ซื้อให้พ่อใช้ ครั้งแรกพ่อบอกว่า เครื่องมันดับเอง พอดีพ่ออยู่ ตจว เราทำงานอยู่ กทม แกเลยเอาไปส่งที่ shop dtac ที่ห้างแถวบ้านเอง

ครั้งที่ 1.  พนง บอกว่าต้องส่งเข้ามาซ่อมที่ กทม รอเวลา ประมาณ 1 เดือน แต่ถ้าอยู่กทม ส่งซ่อมได้เลยไม่ต้องรอ ด้วยความเกรงใจกลัวลูกจะวุ่นวาย แกเลย ยอมส่งไป รอเวลาเกือบเดือน จนท แจ้งให้ไปรับเครื่องคืน กลับมาอาการเดิมไม่หาย แถมมีอาการเพิ่มมาให้คือ rotate screen แล้วค้าง พ่อเลยกลับไปที่ shop อีกครั้ง บอกว่า มีอาการจอค้าง เพิ่มมา พนง บอกกลับมาว่าเพียงแค่ให้ update firmware แล้วคืนเครื่องมาให้กลับบ้าน ไม่มีการแนะนำว่าต้องอัพเดตตรงไหน หรือทำอย่างไร พ่ออายุ เกือบ 70 ไม่เคยใช้ smartphone ถามหน่อยค่ะว่า คนอายุขนาดนั้น แกจะเข้าใจมั้ยว่าต้องทำอย่างไร (โมโหครั้งที่ 1)

ครั้งที่ 2. เรากลับบ้านตอนวันพ่อ เราเลย เอาเครื่องมาส่งให้เองที่ กทม กะว่า ไป ศูนย์ใหญ่ ๆ น่าจะดีกว่า เพราะจากเหตุการณ์ครั้งที่ 1 ทำให้เรารู้สึกว่า พนง. ที่ shop dtac แถวบ้านที่ส่งรอบแรก ไม่มีความรู้ในการให้คำปรึกษาหรือแก้ไขปัญหาเบื้องต้นให้ ลูกค้าได้เลย ซึ่งตอนที่เราเอาเครื่องไปส่ง พนง. แนะนำเบื้องต้นได้ดีระดับนึง สามารถตอบคำถามได้ แจ้งว่า ต้องส่งซ่อมประมาณ 3 สัปดาห์ (แต่ทำไม shop ที่ตจว บอกว่า ส่งที่ กทม จะได้ซ่อมเลยไม่ต้องรอเป็นเดือน อันนี้เราเองก็ยังข้องใจอยู่) พนง.บอกว่า เห็นส่งซ่อมมาแล้ว 1 ครั้งยังไงจะเร่งให้ด่วนที่สุดนะ เราก็เลยคิดว่า อ่ะ ไม่เป็นไร ไหน ๆ ก็ไหน ๆ รอก็รอ.... ผ่านไป เกือบ 5 สัปดาห์ ไม่มีการติดต่อใด ๆ จาก dtac สอบถามสถานะไม่ได้ ไม่รู้เลยว่าเป็นไง เราโทรเข้า 1678 จนท. บอกแต่ว่าจะส่งเรื่องให้สาขาโทรกลับ แต่ก็ไม่มี เรารอจนเลิกงานตอนเย็น ตัดสินใจเข้าไปที่สาขาที่ส่งซ่อมเอง แจ้งเรื่องว่าเลยกำหนด ที่ dtac แจ้ง และไม่มีการติดต่อกลับว่าสถานะคืออะไร ครั้งนี้ น้องพนง ที่รับเรื่อง แจ้งว่า สถานะช่างกำลังซ่อมอยู่ แต่ได้ส่งเมล์ตามไปให้แล้ว ไม่เกิน 1 สัปดาห์จะต้องได้รับเครื่องคืนแน่นอน

หลังจากนั้นประมาณ 1 สัปดาห์ ก็มี dtac ติดต่อไปว่าให้ไปรับเครื่องคืนได้ เราไปถึง แจ้งว่ามีการเปลี่ยน battery และ update firmware เราก็โอเค เอาเครื่องมาเทส ซึ่งอาการเครื่องดับเนี่ย มันเทส ณ ตอนนั้นไม่ได้ ไม่รู้จะดับตอนไหน เราเทสได้แค่หน้าจอที่เวลาหมุนแล้วมันค้าง ว่ามันหายรึยัง ปรากฏว่า มันก็ยังคงค้างอยู่ พนง บอกว่า ต้องส่งซ่อมอีกครั้ง เราตัดสินใจเอาเครื่องกลับ รู้สึกเฟลมาก เราบอก พนงไปว่า เราไม่ส่งซ่อมอีกแล้ว เพราะว่า เรารู้สึกว่าเสียเวลา เสียค่าเดินทาง เสียความรู้สึก เสียสุขภาพจิต ทั้งหมดเนี่ย มูลค่าคงจะแพงกว่าเครื่องโทรศัพท์เครื่องนี้อีก ที่สำคัญ ความรู้สึกของพ่อเราล่ะ ได้โทรศัพท์มาได้ใช้ไม่ถึง 15 วัน ส่งซ่อมซะ 2 เดือนกว่า น้องพนงก็พยายามแก้ปัญหานะ บอกกับเราว่า ขอให้เราทิ้งเครื่องไว้ บอกว่า จะทำเรื่อง ขอเครื่องใหม่ให้ แต่ต้องให้(ใครก็ไม่รู้) พิจารณาอนุมัติว่า จะให้เปลี่ยนเครื่องมั้ย เรายืนยันว่าไม่สะดวกทิ้งไว้แล้ว เราไม่ได้คอมเพลนน้องพนงที่บริการนะ เราพอใจกับการบริการของน้อง แต่ที่เรารู้สึกแย่ คือ คุณภาพสินค้า การซ่อม และการจัดการของ dtac มากกว่า น้องพนักงานบอกว่า จะช่วยได้เพียงแค่ ส่ง feedback กลับไปหลังบ้านให้ ต้องขออ้างอิงชื่อเรา และเคสของเรา เราตอบว่า เราตกลง ให้เบอร์โทรศัพท์เราไป ให้ เค้าโทรมาคุยเลยก็ได้ (จนป่านนี้ก็ไม่มีใครโทรมาคุยกะเรานะ)

ส่งเครื่องไปให้พ่อ พ่อบอกว่า อาการ หมุนหน้าจอไม่ได้ช่างมันเถอะ แกใช้แบบไม่หมุนได้ แกห่วงแค่อาการเครื่องดับ เพราะใครโทรมาหาจะโทรไม่ติด ซึ่ง หลังจากพ่อใช้งานไปได้ 2 วัน โทรมาบอกว่า วันนี้โทรศัพท์ดับอีกแล้ว 2 ครั้ง จะซื้อเปลี่ยนยี่ห้อ ซื้อเครื่องใหม่ให้แกก็ไม่ยอมบอกว่าเสียดายเงิน

จริง ๆ แล้วมีรายละเอียดย่อยๆ มากกว่านี้อีกเยอะนะ ที่เรารู้สึกเฟล และ แย่ มาก ๆ

เราใช้ดีแทคมาเกือบ 20 ปี ไม่เคยคิดเปลี่ยนค่าย เป็นลูกค้าที่ซื่อสัตย์ เจอเหตุการณ์นี้เข้าไป บอกตรงๆ Dtac ถ้าคุณยังเป็นแบบนี้ ไม่คิดจะพัฒนา รับรองค่ะ ลูกค้าคุณหายหมดแน่ ๆ

ตอนแรกกะว่าจะไม่โพสละนะ แต่เข้ามาอ่านดูเห็นว่ามีคนเจอแบบเราเยอะมาก เลยอยากจะแชร์ให้รับทราบไว้ อย่างน้อย เผื่อเป็นข้อมูลให้คุณพัฒนาได้