มารู้เท่าทัน GPS หรือ Navigator เพื่อจะมิได้โดนหลอกให้หลงทาง

ตั้งใจจะเขียนเรื่องนี้มานานแล้วครับแต่หาโอกาสว่างๆ ไม่ได้ซะที
พอดีช่วงนี้กลับมาเป็นกระแสอีกครั้งหลังจากที่มีข่าวนี้

"เป็นไปแล้ว! ครูหนุ่มใช้ GPS นำ กลับหลงทางบนเขาค้อ ต้องขอรถไถชาวบ้านช่วย"

http://m.manager.co.th/Local/detail/9590000007813

และตอนนี้ผมก็พักการเดินทางเพื่ออยู่บ้านเลี้ยงลูก 555 อาศัยช่วงลูกหลับมาแอบรีวิวให้ชมกันครับ
แต่ออกตัวก่อนว่าผมไม่ใช่ผุ้เชี่ยวชาญด้านนี้โดยตรง ไม่ใช่พนักงานขาย หรือพนักงานที่ผลิตหรือให้บริการ
เป็น User คนหนึ่งที่อาจจะใช้งานอยู่เป็นประจำ โดนมันหลอกจนรู้ทันมัน ช่วงหลังเลยเรียกว่า "ไม่ได้กินฉันหรอก" 555
เพราะฉะนั้นผมจะใช้ภาษาง่ายๆ ไม่มีข้อมูลเชิงลึกอะไรมาก หรือไม่ใช้ศัพท์เทคนิคอะไรมากมาย เพื่อง่ายต่อการทำความเข้าใจ
ส่วนน้าๆ ท่านใดที่เป็นโปรด้านนี้ จะชี้แนะ ท้วงติง หรือเพิ่มเติมอะไรก็เรียญเชิญนะครับ

=========================================
รู้จักกันก่อน

อันดับแรกมาทำการรู้จักกับคำว่า GPS กันก่อนครับ...
GPS ย่อมาจาก Global Positioning System หมายถึง ระบบบอกตำแหน่งบนพื้นผิวโลก
พูดง่ายๆ คือเจ้าเครื่อง GPS มันทำหน้าที่บอกให้เราทราบว่าตอนนี้เราอยู่ที่ตำแหน่งไหนของโลก
ส่วนเครื่องที่มันสามารถนำทางเราไปยังจุดต่างๆ ได้เขาเรียกว่า Navigator
ซึ่งเจ้า Navigator นี่แหละที่เราจะพูดถึงกัน แต่จะเรียก GPS เหมือนเดิมก็ไม่เป็นไร (พิมพ์ง่ายดี) ...

ทีนี้การนำทางของมันมันก็มีอยู่ 2 แบบที่เราคุ้นๆ กัน...
แบบแรกคือนำทางจากจุดหนึ่งไปจุดหนึ่งเป็นเส้นตรง ซึ่งเครื่องมันจะบอกมุมกับระยะขจัดมาให้
โดยมันไม่สนว่าผู้ใช้จะต้องเดินผ่านอะไรไปบ้าง เป็นหน้าที่ของผู้ใช้เองที่จะต้องหาวิธีการเดินทางไป
ส่วนใหญ่ใช้กับ นักสำรวจ นักเดินเรือ นักเดินป่า เจ้าหน้าที่ทหาร ป่าไม้ เป็นต้น
ซึ่งผู้ใช้ต้องมีความชำนาญเรื่องการใช้แผนที่และเข็มทิศควบคู่ไปด้วย

อีกแบบหนึ่งคือการนำทางโดยอาศัยข้อมูลแผนที่ เส้นทาง ซึ่งมาจากการสำรวจและนำเข้าไว้ในเครื่อง
หรืออัพโหลดขึ้นเซิฟเวอร์ให้พวกเราๆ ได้ใช้ การนำทางแบบนี้เครื่องจะคำนวณหาเส้นทางไปยังจุดหมาย
ตามเงื่อนไขที่ผู้ใช้กำหนด (มันตั้งค่าได้ เดี๋ยวจะเขียนไว้ตอนท้าย) ซึ่งปัจจัยสำคัญคือข้อมูลแผนที่ที่เครื่องนำมาใช้นั้น
ถูกต้อง แม่นยำ และทันต่อกาลเวลาหรือไม่...

ต้องเข้าใจว่าก่อนเข้าสู่โลกยุคดิจิตอล เราก็ยังใช้แผนที่กระดาษ หรือหนังสือแผนที่ของกรมทางหลวงในการเดินทางกันอยู่
พอแผนที่เหล่านั้นต้องถูกนำเข้าไปไว้ในเครื่อง GPS เขาก็คงไม่ลงทุนไปสำรวจเพื่อจัดทำใหม่ แต่เขาก็คงแปลงจากที่มีอยู่เดิม
เช่นจากแผนที่กรมทางหลวง แผนที่ภูมิประเทศกรมแผนที่ทหาร แผนที่ป่าไม้ เป็นต้น

แผนที่ทางหลวง


แผนที่ภูมิประเทศ โดยกรมแผนที่ทหาร


ประเด็นก็คือแผนที่พวกนี้บางพื้นที่สำรวจไว้ตั้งแต่ปีมะโว้ไหนก็ไม่รู้ บางเส้นทางมันเคยมีอยู่จริง แต่ปัจจุบันมันไม่มี
หรือสภาพมันไม่ได้รับการพัฒนาให้รถเราวิ่งได้ ถึงแม้ว่าผู้ให้บริการจะบอกว่ามีการอัพเดทข้อมูลแผนที่อยู่เสมอ
แต่เชื่อผมเหอะ... ผมเจอมาแล้วทุกรูปแบบแล้ว หลักๆ เขาอัพเดตเฉพาะเส้นทางที่ตัดใหม่ หรือเน้นเฉพาะในเขตชุมชน
โดยเฉพาะเขตเมืองนี่บอกเลยว่าต้องยอมรับเขา แต่พวกเส้นทางสายป่าสายเขามันไม่ใครไปสำรวจไงครับ...

อ่ะ งั้นมาดูกันว่าที่ผมว่ามามันจริงไหม...
พี่น้องดูภาพนี้นะครับ ผมเปิดใน Google Maps ใน iPad นี่มันถนนชัดๆ


แต่พอเปิดภาพถ่ายดาวเทียวซ้อนขึ้นมาเท่านั้นแหละ อึ้งไหมล่ะครับ นี่มันป่าดงดิบชัดๆ


หรือจะแบบนี้  ดูยังไงก็ถนนดีๆ นี่แหละ และมันเครื่องมันก็คงบอกว่า ไปได้ ไปได้...


พอเจอสภาพจริงเข้าไป... หงายเงิบเลยทีเดียว


หรืออย่างนี้คือมันอาจจะมีร่องรอยทางเดิมให้เห็น แต่พี่น้องมั่นใจว่ารถพี่น้องไปได้ไหมล่ะครับ


นี่แค่ตัวอย่างที่ผมหามาให้ดู แต่บอกเลยว่าลักษณะเช่นนี้มีอยู่... เพียบ..!!! อยู่ที่ดวงใครดวงมัน 555
แน่นอนถ้าพี่น้องเล่นขับตามที่ GPS มันบอกอย่างเดียว โดยไม่เช็คให้ดีก่อน ก็มีโอกาสไปกินข้าวลิงที่ไหนซักแห่งแน่ๆ

=========================================

รู้เท่าทันเครื่อง

ทีนี้รู้กันแล้วว่าไอ้เส้นทางที่มันอยู่ในฐานข้อมูลแผนที่ของเครื่อง หรือบนเซิร์ฟเวอร์มันไม่ใช่ของจริงร้อยเปอร์เซ็น
มันมีอัพเดทก็จริง แต่มันอัพไม่หมด มีหมกเม็ด ซ่อนเล้นอยู่ทุกมุมโลก แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าทางที่มันบอกให้เราไปมันไปได้...

ถ้าเป็นการใช้งาน app ที่อยู่บนสมาร์ตโฟน หรือแท็บเล็ต ง่ายๆเลยครับ เปิดภาพถ่ายดาวเทียมขึ้นมาซ้อน แล้วก็พิจารณากันก่อนเลย
ซึ่ง app ในกลุ่ม Navigator ส่วนใหญ่จะสามารถเปิดภาพถ่ายดาวเทียมขึ้นมาซ้อนกับแผนที่ได้อยู่แล้ว
และภาพถ่ายส่วนใหญ่ก็อัพเดทเรื่อยๆ ไม่เก่าเกินสองปี แต่มันก็ดีกว่าไม่มีให้ดูแน่นอน
แล้วถามว่าดูยังไงว่าเป็นทางจริงหรือไม่ใช่ทาง ทางลาดยาง ทางดิน ทางลูกรัง...? อันนี้ก็อยู่ที่เซ้นส์ของใครของมันแล้วล่ะครับ

ผมยกตัวอย่างจริงกับรีสอร์ทที่ผมไปพักมาเมื่อสองปีก่อน ที่เขาค้อ โดยผมใช้ Google Maps ใน iPad นำทางจากโคราช
ผมค้นหาโดยพิมพ์ชื่อรีสอร์ทลงไป แล้วสั่งให้มันคนหาเส้นทางรถยนต์ แอปมันก็คำนวณแล้วมีเส้นทางมาให้ผมเลือก...
ตรงจุดนี้เราก็ต้องพิจารณาในเบื้องต้นว่าเราควรจะให้เส้นทางไหนดี เพราะหลักๆ เป็นทางหลวงมีหมายเลขกำกับ
ซึ่งส่วนใหญ่ตัวแอปจะคำนวณเส้นทางที่ใช้เวลาน้อยที่สุดมาให้ แต่เราต้องดูเบื้องต้นว่าเส้นไหนขึ้นเขาลงเขายังไง
มีกี่เลนส์ รถมาก รถน้อย มีจุดแวะพักไหม รถเราสะดวกไหม เป็นต้น


ต้องเช็คให้ละเอียดนิดหนึ่ง โดยการซูมเข้าไปดูทุกแยก ทุกจุดเลี้ยว (แต่ถ้าเส้นหลักก็ไม่จำเป็น)
อย่าเคสนี้ผมซูมดูแล้ว ผมไปเอะใจกับตอนใกล้ถึงรีสอร์ท ซึ่งไม่แน่ใจว่ามันจะเข้าไปได้หรือไม่


ผมย้อนกลับไปหน้าค้นหาเพื่อ ไม่ให้ส้นถนนโชว์เป็นสีน้ำเงิน เท่านั้นก็จะเป็นแล้วว่า "ไร้อนาคต"
ทางแทบจะไม่เห็นเป็นทาง และอีกอย่างผมไปรถเก๋ง คงไม่ขอลุยไปแน่


ผมเลยขยายออกมาดู ก็เห็นว่า ผมไม่ต้องเลี้ยวตามที่มันบอกแต่สามารถตรงไปตามเส้น 2196 แล้วค่อยเลี้ยวซ้ายตาม 2325 ได้
จากนั้นค่อยเลี้ยวซ้ายเข้ารีสอร์ท ซึ่งมีเส้นทางที่ชัดเจนกว่า... เวลาเดินทางผมก็จำแค่ว่า ขับตามมันไปก่อนในตอนแรก
พอเลยที่ว่าการอำเภอเขาค้อไป อย่าพึ่งเลี้ยวซ้ายตามที่มันบอก ให้ตรงไปเลี้ยวที่เส้น 2325 ซึ่งโดยปกติถ้าเราไม่เลี้ยวตามมัน
มันก็จะคำนวณเส้นทางใหม่ให้อยู่แล้ว เราก็ค่อยดูอีกทีว่ามันคำนวณให้อย่างที่เราวางแผนไว้หรือยัง


สิ่งหนึ่งที่ต้องระวังคือระหว่างเดินทาง โอกาสที่ app มันจะแอบคำนวณเส้นทางให้เราใหม่มันก็มีได้เรื่อยๆ
เช่น การหาดาวเทียมไม่เจอ เครื่องดับ แบตหมด เพราะฉะนั้นเมื่อมันคำนวณเส้นทางใหม่ มีโอกาสที่มันจะให้เราไปอีกทาง
ซึ่งคนละทางจากที่เราดูไว้ตอนแรก...  แล้วทีงี้ต้องทำไง  ต้องจอดเช็คกันตลอดทางเลยเหรอ...
ก็คงไม่จำเป็น แค่เราต้องทำความเข้าใจกับเส้นทางที่เราจะไปตั้งแต่แรก จำไว้บ้างว่าเราต้องเลี้ยวแยกไหน
ต้องวิ่งจากไหนไปไหนบ้าง ถ้าอยู่ๆ ขับไปแล้วมันผิดสังเกต ถ้าเรามั่นใจหรือจำได้ว่าต้องไปเส้นไหน เราก็ไม่ต้องสนใจมัน
แต่ถ้าไม่มั่นใจก็จอดเช็คก่อนก็ได้

คำถามต่อมา... แล้วถ้าเป็น GPS ที่มันติดมากับรถ หรือแบบที่ซื้อมาติดหน้ารถล่ะ มันเปิดภาพดาวเทียมมาดูไม่ได้นิ...?
อันนี้ก็แนะนำว่าให้ทำการบ้านก่อนเดินทางเยอะๆ ครับ อาจจะต้องเปิด Google Maps จากในคอมเทียบดูก่อนเดินทาง
จดหรือจำว่าเราต้องสังเกตหรือพิจารณาตรงจุดไหนเป็นพิเศษบ้าง หรือบางทีต้องเซ็ต "จุดแวะ" เพื่อบังคับให้มันพาไปตามที่เรากำหนด
อีกอย่างคือเรื่องการตั้งค่า ซึ่ง GPS แต่ละรุ่นจะสามารถตั้งค่าในการคำนวณเส้นทางได้ เช่น ให้มันเลือกคำนวณเฉพาะทางหลวงเป็นหลัก
เลือกได้ว่าจะเอาทางใกล้สุดหรือเน้นทางสะดวกที่สุด เลือกได้ว่าจะขึ้นทางด่วนหรือไม่ เลือกได้ว่าจะใช้ทางลัดหรือไม่ เป็นต้น
อันนี้ก็ต้องไปดูที่คู่มือการใช้งานของแต่ละเครื่องเอาเองนะครับ

=========================================

รู้เท่าทันคน

อย่างที่บอกว่า GPS มันไม่รู้ว่าจุดที่จะไปมันมีสภาพจริงอย่างไร มันก็คิดและคำนวณตามที่คนป้อนข้อมูลให้
นอกจากกรณีที่คนไม่ยอมอัพเดทเส้นทางให้มันแล้ว ยังมีกรณีที่คนอัพเดทพิกัดมั่วๆ ให้มันด้วย
บ่อยครั้งที่หลายคนไปตามมันจนถึงจุดหมายแล้วแต่ไม่ใช่ที่ที่จะไป เหมือนพี่คนนี้


งั้นเอากรณี "แกรนแคนยอนเชียงใหม่" เป็นกรณีศึกษาเลยแล้วกัน
ผมลองค้นคำว่า "แกรนแคนยอนเชียงใหม่" ใน Google Maps ดู ก็ปรากฏตามนี้ครับ


จะเห็นว่าตำแหน่งที่มันบอกมา ดูยังไงก็ไม่น่าจะใช่แกรนแคนยอนแน่นอน เหมือนจะเป็นบ้านคนซะมากกว่า
แต่พอลองสำรวจบริเวณใกล้เคียงก็จะเห็นภาพคล้ายๆ แหล่งน้ำ และมีชื่อภาษาอังกฤษกำกับว่า Grand Canyon ChiangMai
ซึ่งก็น่าจะเป็นพิกัดนี้มากกว่า ส่วนอันนั้นก็เป็นไปได้ว่าไอ้คนปักหมุด ก็คงปักมั่วๆ โดยไม่ได้เช็คให้ดีก่อน
คนตามไปทีหลังก็เลยไปไม่ถึงซะที เพราะฉะนั้นก็ควรทำตามที่บอกข้างต้น ให้เช็คเส้นทาง เช็คจุดหมายปลายทางให้ชัดเจน
โดยเช็คกับภาพถ่ายดาวเทียมว่ามันมีลักษณะเหมือนหรือใกล้เคียงกับจุดที่เราจะไปไหม
ถ้าดูยังไงก็ไม่ใช่ก็คงต้องค้นหาใหม่ อาจจะสำรวจพื้นที่ใกล้เคียง เปลี่ยนภาษา หรือไปดูแผนที่ที่หน้าเว็บไซต์หรือเพจสถานที่ที่เราจะไป
ซึ่งถ้าเป็นแผนที่ที่ทำแบบภาพวาดลายเส้น ก็ให้เรามาเปิดเทียบใน Google Maps แล้วใช้วิธีปักหมุดเอาเองก็ได้

อีกกรณีหนึ่งที่จะพบได้บ่อยคือการแชร์โลเคชั่นผ่านไลน์...  เพื่อนแชร์มาปุ๊บ เรากดนำทางปั๊บ สุดท้ายขึ้นเขาลงห้วยไปไหนก็ไม่รู้
บางคนไปโผล่สุสานที่ไหนซักแห่งตอนดึกๆ และก็เอามาเล่าเป็นเรื่องผีในเดอร์ซ็อค... เฮ้ย..!! ผมก็งง มันมีผีตรงไหน
มันผิดพลาดกันได้ครับ และบ่อยด้วย สาเหตคือคนแชร์ก็รีบแชร์ คนตามไปก็รีบตาม
คนแชร์รีบแชร์ โดยไม่เช็คก่อนว่าตำแหน่งที่จะแชร์ไปใช่ที่เรายืนอยู่ไหม เพราะการหาตำแหน่งของ GPS มันต้องรอเวลา
รับสัญญาณจากดาวเทียม ซึ่งปกติถ้าเพื่อความแม่นยำก็ต้อง 3 ดวงขึ้นไป พอรีบแชร์ทั้งๆ ที่การค้นหาตำแหน่งยังสำเร็จ
หรือยังไม่แม่นยำพอ มันก็ส่งค่าพิกัดที่ผิดไป บางคนตัวอยู่เชียงใหม่ แต่พิกัดยังอยู่แถวรังสิตก็มี
ส่วนคนตามพิกัดไป ก็ต้องเช็คให้ดีก่อนว่ามันใช่ที่ที่เราจะไปไหม ถ้าไม่ใช่ก็ต้องบอกให้เพื่อนแชร์มาให้ใหม่ครับ...

=========================================

บทสรุป

สรุปให้สั้นๆ ง่ายว่า GPS หรือ Navigator ถ้าจะใช้ ใช้ให้มันเป็นแค่ "เลขาฯ" อย่าให้มันเป็น "เจ้านาย"
ใช้เป็นแค่สิ่งที่ให้ข้อมูลประกอบการตัดสินใจ อย่าทำให้มันมาบังคับให้เราทำตาม
ตรวจสอบเป้าหมาย เส้นทางให้ชัวร์ก่อนออกเดินทางทุกครั้ง และพึงระวังไว้เสมอว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้เสมอ
บางทีเราอาจไปเจอทางขาด สะพานซ่อม ดินสไลด์ ม็อบประท้วง งานบุญ งานบวช งานแต่ง ฯลฯ
เพราะฉนั้นการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเป็นสิ่งสำคัญ และท่าไม้ตายสุดท้ายจริงๆ คือ "ปาก" ครับ
ถามเขาเหอะคนแถวนั้น เขาน่าจะรู้ดีกว่าเราแน่นอน

เบื้องต้นก็ไว้ประมาณนี้ก่อน มีอะไรเพิ่มเติมพูดคุยแลกเปลี่ยนกันด้านล่างได้ครับ...
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่