สวัสดีครับ วันนี้ชีวิตเดินมาถึงจุดแย่จุดนึง นั่งเซ็งๆอยู่ เลยมาตั้งกระทู้บอกเล่าให้พี่น้องพันทิปดีกว่า
คุณเป็นคนที่เคยบอกว่า ชั้นเป็นเป็ด ชั้นไม่เก่งอะไร ชั้นเป็นมนุษย์เงินเดือนธรรมดามั้ยครับ
คุณรู้ใหมครับ คนที่คุณบอกว่าเก่งๆน่ะ ที่จริงแล้ว ความเก่งไม่ใช่คำตอบทุกอย่างของชีวิตครับ และบางที มันก็อาจนำพาชีวิตพวกเขาให้แย่กว่าคุณๆซะอีก
เนื้อหาในกระทู้นี้อาจจะส่อไปในทางอวดอ้างตน แต่ผมยอมโดนครับ เพราะอยากจะแชร์จริงๆ
เล่าย้อนไปตอนเรียนก่อน
ผมเป็นคนที่มีลักษณะสมองดี ว่างั้น ตอนมัธยม 3.9-4.0 ตลอด ไม่เคยเรียนพิเศษ อ่านเอาก่อนสอบคืนเดียวตลอด
เวลาอาจารย์ให้งานอะไร ทำแปบเดียว สอนอะไรก็จำหมด อังกฤษได้ คณิตได้ เรียงความได้
ความลำบากอย่างแรกเลยคือ ถูกมองเป็นคนแปลกครับ แต่ไม่หนักหนาเท่าไหร่
ต่อมาคือ ทำงานกลุ่มคนเดียวตลอดครับ เพราะเพื่อนเอาแต่บอกว่า เธอเก่ง เธอทำเลย เพื่อนรอจ่ายตังอย่างเดียว
ต่อมาคือ โดนใช้ทำงานแทนครับ เพื่อนสอบตกเกือบยกห้องต้องเขียนเรียงความส่งคนละ 5 แผ่น คือโยนมาให้เลยครับ 10 กว่าคน
ตอนนั้นเหลือวันนึงเพื่อนทำไม่ทันครับ ผมต้องหอบกลับบ้านปั่นยิกๆให้ 50 กว่าแผ่น โหย ลิ้นห้อย 555 (แต่เพื่อนก็ไม่ได้มองว่าดีนะ)
มาถึงตรงนี้หลายคนอาจจะบอกว่า เป็นเพราะเจอเพื่อนงี้ ใช่ครับ แต่ส่วนนึงมันเป็นเพราะเราทำงานให้เขาได้ เลยถูกเล็งไว้ใช้งานตลอดเวลา **ดอกจันไว้นะครับ**
ตอนนั้นยังไม่พีคเท่าไหร่ เป็นเด็กก๊งๆอยู่ ต่อมาได้ทุนเข้า ม รัฐ
เข้ามหาลัยมา เริ่มแผลงฤทธิ์ อาจารย์สอนแล้วทำได้เกินที่สอนหมด เริ่มคิดว่าตัวเองเก่ง
เริ่มมีเพื่อนมาให้ช่วยทำโปรเจค เยอะมาก เริ่มหลงตัวเองละ ทีนี้อาจารย์สั่งโปรเจคมา ง่ายๆเราไม่เอา เราจะทำโหดๆ ยากๆ
แล้วเพื่อนในกลุ่มก็ทำตามไม่ทัน ผมบอก ไม่เป็นไร โซโลคนเดียว พรีเซนต์คนเดียว ฉันทำได้ **ดอกจันไว้อีก**
ช่วงท้ายๆ ปี 2 ฐานะทางบ้านเริ่มไม่ดี เลยทำงานนอกด้วย เรียนไปด้วย เวลาไม่มี แต่ก็ยังอยากจะทำงานยากๆส่งอาจารย์อยู่ เริ่มมีปัญหาละครับ
แต่แก้ได้ ไปปั่นเอาจนเสร็จหน้าห้องส่งก็เอา เพื่อนก็ เออออ อยากทำไรก็ทำเลยพี่
ต่อมา ปี 3 เริ่มอยากทำตามความฝันและ มีโปรเจคนึง คิดว่า เราทำได้แน่ๆ ทำแล้วรวยแน่ๆ ตอนนั้นมองไม่เห็นอะไรเลย คิดแต่ว่า ตูจะทำๆ
ไปลงเรียนแล้วก็มานั่งทำเลย ทีนี้งานเข้าสิครับ เงินก็ต้องหา งานต้องทำ เรียนก็ต้องเรียน ยังมาอดหลับอดนอนปั่นโปรเจคอีก
สุดท้ายมันไปกระทบโปรเจคจบครับ เกือบไม่จบ ! อ้อนวอนอาจารย์แทบแย่
(อย่างที่รู้กันคือ โปรเจคจบก็วางไว้อลังการงานสร้างอีกน่ะแหละครับ)
แต่เทียบกับเพื่อนที่เรียนมาแบบชิวๆนะครับ ทำโปรเจค น่ารักๆ มุ้งมิ้งๆ เหนื่อยบ้าง อะไรบ้าง แต่ช่วยกัน เพื่อนคู่โปรเจคช่วย อาจารย์ช่วย ก็พรีเซนต์ผ่านแบบไม่ลำบากนัก
สุดท้ายผมก็จบมาได้ ทีนี้ ไอโปรเจคลับที่ผมว่า จะทำให้รวย มันเจ๊งครับ เพราะมาตรฐานมันไม่ถึงระดับธุรกิจ !
ผมก็เฟลอยู่พักนึง แล้วจำใจไปหางานทำ
ทีนี้พอไปทำงาน เค้าบอกว่า วันนี้ลองเรียนตัวนี้ดูนะ ต่อไปจะได้ใช้
พอผ่านไปชั่วโมงนึง ผมก็บอก ใช้เป็นแล้วครับพี่จะให้ผมทำอะไรต่อครับ
พี่เค้าไม่เชื่อ ให้ลองทำฟีเจอร์ของงานจริงตัวนึง ผมก็ทำได้เลย เค้าเลยให้เข้าทำโปรเจคใหญ่เลย
ทีนี้งานมันก็โหดสิครับ งานเข้ามาเพียบ แต่ถามว่าเงินเดือนเพิ่มใหม
เพิ่งเข้ามายังไม่ผ่านโปรเลยครับ !
แล้วทีนี้ อีกอย่างนึงที่พีคมากๆ คือ สมมติได้งานมาใช่ปะครับ ปกติมันต้องทำ 2 วัน ถ้าเราทำครึ่งวันเสร็จ จากนั้นเรานั่งว่างๆ จะเกิดอะไรขึ้น
โดนยัดงานเพิ่มสิครับ แต่สมองเรายังต้องการการพักอยู่ คือ ทำเร็วจริง แต่ไม่ได้ทำงานโหดได้ติดๆกันขนาดนั้น
นั่งดูเฟสดูอะไรแก้ล้าก็ไม่ได้ครับ บอกตรง เครียด
สุดท้ายทำได้ปีนึง ลาออกมาทำฟรีแลนซ์ครับ แต่ด้วยความที่ฐานะการเงินไม่ดีมาแต่แรก
เลยต้องรับงานมาทำแบบ เยอะมากๆ วันนึงทำสองงาน สามงาน ความอยากได้ตังค์ ความที่คิดว่า เราทำได้
หลังๆไปรับโปรเจคใหญ่มา ทำๆไป ฟีเจอร์บาน บั๊คบานตะไท ถามใครก็ไม่ได้ นั่งทำอยู่คนเดียว stackoverflow ช่วยด้วย !
ลูกค้าเปลี่ยนนู่นเปลี่ยนนี่ ไปส่งงานทีเขาบอกให้เพิ่มอะไร เพิ่มให้เขาเลยแปบเดียว เขาได้ใจสิ เพิ่มๆๆๆ สุดท้าย งานงอกใหญ่โตมโหราฬ
แต่สุดท้ายเข็นจนเสร็จครับ เริ่มคิดว่า ไม่ได้และ ทำโปรเจคของตัวเองต่อดีกว่า
เลยเอาเวลารับงานมาแอบทำโปรเจคอีก สุดท้ายงานกองสุมเต็มบ้าน แต่ก็เอา เพื่อความฝัน !
สุดท้ายนี้ สรุปนะครับ ทำไมคนเก่งถึงลำบากกว่าคนทั่วไป
1. คนอื่นหวังพึ่ง บางคนพึ่งแบบ ให้ทำให้เสร็จสรรพเลย ชั้นรู้ เธอทำได้ !
2. ถึงเสร็จงานของตัวเองเร็ว แต่จะโดนยัดงานอื่นต่อ พักก็หาว่าอู้ แต่ถ้าทำแบบสโลว์ไลฟ์แต่แรก เวลาจะพอดี เจ้านายชอบ !
3. นิสัยคนเก่งจะไม่หยุดอยู่ที่ไดที่นึง มันจะมาพร้อมความมุทะลุอย่างแรงกล้า สุดท้ายจะชนลิมิตของตัวเอง
4. คิดว่าตัวเองรับได้ สองงาน สามงาน สุดท้ายร่างกายจะทรุดโทรม
5. ทำอะไรง่ายๆให้ได้ผลดีไม่เป็น ต้องหรู ต้องดี ตั้งธงไว้เลย สุดท้ายจะลำบากตัวเอง
6. เมื่อเราเดินมาถึงจุดนึงคนรอบตัวเราจะช่วยเราไม่ได้ เพราะเราทิ้งเค้ามาไกลเกิน
7. วิธีคิดวิธีมองโลกจะต่างกับชาวบ้าน อะไรที่เค้าว่าดี เราไม่มองอย่างนั้น มีคนชวนกลับไปทำงานประจำ ไปสอบ กพบ้าง อะไรบ้าง
และท้ายที่สุด
8. คนเก่งจะถูกหลอกล่อให้มีความฝัน ซึ่งจริงๆแล้ว การจะทำให้ฝันสำเร็จ ความเก่งมันไม่ใช่ทุกอย่าง
เราจะต้องฝึกจิตใจ ฝึกวิธีคิด หาเงิน หาประสบการณ์ หาเพื่อนที่ทำได้เหมือนกัน ต้องอดทนอย่าง สุดๆ ชนิดที่ไม่ใช่คนแบบเดียวกัน จะไม่เข้าใจเลย
หลายคนตามหัวใจไป ความฝันล้มเหลว แล้วเอ๋อไปเลย !
ส่วนผม หลังๆมานี้ผมรู้ตัวเองมากขึ้น แต่เหมือนมันชินกับชีวิตแบบนี้แล้ว ลงหลังเสือไม่ได้แล้ว บางทีก็แอบสนุกกับมัน ถึงจะเครียดมากก็ตาม
บางมุมมันก็ดีนะ ขอบคุณที่รับฟังครับ 555
ปล.มีปัญหากับแฟนด้วยเพราะเราใช้ชีวิตไม่เหมือนชาวบ้าน เวลาเจอแฟนคนอื่นอวดเงินเดือนงู้นงี้ นอยตลอด
เห็นเค้า แต่งเชิ้ตใส่สแลคหรู กู้เงินได้ มีบัตร 0 เปอเซน 10 เดือน ออกรถได้ 55
ใครเคยคิดว่าตัวเองไม่เก่งอะไรเลย ไม่มีความฝัน เคยอิจฉาคนอื่น ลองมาอ่านกระทู้นี้
คุณเป็นคนที่เคยบอกว่า ชั้นเป็นเป็ด ชั้นไม่เก่งอะไร ชั้นเป็นมนุษย์เงินเดือนธรรมดามั้ยครับ
คุณรู้ใหมครับ คนที่คุณบอกว่าเก่งๆน่ะ ที่จริงแล้ว ความเก่งไม่ใช่คำตอบทุกอย่างของชีวิตครับ และบางที มันก็อาจนำพาชีวิตพวกเขาให้แย่กว่าคุณๆซะอีก
เนื้อหาในกระทู้นี้อาจจะส่อไปในทางอวดอ้างตน แต่ผมยอมโดนครับ เพราะอยากจะแชร์จริงๆ
เล่าย้อนไปตอนเรียนก่อน
ผมเป็นคนที่มีลักษณะสมองดี ว่างั้น ตอนมัธยม 3.9-4.0 ตลอด ไม่เคยเรียนพิเศษ อ่านเอาก่อนสอบคืนเดียวตลอด
เวลาอาจารย์ให้งานอะไร ทำแปบเดียว สอนอะไรก็จำหมด อังกฤษได้ คณิตได้ เรียงความได้
ความลำบากอย่างแรกเลยคือ ถูกมองเป็นคนแปลกครับ แต่ไม่หนักหนาเท่าไหร่
ต่อมาคือ ทำงานกลุ่มคนเดียวตลอดครับ เพราะเพื่อนเอาแต่บอกว่า เธอเก่ง เธอทำเลย เพื่อนรอจ่ายตังอย่างเดียว
ต่อมาคือ โดนใช้ทำงานแทนครับ เพื่อนสอบตกเกือบยกห้องต้องเขียนเรียงความส่งคนละ 5 แผ่น คือโยนมาให้เลยครับ 10 กว่าคน
ตอนนั้นเหลือวันนึงเพื่อนทำไม่ทันครับ ผมต้องหอบกลับบ้านปั่นยิกๆให้ 50 กว่าแผ่น โหย ลิ้นห้อย 555 (แต่เพื่อนก็ไม่ได้มองว่าดีนะ)
มาถึงตรงนี้หลายคนอาจจะบอกว่า เป็นเพราะเจอเพื่อนงี้ ใช่ครับ แต่ส่วนนึงมันเป็นเพราะเราทำงานให้เขาได้ เลยถูกเล็งไว้ใช้งานตลอดเวลา **ดอกจันไว้นะครับ**
ตอนนั้นยังไม่พีคเท่าไหร่ เป็นเด็กก๊งๆอยู่ ต่อมาได้ทุนเข้า ม รัฐ
เข้ามหาลัยมา เริ่มแผลงฤทธิ์ อาจารย์สอนแล้วทำได้เกินที่สอนหมด เริ่มคิดว่าตัวเองเก่ง
เริ่มมีเพื่อนมาให้ช่วยทำโปรเจค เยอะมาก เริ่มหลงตัวเองละ ทีนี้อาจารย์สั่งโปรเจคมา ง่ายๆเราไม่เอา เราจะทำโหดๆ ยากๆ
แล้วเพื่อนในกลุ่มก็ทำตามไม่ทัน ผมบอก ไม่เป็นไร โซโลคนเดียว พรีเซนต์คนเดียว ฉันทำได้ **ดอกจันไว้อีก**
ช่วงท้ายๆ ปี 2 ฐานะทางบ้านเริ่มไม่ดี เลยทำงานนอกด้วย เรียนไปด้วย เวลาไม่มี แต่ก็ยังอยากจะทำงานยากๆส่งอาจารย์อยู่ เริ่มมีปัญหาละครับ
แต่แก้ได้ ไปปั่นเอาจนเสร็จหน้าห้องส่งก็เอา เพื่อนก็ เออออ อยากทำไรก็ทำเลยพี่
ต่อมา ปี 3 เริ่มอยากทำตามความฝันและ มีโปรเจคนึง คิดว่า เราทำได้แน่ๆ ทำแล้วรวยแน่ๆ ตอนนั้นมองไม่เห็นอะไรเลย คิดแต่ว่า ตูจะทำๆ
ไปลงเรียนแล้วก็มานั่งทำเลย ทีนี้งานเข้าสิครับ เงินก็ต้องหา งานต้องทำ เรียนก็ต้องเรียน ยังมาอดหลับอดนอนปั่นโปรเจคอีก
สุดท้ายมันไปกระทบโปรเจคจบครับ เกือบไม่จบ ! อ้อนวอนอาจารย์แทบแย่
(อย่างที่รู้กันคือ โปรเจคจบก็วางไว้อลังการงานสร้างอีกน่ะแหละครับ)
แต่เทียบกับเพื่อนที่เรียนมาแบบชิวๆนะครับ ทำโปรเจค น่ารักๆ มุ้งมิ้งๆ เหนื่อยบ้าง อะไรบ้าง แต่ช่วยกัน เพื่อนคู่โปรเจคช่วย อาจารย์ช่วย ก็พรีเซนต์ผ่านแบบไม่ลำบากนัก
สุดท้ายผมก็จบมาได้ ทีนี้ ไอโปรเจคลับที่ผมว่า จะทำให้รวย มันเจ๊งครับ เพราะมาตรฐานมันไม่ถึงระดับธุรกิจ !
ผมก็เฟลอยู่พักนึง แล้วจำใจไปหางานทำ
ทีนี้พอไปทำงาน เค้าบอกว่า วันนี้ลองเรียนตัวนี้ดูนะ ต่อไปจะได้ใช้
พอผ่านไปชั่วโมงนึง ผมก็บอก ใช้เป็นแล้วครับพี่จะให้ผมทำอะไรต่อครับ
พี่เค้าไม่เชื่อ ให้ลองทำฟีเจอร์ของงานจริงตัวนึง ผมก็ทำได้เลย เค้าเลยให้เข้าทำโปรเจคใหญ่เลย
ทีนี้งานมันก็โหดสิครับ งานเข้ามาเพียบ แต่ถามว่าเงินเดือนเพิ่มใหม
เพิ่งเข้ามายังไม่ผ่านโปรเลยครับ !
แล้วทีนี้ อีกอย่างนึงที่พีคมากๆ คือ สมมติได้งานมาใช่ปะครับ ปกติมันต้องทำ 2 วัน ถ้าเราทำครึ่งวันเสร็จ จากนั้นเรานั่งว่างๆ จะเกิดอะไรขึ้น
โดนยัดงานเพิ่มสิครับ แต่สมองเรายังต้องการการพักอยู่ คือ ทำเร็วจริง แต่ไม่ได้ทำงานโหดได้ติดๆกันขนาดนั้น
นั่งดูเฟสดูอะไรแก้ล้าก็ไม่ได้ครับ บอกตรง เครียด
สุดท้ายทำได้ปีนึง ลาออกมาทำฟรีแลนซ์ครับ แต่ด้วยความที่ฐานะการเงินไม่ดีมาแต่แรก
เลยต้องรับงานมาทำแบบ เยอะมากๆ วันนึงทำสองงาน สามงาน ความอยากได้ตังค์ ความที่คิดว่า เราทำได้
หลังๆไปรับโปรเจคใหญ่มา ทำๆไป ฟีเจอร์บาน บั๊คบานตะไท ถามใครก็ไม่ได้ นั่งทำอยู่คนเดียว stackoverflow ช่วยด้วย !
ลูกค้าเปลี่ยนนู่นเปลี่ยนนี่ ไปส่งงานทีเขาบอกให้เพิ่มอะไร เพิ่มให้เขาเลยแปบเดียว เขาได้ใจสิ เพิ่มๆๆๆ สุดท้าย งานงอกใหญ่โตมโหราฬ
แต่สุดท้ายเข็นจนเสร็จครับ เริ่มคิดว่า ไม่ได้และ ทำโปรเจคของตัวเองต่อดีกว่า
เลยเอาเวลารับงานมาแอบทำโปรเจคอีก สุดท้ายงานกองสุมเต็มบ้าน แต่ก็เอา เพื่อความฝัน !
สุดท้ายนี้ สรุปนะครับ ทำไมคนเก่งถึงลำบากกว่าคนทั่วไป
1. คนอื่นหวังพึ่ง บางคนพึ่งแบบ ให้ทำให้เสร็จสรรพเลย ชั้นรู้ เธอทำได้ !
2. ถึงเสร็จงานของตัวเองเร็ว แต่จะโดนยัดงานอื่นต่อ พักก็หาว่าอู้ แต่ถ้าทำแบบสโลว์ไลฟ์แต่แรก เวลาจะพอดี เจ้านายชอบ !
3. นิสัยคนเก่งจะไม่หยุดอยู่ที่ไดที่นึง มันจะมาพร้อมความมุทะลุอย่างแรงกล้า สุดท้ายจะชนลิมิตของตัวเอง
4. คิดว่าตัวเองรับได้ สองงาน สามงาน สุดท้ายร่างกายจะทรุดโทรม
5. ทำอะไรง่ายๆให้ได้ผลดีไม่เป็น ต้องหรู ต้องดี ตั้งธงไว้เลย สุดท้ายจะลำบากตัวเอง
6. เมื่อเราเดินมาถึงจุดนึงคนรอบตัวเราจะช่วยเราไม่ได้ เพราะเราทิ้งเค้ามาไกลเกิน
7. วิธีคิดวิธีมองโลกจะต่างกับชาวบ้าน อะไรที่เค้าว่าดี เราไม่มองอย่างนั้น มีคนชวนกลับไปทำงานประจำ ไปสอบ กพบ้าง อะไรบ้าง
และท้ายที่สุด
8. คนเก่งจะถูกหลอกล่อให้มีความฝัน ซึ่งจริงๆแล้ว การจะทำให้ฝันสำเร็จ ความเก่งมันไม่ใช่ทุกอย่าง
เราจะต้องฝึกจิตใจ ฝึกวิธีคิด หาเงิน หาประสบการณ์ หาเพื่อนที่ทำได้เหมือนกัน ต้องอดทนอย่าง สุดๆ ชนิดที่ไม่ใช่คนแบบเดียวกัน จะไม่เข้าใจเลย
หลายคนตามหัวใจไป ความฝันล้มเหลว แล้วเอ๋อไปเลย !
ส่วนผม หลังๆมานี้ผมรู้ตัวเองมากขึ้น แต่เหมือนมันชินกับชีวิตแบบนี้แล้ว ลงหลังเสือไม่ได้แล้ว บางทีก็แอบสนุกกับมัน ถึงจะเครียดมากก็ตาม
บางมุมมันก็ดีนะ ขอบคุณที่รับฟังครับ 555
ปล.มีปัญหากับแฟนด้วยเพราะเราใช้ชีวิตไม่เหมือนชาวบ้าน เวลาเจอแฟนคนอื่นอวดเงินเดือนงู้นงี้ นอยตลอด
เห็นเค้า แต่งเชิ้ตใส่สแลคหรู กู้เงินได้ มีบัตร 0 เปอเซน 10 เดือน ออกรถได้ 55