ภูสิงห์ จังหวัดบึงกาฬ : ท่องเที่ยวไปในห้องเรียนธรรมชาติ ฉบับชะโงกทัวร์



สวัสดีครับเพื่อนๆ พี่ๆน้องๆ ลุง ป้า น้า อา ปู่ ย่า ตา ยาย ฯลฯ ชาวมหานครพันทิปทุกท่าน..
วันนี้..ขออนุญาตมาเล่าเรื่องผ่านภาพถ่าย ทริปการท่องเที่ยวแบบชะโงกทัวร์ของผมในช่วงปลายปี 2558 ที่ผ่านมา..
ไม่กล้าที่จะเรียกว่ารีวิว เพราะว่าหาสาระอะไรไม่ค่อยได้เลย 555..
ภาพถ่ายอาจจะไม่สวย, องค์ประกอบไม่ได้, ย้อนแสงบ้าง, ชัดบ้างเบลอบ้าง พอดูได้ ก็ถูๆแถๆ กันไปนะครับพี่น้องคับ..

จุดหมายที่จะนำเสนอในวันนี้..“ภูสิงห์ จังหวัดบึงกาฬ”..ซึ่งเป็นห้องเรียนศึกษาธรรมชาติ ภายใต้การดูแลของกรมป่าไม้ พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติที่ 154 ป่าดงดิบกะลา ป่าภูสิงห์และป่าดงสีชมพู..
โดยมีที่ตั้งคาบเกี่ยวอยู่ระหว่างอำเภอเมืองบึงกาฬ กับอำเภอศรีวิไล จังหวัดบึงกาฬ..

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ท่านสามารถเข้าไปดูรายละเอียดต่างๆ ได้ที่ www.ภูสิงห์.com หรือ http://xn--72c3c4af7b2a1l.com/

การเดินทางไปนั้น ก็แล้วแต่ว่าท่านเริ่มต้นมาจากทางไหน..



สำหรับผม Start ที่หนองประจักษ์ จังหวัดอุดรธานี..ชักภาพเจ้าเปียดเหลือง และลูกๆของมันก่อน..


วิ่งมาเรื่อยๆ ตามทางหลวงหมายเลข 22 (สาย อุดรธานี-สกลนคร) เมื่อถึงอำเภอสว่างแดนดิน ตรงสามแยกไฟแดง เลี้ยวซ้ายออกไปทางอำเภอเจริญศิลป์ ทะลุออกทางหลวงหมายเลข 222 (สาย พังโคน-บึงกาฬ) ผ่านอำเภอคำตากล้า, อำเภอพรเจริญ จนถึงตัวอำเภอศรีวิไล แล้วใช้เส้นทางตามข้อ 2. (บ้านใหม่พัฒนา-ภูสิงห์)


ปากทางเข้าห้องเรียนธรรมชาติ..



ตรงเข้ามาประมาณ 1 กิโลเมตร ก็ถึงบริเวณที่จอดรถ และศูนย์บริการนักท่องเที่ยว..




ลงทะเบียนนักท่องเที่ยว พร้อมช่วยค่าบำรุงรักษาสถานที่ (ตามศรัทธา)..


รถมอเตอร์ไซค์..หมดสิทธิ์ครับ ต้องจอดไว้ที่ลานจอดรถ แล้วเดินเท้า (แง่ว!!!)



1) หากเอารถมอเตอร์ไซค์มา ไม่แนะนำให้เดิน เพราะระยะทางไปจุดชมวิวแต่ละแห่งมันไกลกันมาก..ถ้าจะมาเที่ยวที่นี่จริงๆ ควรวางแผนติดต่อเช่ารถไว้ก่อน (ผ่านเจ้าหน้าที่)
2) หากนำรถยนต์มาเอง จำพวกรถเก๋ง, รถตู้ ไม่สมควรเอาขึ้นไป เพราะสภาพทางค่อนข้างทุรกันดาร และแคบมาก อย่างเก่งก็คงขึ้นไปได้แค่ตัววัดเท่านั้น..



แผนผังการท่องเที่ยวคร่าวๆ โดยเราจะเริ่มต้นจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยว..


แต่ในทริปนี้ ผมมีโอาสได้ไปไกลสุดแค่หินสามวาฬ..เนื่องจากจุดอื่นๆที่เหลือ ต้องเดินเท้า slow life เท่านั้น รถยนต์ไม่สามารถเข้าไปได้ อีกทั้งยังต้องเผื่อเวลาในการเดินทางและมีเจ้าหน้าที่นำทางด้วยขะรับ..


ม่ะ!! เริ่มออกเดินทางกันได้แล้ว..
สภาพทางขึ้น ชันพอสมควร..ต้องขับรถด้วยความระมัดระวัง..
น้องๆ กลุ่มนี้ กำลังเดินขึ้นไปบนวัด..


ลานจอดรถก่อนถึงตัววัด..




มาถึงตัววัดแล้ว..


บริเวณลานจอดรถบนวัด..



จอดรถไว้แล้ว เป้าหมายแรกก็คือลานธรรมภูสิงห์..
เดินสิคร๊าบ..ป้ายเขาเขียนบอกไว้ทนโท่ โฮ๊ะๆๆๆ..


สภาพเส้นทางที่เราต้องก้าวเดินไป..


อ่างเก็บน้ำเล็กๆ วิวรายทางระหว่างเดิน..หน้าฝน น้ำเต็มๆ ท่าทางจะแจ่มแมว..


ถึงแล้ว..ลานธรรมภูสิงห์..




ไหว้พระเพื่อเป็นศิริมงคลกันก่อน..




ไปต่อกันที่จุดชมวิวลานธรรม..เดินไปตามทางที่มีป้ายบอกไว้..


ถึงแว้ว..โว๊ะ!! บรรยากาศดีแฮะ ยังกะทุ่งหญ้าสะวันนา (มั่วไปโน้น) 555..




ชมวิวทิวทัศน์..มองเห็นแม่น้ำโขง และทิวเขาทะมึนฝั่ง สปป.ลาว อยู่ลิบๆ



อ่ะ!! ซูม (สุดกำลังกล้อง+ฝีมือกากๆของคน) ได้แค่เนี้ย..



ย้ายก้น..เดินกลับมาที่ลานจอดรถ..เตรียมตัวขับรถไปจุดต่อไป..
ตัวอย่างสภาพเส้นทาง ซึ่งเหมาะสำหรับรถบางประเภทเท่านั้น..



ขับรถโขยกเขยกมาเรื่อยๆ แล้วแวะเข้าไปชม ส้างร้อยบ่อ..

ส้าง เป็นภาษาท้องถิ่น แปลว่า บ่อน้ำ





สภาพเส้นทาง..ถึงตรงนี้ต้องเดินเข้ามานะครับ..


เจอศาลาอะไรหว่า..เข้าไปดูซักหน่อย..บรึ๋ย!! เงียบสงัดวิเวกวังเวงวิโหว๋เหว๋ดีแท้..



ไปต่อดีกว่า อยู่นานๆเดี๋ยวมีจิตหลอน..



ได้ชมซะที..ส้างร้อยบ่อ พร้อมทัศนียภาพโดยรอบ (ชมด้วยความระมัดระวังด้วย เดี๋ยวตกหน้าผานะเออ)






ย้อนกลับมาทางเดิม เลยไปอีกนิดจะเจอหินช้าง..เหมือนแฮะ..




ขยับต่อไปเรื่อยๆครับ..พบเจอกำแพงภูสิงห์..
มีน้องๆที่มาเที่ยว ช่วยเป็นแบบเพื่อเปรียบเทียบขนาดให้เห็นภาพ (ขอขอบคุณมา ณ.โอกาสนี้ด้วยครับ)



ยาวไปๆ ตามเส้นทางรถ..ถ้าให้เดินคงไม่ไหวแน่ (ไกล & ลำบาก)
จุดชมวิวผาน้ำทิพย์..ดีงามพอได้เป็นกษัย (แต่ว่าหน้าผาสูงชัน ระมัดระวังด้วยนะคับ)


แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่