ผมเขียนกระทู้นี้ขึ้นมาจากประสบการณ์โดยมุ่งหวังให้ผู้ใช้งาน GPS เพื่อนำทางมีความเข้าใจ มีความมั่นใจ และมีความปลอดภัยในการใช้งานมากขึ้น
GPS นำทาง มีหลายยี่ห้อหลายรูปแบบและหลายระบบ แต่ผมจะกล่าวถึงการนำทางโดยใช้ google map เป็นหลัก เนื่องจากเป็นโปรแกรมฟรีที่นิยมใช้กันทั่วไป การแนะนำการใช้งานนี้จะไม่ลงรายละเอียดมากนะครับเน้นอธิบายให้ user ทั่วไปใช้งาน
การใช้งานคร่าว ๆ
1. เลือกจุดเริ่มต้น และที่หมายปลายทาง โดยเลือกจากแผนที่หรือ search หาชื่อหรือตำบลที่ได้ถ้าหากมี
2. เลือกพาหนะ รถยนต์ รถประจำทาง รถจักรยานยนต์ หรือเดิน
3. เลือกเส้นทาง เช่น ให้ใช้ทางด่วนได้
เลือกเสร็จก็ใช้งานได้เลยครับ แต่ เดี๋ยวก่อน อย่าเพิ่งไว้ใจ GPS ไปทั้งหมด ก่อนใช้งาน GPS ควรทำความเข้าใจก่อนว่า
1. ข้อมูลถนนใน GPS ไม่ใช้ข้อมูลล่าสุด เราต้องคิดเสมอว่าข้อมูลต่างๆ ใน GPS เป็นข้อมูลในอดีต ไม่ใช่ข้อมูลปัจจุบันล่าสุดและเราไม่รู้ว่าข้อมูลที่เอามาใช้มาจากแหล่งไหน เชื่อถือได้มากน้อยแค่ไหน เพราะกว่าจะผ่านขั้นตอนการสำรวจเส้นทางจนสร้างออกมาเป็นแผนที่นั้นใช้เวลานานและการอัพเดทแผนที่นั้นไม่ได้ทำตลอดเวลา เส้นทางบางเส้นที่ปรากฏใน GPS นั้นอาจจะเลิกใช้ไปแล้ว อาจถูกปิด อาจจะไม่มีอยู่จริง หรืออาจจะมีถนนเส้นใหม่ที่ไม่มีใน GPS มาสร้างความสับสนให้กับเราได้
2. ตำบลที่ของรถที่ปรากฏใน GPS ไม่ใช้ตำบลที่จริงๆ ของรถ ปกติแล้วความแม่นยำของ GPS มือถืออยู่ที่หลายเมตรถึงหลายสิบเมตร แต่ตำบลที่ของรถเราจะถูกโยงให้ไปอยู่บนถนนเสมอจากระบบภายใน GPS เอง แต่ก็สามารถยกเลิกระบบนี้ได้หากต้องการใช้งานแบบ off road ดังนั้นหากเราอยู่บนถนนที่มีทางคู่ขนานหรือบริเวณแยก ตำบลที่รถเราอาจจะเด้งไปอยู่บนทางเส้นไหนก็ได้
3. ตำบลที่ของรถใน GPS มีการเคลื่อนที่แบบมีความเร่งและมีดีเลย์ คำว่ามีความเร่ง หมายถึงระบบใน GPS จะคำนวณความเร็วและทิศทางของรถล่วงหน้าคร่าวๆ มาแสดงให้เราเห็นในหน้าจอ GPS หากเราขับรถมาเร็วๆ แล้วเบรคจะสังเกตว่าตำบลที่รถจะยังคงเคลื่อนที่ไปข้างหน้าอีกระยะหนึ่งก่อนจะเด้งกลับมาอยู่ที่ตำแหน่งปัจจุบัน ส่วนการดีเลย์ หมายถึงเมื่อเริ่มเคลื่อนที่หรือรับสัญญาณใหม่ๆ ตำบลที่ของรถเราจะอัพเดทช้าทำให้ตำบลที่รถใน GPS ปรากฏช้ากว่าความเป็นจริง สิ่งเหล่านี้ทำให้เราขับรถเลยทางเลี้ยว ทางแยก ได้หากเรามอง GPS เพียงอย่างเดียว
4. การใช้งาน GPS ใต้สิ่งกีดขวางเช่น ทางด่วนหรือต้นไม่ใหญ่ จะทำให้รับสัญญาณ GPS ได้น้อยลงหรือรับไม่ได้เลย ทำให้ตำบลที่รถเราอาจหยุดอยู่กับที่หรือเด้งไปมาได้หรือตำแหน่งรถหายไปเลยก็ได้
5. ระยะเวลาเดินทางจากจุดเริ่มไปถึงจุดหมายใน GPS คำนวณจากระยะทางรวมและความเร็ว Speed limit บนเส้นทางนั้นในแต่ละช่วง และอาจรวมข้อมูลการจราจรบางส่วนเข้ามา แต่ในการขับรถจริงเรามีเหตุให้ใช้ความเร็วไม่ได้ตลอดทำให้ใช้เวลาเกินกว่าที่ประมาณเสมอ
ข้อแนะนำการใช้งาน GPS
เทคนิคการใช้งาน GPS ส่วนตัว เพิ่มเติมจากข้อมูลด้านบนนะครับ
1. ใช้ GPS เพื่อให้เห็นภาพรวมเส้นทางทั้งหมด แต่ไม่ต้องเชื่อทั้งหมด
2. ใช้เพื่อดูว่าเส้นทางข้างหน้ามีทางโค้ง ทางเลี้ยว ทางแยก สะพาน แม่น้ำ ฯลฯ เพื่อให้ขับขี่ได้ปลอดภัยขึ้น
3. หากไม่มั่นใจในเส้นทางลัดหรือทางที่ดูแล้วแปลกๆ ใน GPS ให้เปิดโหมดภาพถ่ายดาวเทียมดูประกอบกันว่าทางเส้นนั้นเป็นทางหรือเป็นป่า เป็นหญ้า หรือดูในโหมด street view ก็ได้ถ้าหากมี
4. จดจำข้อมูลและเส้นทางในหัวไว้คร่าวๆ เตรียมพร้อมเสมอหากสัญญาณ GPS หายไประหว่างการขับรถ ชะลอความเร็วก่อนถึงทางเลี้ยว ทางแยก
5. GPS รู้แค่ตำบลที่กับข้อมูลที่มีในระบบ มันไม่รู้รายละเอียดของเส้นทางว่าถนนสภาพแบบไหน มีความชันเท่าไหร่ รกร้างหรือไม่ สภาพรถเป็นอย่างไร ฯลฯ สุดท้ายตัวผู้ขับขี่ต้องเป็นคนตัดสินใจ
เบื้องต้นก็มีข้อแนะนำการใช้งานประมาณนี้ใครมีเพิ่มเติมก็มาแชร์กันได้ครับ
การใช้ GPS นำทาง
GPS นำทาง มีหลายยี่ห้อหลายรูปแบบและหลายระบบ แต่ผมจะกล่าวถึงการนำทางโดยใช้ google map เป็นหลัก เนื่องจากเป็นโปรแกรมฟรีที่นิยมใช้กันทั่วไป การแนะนำการใช้งานนี้จะไม่ลงรายละเอียดมากนะครับเน้นอธิบายให้ user ทั่วไปใช้งาน
การใช้งานคร่าว ๆ
1. เลือกจุดเริ่มต้น และที่หมายปลายทาง โดยเลือกจากแผนที่หรือ search หาชื่อหรือตำบลที่ได้ถ้าหากมี
2. เลือกพาหนะ รถยนต์ รถประจำทาง รถจักรยานยนต์ หรือเดิน
3. เลือกเส้นทาง เช่น ให้ใช้ทางด่วนได้
เลือกเสร็จก็ใช้งานได้เลยครับ แต่ เดี๋ยวก่อน อย่าเพิ่งไว้ใจ GPS ไปทั้งหมด ก่อนใช้งาน GPS ควรทำความเข้าใจก่อนว่า
1. ข้อมูลถนนใน GPS ไม่ใช้ข้อมูลล่าสุด เราต้องคิดเสมอว่าข้อมูลต่างๆ ใน GPS เป็นข้อมูลในอดีต ไม่ใช่ข้อมูลปัจจุบันล่าสุดและเราไม่รู้ว่าข้อมูลที่เอามาใช้มาจากแหล่งไหน เชื่อถือได้มากน้อยแค่ไหน เพราะกว่าจะผ่านขั้นตอนการสำรวจเส้นทางจนสร้างออกมาเป็นแผนที่นั้นใช้เวลานานและการอัพเดทแผนที่นั้นไม่ได้ทำตลอดเวลา เส้นทางบางเส้นที่ปรากฏใน GPS นั้นอาจจะเลิกใช้ไปแล้ว อาจถูกปิด อาจจะไม่มีอยู่จริง หรืออาจจะมีถนนเส้นใหม่ที่ไม่มีใน GPS มาสร้างความสับสนให้กับเราได้
2. ตำบลที่ของรถที่ปรากฏใน GPS ไม่ใช้ตำบลที่จริงๆ ของรถ ปกติแล้วความแม่นยำของ GPS มือถืออยู่ที่หลายเมตรถึงหลายสิบเมตร แต่ตำบลที่ของรถเราจะถูกโยงให้ไปอยู่บนถนนเสมอจากระบบภายใน GPS เอง แต่ก็สามารถยกเลิกระบบนี้ได้หากต้องการใช้งานแบบ off road ดังนั้นหากเราอยู่บนถนนที่มีทางคู่ขนานหรือบริเวณแยก ตำบลที่รถเราอาจจะเด้งไปอยู่บนทางเส้นไหนก็ได้
3. ตำบลที่ของรถใน GPS มีการเคลื่อนที่แบบมีความเร่งและมีดีเลย์ คำว่ามีความเร่ง หมายถึงระบบใน GPS จะคำนวณความเร็วและทิศทางของรถล่วงหน้าคร่าวๆ มาแสดงให้เราเห็นในหน้าจอ GPS หากเราขับรถมาเร็วๆ แล้วเบรคจะสังเกตว่าตำบลที่รถจะยังคงเคลื่อนที่ไปข้างหน้าอีกระยะหนึ่งก่อนจะเด้งกลับมาอยู่ที่ตำแหน่งปัจจุบัน ส่วนการดีเลย์ หมายถึงเมื่อเริ่มเคลื่อนที่หรือรับสัญญาณใหม่ๆ ตำบลที่ของรถเราจะอัพเดทช้าทำให้ตำบลที่รถใน GPS ปรากฏช้ากว่าความเป็นจริง สิ่งเหล่านี้ทำให้เราขับรถเลยทางเลี้ยว ทางแยก ได้หากเรามอง GPS เพียงอย่างเดียว
4. การใช้งาน GPS ใต้สิ่งกีดขวางเช่น ทางด่วนหรือต้นไม่ใหญ่ จะทำให้รับสัญญาณ GPS ได้น้อยลงหรือรับไม่ได้เลย ทำให้ตำบลที่รถเราอาจหยุดอยู่กับที่หรือเด้งไปมาได้หรือตำแหน่งรถหายไปเลยก็ได้
5. ระยะเวลาเดินทางจากจุดเริ่มไปถึงจุดหมายใน GPS คำนวณจากระยะทางรวมและความเร็ว Speed limit บนเส้นทางนั้นในแต่ละช่วง และอาจรวมข้อมูลการจราจรบางส่วนเข้ามา แต่ในการขับรถจริงเรามีเหตุให้ใช้ความเร็วไม่ได้ตลอดทำให้ใช้เวลาเกินกว่าที่ประมาณเสมอ
ข้อแนะนำการใช้งาน GPS
เทคนิคการใช้งาน GPS ส่วนตัว เพิ่มเติมจากข้อมูลด้านบนนะครับ
1. ใช้ GPS เพื่อให้เห็นภาพรวมเส้นทางทั้งหมด แต่ไม่ต้องเชื่อทั้งหมด
2. ใช้เพื่อดูว่าเส้นทางข้างหน้ามีทางโค้ง ทางเลี้ยว ทางแยก สะพาน แม่น้ำ ฯลฯ เพื่อให้ขับขี่ได้ปลอดภัยขึ้น
3. หากไม่มั่นใจในเส้นทางลัดหรือทางที่ดูแล้วแปลกๆ ใน GPS ให้เปิดโหมดภาพถ่ายดาวเทียมดูประกอบกันว่าทางเส้นนั้นเป็นทางหรือเป็นป่า เป็นหญ้า หรือดูในโหมด street view ก็ได้ถ้าหากมี
4. จดจำข้อมูลและเส้นทางในหัวไว้คร่าวๆ เตรียมพร้อมเสมอหากสัญญาณ GPS หายไประหว่างการขับรถ ชะลอความเร็วก่อนถึงทางเลี้ยว ทางแยก
5. GPS รู้แค่ตำบลที่กับข้อมูลที่มีในระบบ มันไม่รู้รายละเอียดของเส้นทางว่าถนนสภาพแบบไหน มีความชันเท่าไหร่ รกร้างหรือไม่ สภาพรถเป็นอย่างไร ฯลฯ สุดท้ายตัวผู้ขับขี่ต้องเป็นคนตัดสินใจ
เบื้องต้นก็มีข้อแนะนำการใช้งานประมาณนี้ใครมีเพิ่มเติมก็มาแชร์กันได้ครับ