ที่เค้าด่ากันเพราะมันเริมทำความเดือดร้อนให้กับผู้อื่นไงครับ

เลิกนับถือศาสนา แล้วไปนับถือผี บูชาไฟกันเลยเถอะ ขายหน้าถ้าจะพูดว่าเป็นคนนับถือศาสนามั้ย ความเจริญเกิดมีจากการกระทำดี ไม่ใช่เลี้ยงผีหรอกครับ แล้วยิ่งถ้าคุณเอาเรื่องเหล่านี้มาเบียดเบียนผู้อื่น มาโกรธมาเกลียดคนที่เขาไม่หลงผิดเหมือนคุณ ก็ยิ่งแย่ ยิ่งถลำลึก เหมือนยิ่งดำดิ่งไปกับความไม่รู้ ไปกับเดรัชฉานวิชา ผมไม่ได้บอกว่ามีผีมีเทพอยู่จริงหรือไม่ แต่ผมบอกได้แค่ไม่ว่า มีหรือไม่มี มันก็ไม่ได้ช่วยให้คุณหรือใครทำดีเป็นคนดีขึ้น ทางตรงกันข้าม กลับสุ่มเสี่ยงที่คุณจะทำชั่ว ทำความเดือดร้อนกับคนรอบข้าง หรือคนที่เขาไม่บ้าเหมือนคุณด้วย
-หาความเจริญยาก ถ้าโง่ งมงาย

ไม่ผิดครับ

แต่ถ้าเมียผมซื้อมาเลี้ยงผมขอเลิกครับ

ง่ายๆแค่นั้น

"เลี้ยงตุ๊กตาลูกเทพมันผิดมากนักหรือไง"

คำถามของคุณ ลึกซึ้งนะครับ

การที่คนเราจะทำอะไรสักอย่าง ซึ่งไม่ได้ทำให้คนอื่นเดือดร้อน แต่ทำให้คนอื่นหมั่นใส้ หรือทำให้คนเป็นโรคจิตบางประเภทอยู่ไม่สุข ต้องออกมาด่าทอ วิจารณ์ เสียดสี มันก็เป็นเรื่องแปลกประหลาดเหมือนกัน

ก็อธิบายไว้ก่อนว่าคนตอบไม่ได้เลี้ยงลูกเทพ ไม่ได้สนับสนุนการเลี้ยง และไม่ได้สนใจว่าใครจะเลี้ยงหรือไม่เลี้ยง ที่ต้องอธิบายเหมือนออกตัวไว้ก่อน เพราะคนเป็นโรคจิตบางประเภท จะเหมารวมเมื่อใครไม่เข้าข้างตัวเองว่า เป็นอีกฝ่ายหนึ่ง และด่ารวมเอาไว้ให้มันปาก โดยไม่คำนึงถึงเหตุผลใดๆ

สังคมของเรากำลังป่วยครับ ป่วยหนักด้วย อาจจะเรียกชื่ออาการป่วยนี้ว่า โซเชียลเป็นพิษ เพราะอาการมันระบาดมาตั้งแต่มีโซเชียลเนตเวิร์ค มีการให้ความเห็นแบบรุนแรง หยาบคาย คุกคาม และมีการรวมกลุ่มกันจิกกัดฝ่ายที่มีความเห็นไม่ตรงกัน จนถึงมีการฟ้องร้องเป็นคดีมากมาย

เรื่องลูกเทพนี่ก็เป็นอีกประเด็นหนึ่งที่ร้อนแรง ตัวอย่างที่คุณยกมาจากโซเชียลเนตเวิร์ค จะเห็นได้ว่าขณะที่ฝ่ายหนึ่งด่าทอฝ่ายที่เลี้ยงลูกเทพ แต่เหตุผลที่นำมาด่านั้นแสดงให้เห็นถึงอาการป่วยทางจิตของผู้ที่ด่า เรียกว่าอีกฝ่านหนึ่งทำไม่ถูกจริตก็ด่าสาดเสียเทเสีย ขอให้มันปากไว้ก่อน

คุณให้ความเห็นปิดท้ายไว้ว่า

"การเลี้ยงตุ๊กตาลูกเทพมันผิดมากเลย? หรือมันทำให้รู้สึกรำคาญลูกตา ระบบประสาทของคุณ และสามารถพูดได้ว่ายังมีคนที่โง่กว่าเราอยู่ในสังคมนี้"

จริงๆแล้วผมขอค้านนิดหนึ่ง คือยังสรุปไม่ได้นะครับว่า คนที่เลี้ยงโง่ หรือคนที่ไปด่าเขานั้นโง่กว่า

ไม่ต้องสรุปก็ได้นะครับ เราคุยกันด้วยเหตุผล และคงเข้าใจในเหตุผลซึ่งกันและกันได้