราเป็นพี่น้องกันจริงหรือเปล่า ตกลงว่าอะไรยังไง อันนี้สามารถบอกลูกได้เต็มปากเลยว่าแม่ตรวจมาแล้ว เรา 2 คนเป็นพี่น้องกันจริงๆ พ่อแม่เดียวกันลูก กลุ่มคนตรงนี้คือกลุ่มคนที่สร้างปัญหา สร้างรอยแผลเป็นในชีวิตเราแล้วก็ลูกเรา เพราะฉะนั้นพี่ก็แจ้งความไว้แล้วถ้าเผื่อว่ามีการฟ้องร้องพี่จะไม่เองตังค์ซักบาทเลย จะให้เข้าคุกอย่างเดียว”
“ใช่ ถือว่าเป็นการดิสเครดิตมากๆ ดิสเครดิตเราไม่เป็นไร เพราะเราเชื่อว่าเราคิดดีทำดี ทำสิ่งที่ถูกต้องมาตลอด แต่การที่ว่ามาดิสเครดิตลูกเรา การที่ตอนนี้เขาไม่มีพ่ออยู่ด้วยมันเป็นเรื่องเป็นปมในชีวิตเขาอยู่แล้ว การมาบอกอีกว่าคนๆ นั้นไม่ใช่พ่อของเขา กลายเป็นว่าน้องคือไม่มีพ่ออยู่ด้วย แล้วไม่มีใครที่มารับเป็นลูก เราว่ามันเป็นสิ่งที่ค่อนข้างจะเจ็บในใจเด็ก ถ้าเกิดวันหนึ่งเขารู้เรื่องขึ้นมา เพราะฉะนั้นพวกนี้ต้องได้รับกรรมที่ได้สร้างเอาไว้ ค่อนข้างมั่นใจเลยว่าให้อีก 10 ปีข้างหน้าตามจับได้เราก็จะรอ”
จัดการความเครียดด้วยการไปปอท. พาลูกไปตรวจดีเอ็นเอ บอกตอนนี้สบายใจแล้ว ขู่เพจแอนตี้อย่าคิดว่าเรื่องนี้จะเงียบ
“วิธีการผ่อนคลายของเราคือการจัดการค่ะ(หัวเราะ) พอมันมีปัญหาถ้าเกิดว่านั่งนิ่งก็มัวแต่เสียใจเศร้ามันก็จะทำอะไรไม่ได้สักอย่าง พอเจอปัญหาอย่างนี้จัดการเลยค่ะ เราไปปอท. เสร็จแล้วไปรามาธิบดี จัดการให้มันเคลียร์ทุกอย่าง เสร็จแล้วเราสบายใจ เสร็จแล้วก็ไปนอนนวดต่อ(หัวเราะ)”
“ตอนนี้สบายใจแล้วค่ะ อยากบอกคนทำเพจ เราติดตามข่าวทุกวันนะคะ อย่าคิดว่าเรื่องนี้มันจะเงียบไป เพราะว่าเราไม่ปล่อยให้เงียบแน่นอน”
แบกภาระค่าใช้จ่ายหนัก ชีวิตลำบาก ได้นอนวันละไม่เกิน 4 ชม.
“เอาเป็นว่าเราจ่ายทุกอย่างคนเดียวดีกว่า แต่ว่าจะไปพูดถึงฝั่งโน้นหรือฝั่งไหนก็ตาม เราขอไม่พูดถึงแล้วกันค่ะ ก็ถือว่าหนัก ทุกๆ อย่างพร้อมๆ กัน(หัวเราะ) พอคุยงานเสร็จต้องรีบไปทำกับข้าวให้ลูก เลี้ยงลูก พาลูกเข้านอนแล้วก็กลับมานั่งคุยงานต่อ”
“ช่วงนี้ลำบากมาก ก่อนหน้านี้ลูกจะนอนยาวหน่อย แต่ว่าช่วงนี้พูม่าใกล้จะฟันขึ้น เขาก็จะรู้สึกเจ็บเหงือก เขาจะตื่นบ่อย ตื่นเสร็จร้องไห้ ตัวเล็กร้อง ตัวโตตื่นตาม ก็ตื่นมาเล่นกัน ก็เลยแบบจับทานนมเสร็จก็เข้านอนก็จะแบบนี้ 2 รอบ เราจะได้นอนวันหนึ่งไม่เกิน 4 ชั่วโมง”
ขอให้ “ปีเตอร์” มีความสุขในสิ่งที่ทำ บอกทุกคนมีกรรมเป็นของตัวเอง
“ไม่ฝากเลยค่ะ ขอให้พี่เขาทำอะไรแล้วมีความสุขในสิ่งที่ตัวเองทำ อย่างที่หลังๆ พูด พลอยมีความสุข ลูกมีความสุข ก็ขอให้เขามีความสุขแล้วกัน เพราะว่าทุกอย่างที่ทำที่ไม่มีความสุข หรือว่าการที่มีปัญหาชีวิตเข้ามา ทุกคนมันมีกรรมเป็นของตัวเองเพราะฉะนั้นก็ได้เริ่มใช้กรรมของตัวเอง อย่างตอนนี้เราเริ่มแฮปปี้แล้ว เราก็ได้ใช้กรรมในบางส่วนของเราไปเยอะแล้ว ก็ขอให้เขามีความสุข แล้วก็ประสบความสำเร็จกับสิ่งที่เขาหวังไว้แล้วกันค่ะ”
ข่าวจาก : MGR Online
http://manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9590000009750
อย่าแตะลูก! “พลอย” เดือดขั้นสุด ประกาศลั่น “เพจแอนตี้” ต้องติดคุก
“พลอย พลอยพรรณ” ประกาศลั่นจะไม่ปล่อยให้เรื่องเงียบ ต่อให้ถึง 10 ปีก็จะรอ กร้าวเพจแอนตี้ต้องคุกสถานเดียว กุข่าว “พูม่า” ลูกชู้ ซัดขี้ขลาดสร้างปมในใจเด็ก จับตรวจดีเอ็นเอไม่เกี่ยว “ปีเตอร์” แค่ไม่อยากให้สังคมตั้งคำถามว่าทำไมลูกชาย 2 คนหน้าไม่เหมือนกัน
อยู่ๆ ก็จับลูกชายคนเล็ก “น้องพูม่า” ตราวจ DNA สำหรับ “พลอย พลอยพรรณ ทวีรัตน์” ภรรยา “ปีเตอร์ คอร์ป ไดเรนดัล” ซึ่งได้เดินทางมาเปิดใจในรายการข่าวช่อง2 ทาง ช่อง 2 ยอมรับเดือดจัดหลังเพจแอนตี้กล่าวหาว่าลูกชายคนเล็กไม่ใช่ลูกของพระเอกปากกว้าง ประกาศจะเอาเรื่องคนทำเพจดังกล่าวเต็มที่ หากมีการฟ้องร้องจะไม่เรียกเงินสักบาท ลั่นต้องติดคุกสถานเดียว
“ตอนนี้ทำงานเหนื่อยหน่อย แต่พอได้รับรายได้ที่มันสมเหตุสมผลเราก็ไม่ค่อยเหนื่อยมาก เราพยายามสร้างรากฐานที่มันมั่นคงสำหรับครอบครัว เดี๋ยวเดือนมีนาคมนี้จะต้องกลับไปเป็นแอร์ฯ แล้ว ก็เลยรู้สึกว่ารายได้จากทางการบินอย่างเดียวอาจจะไม่พอ อาจจะต้องมีทำอย่างอื่นที่มันจะเข้ามาเสริมตรงนี้ เพื่อให้มันครอบคลุมว่าดูแล ค่ากินอยู่ ค่าเทอมว่าอะไรพวกนี้ด้วย”
ลั่น “ปีเตอร์” ยังไม่ติดต่อมา คุยกันครั้งสุดท้ายหลัง “น้องพูม่า” เกิด
“ยังเลยค่ะ ยาวไปถึงตอนโน้นยังไม่ได้ติดต่อมาเลย คุยครั้งสุดท้ายคือตอนพูม่าเกิด เราไม่ค่อยมีเวลาที่จะไปตาม คือต้องมองไปข้างหน้า แล้วก็ทำอะไรที่สมควรทำ เช่น ต้องดูแลลูก ต้องทำงานหาเลี้ยงตัวเองแล้วก็ลูกด้วยค่ะ เบอร์เขาก็มีนะแต่ไม่เคยลองโทร. เพราะไม่รู้ว่าเขาเปลี่ยนเบอร์หรือยัง”
บอกด่าตน ตนไม่ว่า แต่มาเล่นแรงบอก “น้องพูม่า” เป็นลูกชู้ยอมไม่ได้ เด็กไม่ได้รู้อะไรด้วย
“ประเด็นตรงนี้ต้องบอกก่อนว่ามันไม่ใช่ว่าจะมาเรียกร้องอะไรจากทางฝ่ายสามี หรือว่าพ่อของลูกนะคะ แต่ว่ามันมีเพจอยู่เพจหนึ่งชื่อว่าสตอเบอร์รี่ตัวแม่ตั้งขึ้นมาตอนแรกตั้งใจด่าเรา ก็พูดให้เราเสียหาย ดิสเครดิตมากมาย แต่ว่ามันโอเคนะ คนเรามีคนรักก็ต้องมีคนเกลียดเพราะฉะนั้นถ้าอยากจะด่าก็ด่าไปเถอะ แต่ว่าจริงๆ ก็ขอให้อยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง ด่าในเรื่องที่จริง”
“แต่พอตอนหลังเริ่มมานอกเรื่อง ว่าลูกเราคนเล็ก ซึ่งเด็กที่เพิ่งเกิดนะคะเราถือว่าเขาเป็นการทำร้ายจิตใจเราโดยตรง จะว่าเรา เราเฉยๆ ไม่มีปัญหาแต่พอมาว่าลูก เขาเป็นดวงใจเรา เหมือนมาทำร้ายลูกเราอันนี้เป็นสิ่งที่ยอมไม่ได้ แล้วก็ทำให้เพื่อนเราที่เขาแอบอยู่ตั้งนาน แอบเป็นสาวอยู่ตั้งนานทำให้ทุกคนรู้ว่าเขาก็ไม่ได้ 100%”
“เพื่อนเขาไม่เครียดหรอกค่ะ เขาอยากเป็นพ่อของเด็กด้วยซ้ำ แต่ด้วยเพศที่ 3 ของเขาเนี่ยรู้สึกว่าเขาเป็นแม่จะเหมาะกว่า(หัวเราะ) ขอเป็นแม่ทูนหัว เพราะว่าทุกวันนี้เด็กๆ ก็จะเรียกว่าป้าแบงค์ เราก็อยู่กันอย่างนี้ เพื่อนก็จะมีสาวๆ นิดหนึ่ง แต่ว่าก็เคยคุยกันแล้วว่าแกก็ต้องพยายามให้ดูแมนนิดหนึ่ง เพราะว่าเด็กๆ จะได้ทำตามได้ เพื่อนก็จะแต่งตัวทำอะไรที่ดูเป็นผู้ชายนิดหนึ่ง จะได้เป็นตัวอย่างที่ดี แต่เรียกป้าแบงค์(หัวเราะ)”
ซัดพวกขี้ขลาด ไม่เป็นลูกผู้ชาย ลั่นตรวจดีเอ็นเอ “น้องพูม่า” ไม่เกี่ยวอยากให้ปีเตอร์มั่นใจว่าเป็นลูก
“จะว่าเราไม่เป็นไร หลังจากมีเรื่องมาว่าลูกเราเสร็จ เราวิ่งไปที่กองปราบปราม หน่วยปราบปรามทางเทคโนโลยี เราก็ไปเลย เห็นพี่เตอร์เคยไปเราก็ไปบ้าง(หัวเราะ) เอาจริงๆ นะเก่งแต่ด่าแต่ไม่เก่งรับผิดชอบคำพูดของตัวเอง ซึ่งคนที่มาทำอย่างนี้ มาว่าเราก็ถือว่าเรายังพอสู้กันได้ เราเป็นผู้ใหญ่เหมือนกัน แต่การที่เขามาว่าเด็กตัวเล็กๆ โดยที่เขาไม่รู้เรื่องจริงว่าคืออะไร เรารู้สึกว่าคนนั้นเป็นคนขี้ขลาด และไม่เป็นลูกผู้ชาย”
“เราไปปอท.มาก่อนไปตรวจดีเอ็นเอ พอหลังจากไปอันนั้นเสร็จก็พุ่งไปที่โรงพยาบาลรามาธิบดีต่อเลย เพราะว่าไม่อยากให้ใครมาเคลือบแคลงสงสัยในด้านที่ว่าพูม่ากับแพนเตอร์หน้าไม่เหมือนกัน แพนเตอร์จะหน้าฝรั่ง พูม่าจะหน้าออกตี๋ๆ หน่อย แล้วหน้าเขาจะไม่ได้ขาวเหมือนแพนเตอร์ เพราะฉะนั้นอันนั้นมันอาจจะทำให้คนอื่นสงสัยได้ ต้องการจะตัดความสงสัย ไม่ได้ต้องการจะทำเพื่อว่าให้ทางฝั่งพี่เตอร์เขารู้ว่าเป็นลูกเขานะ อันนี้ไม่เกี่ยวนะ”
ไม่อยากให้ลูกโตมาแล้วเป็นแผลในใจ บอกฟ้องร้องไม่เอาตังค์ ติดคุกสถานเดียว นาน 10 ปีก็จะรอ
“อันนี้ทำให้เพื่อลูก โตขึ้นมาแม่เราเป็นพี่น้องกันจริงหรือเปล่า ตกลงว่าอะไรยังไง อันนี้สามารถบอกลูกได้เต็มปากเลยว่าแม่ตรวจมาแล้ว เรา 2 คนเป็นพี่น้องกันจริงๆ พ่อแม่เดียวกันลูก กลุ่มคนตรงนี้คือกลุ่มคนที่สร้างปัญหา สร้างรอยแผลเป็นในชีวิตเราแล้วก็ลูกเรา เพราะฉะนั้นพี่ก็แจ้งความไว้แล้วถ้าเผื่อว่ามีการฟ้องร้องพี่จะไม่เองตังค์ซักบาทเลย จะให้เข้าคุกอย่างเดียว”
“ใช่ ถือว่าเป็นการดิสเครดิตมากๆ ดิสเครดิตเราไม่เป็นไร เพราะเราเชื่อว่าเราคิดดีทำดี ทำสิ่งที่ถูกต้องมาตลอด แต่การที่ว่ามาดิสเครดิตลูกเรา การที่ตอนนี้เขาไม่มีพ่ออยู่ด้วยมันเป็นเรื่องเป็นปมในชีวิตเขาอยู่แล้ว การมาบอกอีกว่าคนๆ นั้นไม่ใช่พ่อของเขา กลายเป็นว่าน้องคือไม่มีพ่ออยู่ด้วย แล้วไม่มีใครที่มารับเป็นลูก เราว่ามันเป็นสิ่งที่ค่อนข้างจะเจ็บในใจเด็ก ถ้าเกิดวันหนึ่งเขารู้เรื่องขึ้นมา เพราะฉะนั้นพวกนี้ต้องได้รับกรรมที่ได้สร้างเอาไว้ ค่อนข้างมั่นใจเลยว่าให้อีก 10 ปีข้างหน้าตามจับได้เราก็จะรอ”
จัดการความเครียดด้วยการไปปอท. พาลูกไปตรวจดีเอ็นเอ บอกตอนนี้สบายใจแล้ว ขู่เพจแอนตี้อย่าคิดว่าเรื่องนี้จะเงียบ
“วิธีการผ่อนคลายของเราคือการจัดการค่ะ(หัวเราะ) พอมันมีปัญหาถ้าเกิดว่านั่งนิ่งก็มัวแต่เสียใจเศร้ามันก็จะทำอะไรไม่ได้สักอย่าง พอเจอปัญหาอย่างนี้จัดการเลยค่ะ เราไปปอท. เสร็จแล้วไปรามาธิบดี จัดการให้มันเคลียร์ทุกอย่าง เสร็จแล้วเราสบายใจ เสร็จแล้วก็ไปนอนนวดต่อ(หัวเราะ)”
“ตอนนี้สบายใจแล้วค่ะ อยากบอกคนทำเพจ เราติดตามข่าวทุกวันนะคะ อย่าคิดว่าเรื่องนี้มันจะเงียบไป เพราะว่าเราไม่ปล่อยให้เงียบแน่นอน”
แบกภาระค่าใช้จ่ายหนัก ชีวิตลำบาก ได้นอนวันละไม่เกิน 4 ชม.
“เอาเป็นว่าเราจ่ายทุกอย่างคนเดียวดีกว่า แต่ว่าจะไปพูดถึงฝั่งโน้นหรือฝั่งไหนก็ตาม เราขอไม่พูดถึงแล้วกันค่ะ ก็ถือว่าหนัก ทุกๆ อย่างพร้อมๆ กัน(หัวเราะ) พอคุยงานเสร็จต้องรีบไปทำกับข้าวให้ลูก เลี้ยงลูก พาลูกเข้านอนแล้วก็กลับมานั่งคุยงานต่อ”
“ช่วงนี้ลำบากมาก ก่อนหน้านี้ลูกจะนอนยาวหน่อย แต่ว่าช่วงนี้พูม่าใกล้จะฟันขึ้น เขาก็จะรู้สึกเจ็บเหงือก เขาจะตื่นบ่อย ตื่นเสร็จร้องไห้ ตัวเล็กร้อง ตัวโตตื่นตาม ก็ตื่นมาเล่นกัน ก็เลยแบบจับทานนมเสร็จก็เข้านอนก็จะแบบนี้ 2 รอบ เราจะได้นอนวันหนึ่งไม่เกิน 4 ชั่วโมง”
ขอให้ “ปีเตอร์” มีความสุขในสิ่งที่ทำ บอกทุกคนมีกรรมเป็นของตัวเอง
“ไม่ฝากเลยค่ะ ขอให้พี่เขาทำอะไรแล้วมีความสุขในสิ่งที่ตัวเองทำ อย่างที่หลังๆ พูด พลอยมีความสุข ลูกมีความสุข ก็ขอให้เขามีความสุขแล้วกัน เพราะว่าทุกอย่างที่ทำที่ไม่มีความสุข หรือว่าการที่มีปัญหาชีวิตเข้ามา ทุกคนมันมีกรรมเป็นของตัวเองเพราะฉะนั้นก็ได้เริ่มใช้กรรมของตัวเอง อย่างตอนนี้เราเริ่มแฮปปี้แล้ว เราก็ได้ใช้กรรมในบางส่วนของเราไปเยอะแล้ว ก็ขอให้เขามีความสุข แล้วก็ประสบความสำเร็จกับสิ่งที่เขาหวังไว้แล้วกันค่ะ”
ข่าวจาก : MGR Online
http://manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9590000009750