หลังจากกระทู้ Hydro ที่เขียนไปครั้งก่อนหลายกระทู้
http://ppantip.com/topic/34269540 << เดินตามฝันทำสวนผักไฮโดรโปนิกส์
http://ppantip.com/topic/34292743 << มาทำชุดปลูก Hydroponics กันครับ
http://ppantip.com/topic/34368484 << ผักสลัดโตแล้วจ้าเตรียมหาคนช่วยกิน
http://ppantip.com/topic/34412251 << จากชุดปลูกมาเป็นแปลงผักเขียวๆ
http://ppantip.com/topic/34603091 << ขั้นตอนทำชุดปลูก Hydroponic + วิธีการปลูกอย่างละเอียด
กระทู้ล่าสุดที่ผมเขียนไปคือวันที่ 25 ธันวาคม 2558 วันนี้เรามาดูกันว่าชุดที่ทำในวันนั้นปลูกแล้วได้ผลอย่างไรกันบ้างนะครับ ว่าแล้วก็เริ่มกันเลย
ก่อนหน้านั้นผมเองก็ได้วางแผนการปลูกไว้เรียบร้อยโดยเริ่มจากการเพาะเมล็ดในวันที่ 18/12/2558 ซึ่งขั้นตอนในการเพาะเมล็ดก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไรครับ เริ่มจากเลือกร้านที่จะซื้อเมล็ดใน Internet ซึ่งราคาของเมล็ดนั้นก็มีหลายราคาตั้งแต่ 0.05 - 2 บาท/เมล็ด จากการทดลองปลูกมาหลายรุ่นพอสมควรผมเลือกใช้เมล็ดราคาถูกสุดคือ 0.05 บาท และเพาะในฟองน้ำที่มีขายกันทั่วๆไปตามภาพนี้ครับ
ทีนี้ก็กลับมาที่โต๊ะปลูกกันเลย นี่คือโต๊ะ Version 2 ที่ผมทำไว้ในกระทู้ก่อนหน้านี้ ลดจำนวนข้อต่อลงและเชคการไหลของน้ำในแต่ละรางได้ง่ายขึ้น
ทีนี้มาดูขั้นตอนการผสมปุ๋ยกัน ในส่วนนี้บางท่านก็อาจจะใช้สูตรผสมเองก็ได้หรือจะซื้อปุ๋ยที่แต่ละร้านขายก็ได้ครับแล้วแต่ชอบเลย โดยส่วนตัวแล้วยังไม่มีเวลาจะมานั่งผสมเอง ผมก็เลยเลือกซื้อเอาวิธีการก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไรครับสูตรของการผสมคือเราจะต้องมีปุ๋ยหลัก 2 ชนิดคือ ปุ๋ย A และ B
โดยผมเลือกชนิด 5 ลิตร ขั้นตอนคือ
เตรียมน้ำสะอาดไว้ 2 ถัง ถังละ 5 ลิตร และควรจะปรับค่าน้ำให้เหมาะสมกับการละลายของปุ๋ยคือ ควรจะเป็นกรดอ่อนๆ คำว่า 5 ลิตร หมายความว่าเมื่อน้ำผสมปุ๋ยแล้วนั้น จะต้องมีปริมาตร 5 ลิตร ดังนั้นก็คือ เมื่อเตรียมน้ำไว้ 5 ลิตร แล้วให้ทำเครื่องหมายตรงปริมาตร 5 ลิตรเอาไว้ แล้วเทน้ำออกส่วนหนึ่งและหลังจากใส่ปุ๋ยเข้าไปแล้ว เขย่าให้ปุ๋ยละลายดีแล้วจึงเติมน้ำกลับไปให้ได้ปริมาตร 5 ลิตรนั่นเองครับ
เรามาเริ่มด้วยการปรับค่าน้ำกันก่อน ผมใช้ pH Meter วัดเพื่อหาค่าความเป็นกรดด่าง ซึ่งจริงๆแล้วอัตราการละลายของปุ๋ยที่ดีจะอยู่ราวๆ 5.5 - 6.5 ตามตารามงนี้ครับ
และวัดค่าน้ำได้ pH ประมาณนี้
จึงผสมปุ๋ยลงไปในน้ำ
หลังจากนั้นเราจะได้ปุ๋ย A และ B เป็นที่เรียบร้อย
การผสมปุ๋ยลงในถังน้ำที่จะใช้ปลูกนั้น ก็จะมีอัตราส่วนและค่าความเป็นกรดด่างที่ต่างกันออกไปตามความต้องการของพืชแต่ละชนิด ตามตารางนี้ครับ
และผมใช้ EC Meter เพื่อวัดค่าความเข้มของปุ๋ย เพื่อทำสารละลายที่จะใช้หมุนเวียนโดยการเติมปุ๋ยลงในถังนั้นควรจะต้องเติ่มปุ๋ยชนิด A และ B เท่ากัน และควรจะต้องเว้นระยะการเติม เพื่อป้องกันการจับตัวกันเป็นตะกอนของปุ๋ย 2 ชนิด โดยผมจะเติมปุ๋ยชนิด A ลงไปก่อนแบบนี้
คนน้ำให้เกิดการกระจายตัวของปุ๋ยให้ดีก่อน แล้วเติมปุ๋ย B ลงไปแบบนี้ครับ
เมื่อเติมลงไปเรียบร้อย คนน้ำให้กระจายตัวดีแล้ววัดค่าความเข้มของปุ๋ยด้วย EM Meter แบบนี้ครับ
หลังจากนั้นวัดค่าความเป็นกรดด่างด้วย pH Meter ปกติแล้วค่าน้ำปะปาหนะควรจะอยู่ที่ 8.x ซึ่งเป็นด่างอ่อนๆ แต่เมื่อเราใช้ปลูกผัก Hydro นั้นต้องเป็นกรดอ่อนๆคือราวๆ 5.5 - 7 ขึ้นอยู่กับ ฤดูกาลและอุณหภูมิด้วย ในกรณีที่น้ำเป็นด่างอ่อนๆก็จะใช้ pH Down ซึ่งก็คือ กรดไนตริกหรือกรดอื่นๆเพื่อปรับให้น้ำได้ pH ที่เราต้องการ ค่าก็จะอยู่ในกรอบประมาณนี้ครับ
เมื่อปรับทุกอย่างเรียบร้อย น้ำในถังของเราจะสีประมาณนี้
ทีนี้ก็นำต้นอ่อนที่เพาะเอาไว้ ในฟองน้ำมาเริ่มกันเลยโดยผมเพาะไว้ตั้งแต่วันที่ 18/12/58
และผมก็ฉีกตามรอยเพื่อจับมันใส่ลงในถ้วยปลูกสีดำ
และนำขึ้นโต๊ะที่ทำไว้ได้เลย ^^
โอเค...!! สิ่งที่ต้องทำในทุกวันก็คือ ปรับค่าน้ำในส่วนของ
- ปริมาณ น้ำที่ลดลงในช่วงแรกๆที่ผักยังเล็ก อาจจะไม่ต้องเติมน้ำบ่อย
- ปริมาณ ปุ๋ย วัดด้วยค่า EC อาจจะมีการตะกอน หรือ อื่นๆ หรือเมื่อเราเติมน้ำ ค่า EC จะปรับเปลี่ยนเราก็ต้องเติมเข้าไปตามที่ผักต้องการ เท่าที่ผมค้นคว้าพบว่า บางท่านก็ใช้ 1.4 ตลอดการปลูก ซึ่งก่อนเก็บ 3 วันอาจจะปรับเป็นใช้น้ำเปล่าเพื่อลดค่า "ไนเตรท" ในผักลง บางสูตรก็ต่างออกไปตัวผมเองใช้สูตร 1.2 - 1.6 กรอบนี้ครับ คือไม่ได้ว่าต้องเป๊ะตลอดเวลา
- ปริมาณ ค่า pH ที่ต้องปรับ ทุกเช้า pH จะขึ้นตลอดครับ ผมจะปรับอยู่ราวๆ 5.x-6.x ทุกๆวันด้วย "กรดไนตริก"
เอาหละ....หลังจากนี้เรามาดูพัฒนาการของเจ้าผักสลัดกันว่าจะเป็นยังไงบ้าง
ภาพชุดนี้คือ 7 วันหลังจากเพาะเมล็ดครับ จะเห็นว่ามีใบจริงเริ่มงอกแล้ว^^
ภาพนี้คือ 10 วันหลังจากเพาะเมล็ดครับ
2 สัปดาห์หรือ 14 วันผ่านไปจะได้หน้าตาแบบนี้ครับ โตขึ้นอย่างชัดเจน
17 วันหลังเพาะเมล็ดก็จะได้หน้าตาแบบนี้ครับ
และ 20 วันผ่านไปก็จะเห็นหน้าตาแบบนี้
นี่คือภาพเมื่อเวลาผ่านไป 25 วันหลังการเพาะเมล็ด
ผมสังเกตว่าเมื่อผ่านช่วงเวลาหนึ่งไป ผักจะโตเร็วมากๆ ซึ่งก็จะใช้ปริมาณน้ำมากๆด้วยเช่นกัน นี่คือ 29 วันครับ
พออายุได้ 32 วันหลังเพาะเมล็ดจะได้หน้าตาแบบนี้ครับ
ผมเริ่มเก็บผักในรุ่นก่อนๆ ตอนอายุได้ 38 วัน แต่รุ่นี้ผมคิดว่า 34 วันบางต้นก็สามารถเก็บได้แล้ว ก็เลยจัดการซะเลย ><
และนี่คือ "เมนู" ที่ทำกินวันนี้ครับ ^^
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามชม แชร์ คอมเม้น และ พูดคุยกันมาตลอดครับ ผมพยายามตอบทุกคำถามที่ถามเข้ามาแต่ถ้าต้องการพูดคุยสอบถามสามารถ add line มาก็ได้ครับที่ ID thegolfmania ^^
หรือ ติดตามที่ FB Fanpage บ้านสวนเมล่อน
https://www.facebook.com/melon8888/?fref=ts
ในพื้นที่ส่วนนี้ผมพยายามที่จะทำเป็นศูนย์การเรียนรู้ทางการเกษตรในอนาคตซึ่งสวนอยู่ที่จังหวัดนครปฐมครับ ท่านที่อยากเดินทางมาดูผมยินดีต้อนรับครับ แล้วพบกันในกระทู้ต่อๆไปนะคร๊าบ^^
ขั้นตอนทำชุดปลูก Hydroponic + วิธีการปลูกอย่างละเอียด + พัฒนาการของผัก ภาค 2
http://ppantip.com/topic/34269540 << เดินตามฝันทำสวนผักไฮโดรโปนิกส์
http://ppantip.com/topic/34292743 << มาทำชุดปลูก Hydroponics กันครับ
http://ppantip.com/topic/34368484 << ผักสลัดโตแล้วจ้าเตรียมหาคนช่วยกิน
http://ppantip.com/topic/34412251 << จากชุดปลูกมาเป็นแปลงผักเขียวๆ
http://ppantip.com/topic/34603091 << ขั้นตอนทำชุดปลูก Hydroponic + วิธีการปลูกอย่างละเอียด
กระทู้ล่าสุดที่ผมเขียนไปคือวันที่ 25 ธันวาคม 2558 วันนี้เรามาดูกันว่าชุดที่ทำในวันนั้นปลูกแล้วได้ผลอย่างไรกันบ้างนะครับ ว่าแล้วก็เริ่มกันเลย
ก่อนหน้านั้นผมเองก็ได้วางแผนการปลูกไว้เรียบร้อยโดยเริ่มจากการเพาะเมล็ดในวันที่ 18/12/2558 ซึ่งขั้นตอนในการเพาะเมล็ดก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไรครับ เริ่มจากเลือกร้านที่จะซื้อเมล็ดใน Internet ซึ่งราคาของเมล็ดนั้นก็มีหลายราคาตั้งแต่ 0.05 - 2 บาท/เมล็ด จากการทดลองปลูกมาหลายรุ่นพอสมควรผมเลือกใช้เมล็ดราคาถูกสุดคือ 0.05 บาท และเพาะในฟองน้ำที่มีขายกันทั่วๆไปตามภาพนี้ครับ
ทีนี้ก็กลับมาที่โต๊ะปลูกกันเลย นี่คือโต๊ะ Version 2 ที่ผมทำไว้ในกระทู้ก่อนหน้านี้ ลดจำนวนข้อต่อลงและเชคการไหลของน้ำในแต่ละรางได้ง่ายขึ้น
ทีนี้มาดูขั้นตอนการผสมปุ๋ยกัน ในส่วนนี้บางท่านก็อาจจะใช้สูตรผสมเองก็ได้หรือจะซื้อปุ๋ยที่แต่ละร้านขายก็ได้ครับแล้วแต่ชอบเลย โดยส่วนตัวแล้วยังไม่มีเวลาจะมานั่งผสมเอง ผมก็เลยเลือกซื้อเอาวิธีการก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไรครับสูตรของการผสมคือเราจะต้องมีปุ๋ยหลัก 2 ชนิดคือ ปุ๋ย A และ B
โดยผมเลือกชนิด 5 ลิตร ขั้นตอนคือ
เตรียมน้ำสะอาดไว้ 2 ถัง ถังละ 5 ลิตร และควรจะปรับค่าน้ำให้เหมาะสมกับการละลายของปุ๋ยคือ ควรจะเป็นกรดอ่อนๆ คำว่า 5 ลิตร หมายความว่าเมื่อน้ำผสมปุ๋ยแล้วนั้น จะต้องมีปริมาตร 5 ลิตร ดังนั้นก็คือ เมื่อเตรียมน้ำไว้ 5 ลิตร แล้วให้ทำเครื่องหมายตรงปริมาตร 5 ลิตรเอาไว้ แล้วเทน้ำออกส่วนหนึ่งและหลังจากใส่ปุ๋ยเข้าไปแล้ว เขย่าให้ปุ๋ยละลายดีแล้วจึงเติมน้ำกลับไปให้ได้ปริมาตร 5 ลิตรนั่นเองครับ
เรามาเริ่มด้วยการปรับค่าน้ำกันก่อน ผมใช้ pH Meter วัดเพื่อหาค่าความเป็นกรดด่าง ซึ่งจริงๆแล้วอัตราการละลายของปุ๋ยที่ดีจะอยู่ราวๆ 5.5 - 6.5 ตามตารามงนี้ครับ
และวัดค่าน้ำได้ pH ประมาณนี้
จึงผสมปุ๋ยลงไปในน้ำ
หลังจากนั้นเราจะได้ปุ๋ย A และ B เป็นที่เรียบร้อย
การผสมปุ๋ยลงในถังน้ำที่จะใช้ปลูกนั้น ก็จะมีอัตราส่วนและค่าความเป็นกรดด่างที่ต่างกันออกไปตามความต้องการของพืชแต่ละชนิด ตามตารางนี้ครับ
และผมใช้ EC Meter เพื่อวัดค่าความเข้มของปุ๋ย เพื่อทำสารละลายที่จะใช้หมุนเวียนโดยการเติมปุ๋ยลงในถังนั้นควรจะต้องเติ่มปุ๋ยชนิด A และ B เท่ากัน และควรจะต้องเว้นระยะการเติม เพื่อป้องกันการจับตัวกันเป็นตะกอนของปุ๋ย 2 ชนิด โดยผมจะเติมปุ๋ยชนิด A ลงไปก่อนแบบนี้
คนน้ำให้เกิดการกระจายตัวของปุ๋ยให้ดีก่อน แล้วเติมปุ๋ย B ลงไปแบบนี้ครับ
เมื่อเติมลงไปเรียบร้อย คนน้ำให้กระจายตัวดีแล้ววัดค่าความเข้มของปุ๋ยด้วย EM Meter แบบนี้ครับ
หลังจากนั้นวัดค่าความเป็นกรดด่างด้วย pH Meter ปกติแล้วค่าน้ำปะปาหนะควรจะอยู่ที่ 8.x ซึ่งเป็นด่างอ่อนๆ แต่เมื่อเราใช้ปลูกผัก Hydro นั้นต้องเป็นกรดอ่อนๆคือราวๆ 5.5 - 7 ขึ้นอยู่กับ ฤดูกาลและอุณหภูมิด้วย ในกรณีที่น้ำเป็นด่างอ่อนๆก็จะใช้ pH Down ซึ่งก็คือ กรดไนตริกหรือกรดอื่นๆเพื่อปรับให้น้ำได้ pH ที่เราต้องการ ค่าก็จะอยู่ในกรอบประมาณนี้ครับ
เมื่อปรับทุกอย่างเรียบร้อย น้ำในถังของเราจะสีประมาณนี้
ทีนี้ก็นำต้นอ่อนที่เพาะเอาไว้ ในฟองน้ำมาเริ่มกันเลยโดยผมเพาะไว้ตั้งแต่วันที่ 18/12/58
และผมก็ฉีกตามรอยเพื่อจับมันใส่ลงในถ้วยปลูกสีดำ
และนำขึ้นโต๊ะที่ทำไว้ได้เลย ^^
โอเค...!! สิ่งที่ต้องทำในทุกวันก็คือ ปรับค่าน้ำในส่วนของ
- ปริมาณ น้ำที่ลดลงในช่วงแรกๆที่ผักยังเล็ก อาจจะไม่ต้องเติมน้ำบ่อย
- ปริมาณ ปุ๋ย วัดด้วยค่า EC อาจจะมีการตะกอน หรือ อื่นๆ หรือเมื่อเราเติมน้ำ ค่า EC จะปรับเปลี่ยนเราก็ต้องเติมเข้าไปตามที่ผักต้องการ เท่าที่ผมค้นคว้าพบว่า บางท่านก็ใช้ 1.4 ตลอดการปลูก ซึ่งก่อนเก็บ 3 วันอาจจะปรับเป็นใช้น้ำเปล่าเพื่อลดค่า "ไนเตรท" ในผักลง บางสูตรก็ต่างออกไปตัวผมเองใช้สูตร 1.2 - 1.6 กรอบนี้ครับ คือไม่ได้ว่าต้องเป๊ะตลอดเวลา
- ปริมาณ ค่า pH ที่ต้องปรับ ทุกเช้า pH จะขึ้นตลอดครับ ผมจะปรับอยู่ราวๆ 5.x-6.x ทุกๆวันด้วย "กรดไนตริก"
เอาหละ....หลังจากนี้เรามาดูพัฒนาการของเจ้าผักสลัดกันว่าจะเป็นยังไงบ้าง
ภาพชุดนี้คือ 7 วันหลังจากเพาะเมล็ดครับ จะเห็นว่ามีใบจริงเริ่มงอกแล้ว^^
ภาพนี้คือ 10 วันหลังจากเพาะเมล็ดครับ
2 สัปดาห์หรือ 14 วันผ่านไปจะได้หน้าตาแบบนี้ครับ โตขึ้นอย่างชัดเจน
17 วันหลังเพาะเมล็ดก็จะได้หน้าตาแบบนี้ครับ
และ 20 วันผ่านไปก็จะเห็นหน้าตาแบบนี้
นี่คือภาพเมื่อเวลาผ่านไป 25 วันหลังการเพาะเมล็ด
ผมสังเกตว่าเมื่อผ่านช่วงเวลาหนึ่งไป ผักจะโตเร็วมากๆ ซึ่งก็จะใช้ปริมาณน้ำมากๆด้วยเช่นกัน นี่คือ 29 วันครับ
พออายุได้ 32 วันหลังเพาะเมล็ดจะได้หน้าตาแบบนี้ครับ
ผมเริ่มเก็บผักในรุ่นก่อนๆ ตอนอายุได้ 38 วัน แต่รุ่นี้ผมคิดว่า 34 วันบางต้นก็สามารถเก็บได้แล้ว ก็เลยจัดการซะเลย ><
และนี่คือ "เมนู" ที่ทำกินวันนี้ครับ ^^
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามชม แชร์ คอมเม้น และ พูดคุยกันมาตลอดครับ ผมพยายามตอบทุกคำถามที่ถามเข้ามาแต่ถ้าต้องการพูดคุยสอบถามสามารถ add line มาก็ได้ครับที่ ID thegolfmania ^^
หรือ ติดตามที่ FB Fanpage บ้านสวนเมล่อน
https://www.facebook.com/melon8888/?fref=ts
ในพื้นที่ส่วนนี้ผมพยายามที่จะทำเป็นศูนย์การเรียนรู้ทางการเกษตรในอนาคตซึ่งสวนอยู่ที่จังหวัดนครปฐมครับ ท่านที่อยากเดินทางมาดูผมยินดีต้อนรับครับ แล้วพบกันในกระทู้ต่อๆไปนะคร๊าบ^^