สนใจเรียนแพทย์แผนไทย (แต่ต้องเรียน part-time ค่ะ) ขอคำแนะนำหน่อยนะคะ

ตามหัวข้อเลยค่ะ จขกท อายุสามสิบกว่าแล้วล่ะ ตอนนี้ทำงานประจำอยู่ ทีนี้อยากเรียนหมอค่ะ แต่อายุเท่านี้แล้วคงไม่สามารถย้อนกลับไปเรียนเหมือนเด็กๆ ได้อีก ตอนนี้เลยมองๆ แพทย์แผนไทยไว้ค่ะเพราะน่าจะเป็นไปได้มากที่สุด เลยอยากขอคำแนะนำด้วยค่ะ

เงื่อนไขมีตามนี้ค่ะ

1. เราอยู่กรุงเทพฯ ทำงานประจำที่สาทรค่ะ (ดังนั้นเดินทางได้ทั้งทางรถทางเรือ)

2. เราไม่ได้คิดจะทำงานสายงานนี้เป็นหลัก แต่อยากมีความรู้ติดตัวเพื่อสามารถช่วยเหลือรักษาคนอื่นได้ค่ะ

3. ถ้าเป็นไปได้ อยากเรียนในที่และหลักสูตรที่สามารถสอบใบประกอบฯ ได้ (กันไว้ก่อนค่ะ แต่จุดนี้ไม่ซีเรียสมากเพราะไม่ได้จะยึดเป็นอาชีพ)

4. เท่าที่หาข้อมูล มีอยู่ 4 สาขา ทุกคนบอกว่าเรียนพร้อมๆ กันได้ แต่อยากถามความจำเป็นค่ะ เพราะเราเรียนได้แต่ part-time ด้วยเวลาเลยคิดว่าไม่น่าจะเรียนได้หมด (หรือเปล่า?) ช่วงเวลาที่เรียนได้คือ หลักเลิกงานตอนห้าโมงครึ่งที่สาทร หรือเสาร์อาทิตย์ค่ะ

5. ความสนใจหลักคือ การตรวจโรคกับการนวดเพื่อรักษาค่ะ (สมุนไพรก็สนใจ แต่เราเป็นคนกรุงเทพฯที่เกิดมากับตึก แทบไม่รู้เรื่องสมมุนไพรหรือสรรพคุณอันใด น่าจะเป็นเรื่องที่ไม่ถนัดสุดๆ เลยแหละ)

6. เราเป็นโรคที่หลัง ไม่สามารถออกกำลังกายอย่างอื่นได้นอกจากว่ายน้ำ และไม่ควรใช้แรงมากค่ะ (บอกไว้เผื่อ แต่ไม่รู้เกี่ยวข้องกับการเรียนหรือเปล่า)

7. ระยะเวลาเรียนจริงๆ ไม่อยากเกินสามปีค่ะ ที่จริงไม่ได้รีบร้อน อยากเรียนเพื่อรู้ แต่เพราะเป็นโรคที่หลัง ทำให้เราต้องฮึดมากกว่าธรรมดา ถ้าเรียนแบบไม่ได้หยุดพัก (เช่น ทั้งเสาร์และอาทิตย์) ร่างกายเรานี่แหละจะรับไม่ไหว เราเคยเรียนป.โทลักษณะนี้อยู่ อึดมาได้เกือบ 2 ปีค่ะ ดังนั้นคิดว่า 3 ปีคงเอาอยู่ แต่เกินจากนี้ ร่างกายเราเดี้ยงแน่

8. เกือบลืม เราเรียนศิลป์-ภาษาค่ะ เพราะงั้นพวกวิทย์ม.ปลายไม่ได้เรียน

คำถาม

1. เงื่อนไขแบบด้านบน เราควรเรียนสาขาไหนดีคะ (ด้วยใจ อยากเรียนทุกสาขา แต่ด้วยเวลาเราต้องเลือกอันใดอันหนึ่งหรือเปล่าไม่แน่ใจ)

2. เราควรเรียนที่ไหนที่ไปสู่เป้าหมายเราได้คะ (ได้รับการรับรอง และสามารถสอบใบประกอบฯได้)

3. จำเป็นต้องใช้วุฒิทางสายวิทย์ไหมคะ (เอาจริงๆ วุฒิม.ปลายไม่รู้ไปอยู่ไหนแล้ว ใช้วุฒิป.ตรีทางภาษาสมัครแทนได้ไหมคะ) ถ้าไม่ได้และจำเป็นต้องไปเรียนให้ได้วุฒิม.ปลายสายวิทย์ จะได้เริ่มต้นถูกค่ะ

ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคำแนะนำค่ะ อยากเรียนหมอตอนอายุเยอะแล้วนี่คิดแล้วคิดอีกว่ามันช้าเกินไปไหม แต่ไม่อยากยอมแพ้จนกว่าจะเห็นว่าเป็นไปไม่ได้น่ะค่ะ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
คำถามนี้ต้องตอบยาว ๆ คับ


ที่เรียนแพทย์แผนไทย โดยมากจะอยู่ในกทม.ครับ เลือกได้เลยใกล้ที่ไหนไปที่นั้น แต่ละที่จะเด่นต่างกัน เช่น เด่นเวชกรรมปฎิบัติ เด่นเภสัชกรรมปฎิบัติ เด่นนวดปฎิบิต บางที่ก็เด่นด้านวิชาการ แต่ควรดูสถานที่ได้รับรองจากสภาการแพทย์แผนไทย นะคับ หรือ อีกกรณี ถ้าอยากได้ปริญญาอีกใบ แนะนำลงเรียน รามคำแหง ภาควิชาแพทย์แผนไทย ไม่ก็ มสธ.(คาดว่าเปิดรับนักศึกษาอีกครั้งภาคการศึกษาหน้า)  ซึ่งต้องตอบตัวเองว่าอยากได้แบบไหน ต่างกันตรง ระบบปริญญา จะต้องเรียนวิชาพื้นฐานแบบที่เราเคยเรียนในมหาลัยด้วย แต่....กรณีคุณ แผนไทยประยุกต์จะไม่สามารถนะครับ เพราะว่าไม่ได้จบวิทย์คณิต ซึ่ง แผนไทยจะแบ่งเป็นสองสาขาใหญ่คือ ไทย กับ ไทยประยุกต์ และในแผนไทย จะแบ่งย่อยเป็นกลุ่มหลัก 2 กลุ่ม ที่คนปกติสามารถขอใบประกอบได้โดยการเรียนแล้วสอบ คือ แผน ก กับ แผน ข

แผน ก คือ กลุ่มสถาบันแพทย์แผนไทย โรงเรียนแพทย์แผนไทย และคลีนิคแพทย์แผนไทย ที่เปิดรับสอนแพทย์แผนไทย ซึ่ง ระบบนี้จะไม่ต้องเรียนวิชาพื้นฐานของมหาวิทยาลัย เช่น ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ สังคม พละ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ แต่พื้นฐานการแพทย์แผนปัจจุบัน มีเรียนนะครับ แต่ไม่เข้มข้นเท่ามหาวิทยาลัย

แผน ข คือ กลุ่มมหาวิทยาลัยที่สอนแพทย์แผนไทย โดยต้องเรียนวิชาพื้นฐานทั่วไป พื้นฐานการแพทย์แผนปัจจุบัน และก็วิชาเฉพาะทางแพทย์แผนไทย

ซึ่งทั้งสองแผนกจะแบ่งแยกใบประกอบโรควิชาชีพเป็น 4 สาขาคือ
1 สาขาเวชกรรม เป็นสาขาใหญ่สุดที่ถ้าสามารถสอบผ่านจะควบคุมการรักษาได้ทั้งหมดทุกสาขาใน 4 สาขา เรียนเกี่ยวกับ ยา สุมนไพร มูลเหตุการเกิดโรค โรคเฉพาะทาง การตรวจร่างกาย การรักษาโดยการนวด การรักษาโดยธรรมชาติบำบัด ซึ่งใบประกอบสาขานี้ จะสามารถเปิดคลีนิคได้ และคุมใบประกอบทั้ง 3 สาขาได้ ซึ่งสาขานี้เรียน 3 ปี

2 สาขาเภสัชกรรม เป็นสาขาใหญ่อีกสาขาถ้าสามารถสอบผ่านจะสามสามารถเปิดร้านขายยาแผนโบราณได้ ทำโรงงานผลิตยาแผนโบราณ ควบคุมการผลิตยาแผนโบราณ การนำเข้ายาแผนโบราณ แต่ไม่สามารถเปิดคลีนิคได้ แต่สามารถจ่ายยาได้ในร้านขายยาแผนโบราณ หรือคลีนิคได้ ซึ่งสาขานี้ เรียน 2 ปี

3 สาขานวด เป็นสาขาเฉพาะทาง ที่เรียนเกี่ยวกับการนวดรักษาอาการ หรือถ้าแผนปัจจุบันจะเทียบเท่า เวชศาสตร์ฟื้นฟู ที่ถ้าสามารถสอบผ่าน จะไม่สามารถเปิดคลีนิคเองได้ ต้องมีใบประกอบวิชาชีพแพทย์แผนไทย สาขาเวชกรรม คู่จึงจะทำคลีนิคด้านนวดได้ เว้นแต่ จะมีแพทย์แผนไทยด้านเวชกรรมควบคุม หรือ สอบได้เองสองใบคู่  ซึ่งสาขานี้เรียน 2 ปี

4 สาขาผดุงครรภ์ เป็นสาขาเฉพาะทาง ที่เรียนเกี่ยวกับการทำคลอด การให้คำปรึกษาคุณแม่ก่อนและหลังคลอด การอยู่ไฟ การทับหม้อเกลือ ที่ถ้าสามารถสอบผ่าน จะไม่สามารถเปิดคลีนิคเองได้ ต้องมีมีใบประกอบวิชาชีพแพทย์แผนไทย สาขาเวชกรรม คู่จึงจะทำคลีนิคด้านผดุงครรภ์ได้ เว้นแต่ จะมีแพทย์แผนไทยด้านเวชกรรมควบคุม หรือ สอบได้เองสองใบคู่  ซึ่งสาขานี้เรียน 1 ปี

ทุกสาขาสามารถเรียนพร้อมกันได้ แต่ เวลาคุณจะไม่ได้เพราะคุณเรียน ได้แค่เสาร์อาทิตย์ หรือ ตอนเย็น ดั้งนั้น กรณีเรียนแผน ก เรียนเสาร์ อาทิตย์ จะเรียนได้แค่ เภสัชกรรม กับ เวชกรรมก็เต็มแล้วครับ ต้องจบใบนี้ก่อนจึงจะเรียนต่อสาขาอื่นได้ เว้นแต่ไปเรียนรามคำแหง ภาคค่ำ ไม่ก็ เรียน มสธ. จะตอบโจทย์ได้มากกว่า แต่ค่าเทอมต่างกันเยอะ และ การเรียนวิชาพื้นฐานจะต่างกัน ความยากต่างกันคนละแบบ

ทีนี้สนใจสาขาการนวดนั้น กรณีเรียนแต่นวดอย่างเดียว จบไปก็ได้แค่นวดรักษา เปิดร้านเองไม่ได้ ดังนั้นจึงบังคับต้องเรียนเวชกรรมอยู่ดี ส่วนเรื่องสมุนไพรไม่ต้องห่วงครับ ไม่รู้จักอะไรเลยก็เรียนได้ ผมนี่หละตัวอย่าง ใบกระเพรากับใบแมงลักยังแยกไม่ออก มารู้ตอนเรียนนี่หละ แต่มันจะเหนื่อยหน่อยเพราะเราไม่มีพื้น ส่วนเรืองสรรพคุณไม่ต้องห่วง ถ้าคุณเรียน จะบอกเลย เรื่องนี้ง่ายสุดละในตำรา อันอื่นนี่ยากกว่าเยอะ เดี่ยวเรียนไป จะท่องได้เอง เพราะมันจะเจอการสอบ การปฎิบัติ การติว มันจะเข้าหัวเองตัวไหนใช้บ่อย ๆ  แต่ทั้งนี้ต้องท่องด้วยนะ เรียนแพทย์ถ้ากลัวท่องอย่าเรียนนะคับ เพราะท่องเยอะชนิดที่ว่าหลอนไปเลย

ต่อมาหลังไม่ดีก็เรียนได้ ผมนี่หละ หมอนรองเคลื่อน ยังเรียนได้เลย แถมเรียนครบสาขาด้วย นวดรักษาคนอื่นด้วย ให้อาจารย์รักษาด้วย ปัจจุบันนิ อาการแทบจะไม่เหลือ มีปวดบ้างเล็กน้อย แต่เราจะรู้ตัวเองดี เพราะเราเรียนมาเราจะรู้อะไร ได้ไม่ได้ แต่เรียนด้วยทำงานด้วยแรก ๆ จะบ่นหนัก ไหนจะเรียน ไหนจะสอบ ไหนจะการบ้าน ไหนจะรายงาน  แต่เรียน ๆ จะพบว่าเพื่อนร่วมชั้นหลายคน เป็นคนทำงานสายวิชาชีพ เช่น แพทย์ พยาบาล นักกายภาพ เภสัช ลงเวรเช้ามาเรียนต่อ กลับไปนอนสี่ห้าชม. ขึ้นเวรต่อมากมาย พอเจอคนพวกนี้เราจะรู้สึกเลยเรานี่เบา ๆ และสุดท้าย จบศิลป์ภาษาเรียนได้ไหม ตอบเลยได้ครับ ผมก็จบศิลป์ ภาษา แถม ป.ตรี เรียน pure art ซึ่งไม่เกี่ยวกับการแพทย์เลย ศิลปะล้วน ๆ ที่เรียน แต่จบสายนี้นะดี เวลาวางยาคนไข้รักษาคนไข้มันจะมองได้ไม่เหมือนคนอื่นดี ผมยังเรียนจบสอบผ่านได้ใบเลยครับ แต่บอกเลย วางไว้สามปี จบตามหลักสูตร แต่ไม่เพียงพอต่อการสอบใบประกอบวิชาชีพนะคับ เพราะสอบยากมาก ๆๆๆๆๆๆๆ โดยเฉพาะเวชกรรม สอบผ่านน้อย พอ ๆ กับ การสอบผู้พิพากษา สอบเป็นพันได้ไม่ถึงร้อย ประมาณนี้หละครับ

ส่วน แผน ก อย่างไปคิดว่าวุฒิเทียบเท่า อนุปริญญานะ เพราะคนเรียนมีตั้งแต่คนปกติ ยัน ดร. ยันหมอ พยาบาล อีกอย่าง แผนกนี้ เขาเอาคนจบการศึกษาแค่ภาคบังคับครับ เพราะ เขาจะให้หมอโบราณตาม ตจว. เข้าระบบ จึงไม่ระบุจบสูงมากนัก หมอที่มาสอนแผน ก จึงมีหมอพื้นบ้านที่สอบผ่านใบประกอบมาสอนอยู่เยอะครับ ซึ่ง ก น้อยคนจะข้ามไลน์ไปสอน ข ด้วยเงื่อนไข ของ สกอ.ที่วางไว้ ดังนั้นแผน ก นี่เหมือนเรียนราม รับหมด สอบผ่านได้ใบน้อยไม่ขยันจริง ไม่รู้จริง ไม่ได้เป็นหมอ ซึ่งก็เห็นด้วยเพราะชีวิตคนไม่ใช่เรื่องเล่น ส่วน ข หรือไทยประยุกต์ ผ่านใบประกอบเยอะ เพราะเขาคัดกรองมาแล้วตอนสอบเข้ามหาลัย เลยได้ใบกันเยอะตอนเรียนจบ


สรุป
ให้ลงเรียนสี่สาขาไปเลยหละ จะสอบครบหรือไม่ค่อยว่าเพราะเราไม่รู้จะชอบอะไรบ้าง ตอนสอบค่อยมาเลือกสอบวิชาเฉพาะทางทีหลัง แต่ ให้ลง เวชกรรม กับ เภสัชกรรมให้ผ่านก่อน เพราะเป็นใบหลัก แล้วค่อยตามด้วย นวด ผดุง เพราะสองสาขาหลัง ไม่ได้ใบเวชก็เท่านั้นทำไรไม่ได้ เพราะเวชกรรมเรียนทุกอย่างเลย แต่ไม่ลงลึกสักอย่าง จึงมีใบเฉพาะทางมาให้เรียน ทีนี้ต้องดูทางโรงเรียนว่าจะมอบตัวให้สี่ขาเลยไหม บางที่ได้สองสาขา บางที่ได้สาม บางที่ได้สี่  บางทีเป็นระบบเหมาจ่าย จ่ายทีเดียวส่งสอบทุกสาขา บางทีจ่ายแยกเป็นสาขา บางที่เรียนสองวัน บางที่เรียน หนึ่งวัน บางที่เรียน สามวัน สำหรับกรณีแผน ก นะครับ ส่วนสถานที่ ก็มี ของกระทรวง หมอนภา ภัทรเวช เนตรดาว วัดทินกร วัดโพธิ์ ที่นึกออกตอนนี้นะครับ ลองดูในเนทละกันครับ ไม่เข้าใจอะไร ก็หลังไมค์นะครับ

ส่วน แผน ข ก็ไปลงที่รามคำแหงเลยคับ ภาคค่ำ น่าจะเปิดรับสมัครละ ลองสอบดู น่าจะได้นะ แต่ค่าเทอมโหดมาก

ส่วนไทยประยุกต์ หมดสิทธิ์ เพราะต้องไปสอบแข่งกับเด็กวิทย์คณิต ยื่น o net แถมคะแนนสูงมาก พอ ๆ กับพยาบาล เภสัช
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่