Autumn in Normandy and the Loire Castles II ฤดูใบไม้ร่วง ณ นอร์มังดีและปราสาทแห่งลุ่มแม่น้ำลัวร์

4 สหายพาขับรถลุยฝรั่งเศสตะวันตก 4 วัน 4 คืน จาก Paris สู่ Roeun - ผ่าน Honfleur -ไปยัง Caen - Mont Saint Michel – Tours – กลับถึง Paris
ตอนที่ 1 Roeun
Link  http://ppantip.com/topic/34699832
ตอนที่ 2 Honfleur, Beuvron-en-Auge, Caen
ตอนที่ 3 Mont Saint Michel
ตอนที่ 4  The Loire Castles

ตอนที่ 2 Honfleur, Caen, Beuvron-en-Auge

หลังจากเดินเที่ยวเมืองรูอ๊องมาพอสมควร  เป้าหมายถัดไปคือ ขับรถไปหาอาหารเที่ยงกันที่ เมืองอ็องเฟลอร์ (Honfleur)  ซึ่งเป็นเมืองชายทะเลเล็กๆ น่ารักตั้งอยู่บนฝั่งทางตอนใต้ของบริเวณปากแม่น้ำแซน ห่างจากรูอ๊อง 91 กิโลใช้เวลาขับรถประมาณชั่วโมงกว่า  มีที่จอดรถสบายๆ กลับมาค่อยจ่ายเงินเป็นรายชั่วโมง


ท่าเรือ Honfleur เป็นเมืองท่าที่สวยงามและมีชื่อเสียง  มีความสำคัญมากในประวัติศาสตร์ของฝรั่งเศสหลายช่วง เพราะเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญใน “สงครามร้อยปี” (Hundred Years’ War) ระหว่างอังกฤษกับฝรั่งเศส และหลังจากนั้นก็เป็นท่าเรือสำหรับนักเดินทางค้นพบโลกใหม่ในยุโรปหลายคณะ   สมัยสงครามโลกครั้งที่สอง เมืองนี้รอดเงื้อมมือการถล่มของสงคราม ดังนั้นสถาปัตยกรรมจึงอยู่ในสภาพสมบูรณ์  

อีกทั้งเป็นเมืองที่รวมศิลปิน แนวอิมเพรสชั่นนิส (Impressionist) ในยุโรปจำนวนมาก เช่น โมเนต์

สัมผัสเสน่ห์เมืองที่เหมือนภาพวาดในโปสการ์ด  ท่าเรือที่มีตึกเรียงรายหลากหลายสีสันสะท้อนกับผืนน้ำและท่าจอดเรือ วันนี้อากาศดีจริงๆ ท้องฟ้าสีสวย ก้อนเมฆก็ง้ามงาม มีเรือยอร์ชและเรือประมงที่มากไปด้วยสีสันจอดเรียงรายเป็นสิบในอ่าว Vieux Basin


ร้านอาหารมีมากมายที่มีไว้บริการนักท่องเที่ยว  จะนั่งด้านนอกตากแดดชมวิวหรือภายในร้านก็ได้ ท้องร้องแล้วเลือกซักร้านได้เถอะ  เอาร้านที่บรรยากาศดีๆ มีคนในร้านพอสมควร  ตามประสาคนไทยที่กลัวแดดวิ่งเข้าในร้านเลย  

มาที่นี่ต้องลิ้มลองอาหารทะเลสดๆ โดยเฉพาะหอยแมลงภู่อบที่เห็นสั่งกันทุกโต๊ะและเครื่องดื่มท้องถิ่นอย่าง Calvados (บรั่นดีแอบเปิ้ล)และ Pommeau (เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ผสม calvados กับน้ำผลไม้)

มาทั้งทีต้องลองนะคะ แรงใช้ได้ทีเดียวสำหรับ Calvados

หลังจากท้องอิ่มเราจะพาเดินชมโบสถ์เก่า Sainte-Catherine ทีสร้างตั้งแต่ศตวรรษที่ 15  ชื่นชมในความงดงามของตัวอาคารที่สร้างขึ้นด้วยประติมากรรมจากไม้ทั้งหลัง ซึ่งแตกต่างไปจากโบสถ์อื่นๆ ในยุโรปที่เป็นอิฐและปูน

ถือเป็นโบสถ์ไม้ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศฝรั่งเศสค่ะ

ความน่าสนใจอีกประการหนึ่งของโบสถ์แห่งนี้คือ สร้าง “หอระฆัง” แยกจากตัวอาคารหลัก อยู่คนละฟากถนนกันกับโบสถ์ ถือเป็นของแปลกที่ไม่ค่อยเจอวิธีการสร้างหอระฆังแบบนี้เท่าไรนักในยุโรป


ดื่มด่ำกับบรรยากาศเมืองนี้ราว 2 ชั่วโมง ไปต่อกันเลยนะค่ะ ห่างไปราว 47 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 40 นาที แวะที่หมู่บ้านเล็กๆ ชื่อ

Beuvron-en-Auge  เป็นหนึ่งในหมู่บ้านที่สวยที่สุดของฝรั่งเศส อยู่ ใน Calvados นอร์มังดี


เกือบทุกบ้านที่นี่จะสร้างขึ้นในสไตล์ครึ่งไม้ที่งดงาม และมีชื่อเสียงในนอร์มังดี  



อีกทั้งดอกไม้อันงดงาม


เดินเล่นชิวๆ ถ่ายรูปสักชั่วโมง

แล้วอย่าลืมเข้าร้านชิม Calvados และ Pommeau ซึ่งทำจกแอปเปิ้ล เลยซื้อติดมือกลับเมืองไทยซักคนละขวดสองขวด


เดินทางอีก ราวครึ่งชั่วโมงก็ถึงเมืองก็อง (Caen)  รีบเชคอินเข้าโรงแรมซึ่งมีครัวด้วย พวกเราเลยรีบไป supermarket พร้อมเครื่องปรุงสารพัดที่นำมาจากเมืองไทยทำอาหารไทยอร่อยๆ กินกันดีกว่า
เมืองก็อง (Caen) เป็นเมืองหลวงของ กาลวาโดสและเมืองหลวงของแคว้นบัส-นอร์มังดี ที่นี่เป็นเมืองทางประวัติศาสตร์สำคัญเพราะเป็นเมืองที่พระเจ้าวิลเลี่ยมที่ 1 อาศัยอยู่ตั้งแต่เล็ก
ขอเล่าประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจของ พระเจ้าวิลเลี่ยมที่ 1 หรือ วิลเลี่ยมผู้พิชิต (William the Conqueror) สักนิด พระองค์ทรงเป็นลูกนอกสมรสของดยุคแห่งนอร์มังดี  ได้รับแต่งตั้งเป็นดยุกวิลเลียมแห่งนอร์มังดีเมื่ออายุได้เพียง 8 ปีและแต่งงานกับ สมเด็จพระราชินีมาทิลดา แห่งฟลานเดอร์ ในปี ค.ศ. 1053 ดยุกวิลเลียมเป็นญาติห่างๆ กับมาทิลดา เพื่อเป็นการไถ่บาปจากการแต่งงานกับญาติ (consanguine marriage) ดยุกวิลเลียมก็ทรงสร้าง Abbaye-aux-Hommes และ Abbaye aux Dames ซึ่งเราจะได้ไปเที่ยวกันวันพรุ่งนี้
พระองค๋ทรงอ้างสิทธิ์ที่พระเจ้าเอ็ดเวิร์ด กษัตริย์อังกฤษ ได้ทรงสัญญาว่า ถ้าสิ้นพระชนม์จะให้พระเจ้าวิลเลี่ยมครองราชย์ แต่แฮโรลด์ ดยุคแห่งเวสเซกซ์ กลับได้รับเลือกเป็นกษัตริย์ต่อไป  วิลเลี่ยมจึงบุกอังกฤษและปราบแฮโรลด์ได้ ในยุทธการเฮสติงส์ (Battle of Hastings) ซึ่งเชื่อกันว่าพระเจ้าฮาโรลด์ ทรงถูกยิงทะลุพระเนตรจนสวรรคตในปี ค.ศ.1065 และพระเจ้าวิลเลี่ยมเชื้อสายฝรั่งเศส ได้เข้ามามีอำนาจในอังกฤษ สวมมงกุฎกษัตริย์อังกฤษ และในไม่ช้าก็ได้ยึดครองตลอดทั้งประเทศ

วันที่ 3 เพื่อไม่ให้เสียเวลาเรารีบเช๊คเอาท์จากโรงแรมแต่เช้า แล้วขับรถเที่ยวกัน  เมืองก็องเป็นเมืองสงบ เต็มไปด้วยเสน่ห์แบบคลาสสิค ผู้คนไม่พลุกพล่านนัก สถานที่แห่งแรกที่จะพาไปชมคือ


Abbey of Abbaye Saint Etienne หรือ aux Hommes (The Men's Abbey) หรือโบสถ์ผู้ชาย เป็นของกษัตริย์วิลเลี่ยม สร้างขึ้นในปี คศ.1066 ปัจจุบันเป็นศาลาว่าการเมือง

สิ่งก่อสร้างที่เห็นนี้ถือว่าเป็น masterpiece ทางสถาปัตยกรรมที่มีความสง่างามผสมผสานระหว่างโรมาเนสก์โกธิค (Romanesque Gothic) และ คลาสสิค (classicism)



โบสถ์นี้ซึ่งเป็นที่เก็บหลุมศพของพระราชาวิลเลี่ยม ภายในโบสถ์งดงามมาก

เมื่อมีโบสถ์ผู้ชายก็ต้องมีโบสถ์ผู้หญิง L’Abbaye Aux Dames or The Ladies’Abbey ซึ่งอยู่ไม่ห่างไกลนัก  


ข้างในสวยงามมาก สร้างด้วยหินสีขาว หน้าต่างเป็นกระจกทสีชมพูสมกับเป็นโบสถ์ผู้หญิง

โบสถ์นี้เป็นที่ฝังพระศพของสมเด็จพระราชินีมาทิลดา



ปราสาทเมืองก็องค์(Le Memorial Caen or Les remparts du château) พระราชาวิลเลี่ยมสร้างขึ้นในปี 1060 โดยเป็นปราสาทที่มีกำแพงของป้อมปราการหนาที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรปซึ่งยังคงเก็บรักษาไว้อย่างดี ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์แห่งนอร์มันดี


ชมทัศนียภาพของเมืองจากแนวกำแพงของปราสาทก็อง ที่บ่งบอกถึงความเจริญรุ่งเรืองในครั้งอดีต

จากป้อมปราการมองไปเห็น โบสถ์เซนต์ปิแอร์ (St Pierre Cathedral) อยู่กลางใจเมือง

เป็นโบสถ์ โกธิคแฟลมโบแยนผสมเรเนสซองค์ แบบคล้ายๆ นอเตรดามที่ปารีส สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 13-16 ตัวหอคอยโบสถ์สูง 80 เมตร


ขับรถชมเมืองเก็บภาพงามๆ มาฝากกันจนบ่าย ได้เวลาเดินทางไปยังเมืองต่อไป Mont Saint Michel
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่