ทุกวันนี้มีเพลงใหม่ๆ เกิดขึ้นมามากมายจากศิลปินใหม่ในยุคปัจจุบัน
ที่มีช่องทางในการนำเสนอผลงานได้มากมายกว่าคนในยุคเก่ามากนัก
แต่ถึงแม้กาลเวลาจะผ่านไปนานสักแค่ไหนก็ตามก็ไม่อาจทำลายความคลาสสิค
และความยอดเยี่ยมของเพลงและผลงานอัลบั้มเก่าๆในอดีต
ที่เคยได้ออกมาให้คนที่อาศัยอยู่ในช่วงเวลาเหล่านั้นได้ฟังและมีความสุขไปกับมัน
เพลงนี่เป็นสิ่งหนึ่งที่แปลกบนโลกนี้ที่ ยิ่งเก่ายิ่งเจ๋ง ยิ่งผ่านไปนานยิ่งมีค่า ซึ่งแปรผกผันกับวัตถุอื่นๆบนโลกนี้ที่ยิ่งเก่ายิ่งเสื่อมราคา
และด้วยปริมาณที่มากมายของเพลงและศิลปินให้เราได้เลือกฟังกันสะดวกสบายในทุกวันนี้
ผมยิ่งเสียดายมากๆ ถ้าคนรุ่นใหม่ๆ หรือแม้กระทั่งคนรุ่นผมเองก็ตาม ต้องพลาดงานเก่าๆดีๆเหล่านั้น ที่กาลเวลาทำลายมันไม่ได้
เพราะงั้นผมจึงเกิดความคิดที่อยากจะนำผลงานเก่าเหล่านั้นมานั่งเปิดฟังและรีวิวพูดถึง และแนะนำอีกครั้ง
.. เผื่อคนที่ยังไม่เคยฟัง จะได้ลองมาฟังและไม่พลาดงานดีๆเหล่านี้
.. เผื่อคนที่เคยฟังมาแล้ว และยังคงคิดถึงมันอยู่ในก้นบึ้งของหัวใจ
แต่อาจจะลืมๆมันไปบ้าง จะได้กลับมามีความสุขกับความรู้สึกเก่าๆเหล่านั้น
ผมก็เลยขุดอัลบั้มเก่าเอามาบ่น ด้วยประการฉะนี้ แล
.............................................................................................................
พอแล้วครับ ถือว่าเป็นกระทู้แรกที่จะหาอัลบั้มเก่าๆมาเขียนแล้วกัน เลยอารัมภบทนำซะยาว ก่อนที่จะเขียนรีวิวจริงสั้นนิดเดียว (ฮา)
วันนี้ขุดบั้มเก่ามาพูดถึง งัดมาฟังกันสนุกๆเล่นๆ สำหรับคนที่ไม่เคยฟัง คนที่เคยฟังแล้ว และคนที่อยากศึกษาผลงานเก่าๆแบบผม
อย่างที่เกริ่นไปครับ คนรุ่นหลัง คนเกิดไม่ทัน ผมว่าน่าเสียดายมากๆถ้าจะไม่ได้ฟังงานชุดดีๆเหล่านี้
และผมรู้สึกว่า อัลบั้มเพลงดีๆบนโลกนี้ แมรร่งมีเยอะมากกกก ตามฟังไม่หมดจริงๆ
ดังนั้นผมก็เลยอยากศึกษาเพลงเหล่านี้ให้มันกว้างๆหน่อย
อยากรู้ว่าคนยุคก่อน รุ่นพ่อแม่ รุ่นพี่ของเราเค้าฟังอะไรกันบ้าง ก็เลยผุดไอเดียเขียนนี้ขึ้นมา
อยากได้ลูกเรือสักสิบคน.. เอ้ย ไม่ใช่ อยากนั่งเขียนให้ถึงพันอัลบั้มเลย ถ้ายังไม่ตายซะก่อนนะ ก็หาเพลงเก่ามาศึกษาไปเรื่อยๆ
ใครสนุกนึกอยากทำแบบผมก็ได้นะ ไม่ว่ากัน จะลองหาอะไรดีๆฟังไปเรื่อย เพราะผมเชื่อว่า มันต้องมีเพลงเพราะอีกเพียบที่เรายังไม่รู้จักมันแน่ๆบนโลกนี้
ประเดิมศักราช คงต้องหาอัลบั้มที่มันเป็นโคตรของโคตรตำนาน นึกไปนึกมา
ก็คงหนีไม่พ้นสิ่งที่จะลากมาเขียนวันนี้นั่นก็คือ Nirvana นั่นเอง
ผมขอเลือกจิ้มเอาอัลบั้ม Nevermind เอามาเขียน เพราะอย่างที่รู้ๆกันว่า
มันเป็นตำนานหน้าหนึ่งของวงการเพลงไปแล้ว เลยขอเลือกมาเจิมชุดแรกแล้วกัน
ผมว่าอัลบั้มนี้เหมาะสำหรับการฟังเพื่อศึกษาเอามากๆ คือฟังเอามันส์ เอาสนุกนั่นมันชัวร์อยู่แล้ว
แต่ผมสนใจอัลบั้มนี้ในฐานะ "ต้นแบบ" ที่เป็นโรลโมเดลให้กับ
ศิลปินทั่วทั้งโลกนี้นั่นเอง มันถึงมีค่าควรแก่การเขียนถึงมากๆ
กล่าวคือ Nirvana Nevermind นี้ออกมาในปี 1991 ซึ่งผู้เขียนเองก็อยู่แค่ ป.2 เอง
ตอนนั้นยังไม่ได้เริ่มฟังเพลงเลยด้วยซ้ำ ยังท่องสูตรคูณแม่แรกๆอยู่เลย
เพราะงั้น ในยุคนั้นผมก็บอกเลยว่า ผมเกิดไม่ทัน แต่แน่นอนว่า เสียงร่ำลือ คำชม มันมีมากมายพอๆกับดาวบนท้องฟ้าสำหรับงานชุดนี้
ตอนนี้เกิดมาพอที่จะฟังเพลงรู้เรื่องบ้างแล้ว เลยขอเลือกมาฟังดูแล้วกันว่า
ทำไมคนในยุคนั้นถึงได้นิยม และยกให้เป็นไอดอลกันขนาดนั้น
รวมถึงตำนานอย่าง เคิร์ท โคเบน ด้วย
Nirvana นี่ถือเป็นวงเจ้าพ่อก็คงว่าได้สำหรับเพลงแนวกรันจ์ หรือบางทีก็เรียกซีแอทเทิลซาวด์นั่นเอง
ซึ่งก็มีจุดกำเนิดและการผสมผสานมาของดนตรีแนว
เฮฟวีเมทัลในส่วนของความหนักหน่วงด้านดนตรี
และผสมความดิบๆ ง่ายๆ แอนตี้ฮีโร่มาจากพวกสาย พังค์ นั่นเอง ดังนั้นกรันจ์ก็จะมีริฟกีต้าร์ที่เป็นเอกลักษณ์มากคือดิบๆตรงๆ มันส์ๆ
ในขณะที่เนื้อเพลงแนวประชดประชันเสียดสีด่าสังคม ก็จะมาจากทางสายพังค์นั่นเอง
ซึ่งก็นึกภาพไปประมาณนี้ผมคงไม่ลงลึกมากเพราะไม่ได้ความรู้ด้านประวัติศาสตร์ดนตรีเยอะ
แต่ถ้าจะให้พูดถึงให้นึกภาพออกง่ายๆเลยให้นึกภาพพวกกรันจ์ออกสำหรับคนฟังคนไทย
ก็ให้นึกถึงเพลงยุคอัลเทอร์เนทีฟรุ่งเรือง เพลงร็อคไทยในยุค90s นั่นแหละ ใช่เลย
แทบทุกวงได้รับอิทธิพลมาจากงานเพลงกรันจ์ร็อคทั้งนั้น
ร็อคเก่าๆนั่นแหละ กรันจ์เพียบเลย อย่างวายน็อต แบล็คเฮด โลโซ นั่นก็ใช่ทั้งนั้น
ผมถึงได้เขียนไว้จั่วหัวว่า นี่มันคือ ตำนานที่ก่อให้เกิดตำนานหน้าอื่นๆบนโลกใบนี้นั่นเอง เหมือน Legend of Legends นั่นแล
Nirvanaเป็นต้นแบบและเป็นอิทธิพลให้กับวงการเพลงไทย และศิลปินที่เป็นไอดอลของเราอีกทีหลายต่อหลายวงมาก
นั่นแหละผมถึงคิดว่างานชุดนี้มันโคตรจะน่าศึกษา น่าฟังเลยว่ามันเป็นแรงบันดาลใจให้กับใครบ้าง
งานชุดนี้เป็นอัลบั้มที่2ของวง และก็เป็นงานแรกที่ได้ร่วมงานกับเฮียโกรลห์ Dave Grohl นั่นเอง
ซึ่งยอดขาย และรางวัลต่างๆก็ถล่มทลายเลย สมศักดิ์ศรีงานระดับนี้จริงๆ
นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมวงนี้ถึงยังอยู่ในหัวใจใครหลายๆคนจนทุกวันนี้
และแม้การเสียชีวิตของเคิร์ทจะสร้างความสะเทือนใจให้กับแฟนเพลง
แต่เขาไม่เคยตาย เขากลายเป็นอมตะอยู่ในบทเพลงเหล่านี้แล้ว และมันยังถูกส่งต่อไปยังอนาคตอีกไกลแสนไกลเลย
ผมคิดว่า อย่างน้อยที่สุดก็จนกว่ามนุษยชาติจะสูญพันธุ์นั่นแหละ ใครจะอยู่ใครจะตายไม่รู้ แต่เคิร์ทเป็นอมตะในบทเพลงไปแล้ว
เอาเป็นว่ารายละเอียดอื่นๆ ผมคงจะรู้ไม่ลึกเท่ากับแฟนเพลงเดนตายพันธุ์แท้ของจริงของNirvanaไม่ได้
ใครสนใจลองไปศึกษาที่ท่านอื่นๆ หรือนิตยสารดนตรีเคยเขียนไว้นะครับ หรือไปที่เพจ เสพย์สากล ก็ได้
เพจนั้นผมติดตามอยู่ ไม่ได้มาโปรโมทให้นะ แต่เพจพี่แกเขียนถึงNirvanaกับ Oasisบ่อยๆ (ฮา)
ใครชอบเกร็ดเชิงลึกของเพลงสากล ไปติดตามเค้าเถอะครับ
อย่าง ไอ้เด็กโชว์ช้างน้อยบนหน้าปกNevermindที่ชื่อสเปนเซอร์ เอลเดน นี่ปัจจุบันนี้ก็เป็นศิลปิน เป็นต้น
แต่ก่อนที่รีวิวมันจะยาวไปกว่านี้
ไปเข้าที่ตัวอัลบั้มเลยแล้วกัน (ฮา) อยากแนะนำครับ ต้องแนะนำจริงๆ สำหรับคนยังไม่เคยฟังนะ
งานชุดนี้มี 12 เพลง แถมด้วย 1 hidden track อีกเต็มสตรีม แนวดนตรี .. เอิ่ม นี่กรันจ์ไงจำไม่ได้เหรอ
ทั้งอัลบั้มนี้มีความเป็นอัลบั้มอยู่สูงมาก แต่ละเพลงไม่มีหลุดธีมจากกัน รับรู้ได้ทันทีว่างานการทำอัลบั้มสมัยก่อน
มันไม่ได้ทำแยกเป็นเพลงๆ ขายเป็นแทร็คๆทีละนิดๆ ปีละเพลงเหมือนทุกวันนี้
เพลงทั้งสิบกว่าเพลงมีทั้งเพลงเร็ว เพลงกึ่งๆมีเดียม เพลงดิบมาก เพลงดิบกว่า เพลงมันส์สะใจ
เพลงช้าถือว่ามีเพลงเดียว อยู่ท้ายอัลบั้มนั่นแหละ ก่อนที่จะต้องนั่งฟังเสียงจิ้งหรีดเปล่าๆหลังจากแทร็ค12ไปอีกร่วมสิบกว่านาที
เพื่อที่จะได้ฟัง Hidden Track ที่เค้าได้แอบซ่อนไว้
(โหดสัส สิบกว่านาทีสมัยนั้น ฟังจากเทปนี่อย่างนาน กรอก็ไม่ได้ด้วยเพราะไม่รู้ตรงไหน
เครื่องกรอแบบที่ล็อคตำแหน่งต้นเพลงได้สมัยนั้นก็มีน้อย)
เพลงทั้งหมดก็มีดังต่อไปนี้ ทั้งหมดแต่งโดย เคิร์ทคนเดียวล้วนๆยกเว้นบางเพลง
"Smells Like Teen Spirit" (Cobain, Dave Grohl, Krist Novoselic)
"In Bloom"
"Come as You Are"
"Breed"
"Lithium"
"Polly"
"Territorial Pissings" (Cobain, Chet Powers)
"Drain You"
"Lounge Act"
"Stay Away"
"On a Plain"
"Something in the Way" จากอีนี่ต้องนั่งฟังเสียงจิ้งหรีดไปอีกสิบนาที จนถึง hidden track คือ Endless Nameless
จากการฟังทั้งอัลบั้มนี้แล้ว คงต้องบอกว่า ชอบทั้งชุด ชอบทุกเพลงจริงๆ
อย่างแรกก่อนเลยคือ ดนตรี ก็อย่างที่บอกครับ มันเหมือนเป็น mother science แห่งวงการดนตรีเลยนะ
มันเป็นoriginalจริงๆของกรันจ์ คือแม้ว่ากรันจ์จะเกิดมาจากแนวอื่นก็ตาม แต่ชุดนี้ผมว่า มันเป็นตัวของตัวมันเองสูงมาก
ริฟกีต้าร์ที่ไม่ทึบมากเท่าเมตั้ลหูเหล็ก ทำให้มันไม่หนักมากเกินไป ความดุดันนั้นจะเน้นสาดเอามันส์ สะใจ แต่ไม่สะเปะสะปะ
ไม่เหวี่ยงเท่าพังค์ มันมีแพทเทิร์นของมันอยู่ ลูกกลองในอัลบั้มนี้นี่ทีเด็ด ตัวเยี่ยมน่าศึกษาเลยล่ะ
ส่วนเบสที่สามารถเอากลองกับกีต้าร์ระดับนี้อยู่ มันไม่ธรรมดาเลย เหนียวแน่นสุดๆ แถมมีอะไรอยู่ในตัวเยอะ
จุดเด่นอีกอย่างคือสไตล์การร้องและออกแบบเมโลดี้ของเคิร์ทที่ ฟังปุ๊บ รู้เลย มีคนเดียวแน่ๆ
เมโลดี้แบบนี้ เสียงเมาๆแบบสตรองแบบนี้ การออกแบบทำนองที่มีจุดที่เป็นลายมือของเคิร์ทอยู่สูงมาก
อันนี้ก็เป็นจุดเด่นของชุดนี้เหมือนกัน
งานชุดนี้เป็นต้นแบบให้กับศิลปินร็อคยุคนั้นทั้งโลกแบบเยอะมาก แน่นอนว่ารวมถึงประเทศไทยด้วย
ถ้าลองฟังชุดนี้ดูก็จะคุ้นๆเพียบเลย ลองไปนั่งฟังๆดู
จากหนึ่งความหาญกล้าของวงนี้ที่กล้าลุยงานดนตรีแหวกแนวออกมา ส่งต่อให้เป็นเปลวไฟบนเทียนอีกล้านเล่มบนโลกนี้
มันไม่ธรรมดาจริงๆ แต่ในความสุดยอดนี้มันก็ไม่ได้มาเพราะดวง หรือจังหวะอย่างเดียว
ถ้าได้อ่านพวกข่าว พวกรายละเอียดวิธีคิดของศิลปินแล้ว ผมว่า เคิร์ทไม่ได้เป็นศิลปินที่บ้าระห่ำเฉยๆ ผมว่าชุดความคิดเค้าดี
ดังนั้นงานมันถึงออกมาดีแบบนี้นั่นแหละ ใช่ว่าจะขายความดิบ ขายตัวตนอย่างเดียว
คนดวงดีที่ดังเพราะดิบอย่างเดียวโอกาสมันน้อยมาก
(มีเขียนต่อด้านล่างจ้า)
[CR] [โคตรอัลบั้มครองพิภพ] No.1000 Nirvana - Nevermind ตำนานผู้ก่อให้เกิดตำนาน
ทุกวันนี้มีเพลงใหม่ๆ เกิดขึ้นมามากมายจากศิลปินใหม่ในยุคปัจจุบัน
ที่มีช่องทางในการนำเสนอผลงานได้มากมายกว่าคนในยุคเก่ามากนัก
แต่ถึงแม้กาลเวลาจะผ่านไปนานสักแค่ไหนก็ตามก็ไม่อาจทำลายความคลาสสิค
และความยอดเยี่ยมของเพลงและผลงานอัลบั้มเก่าๆในอดีต
ที่เคยได้ออกมาให้คนที่อาศัยอยู่ในช่วงเวลาเหล่านั้นได้ฟังและมีความสุขไปกับมัน
เพลงนี่เป็นสิ่งหนึ่งที่แปลกบนโลกนี้ที่ ยิ่งเก่ายิ่งเจ๋ง ยิ่งผ่านไปนานยิ่งมีค่า ซึ่งแปรผกผันกับวัตถุอื่นๆบนโลกนี้ที่ยิ่งเก่ายิ่งเสื่อมราคา
และด้วยปริมาณที่มากมายของเพลงและศิลปินให้เราได้เลือกฟังกันสะดวกสบายในทุกวันนี้
ผมยิ่งเสียดายมากๆ ถ้าคนรุ่นใหม่ๆ หรือแม้กระทั่งคนรุ่นผมเองก็ตาม ต้องพลาดงานเก่าๆดีๆเหล่านั้น ที่กาลเวลาทำลายมันไม่ได้
เพราะงั้นผมจึงเกิดความคิดที่อยากจะนำผลงานเก่าเหล่านั้นมานั่งเปิดฟังและรีวิวพูดถึง และแนะนำอีกครั้ง
.. เผื่อคนที่ยังไม่เคยฟัง จะได้ลองมาฟังและไม่พลาดงานดีๆเหล่านี้
.. เผื่อคนที่เคยฟังมาแล้ว และยังคงคิดถึงมันอยู่ในก้นบึ้งของหัวใจ
แต่อาจจะลืมๆมันไปบ้าง จะได้กลับมามีความสุขกับความรู้สึกเก่าๆเหล่านั้น
ผมก็เลยขุดอัลบั้มเก่าเอามาบ่น ด้วยประการฉะนี้ แล
.............................................................................................................
พอแล้วครับ ถือว่าเป็นกระทู้แรกที่จะหาอัลบั้มเก่าๆมาเขียนแล้วกัน เลยอารัมภบทนำซะยาว ก่อนที่จะเขียนรีวิวจริงสั้นนิดเดียว (ฮา)
วันนี้ขุดบั้มเก่ามาพูดถึง งัดมาฟังกันสนุกๆเล่นๆ สำหรับคนที่ไม่เคยฟัง คนที่เคยฟังแล้ว และคนที่อยากศึกษาผลงานเก่าๆแบบผม
อย่างที่เกริ่นไปครับ คนรุ่นหลัง คนเกิดไม่ทัน ผมว่าน่าเสียดายมากๆถ้าจะไม่ได้ฟังงานชุดดีๆเหล่านี้
และผมรู้สึกว่า อัลบั้มเพลงดีๆบนโลกนี้ แมรร่งมีเยอะมากกกก ตามฟังไม่หมดจริงๆ
ดังนั้นผมก็เลยอยากศึกษาเพลงเหล่านี้ให้มันกว้างๆหน่อย
อยากรู้ว่าคนยุคก่อน รุ่นพ่อแม่ รุ่นพี่ของเราเค้าฟังอะไรกันบ้าง ก็เลยผุดไอเดียเขียนนี้ขึ้นมา
อยากได้ลูกเรือสักสิบคน.. เอ้ย ไม่ใช่ อยากนั่งเขียนให้ถึงพันอัลบั้มเลย ถ้ายังไม่ตายซะก่อนนะ ก็หาเพลงเก่ามาศึกษาไปเรื่อยๆ
ใครสนุกนึกอยากทำแบบผมก็ได้นะ ไม่ว่ากัน จะลองหาอะไรดีๆฟังไปเรื่อย เพราะผมเชื่อว่า มันต้องมีเพลงเพราะอีกเพียบที่เรายังไม่รู้จักมันแน่ๆบนโลกนี้
ประเดิมศักราช คงต้องหาอัลบั้มที่มันเป็นโคตรของโคตรตำนาน นึกไปนึกมา
ก็คงหนีไม่พ้นสิ่งที่จะลากมาเขียนวันนี้นั่นก็คือ Nirvana นั่นเอง
ผมขอเลือกจิ้มเอาอัลบั้ม Nevermind เอามาเขียน เพราะอย่างที่รู้ๆกันว่า
มันเป็นตำนานหน้าหนึ่งของวงการเพลงไปแล้ว เลยขอเลือกมาเจิมชุดแรกแล้วกัน
ผมว่าอัลบั้มนี้เหมาะสำหรับการฟังเพื่อศึกษาเอามากๆ คือฟังเอามันส์ เอาสนุกนั่นมันชัวร์อยู่แล้ว
แต่ผมสนใจอัลบั้มนี้ในฐานะ "ต้นแบบ" ที่เป็นโรลโมเดลให้กับ
ศิลปินทั่วทั้งโลกนี้นั่นเอง มันถึงมีค่าควรแก่การเขียนถึงมากๆ
กล่าวคือ Nirvana Nevermind นี้ออกมาในปี 1991 ซึ่งผู้เขียนเองก็อยู่แค่ ป.2 เอง
ตอนนั้นยังไม่ได้เริ่มฟังเพลงเลยด้วยซ้ำ ยังท่องสูตรคูณแม่แรกๆอยู่เลย
เพราะงั้น ในยุคนั้นผมก็บอกเลยว่า ผมเกิดไม่ทัน แต่แน่นอนว่า เสียงร่ำลือ คำชม มันมีมากมายพอๆกับดาวบนท้องฟ้าสำหรับงานชุดนี้
ตอนนี้เกิดมาพอที่จะฟังเพลงรู้เรื่องบ้างแล้ว เลยขอเลือกมาฟังดูแล้วกันว่า
ทำไมคนในยุคนั้นถึงได้นิยม และยกให้เป็นไอดอลกันขนาดนั้น
รวมถึงตำนานอย่าง เคิร์ท โคเบน ด้วย
Nirvana นี่ถือเป็นวงเจ้าพ่อก็คงว่าได้สำหรับเพลงแนวกรันจ์ หรือบางทีก็เรียกซีแอทเทิลซาวด์นั่นเอง
ซึ่งก็มีจุดกำเนิดและการผสมผสานมาของดนตรีแนว
เฮฟวีเมทัลในส่วนของความหนักหน่วงด้านดนตรี
และผสมความดิบๆ ง่ายๆ แอนตี้ฮีโร่มาจากพวกสาย พังค์ นั่นเอง ดังนั้นกรันจ์ก็จะมีริฟกีต้าร์ที่เป็นเอกลักษณ์มากคือดิบๆตรงๆ มันส์ๆ
ในขณะที่เนื้อเพลงแนวประชดประชันเสียดสีด่าสังคม ก็จะมาจากทางสายพังค์นั่นเอง
ซึ่งก็นึกภาพไปประมาณนี้ผมคงไม่ลงลึกมากเพราะไม่ได้ความรู้ด้านประวัติศาสตร์ดนตรีเยอะ
แต่ถ้าจะให้พูดถึงให้นึกภาพออกง่ายๆเลยให้นึกภาพพวกกรันจ์ออกสำหรับคนฟังคนไทย
ก็ให้นึกถึงเพลงยุคอัลเทอร์เนทีฟรุ่งเรือง เพลงร็อคไทยในยุค90s นั่นแหละ ใช่เลย
แทบทุกวงได้รับอิทธิพลมาจากงานเพลงกรันจ์ร็อคทั้งนั้น
ร็อคเก่าๆนั่นแหละ กรันจ์เพียบเลย อย่างวายน็อต แบล็คเฮด โลโซ นั่นก็ใช่ทั้งนั้น
ผมถึงได้เขียนไว้จั่วหัวว่า นี่มันคือ ตำนานที่ก่อให้เกิดตำนานหน้าอื่นๆบนโลกใบนี้นั่นเอง เหมือน Legend of Legends นั่นแล
Nirvanaเป็นต้นแบบและเป็นอิทธิพลให้กับวงการเพลงไทย และศิลปินที่เป็นไอดอลของเราอีกทีหลายต่อหลายวงมาก
นั่นแหละผมถึงคิดว่างานชุดนี้มันโคตรจะน่าศึกษา น่าฟังเลยว่ามันเป็นแรงบันดาลใจให้กับใครบ้าง
งานชุดนี้เป็นอัลบั้มที่2ของวง และก็เป็นงานแรกที่ได้ร่วมงานกับเฮียโกรลห์ Dave Grohl นั่นเอง
ซึ่งยอดขาย และรางวัลต่างๆก็ถล่มทลายเลย สมศักดิ์ศรีงานระดับนี้จริงๆ
นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมวงนี้ถึงยังอยู่ในหัวใจใครหลายๆคนจนทุกวันนี้
และแม้การเสียชีวิตของเคิร์ทจะสร้างความสะเทือนใจให้กับแฟนเพลง
แต่เขาไม่เคยตาย เขากลายเป็นอมตะอยู่ในบทเพลงเหล่านี้แล้ว และมันยังถูกส่งต่อไปยังอนาคตอีกไกลแสนไกลเลย
ผมคิดว่า อย่างน้อยที่สุดก็จนกว่ามนุษยชาติจะสูญพันธุ์นั่นแหละ ใครจะอยู่ใครจะตายไม่รู้ แต่เคิร์ทเป็นอมตะในบทเพลงไปแล้ว
เอาเป็นว่ารายละเอียดอื่นๆ ผมคงจะรู้ไม่ลึกเท่ากับแฟนเพลงเดนตายพันธุ์แท้ของจริงของNirvanaไม่ได้
ใครสนใจลองไปศึกษาที่ท่านอื่นๆ หรือนิตยสารดนตรีเคยเขียนไว้นะครับ หรือไปที่เพจ เสพย์สากล ก็ได้
เพจนั้นผมติดตามอยู่ ไม่ได้มาโปรโมทให้นะ แต่เพจพี่แกเขียนถึงNirvanaกับ Oasisบ่อยๆ (ฮา)
ใครชอบเกร็ดเชิงลึกของเพลงสากล ไปติดตามเค้าเถอะครับ
อย่าง ไอ้เด็กโชว์ช้างน้อยบนหน้าปกNevermindที่ชื่อสเปนเซอร์ เอลเดน นี่ปัจจุบันนี้ก็เป็นศิลปิน เป็นต้น
แต่ก่อนที่รีวิวมันจะยาวไปกว่านี้
ไปเข้าที่ตัวอัลบั้มเลยแล้วกัน (ฮา) อยากแนะนำครับ ต้องแนะนำจริงๆ สำหรับคนยังไม่เคยฟังนะ
งานชุดนี้มี 12 เพลง แถมด้วย 1 hidden track อีกเต็มสตรีม แนวดนตรี .. เอิ่ม นี่กรันจ์ไงจำไม่ได้เหรอ
ทั้งอัลบั้มนี้มีความเป็นอัลบั้มอยู่สูงมาก แต่ละเพลงไม่มีหลุดธีมจากกัน รับรู้ได้ทันทีว่างานการทำอัลบั้มสมัยก่อน
มันไม่ได้ทำแยกเป็นเพลงๆ ขายเป็นแทร็คๆทีละนิดๆ ปีละเพลงเหมือนทุกวันนี้
เพลงทั้งสิบกว่าเพลงมีทั้งเพลงเร็ว เพลงกึ่งๆมีเดียม เพลงดิบมาก เพลงดิบกว่า เพลงมันส์สะใจ
เพลงช้าถือว่ามีเพลงเดียว อยู่ท้ายอัลบั้มนั่นแหละ ก่อนที่จะต้องนั่งฟังเสียงจิ้งหรีดเปล่าๆหลังจากแทร็ค12ไปอีกร่วมสิบกว่านาที
เพื่อที่จะได้ฟัง Hidden Track ที่เค้าได้แอบซ่อนไว้
(โหดสัส สิบกว่านาทีสมัยนั้น ฟังจากเทปนี่อย่างนาน กรอก็ไม่ได้ด้วยเพราะไม่รู้ตรงไหน
เครื่องกรอแบบที่ล็อคตำแหน่งต้นเพลงได้สมัยนั้นก็มีน้อย)
เพลงทั้งหมดก็มีดังต่อไปนี้ ทั้งหมดแต่งโดย เคิร์ทคนเดียวล้วนๆยกเว้นบางเพลง
"Smells Like Teen Spirit" (Cobain, Dave Grohl, Krist Novoselic)
"In Bloom"
"Come as You Are"
"Breed"
"Lithium"
"Polly"
"Territorial Pissings" (Cobain, Chet Powers)
"Drain You"
"Lounge Act"
"Stay Away"
"On a Plain"
"Something in the Way" จากอีนี่ต้องนั่งฟังเสียงจิ้งหรีดไปอีกสิบนาที จนถึง hidden track คือ Endless Nameless
จากการฟังทั้งอัลบั้มนี้แล้ว คงต้องบอกว่า ชอบทั้งชุด ชอบทุกเพลงจริงๆ
อย่างแรกก่อนเลยคือ ดนตรี ก็อย่างที่บอกครับ มันเหมือนเป็น mother science แห่งวงการดนตรีเลยนะ
มันเป็นoriginalจริงๆของกรันจ์ คือแม้ว่ากรันจ์จะเกิดมาจากแนวอื่นก็ตาม แต่ชุดนี้ผมว่า มันเป็นตัวของตัวมันเองสูงมาก
ริฟกีต้าร์ที่ไม่ทึบมากเท่าเมตั้ลหูเหล็ก ทำให้มันไม่หนักมากเกินไป ความดุดันนั้นจะเน้นสาดเอามันส์ สะใจ แต่ไม่สะเปะสะปะ
ไม่เหวี่ยงเท่าพังค์ มันมีแพทเทิร์นของมันอยู่ ลูกกลองในอัลบั้มนี้นี่ทีเด็ด ตัวเยี่ยมน่าศึกษาเลยล่ะ
ส่วนเบสที่สามารถเอากลองกับกีต้าร์ระดับนี้อยู่ มันไม่ธรรมดาเลย เหนียวแน่นสุดๆ แถมมีอะไรอยู่ในตัวเยอะ
จุดเด่นอีกอย่างคือสไตล์การร้องและออกแบบเมโลดี้ของเคิร์ทที่ ฟังปุ๊บ รู้เลย มีคนเดียวแน่ๆ
เมโลดี้แบบนี้ เสียงเมาๆแบบสตรองแบบนี้ การออกแบบทำนองที่มีจุดที่เป็นลายมือของเคิร์ทอยู่สูงมาก
อันนี้ก็เป็นจุดเด่นของชุดนี้เหมือนกัน
งานชุดนี้เป็นต้นแบบให้กับศิลปินร็อคยุคนั้นทั้งโลกแบบเยอะมาก แน่นอนว่ารวมถึงประเทศไทยด้วย
ถ้าลองฟังชุดนี้ดูก็จะคุ้นๆเพียบเลย ลองไปนั่งฟังๆดู
จากหนึ่งความหาญกล้าของวงนี้ที่กล้าลุยงานดนตรีแหวกแนวออกมา ส่งต่อให้เป็นเปลวไฟบนเทียนอีกล้านเล่มบนโลกนี้
มันไม่ธรรมดาจริงๆ แต่ในความสุดยอดนี้มันก็ไม่ได้มาเพราะดวง หรือจังหวะอย่างเดียว
ถ้าได้อ่านพวกข่าว พวกรายละเอียดวิธีคิดของศิลปินแล้ว ผมว่า เคิร์ทไม่ได้เป็นศิลปินที่บ้าระห่ำเฉยๆ ผมว่าชุดความคิดเค้าดี
ดังนั้นงานมันถึงออกมาดีแบบนี้นั่นแหละ ใช่ว่าจะขายความดิบ ขายตัวตนอย่างเดียว
คนดวงดีที่ดังเพราะดิบอย่างเดียวโอกาสมันน้อยมาก
(มีเขียนต่อด้านล่างจ้า)