ขอรบกวนพื้นที่ระบายนะครับ
ผมเข้าใจดีครับว่าการปลูกพืชใช้สารเคมีมันมีผลดีผลเสียอย่างไร.
แต่ที่ผมจะมาขอคำแนะนำจากเพื่อนๆ ในที่นี้...คือว่า...
พ่อตาแม่ยายและน้องเมียผมแอนตี้สารเคมีมาก...แม้กระทั่งปุ๋ยเคมีและผงชูรส
ก็เป็นเรื่องดีครับ..ที่ไม่ชอบสารเคมีและผงชูรส...ผมเองก็เห็นดีเห็นชอบในเรื่องนี้
ปีใหม่ที่ผ่านมา..ผมไปบ้านและพยายามปลูกฟักทอง 200 หลุม และต่อท่อ พีอี. ทำน้ำหยด เจาะบ่อต่อปั๊มให้
ยอมรับเลยครับว่าผมใส่ปุ๋ยรองพื้น 15-15-15
แต่ผมก็ใช้ปุ๋ยหมักปุ๋ยคอกร่วมด้วย (ซื้อถุงปุ๋ยละ 50)
เพราะดินที่ใช้ปลูกนั้น ดินทราย 80% ดินร่วน 15% อื่นๆ เวลาดินแห้งนี่ กำแล้วโปรยเป็นทรายเลย (หนองคาย)
เพราะสภาพเวลาหน้าฝน น้ำจะไหลผ่านจากที่สูงค่อยๆ ไหลผ่านที่นาลงที่ต่ำกว่า (ก่อนหน้าฝนนี้ผมพยายามจะขุดทำคันนารอบนาให้ได้)
และปีนี้ ตอนนี้ ฝนกำลังตก ก็กำชับให้คนที่บ้านช่วยหว่านปอเทืองให้ด้วย..
(มีเมล็ดปอเทืองราว 1 กระสอบปุ๋ย) ที่นา 8 ไร่
แบ่งเป็น้องเมียคนละครึ่งเท่ากับคนละ 4 ไร่
วันนี้ผมคุยผ่านไลน์กับเมียว่าช่วยไปตัดยอดฟักทองให้ด้วย
(มีรูประกอบจากเพื่อนๆ ในเฟชนี่แหละครับ)
พูดไปพูดมา..เค้าว่าไม่อยากให้ลูกสาวเค้า (เมียผม) ไปนา..รวมทั้งลูกสาวผม เพราะกลัวสารเคมี
เท่าที่ผมสังเกตดู..พื้นที่รอบข้าง และที่เนินที่เป็นต้นน้ำที่ปลูกสวนยาง นาข้าว ก็ล้วนใช้ยาปราบหญ้าอย่างน้อย 80 % รวมทั้งปุ๋ยเคมี
ผมพยายามสร้างและหัดให้เขาช่วยตัวเองเมื่อผมไม่อยู่บ้าน (ผมทำงาน กทม. กลับบ้านช่วงเทศกาล หรือว่า หยุดยาว สองสามวัน)
ผมเห็นพ่อตาเลี้ยงหมูเหมยซาน อยู่ 4 ตัว รวมแม่ ทำคอก ผมจึงเกิดความคิด ทำหมูหลุม ก็แนะนำให้เขาเอาแกลบค่อยๆ ใส่ ค่อยๆ หั่นกล้วยให้ ผมซื้อแกลบให้ 30 ถุงปุ๋ย และน้ำตาล 3-4 กิโลกรัม บอกว่า ใส่แกลบไปก็ เอาน้ำตาลละลายน้ำ แล้วฉีด ด้วย มันจะได้มีจุลินทรีย์ ช่วยย่อยสลายและไม่มีกลิ่น (ข้อนี้เขารับ)
รอบหน้าผมคงไม่ใช้สารเคมีหละครับ..ก็เอาปุ๋ยจากคอกหมูนี่แหละครับ..
แต่ผมติดตรงที่เขาไม่ยอมให้ลูกเขาไปนาไปสวนเพื่อจะทำแค่นี้เลย...
(ตอนนี้แล้งมาก..แต่มีฝนตกมาวันสองวันท่านๆคงทราบ)
ผมอยากให้เขาช่วยตัวเองบ้าง ช่วยเหลือจะได้ทำเป็น ลำพังจะให้ผมส่งค่าเลี้ยงดูอย่างเดียวผมก็ไม่ไหว..เพราะผมก็อยากให้หลายๆ อย่างที่ผมทำเกี่ยวกับเกษตร (อินทรีย์) มันค่อยๆ พึ่งพาตัวเองได้อย่างง่ายๆ แล้วผมก็จะกลับไปอยู่กับครอบครัว
ผมเลยคุยบอกเมียไปว่า...
แล้วแต่..ช่างเหอะ...พี่ก็จะกลับบ้านตามวันหยุดที่หยุดยาว แล้วก็จะไปทำนั่นๆ นี่ๆ ขุดๆๆๆ ทำไปเรื่อยๆ เหมือนเดิม บลาๆ กับเมียไป
เพราะผมก็พยายามสร้างเกษตรแบบอินทรีย์ให้ได้แต่ก็ยอมรับว่าครั้งนี้ที่ผมใส่ปุ๋ยเคมี (หลุมละ 1 ช้อน) เพราะว่าในดินแทบไม่มีอะไรเลย... และพ่อแม่เค้าก็ไม่ค่อยมีเวลาดูแลและแก่เฒ่า และบ่นปวดขาทุกวัน.. (แต่ก็ต้องทำงานรับจ้างทั่วไป ต่อไฟฟ้า เทปูน ปูกระเบื้องเล็กน้อย) ตามประสาช่างไฟโรงงานเก่า
หมดหนี้สิ้นปีก็คงกลับบ้านไปอยู่กับครอบครัวและทำเกษตรจริงๆ จังๆครับ
อ้อ
น้องเมียเป็นครูอัตราจ้างครับ..อายุประมาณ 30 ปีนิดๆ ครับ
ชอบซื้อส้มตำมาทานครับ..
ลูกสาวพ่อตาแม่ยายผมไม่กินไก่บ้านครับ...
ต้องจับไก่ที่เลี้ยงไว้ที่นาไปขาย..แล้วซื้อไก่ห้าง สีเขียวๆ มาทำกินครับ
น้ำถังละ 20 ลิตร ถ้าถังไหนแกะและรินน้ำออกแล้วน้องเมียผมจะแกะถังใหม่และกรอกใส่ขวดตัวเองเสมอครับ.. บางทีเมียผมต้องแกล้งแกะทุกถัง..
แต่กลับบ้านคราวนี้เห็นมีถังใสสีฟ้า คาดว่าน่าจะซื้อมากินเองต่างหาก
(เปลี่ยนครั้งละ 3 ถัง)
พ่อตา อายุ 67 ปี แม่ยาย 61 ปีครับ
พ่อตากับแม่ยายผมต้องเป็นคนหาเงินจ่ายค่าเน็ต 800 ค่าไฟ 500 ค่าน้ำ 1000 (โดยประมาณ)
หลายอย่าง..มันดูแพงผิดปกติวิสัย โดยเฉพาะค่าน้ำ ไม่รู้ว่าโดนใครแกล้งหรือว่า มิเตอร์มันผิดปกติ...ช่วงก่อนปีใหม่ผมสังเกตเห็นมิเตอร์น้ำชำรุด เสียค่าน้ำไปเกือบ 3000 บาท อ้อ..น้องเมียผมชอบสระผมทุกวัน นานมาก อย่างน้อย ครึ่งชั่วโมงถ้าไม่หนาวนะ (ห้องน้ำห้องครัวห้องเดียวกัน แยกกันห่างๆ หน่อย)
บางทีผมจะทำกับข้าว (ช่วงอยู่บ้านนี่ ต้องไปทำอย่างอื่นก่อนได้เลย)
ห้องน้ำด้านล่างนี่ ฝนตกที..ขี้ลอยเลยครับ ที่ต่ำ เพราะสร้างบ้านก่อนใคร พอใครสร้างทีหลังมักจะสูงกว่า..
พ่อตาผมก็จะคอยปั๊มดูดทิ้งออก ถ้าผมอยู่ผมก็ทำ (เฮ้อ)
ตอนนี้ทะยอย ถมที่นาประมาณ 1 งาน จะทำบ้าน แจะแยกออกมาแล้วครับ
บ่นไป ก็อ่านไม่รู้เรื่องไป..ห้า ห้า ห้า
แต่ผมเชื่อว่าสมาชิกบางคนน่าจะอ่านจนจบนะครับ
ขอแก้ไขเพิ่ม...
เมื่อวานที่คุยกับเมีย...อีกเรื่อง
แม่ยายผมบอกกับเมียผมว่า..
ที่ปอ (ทฤษฎี สหวงศ์) เสียชีวิตก็เพราะ สารยา ตั๊วะนั่น...
ขอโทษครับที่ผมใช้ปุ๋ยเคมี
ขอรบกวนพื้นที่ระบายนะครับ
ผมเข้าใจดีครับว่าการปลูกพืชใช้สารเคมีมันมีผลดีผลเสียอย่างไร.
แต่ที่ผมจะมาขอคำแนะนำจากเพื่อนๆ ในที่นี้...คือว่า...
พ่อตาแม่ยายและน้องเมียผมแอนตี้สารเคมีมาก...แม้กระทั่งปุ๋ยเคมีและผงชูรส
ก็เป็นเรื่องดีครับ..ที่ไม่ชอบสารเคมีและผงชูรส...ผมเองก็เห็นดีเห็นชอบในเรื่องนี้
ปีใหม่ที่ผ่านมา..ผมไปบ้านและพยายามปลูกฟักทอง 200 หลุม และต่อท่อ พีอี. ทำน้ำหยด เจาะบ่อต่อปั๊มให้
ยอมรับเลยครับว่าผมใส่ปุ๋ยรองพื้น 15-15-15
แต่ผมก็ใช้ปุ๋ยหมักปุ๋ยคอกร่วมด้วย (ซื้อถุงปุ๋ยละ 50)
เพราะดินที่ใช้ปลูกนั้น ดินทราย 80% ดินร่วน 15% อื่นๆ เวลาดินแห้งนี่ กำแล้วโปรยเป็นทรายเลย (หนองคาย)
เพราะสภาพเวลาหน้าฝน น้ำจะไหลผ่านจากที่สูงค่อยๆ ไหลผ่านที่นาลงที่ต่ำกว่า (ก่อนหน้าฝนนี้ผมพยายามจะขุดทำคันนารอบนาให้ได้)
และปีนี้ ตอนนี้ ฝนกำลังตก ก็กำชับให้คนที่บ้านช่วยหว่านปอเทืองให้ด้วย..
(มีเมล็ดปอเทืองราว 1 กระสอบปุ๋ย) ที่นา 8 ไร่
แบ่งเป็น้องเมียคนละครึ่งเท่ากับคนละ 4 ไร่
วันนี้ผมคุยผ่านไลน์กับเมียว่าช่วยไปตัดยอดฟักทองให้ด้วย
(มีรูประกอบจากเพื่อนๆ ในเฟชนี่แหละครับ)
พูดไปพูดมา..เค้าว่าไม่อยากให้ลูกสาวเค้า (เมียผม) ไปนา..รวมทั้งลูกสาวผม เพราะกลัวสารเคมี
เท่าที่ผมสังเกตดู..พื้นที่รอบข้าง และที่เนินที่เป็นต้นน้ำที่ปลูกสวนยาง นาข้าว ก็ล้วนใช้ยาปราบหญ้าอย่างน้อย 80 % รวมทั้งปุ๋ยเคมี
ผมพยายามสร้างและหัดให้เขาช่วยตัวเองเมื่อผมไม่อยู่บ้าน (ผมทำงาน กทม. กลับบ้านช่วงเทศกาล หรือว่า หยุดยาว สองสามวัน)
ผมเห็นพ่อตาเลี้ยงหมูเหมยซาน อยู่ 4 ตัว รวมแม่ ทำคอก ผมจึงเกิดความคิด ทำหมูหลุม ก็แนะนำให้เขาเอาแกลบค่อยๆ ใส่ ค่อยๆ หั่นกล้วยให้ ผมซื้อแกลบให้ 30 ถุงปุ๋ย และน้ำตาล 3-4 กิโลกรัม บอกว่า ใส่แกลบไปก็ เอาน้ำตาลละลายน้ำ แล้วฉีด ด้วย มันจะได้มีจุลินทรีย์ ช่วยย่อยสลายและไม่มีกลิ่น (ข้อนี้เขารับ)
รอบหน้าผมคงไม่ใช้สารเคมีหละครับ..ก็เอาปุ๋ยจากคอกหมูนี่แหละครับ..
แต่ผมติดตรงที่เขาไม่ยอมให้ลูกเขาไปนาไปสวนเพื่อจะทำแค่นี้เลย...
(ตอนนี้แล้งมาก..แต่มีฝนตกมาวันสองวันท่านๆคงทราบ)
ผมอยากให้เขาช่วยตัวเองบ้าง ช่วยเหลือจะได้ทำเป็น ลำพังจะให้ผมส่งค่าเลี้ยงดูอย่างเดียวผมก็ไม่ไหว..เพราะผมก็อยากให้หลายๆ อย่างที่ผมทำเกี่ยวกับเกษตร (อินทรีย์) มันค่อยๆ พึ่งพาตัวเองได้อย่างง่ายๆ แล้วผมก็จะกลับไปอยู่กับครอบครัว
ผมเลยคุยบอกเมียไปว่า...
แล้วแต่..ช่างเหอะ...พี่ก็จะกลับบ้านตามวันหยุดที่หยุดยาว แล้วก็จะไปทำนั่นๆ นี่ๆ ขุดๆๆๆ ทำไปเรื่อยๆ เหมือนเดิม บลาๆ กับเมียไป
เพราะผมก็พยายามสร้างเกษตรแบบอินทรีย์ให้ได้แต่ก็ยอมรับว่าครั้งนี้ที่ผมใส่ปุ๋ยเคมี (หลุมละ 1 ช้อน) เพราะว่าในดินแทบไม่มีอะไรเลย... และพ่อแม่เค้าก็ไม่ค่อยมีเวลาดูแลและแก่เฒ่า และบ่นปวดขาทุกวัน.. (แต่ก็ต้องทำงานรับจ้างทั่วไป ต่อไฟฟ้า เทปูน ปูกระเบื้องเล็กน้อย) ตามประสาช่างไฟโรงงานเก่า
หมดหนี้สิ้นปีก็คงกลับบ้านไปอยู่กับครอบครัวและทำเกษตรจริงๆ จังๆครับ
อ้อ
น้องเมียเป็นครูอัตราจ้างครับ..อายุประมาณ 30 ปีนิดๆ ครับ
ชอบซื้อส้มตำมาทานครับ..
ลูกสาวพ่อตาแม่ยายผมไม่กินไก่บ้านครับ...
ต้องจับไก่ที่เลี้ยงไว้ที่นาไปขาย..แล้วซื้อไก่ห้าง สีเขียวๆ มาทำกินครับ
น้ำถังละ 20 ลิตร ถ้าถังไหนแกะและรินน้ำออกแล้วน้องเมียผมจะแกะถังใหม่และกรอกใส่ขวดตัวเองเสมอครับ.. บางทีเมียผมต้องแกล้งแกะทุกถัง..
แต่กลับบ้านคราวนี้เห็นมีถังใสสีฟ้า คาดว่าน่าจะซื้อมากินเองต่างหาก
(เปลี่ยนครั้งละ 3 ถัง)
พ่อตา อายุ 67 ปี แม่ยาย 61 ปีครับ
พ่อตากับแม่ยายผมต้องเป็นคนหาเงินจ่ายค่าเน็ต 800 ค่าไฟ 500 ค่าน้ำ 1000 (โดยประมาณ)
หลายอย่าง..มันดูแพงผิดปกติวิสัย โดยเฉพาะค่าน้ำ ไม่รู้ว่าโดนใครแกล้งหรือว่า มิเตอร์มันผิดปกติ...ช่วงก่อนปีใหม่ผมสังเกตเห็นมิเตอร์น้ำชำรุด เสียค่าน้ำไปเกือบ 3000 บาท อ้อ..น้องเมียผมชอบสระผมทุกวัน นานมาก อย่างน้อย ครึ่งชั่วโมงถ้าไม่หนาวนะ (ห้องน้ำห้องครัวห้องเดียวกัน แยกกันห่างๆ หน่อย)
บางทีผมจะทำกับข้าว (ช่วงอยู่บ้านนี่ ต้องไปทำอย่างอื่นก่อนได้เลย)
ห้องน้ำด้านล่างนี่ ฝนตกที..ขี้ลอยเลยครับ ที่ต่ำ เพราะสร้างบ้านก่อนใคร พอใครสร้างทีหลังมักจะสูงกว่า..
พ่อตาผมก็จะคอยปั๊มดูดทิ้งออก ถ้าผมอยู่ผมก็ทำ (เฮ้อ)
ตอนนี้ทะยอย ถมที่นาประมาณ 1 งาน จะทำบ้าน แจะแยกออกมาแล้วครับ
บ่นไป ก็อ่านไม่รู้เรื่องไป..ห้า ห้า ห้า
แต่ผมเชื่อว่าสมาชิกบางคนน่าจะอ่านจนจบนะครับ
ขอแก้ไขเพิ่ม...
เมื่อวานที่คุยกับเมีย...อีกเรื่อง
แม่ยายผมบอกกับเมียผมว่า..
ที่ปอ (ทฤษฎี สหวงศ์) เสียชีวิตก็เพราะ สารยา ตั๊วะนั่น...