Review โชว์พลังดูดเครื่องดูดฝุ่นที่ใช้อยู่ปัจจุบันกับ Samsung POWERbot
สวัสดีค่ะ
ก่อนอื่นต้องขอบคุณทาง Samsung และ pantip ที่ให้โอกาสให้ผ่านเข้ารอบและได้ทดลองใช้งาน Samsung POWERbot รุ่น VR9000 เพราะเครื่องดูดฝุ่นที่ใช้อยู่เป็นรุ่นทั่วไปที่ผ่านการใช้งานมามากกว่า 9 ปีแล้ว และพอได้เห็น
”หุ่นยนต์ดูดฝุ่น”วิวัฒนาการใหม่ๆ เลยทำให้เกิดกิเลสมากมาย ตามประสาคนที่ทำงานทั้งนอกบ้านและงานในบ้านเองทุกอย่าง เลยอยากได้อุปกรณ์ที่ช่วยทุ่นแรงและประหยัดเวลา เพื่อจะมีเวลาไปทำอย่างอื่นได้ พอมีโอกาสได้ทดลองใช้งานจริง จึงทำให้มีข้อมูลเปรียบเทียบและตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
สำหรับเครื่องดูดฝุ่นที่เราใช้อยู่ คือ
“Panasonic MC-3920”
รุ่นก้านยาว เปลี่ยนหัวดูดฝุ่นได้ แต่ก็ยังมีข้อดีนะคะ เพราะเขาสามารถทำความสะอาดตามซอกหลืบหรือในรถยนต์ได้ ถึงแม้จะมีข้อจำกัดเรื่องสายไฟที่ต้องลากไป-มาและต้องหาปลั๊กไฟเสียบตลอดเวลา
และรีวิวนี้ กับโอกาสที่ได้รับมา
“Samsung POWERbot รุ่น VR9000”
ด้วยคุณสมบัติ ...
- Cyclone Force 70 วัตต์
- Visionary MappingTM เซนเซอร์ตรวจจับฝุ่นมากถึง 12 จุด
- Unbeatable Suction Power พลังดูดสูงสุด สะอาดทั่วถึงทุกจุด
- ความจุ 0.7 ลิตร
หมายเหตุ : รีวิวนี้เขียนจากความรู้สึกและประสบการณ์ที่ได้ทดลองใช้งานจริง เพราะผู้เขียนไม่ได้มีความรู้เรื่องเทคโนโลยีใดๆ เพียงแค่เป็นคนที่ต้องทำงานบ้านเองทุกอย่าง ไม่ว่าจะซักผ้า, รีดผ้า, กวาดบ้าน, ถูบ้าน ฯลฯ มีเพียงแค่ความสนใจในอุปกรณ์ใหม่ๆที่ตอบสนองและช่วยงานบ้านได้เท่านั้นค่ะ
ตอนแรกที่ได้รับกล่อง ต้องบอกว่าแอบตกใจว่า
‘หนักกว่าที่คิดไว้’ค่ะ
เพราะจุดประสงค์ของเราคือ ต้องการเครื่องดูดฝุ่นที่สามารถเคลื่อนย้ายได้ง่าย
เนื่องจากเรามีทั้งบ้านและคอนโด ซึ่งต้องทำความสะอาดเองทั้ง 2 ที่ ไหนจะงานนอกบ้านอีก
แต่เมื่อเปรียบเทียบน้ำหนักกันทั้ง 2 รุ่นแล้ว
Panasonic MC-3920 >> น้ำหนักประมาณ 4 กก.
Samsung POWERbot รุ่น VR9000 >> หนักประมาณ 4.8 กก.
ซึ่งถือว่า น้ำหนักไม่แตกต่างกันมากค่ะ
:+: UNBOX - Samsung POWERbot รุ่น VR9000 :+:
ถึงแม้ของที่ได้รับยืมมาจะเป็นแค่สินค้าตัวอย่าง
แต่ถือว่าทาง Samsung ให้ทุกอย่างมาครบครันมากและแพ็คมาเป็นอย่างดี
อุปกรณ์มาตรฐานในกล่อง ตามนี้ ...
1) เครื่อง Samsung POWERbot รุ่น VR9000
2) สายไฟและ adapter
3) เครื่องชาร์จไฟ
4) รีโมทคอนโทรล
5) ตัวกรองสำรอง
6) แปรงทำความสะอาด
7) Virtual Guard
8) คู่มือผู้ใช้และคู่มือฉบับย่อ
** เครื่องชาร์จไฟ >> ชาร์จไฟเต็มที่ใช้เวลาประมาณ 160 นาที และทำความสะอาดได้ประมาณ 60 นาที เครื่องจะทำงานเองโดยอัตโนมัติตามเวลาที่ได้เซ็ทไว้ รวมถึงกลับเข้าแท่นชาร์จเองเมื่อแบตเตอรี่อ่อน (เฉพาะโหมดทำงานอัตโนมัติ)
** อุปกรณ์ Virtual Guard >> ถึงแม้ Samsung POWERbot รุ่น VR9000 จะมีเซนเซอร์พื้นต่างระดับที่ด้านล่างของตัวเครื่อง แต่ตัวอุปกรณ์ Virtual Guard (ใช้แบตเตอรี่อัลคาไลน์ขนาด D จำนวน 2 ก้อน และต้องเปิดสวิตซ์เมื่อต้องการใช้งาน) จะปล่อยแสงและช่วยกันพื้นที่ที่ไม่ต้องการให้ Samsung POWERbot เข้าถึง เช่น ขอบบันได, บริเวณที่อาจมีสิ่งของตกหล่นหรือแตกหักได้
++ โปรดสังเกต เส้นผมหล่นเกลือนพื้นทุกที่จริงๆ ++
เมื่อหงายท้องเครื่องสำรวจดู ด้านล่างเป็น
แบบแกนหมุน(แปรงพาวเวอร์บรัช)ค่ะ
มีขนาดใหญ่และช่วยทำความสะอาดพื้นที่ได้กว้างขึ้น
ปุ่มสวิตซ์เปิด-ปิดเครื่อง มีแผ่นพลาสติกคลุมอย่างดี
ป้องกันได้ทั้งเศษฝุ่นละอองและกันน้ำ
.
.
.
:+: การทำงานในโหมดควบคุมต่างๆ ของ Samsung POWERbot รุ่น VR9000 :+:
สามารถเลือกโหมดได้ทั้งจากตัวเครื่องหรือผ่านรีโมทคอนโทรล
1) อัตโนมัติ (AUTO)
>> ทำความสะอาดทั้งพื้นที่
2) เฉพาะจุด (SPOT)
>> เครื่องจะทำความสะอาดแบบหมุนกลมเป็นวงกลม และทำความสะอาดเศษฝุ่นแข็งๆ เช่น เศษขนม ได้ดี ... แต่จะแตกต่างจาก“การชี้จุดและทำความสะอาด” (Point Cleaning) ซึ่งเป็นการใช้แสงไฟสีแดงชี้จุดที่ต้องการให้เครื่องไปทำความสะอาดโดยเฉพาะ
3) เต็มประสิทธิภาพ (MAX)
>> เครื่องจะทำความสะอาดจนแบตเตอรี่หมด
4) ทำความสะอาดด้วยตนเอง (MANUAL)
>> บังคับทิศทางของเครื่องด้วยรีโมทคอนโทรล
Function เพิ่มเติม ...
5) โหมดตั้งเวลา (CLOCK)
>> ตั้งเวลา ที่ต้องการให้เครื่องทำความสะอาด (1 ครั้ง/วัน)
6) โหมดกำหนดเวลา (SCHEDULE)
>> สามารถเลือกแบบหนึ่งครั้งหรือรายวัน แล้วเซ็ทเวลาที่ต้องการ
7) โหมดเซนเซอร์ฝุ่นละออง (DUST SENSOR)
>> พลังดูดจะแรงขึ้น เมื่อตรวจพบฝุ่นละออง
.
.
.
:+: บอกเล่าประสบการณ์ :+:
1) บ้านโดนจิ้งจกยึดค่ะ จะมีบริเวณโถงข้างห้องนอนซึ่งกลายเป็นแหล่งซ่องสุมของเหล่าผองเพื่อนเกาะผนัง และความสกปรกหลักๆคือ
“ขี้จิ้งจกเยอะมากกก”
++ โปรดสังเกตฝุ่นและขี้จิ้งจก ++
ซึ่งเครื่อง Samsung POWERbot รุ่น VR9000 สามารถตอบโจทย์เรื่องนี้ได้ ด้วยเทคโนโลยีดิจิตอลอินเวอร์เตอร์ซึ่งเพิ่มพลังดูดถึง 60 เท่า (**อ้างอิงข้อมูลจาก :
http://ppantip.com/topic/34460789)
บางครั้งโดนล้อทับก่อนจะดูด เป้าหมายเลยแตกกระจาย ทำให้ต้องดูดซ้ำค่ะ -.-“
แต่ด้วยคุณสมบัติที่เรียกว่า
“ชี้จุดและทำความสะอาด” (Point Cleaning) โดยการใช้รีโมทชี้จุดที่ต้องการ ทำให้เป็นเรื่องสนุกและสะดวกขึ้น ปล่อยเครื่องทำความสะอาดบริเวณกว้างไปก่อน จากนั้นค่อยมาเก็บตกจุดที่ยังคงตกค้างซ้ำอีกครั้ง
++ โหมด Point Cleaning ++
2) ความสกปรกอีกอย่างที่เป็นปัญหากวนใจ คือ
“เส้นผม”ค่ะ เพราะเป็นคนที่ผมร่วงเยอะมาก เส้นผมร่วงเกลื่อนบ้าน เมื่อก่อนต้องกวาดบ้านทุกวัน เพราะผมร่วงเยอะจริงจัง แต่เดี๋ยวนี้เริ่มขี้เกียจ(เลยอยากได้ Samsung POWERbot ด้วยเหตุนี้ล่ะค่ะ) … แกนหมุนสามารถเก็บเส้นผมได้ดีทีเดียวและที่สำคัญถอดออกมาทำความสะอาดได้ง่าย ไหนจะมีแปรงทำความสะอาดให้ด้วย ยิ่งทำให้สะดวกมากขึ้น
((ภาพประกอบขอรวมยอดไว้กับข้อ 3))
3) อีกหนึ่งจุดที่กักเก็บฝุ่นไว้มากและยากต่อการทำความสะอาดคือ
“ใต้เตียง”ค่ะ เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่สนใจหุ่นยนต์ดูดฝุ่น เพราะจะให้นอนไปกองกับพื้นเพื่อดูดฝุ่นใต้เตียง อีกมือส่องไฟฉายก็ดูจะมุมานะเกินไปค่ะ ... อีกอย่างเครื่องดูดฝุ่นที่ใช้อยู่(ถึงจะยอมลงไปนอนกองกับพื้นก็แล้ว) ไม่สามารถทำความสะอาดได้ทั่วถึง
ตอนที่รู้ว่าจะได้เครื่องนี้มาทดลองใช้ ความดีใจอย่างแรกเลยคือจะได้ดูดฝุ่นใต้เตียงสักที ... แต่แล้วเกือบผิดหวัง เพราะด้วยความที่ตัวเครื่องใหญ่ค่ะ เลยติดขอบเตียงเข้าไม่ได้ (ย้ำว่าติดอยู่เพียงแค่นิ๊ดดดเดียวจริงๆ) T.T
เลยต้องขอแรงคุณสามีมาช่วยยกเตียง เพื่อดันเครื่อง Samsung POWERbot เข้าไปค่ะ (ใต้เตียงสูงพอจะให้เครื่องเข้าไปวิ่งเล่นได้ ติดแค่ขอบเตียง แต่ว่าโซฟาไม่สามารถค่ะ ติดทั้งขอบโซฟาและด้านใน) การที่มีขอบเตียงกั้นไว้เลยกลายเป็นข้อดีค่ะ เพราะเหมือนเป็นการกักบริเวณไว้อย่างดี ปล่อยเครื่องทำงานได้เต็มที่ ระหว่างนั้นก็ไปทำงานบ้านอย่างอื่น รีดผ้าไปพลางๆ รอเวลาไป
++ สภาพก่อนเริ่มทำความสะอาด ฝุ่นคลั่ก ++
++ ฝุ่นเยอะมาก ฟุ้งกระจายเลยทีเดียว ++
++ ภาพเปรียบเทียบก่อนและหลังทำความสะอาด ++
และข้อดีอีกอย่างคือ
การที่มีรีโมทค่ะ สามารถเปลี่ยนเป็นโหมด manual เพื่อบังคับทิศทางเองได้(เหมือนเล่นรถบังคับ) ต้องการนำออกมาตอนไหนก็บังคับทิศทางได้ตามต้องการ ขอแรงสามีช่วยยกเตียงอีกรอบ เพื่อให้เครื่องออกมาด้านนอก
ออกมาด้วยสภาพเช่นนี้ค่ะ !!!
เลยได้โอกาสทดลองถอดทำความสะอาด ซึ่งจากภาพจะเห็นว่าเก็บเส้นผมที่ร่วงตามพื้นได้ดีมาก และง่ายต่อการทำความสะอาดด้วยการใช้แปรงม้วนดึงออกมา ... สำหรับที่เก็บฝุ่นและตัวกรอง สามารถล้างทำความสะอาดได้ค่ะ
.
.
.
:+: เปรียบเทียบการใช้งาน :+:
Panasonic MC-3920
- ต้องเสียบปลั๊กไฟตลอดเวลาและมีข้อจำกัดเรื่องความยาวของสายไฟ บางครั้งต้องยกไป-มาหรือหาปลั๊กสามตาเป็นตัวช่วย รวมถึงต้องยกไปมาระหว่างห้อง
- สามารถทำความสะอาดตามซอกหลืบ มุมตู้ หรือในรถยนต์ได้
- เสียงค่อนข้างดังมาก (เลยไม่กล้าเอาไปใช้ที่คอนโด เกรงว่าจะรบกวนข้างห้อง)
- ถ้าเผอิญดูดติดเศษผ้าหรือถุงพลาสติก ต้องปิดเครื่องแล้วใช้มือดึงออกเท่านั้นค่ะ โดยเฉพาะปลายผ้าม่าน ดูดติดมาประจำ
Samsung POWERbot รุ่น VR9000
- ถึงแม้จะไม่มีสายไฟเกะกะ แต่แท่นชาร์จจำต้องอยู่ในพื้นที่ที่เข้าถึง (หากเป็นห้องแยกกันต้องเปิดประตูทิ้งไว้ แต่ช่วยในการทำความสะอาดในบริเวณกว้าง ไม่จำเป็นต้องยกเครื่องเคลื่อนย้ายไป-มา)
- เหมาะสำหรับพื้นที่ที่เป็นลานกว้าง แต่หากเป็นซอกหลืบหรือมุมตู้แล้ว ยังไม่ตอบโจทย์เท่าไหร่ค่ะ ด้วยขนาดเครื่องที่ใหญ่และเข้าไม่ถึงพื้นที่ตามมุมต่างๆ
- มีรีโมทช่วยควบคุมในการทำงาน ซึ่งการใช้งานพื้นฐานเหมือนปุ่มที่ตัวเครื่องทุกอย่าง
- ล้อสามารถปีนข้ามสิ่งกีดขวางหรือพื้นต่างระดับที่ไม่สูงมากนักได้ (พื้นต่างระดับไม่เกิน 15 มม.) เช่น สายไฟพัดลมที่เสียบทิ้งไว้ ฯลฯ
- ไม่เหมาะสำหรับการใช้งานบนพรมหนามากกว่า 1 ซม. เพราะอาจจทำให้พรมและตัวเครื่องเสียหายได้
- ไม่เหมาะสำหรับการใช้งานบนพื้นผิวที่เป็นสีดำ เพราะเครื่องจะไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ
- สามารถเลือกโหมดและตั้งเวลาให้ทำงานอัตโนมัติได้
สรุปแล้ว ...
เราให้ความพึงพอใจกับ Samsung POWERbot รุ่น VR9000 ในระดับ 8/10 ค่ะ
ข้อด้อย
- ติแค่ตัวเครื่องที่ใหญ่เลยไม่สามารถทำความสะอาดตามมุมห้อง ซอกเล็กๆ หรือใต้โซฟาได้ เหมาะสำหรับพื้นที่โล่งๆมากกว่า
แต่โดยรวมแล้ว ยังมี
จุดเด่น ...
- เราพอใจกับพลังในการดูดทำความสะอาดที่ตอบโจทย์ความต้องการของเราได้ดี(โดยเฉพาะเรื่องเส้นผม ที่หากคอยลากเครื่องดูดเอง เสียเวลาและเสียแรง) เมื่อทำงานในระยะเวลานานๆ ก็ยังสามารถรักษาระดับแรงดูดได้ดี
- ถอดล้างทำความสะอาดได้ง่าย
- ระบบเซนเซอร์อัจฉริยะที่สามารถตรวจจับพื้นที่ที่ต้องการทำความสะอาดเป็นพิเศษหรือแม้แต่หลบหลีกพื้นที่ที่ต้องระวังเป็นพิเศษ (บางจุดอาจจะต้องใช้ Virtual Guard ช่วย เพื่อให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น) เพราะเครื่องที่มีอยู่เวลาลากหรือดูดต้องคอยระวังเอาเองค่ะ
- ประหยัดเวลาในการทำงานบ้านดีค่ะ ระหว่างปล่อยเครื่องทำงาน ก็จะไปทำงานบ้านอย่างอื่น รอไปพลางๆ
[SR] เปรียบเทียบเครื่องดูดฝุ่นที่ใช้กับ Samsung POWERbot รุ่น VR9000
สวัสดีค่ะ
ก่อนอื่นต้องขอบคุณทาง Samsung และ pantip ที่ให้โอกาสให้ผ่านเข้ารอบและได้ทดลองใช้งาน Samsung POWERbot รุ่น VR9000 เพราะเครื่องดูดฝุ่นที่ใช้อยู่เป็นรุ่นทั่วไปที่ผ่านการใช้งานมามากกว่า 9 ปีแล้ว และพอได้เห็น”หุ่นยนต์ดูดฝุ่น”วิวัฒนาการใหม่ๆ เลยทำให้เกิดกิเลสมากมาย ตามประสาคนที่ทำงานทั้งนอกบ้านและงานในบ้านเองทุกอย่าง เลยอยากได้อุปกรณ์ที่ช่วยทุ่นแรงและประหยัดเวลา เพื่อจะมีเวลาไปทำอย่างอื่นได้ พอมีโอกาสได้ทดลองใช้งานจริง จึงทำให้มีข้อมูลเปรียบเทียบและตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
สำหรับเครื่องดูดฝุ่นที่เราใช้อยู่ คือ “Panasonic MC-3920”
รุ่นก้านยาว เปลี่ยนหัวดูดฝุ่นได้ แต่ก็ยังมีข้อดีนะคะ เพราะเขาสามารถทำความสะอาดตามซอกหลืบหรือในรถยนต์ได้ ถึงแม้จะมีข้อจำกัดเรื่องสายไฟที่ต้องลากไป-มาและต้องหาปลั๊กไฟเสียบตลอดเวลา
และรีวิวนี้ กับโอกาสที่ได้รับมา “Samsung POWERbot รุ่น VR9000”
ด้วยคุณสมบัติ ...
- Cyclone Force 70 วัตต์
- Visionary MappingTM เซนเซอร์ตรวจจับฝุ่นมากถึง 12 จุด
- Unbeatable Suction Power พลังดูดสูงสุด สะอาดทั่วถึงทุกจุด
- ความจุ 0.7 ลิตร
หมายเหตุ : รีวิวนี้เขียนจากความรู้สึกและประสบการณ์ที่ได้ทดลองใช้งานจริง เพราะผู้เขียนไม่ได้มีความรู้เรื่องเทคโนโลยีใดๆ เพียงแค่เป็นคนที่ต้องทำงานบ้านเองทุกอย่าง ไม่ว่าจะซักผ้า, รีดผ้า, กวาดบ้าน, ถูบ้าน ฯลฯ มีเพียงแค่ความสนใจในอุปกรณ์ใหม่ๆที่ตอบสนองและช่วยงานบ้านได้เท่านั้นค่ะ
ตอนแรกที่ได้รับกล่อง ต้องบอกว่าแอบตกใจว่า‘หนักกว่าที่คิดไว้’ค่ะ
เพราะจุดประสงค์ของเราคือ ต้องการเครื่องดูดฝุ่นที่สามารถเคลื่อนย้ายได้ง่าย
เนื่องจากเรามีทั้งบ้านและคอนโด ซึ่งต้องทำความสะอาดเองทั้ง 2 ที่ ไหนจะงานนอกบ้านอีก
แต่เมื่อเปรียบเทียบน้ำหนักกันทั้ง 2 รุ่นแล้ว
Panasonic MC-3920 >> น้ำหนักประมาณ 4 กก.
Samsung POWERbot รุ่น VR9000 >> หนักประมาณ 4.8 กก.
ซึ่งถือว่า น้ำหนักไม่แตกต่างกันมากค่ะ
:+: UNBOX - Samsung POWERbot รุ่น VR9000 :+:
ถึงแม้ของที่ได้รับยืมมาจะเป็นแค่สินค้าตัวอย่าง
แต่ถือว่าทาง Samsung ให้ทุกอย่างมาครบครันมากและแพ็คมาเป็นอย่างดี
อุปกรณ์มาตรฐานในกล่อง ตามนี้ ...
1) เครื่อง Samsung POWERbot รุ่น VR9000
2) สายไฟและ adapter
3) เครื่องชาร์จไฟ
4) รีโมทคอนโทรล
5) ตัวกรองสำรอง
6) แปรงทำความสะอาด
7) Virtual Guard
8) คู่มือผู้ใช้และคู่มือฉบับย่อ
** เครื่องชาร์จไฟ >> ชาร์จไฟเต็มที่ใช้เวลาประมาณ 160 นาที และทำความสะอาดได้ประมาณ 60 นาที เครื่องจะทำงานเองโดยอัตโนมัติตามเวลาที่ได้เซ็ทไว้ รวมถึงกลับเข้าแท่นชาร์จเองเมื่อแบตเตอรี่อ่อน (เฉพาะโหมดทำงานอัตโนมัติ)
** อุปกรณ์ Virtual Guard >> ถึงแม้ Samsung POWERbot รุ่น VR9000 จะมีเซนเซอร์พื้นต่างระดับที่ด้านล่างของตัวเครื่อง แต่ตัวอุปกรณ์ Virtual Guard (ใช้แบตเตอรี่อัลคาไลน์ขนาด D จำนวน 2 ก้อน และต้องเปิดสวิตซ์เมื่อต้องการใช้งาน) จะปล่อยแสงและช่วยกันพื้นที่ที่ไม่ต้องการให้ Samsung POWERbot เข้าถึง เช่น ขอบบันได, บริเวณที่อาจมีสิ่งของตกหล่นหรือแตกหักได้
++ โปรดสังเกต เส้นผมหล่นเกลือนพื้นทุกที่จริงๆ ++
เมื่อหงายท้องเครื่องสำรวจดู ด้านล่างเป็นแบบแกนหมุน(แปรงพาวเวอร์บรัช)ค่ะ
มีขนาดใหญ่และช่วยทำความสะอาดพื้นที่ได้กว้างขึ้น
ปุ่มสวิตซ์เปิด-ปิดเครื่อง มีแผ่นพลาสติกคลุมอย่างดี
ป้องกันได้ทั้งเศษฝุ่นละอองและกันน้ำ
.
.
.
:+: การทำงานในโหมดควบคุมต่างๆ ของ Samsung POWERbot รุ่น VR9000 :+:
สามารถเลือกโหมดได้ทั้งจากตัวเครื่องหรือผ่านรีโมทคอนโทรล
1) อัตโนมัติ (AUTO)
>> ทำความสะอาดทั้งพื้นที่
2) เฉพาะจุด (SPOT)
>> เครื่องจะทำความสะอาดแบบหมุนกลมเป็นวงกลม และทำความสะอาดเศษฝุ่นแข็งๆ เช่น เศษขนม ได้ดี ... แต่จะแตกต่างจาก“การชี้จุดและทำความสะอาด” (Point Cleaning) ซึ่งเป็นการใช้แสงไฟสีแดงชี้จุดที่ต้องการให้เครื่องไปทำความสะอาดโดยเฉพาะ
3) เต็มประสิทธิภาพ (MAX)
>> เครื่องจะทำความสะอาดจนแบตเตอรี่หมด
4) ทำความสะอาดด้วยตนเอง (MANUAL)
>> บังคับทิศทางของเครื่องด้วยรีโมทคอนโทรล
Function เพิ่มเติม ...
5) โหมดตั้งเวลา (CLOCK)
>> ตั้งเวลา ที่ต้องการให้เครื่องทำความสะอาด (1 ครั้ง/วัน)
6) โหมดกำหนดเวลา (SCHEDULE)
>> สามารถเลือกแบบหนึ่งครั้งหรือรายวัน แล้วเซ็ทเวลาที่ต้องการ
7) โหมดเซนเซอร์ฝุ่นละออง (DUST SENSOR)
>> พลังดูดจะแรงขึ้น เมื่อตรวจพบฝุ่นละออง
.
.
.
:+: บอกเล่าประสบการณ์ :+:
1) บ้านโดนจิ้งจกยึดค่ะ จะมีบริเวณโถงข้างห้องนอนซึ่งกลายเป็นแหล่งซ่องสุมของเหล่าผองเพื่อนเกาะผนัง และความสกปรกหลักๆคือ “ขี้จิ้งจกเยอะมากกก”
++ โปรดสังเกตฝุ่นและขี้จิ้งจก ++
ซึ่งเครื่อง Samsung POWERbot รุ่น VR9000 สามารถตอบโจทย์เรื่องนี้ได้ ด้วยเทคโนโลยีดิจิตอลอินเวอร์เตอร์ซึ่งเพิ่มพลังดูดถึง 60 เท่า (**อ้างอิงข้อมูลจาก : http://ppantip.com/topic/34460789)
บางครั้งโดนล้อทับก่อนจะดูด เป้าหมายเลยแตกกระจาย ทำให้ต้องดูดซ้ำค่ะ -.-“
แต่ด้วยคุณสมบัติที่เรียกว่า “ชี้จุดและทำความสะอาด” (Point Cleaning) โดยการใช้รีโมทชี้จุดที่ต้องการ ทำให้เป็นเรื่องสนุกและสะดวกขึ้น ปล่อยเครื่องทำความสะอาดบริเวณกว้างไปก่อน จากนั้นค่อยมาเก็บตกจุดที่ยังคงตกค้างซ้ำอีกครั้ง
++ โหมด Point Cleaning ++
2) ความสกปรกอีกอย่างที่เป็นปัญหากวนใจ คือ“เส้นผม”ค่ะ เพราะเป็นคนที่ผมร่วงเยอะมาก เส้นผมร่วงเกลื่อนบ้าน เมื่อก่อนต้องกวาดบ้านทุกวัน เพราะผมร่วงเยอะจริงจัง แต่เดี๋ยวนี้เริ่มขี้เกียจ(เลยอยากได้ Samsung POWERbot ด้วยเหตุนี้ล่ะค่ะ) … แกนหมุนสามารถเก็บเส้นผมได้ดีทีเดียวและที่สำคัญถอดออกมาทำความสะอาดได้ง่าย ไหนจะมีแปรงทำความสะอาดให้ด้วย ยิ่งทำให้สะดวกมากขึ้น
((ภาพประกอบขอรวมยอดไว้กับข้อ 3))
3) อีกหนึ่งจุดที่กักเก็บฝุ่นไว้มากและยากต่อการทำความสะอาดคือ“ใต้เตียง”ค่ะ เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่สนใจหุ่นยนต์ดูดฝุ่น เพราะจะให้นอนไปกองกับพื้นเพื่อดูดฝุ่นใต้เตียง อีกมือส่องไฟฉายก็ดูจะมุมานะเกินไปค่ะ ... อีกอย่างเครื่องดูดฝุ่นที่ใช้อยู่(ถึงจะยอมลงไปนอนกองกับพื้นก็แล้ว) ไม่สามารถทำความสะอาดได้ทั่วถึง
ตอนที่รู้ว่าจะได้เครื่องนี้มาทดลองใช้ ความดีใจอย่างแรกเลยคือจะได้ดูดฝุ่นใต้เตียงสักที ... แต่แล้วเกือบผิดหวัง เพราะด้วยความที่ตัวเครื่องใหญ่ค่ะ เลยติดขอบเตียงเข้าไม่ได้ (ย้ำว่าติดอยู่เพียงแค่นิ๊ดดดเดียวจริงๆ) T.T
เลยต้องขอแรงคุณสามีมาช่วยยกเตียง เพื่อดันเครื่อง Samsung POWERbot เข้าไปค่ะ (ใต้เตียงสูงพอจะให้เครื่องเข้าไปวิ่งเล่นได้ ติดแค่ขอบเตียง แต่ว่าโซฟาไม่สามารถค่ะ ติดทั้งขอบโซฟาและด้านใน) การที่มีขอบเตียงกั้นไว้เลยกลายเป็นข้อดีค่ะ เพราะเหมือนเป็นการกักบริเวณไว้อย่างดี ปล่อยเครื่องทำงานได้เต็มที่ ระหว่างนั้นก็ไปทำงานบ้านอย่างอื่น รีดผ้าไปพลางๆ รอเวลาไป
++ สภาพก่อนเริ่มทำความสะอาด ฝุ่นคลั่ก ++
++ ฝุ่นเยอะมาก ฟุ้งกระจายเลยทีเดียว ++
++ ภาพเปรียบเทียบก่อนและหลังทำความสะอาด ++
และข้อดีอีกอย่างคือการที่มีรีโมทค่ะ สามารถเปลี่ยนเป็นโหมด manual เพื่อบังคับทิศทางเองได้(เหมือนเล่นรถบังคับ) ต้องการนำออกมาตอนไหนก็บังคับทิศทางได้ตามต้องการ ขอแรงสามีช่วยยกเตียงอีกรอบ เพื่อให้เครื่องออกมาด้านนอก
ออกมาด้วยสภาพเช่นนี้ค่ะ !!!
เลยได้โอกาสทดลองถอดทำความสะอาด ซึ่งจากภาพจะเห็นว่าเก็บเส้นผมที่ร่วงตามพื้นได้ดีมาก และง่ายต่อการทำความสะอาดด้วยการใช้แปรงม้วนดึงออกมา ... สำหรับที่เก็บฝุ่นและตัวกรอง สามารถล้างทำความสะอาดได้ค่ะ
.
.
.
:+: เปรียบเทียบการใช้งาน :+:
Panasonic MC-3920
- ต้องเสียบปลั๊กไฟตลอดเวลาและมีข้อจำกัดเรื่องความยาวของสายไฟ บางครั้งต้องยกไป-มาหรือหาปลั๊กสามตาเป็นตัวช่วย รวมถึงต้องยกไปมาระหว่างห้อง
- สามารถทำความสะอาดตามซอกหลืบ มุมตู้ หรือในรถยนต์ได้
- เสียงค่อนข้างดังมาก (เลยไม่กล้าเอาไปใช้ที่คอนโด เกรงว่าจะรบกวนข้างห้อง)
- ถ้าเผอิญดูดติดเศษผ้าหรือถุงพลาสติก ต้องปิดเครื่องแล้วใช้มือดึงออกเท่านั้นค่ะ โดยเฉพาะปลายผ้าม่าน ดูดติดมาประจำ
Samsung POWERbot รุ่น VR9000
- ถึงแม้จะไม่มีสายไฟเกะกะ แต่แท่นชาร์จจำต้องอยู่ในพื้นที่ที่เข้าถึง (หากเป็นห้องแยกกันต้องเปิดประตูทิ้งไว้ แต่ช่วยในการทำความสะอาดในบริเวณกว้าง ไม่จำเป็นต้องยกเครื่องเคลื่อนย้ายไป-มา)
- เหมาะสำหรับพื้นที่ที่เป็นลานกว้าง แต่หากเป็นซอกหลืบหรือมุมตู้แล้ว ยังไม่ตอบโจทย์เท่าไหร่ค่ะ ด้วยขนาดเครื่องที่ใหญ่และเข้าไม่ถึงพื้นที่ตามมุมต่างๆ
- มีรีโมทช่วยควบคุมในการทำงาน ซึ่งการใช้งานพื้นฐานเหมือนปุ่มที่ตัวเครื่องทุกอย่าง
- ล้อสามารถปีนข้ามสิ่งกีดขวางหรือพื้นต่างระดับที่ไม่สูงมากนักได้ (พื้นต่างระดับไม่เกิน 15 มม.) เช่น สายไฟพัดลมที่เสียบทิ้งไว้ ฯลฯ
- ไม่เหมาะสำหรับการใช้งานบนพรมหนามากกว่า 1 ซม. เพราะอาจจทำให้พรมและตัวเครื่องเสียหายได้
- ไม่เหมาะสำหรับการใช้งานบนพื้นผิวที่เป็นสีดำ เพราะเครื่องจะไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ
- สามารถเลือกโหมดและตั้งเวลาให้ทำงานอัตโนมัติได้
สรุปแล้ว ...
เราให้ความพึงพอใจกับ Samsung POWERbot รุ่น VR9000 ในระดับ 8/10 ค่ะ
ข้อด้อย
- ติแค่ตัวเครื่องที่ใหญ่เลยไม่สามารถทำความสะอาดตามมุมห้อง ซอกเล็กๆ หรือใต้โซฟาได้ เหมาะสำหรับพื้นที่โล่งๆมากกว่า
แต่โดยรวมแล้ว ยังมีจุดเด่น ...
- เราพอใจกับพลังในการดูดทำความสะอาดที่ตอบโจทย์ความต้องการของเราได้ดี(โดยเฉพาะเรื่องเส้นผม ที่หากคอยลากเครื่องดูดเอง เสียเวลาและเสียแรง) เมื่อทำงานในระยะเวลานานๆ ก็ยังสามารถรักษาระดับแรงดูดได้ดี
- ถอดล้างทำความสะอาดได้ง่าย
- ระบบเซนเซอร์อัจฉริยะที่สามารถตรวจจับพื้นที่ที่ต้องการทำความสะอาดเป็นพิเศษหรือแม้แต่หลบหลีกพื้นที่ที่ต้องระวังเป็นพิเศษ (บางจุดอาจจะต้องใช้ Virtual Guard ช่วย เพื่อให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น) เพราะเครื่องที่มีอยู่เวลาลากหรือดูดต้องคอยระวังเอาเองค่ะ
- ประหยัดเวลาในการทำงานบ้านดีค่ะ ระหว่างปล่อยเครื่องทำงาน ก็จะไปทำงานบ้านอย่างอื่น รอไปพลางๆ