เป็นทริปต่อเนื่องจากการมาเที่ยวกับสองสาวเพื่อนสมัยปริญญาตรี 9-14 ธันวาคม 2558 ---> http://ppantip.com/topic/34700894

ลุยเดี่ยวต่อเอง 15-16 ธันวาคม 2558 (พ่วง 14 ยามค่ำด้วย)


14 ธันวาคม 2558 หลังจากแยกกับสองสาว เราเดินต่อมาที่โรงแรมท่าแพอินน์ เราชอบที่นี่อบอุ่นเหมือนอยู่บ้าน รอบนี้เรานอนห้องพัดลม 280 บาท wifi แรงบ้าง มีปัญหาบ้าง แต่ก็ใช้ได้



เข้าที่พักเสร็จเราก็เดินออกไปกาดหลวง ไปกินขนมเส้นป้ายุพิน น้ำเงี้ยวกับแคปหมู 23 บาท ผักไม่อั้น พร้อมน้ำสตรอว์เบอร์รี่ปั่น ในราคา 20 บาท



ตบท้ายด้วยขนมครกอีก 20 บาท ของที่กาดหลวงถูกและอร่อย ถ้ามาคนเดียวเราก็มากาดหลวงแทบทุกมื้อ มีหลายอย่างให้เลือก

จากนั้นเราก็เดินเล่นที่ไนท์บาร์ซาตั้งใจจะมาซื้อ essential oil ซื้อที่นี่เราชอบ package ใส่ถุงผ้าให้


เราแวะกินเย็นตาโฟเฮียชัยอีกนะ พุงจะแตกแล้วแต่ยังไม่ยอมเลิกกิน เดินจนหน่ำใจก็พักร่างด้วยการนวดเท้า ก่อนกลับโรงแรมนอน

วันที่ 15 ธันวาคม 2558 เราตั้งใจจะออกนอกเมืองคงไปนอนบ้านระเบียงดาวอีกครั้ง ตื่นเช้าหน่อยไปนั่งรอก๋วยจั๊บช้างม่อยตัดใหม่ ทำไมรอบนี้ซุปไม่อร่อยเหมือนเดิม ไส้อร่อยกลิ่นเครื่องเทศพอเหมาะ หมูกรอบก็หอมอร่อย เปาะเปี๊ยะสดก็อร่อย



พออิ่มเราก็รีบ check out เลยจากนั้นก็เดินไปสถานีขนส่งช้างเผือก แต่เดินกำลังจะถึงก็ติดต่อบ้านระเบียงดาวได้ เต็มยาว ก็เลยเปลี่ยนใจนอนที่ท่าแพอินน์อีกคืน ระหว่างทางเดินย้อนกลับก็เจอน้องหมาน่ารักมากๆ


เราก็แวะวัดป่าเป้า วัดนี้สวยแบบเก่าๆ ภายในวัดจะมีร้านค้าขายของพม่า ชุดพม่า อาหารพม่า เราชอบวัดนี้จัง



กำลังจะเดินย้อนกลับทางเดิมเห็นร้านกาแฟ The Bistrorante น่านั่งก็เลยแวะ บรรยากาศดีเชียว เค้กอร่อยดี



เดินกลับมาถึงโรงแรมก็เก็บกระเป๋าแล้วออกทอดน่องท่องเชียงใหม่กันต่อ หลังจากนี้จะเน้นเดินเที่ยวในเมืองเป็นหลัก เป้าหมายวันนี้ก๋วยเตี๋ยวอัญชัน

ออกมาจากโรงแรมนิดเดียวก็แวะวัดแสนฝาง ภายในวัดมีโบสถ์เจ้าดารารัศมีด้วย



เดินมาเรื่อยๆก็แวะวัดเชียงยืน เหมือนจะเคยมาครั้งแรก



ทอดน่องมาจนถึงวัดโลกโมฬี


เดินต่อมาเรื่อยๆ แล้วเราก็ถึงจุดหมายในวันนี้แล้ว ร้านก๋วยเตี๋ยวอัญชัน เราชอบน้ำอัญชันตอนโดนมะนาวแล้วเปลี่ยนสี แต่เราดันลืมถ่ายภาพเคลื่อนไหว


พออิ่มเราก็เดินเข้าเส้นนิมมานฯ หาร้านกาแฟนั่งชิลล์สักหน่อย ระหว่างเส้นทางการทอดน่องเราก็แวะวัดสวนดอก พระอารามหลวง



จากนั้นมุ่งหน้าร้านกาแฟ แต่พอเห็นคนเต็มร้านเลย สุดท้ายเราก็เดินต่อไปเมญ่า หาทางขึ้นไปชั้นบน เราเคยเห็นรูปจากน้องที่อยู่เชียงใหม่อัพในโซเชียล เรามาถึงเร็วฟ้ายังสว่างอยู่



นั่งรอไปเรื่อยๆ จนฟ้าเริ่มสุกแล้ว กำลังสวยเลย



นั่งจนแสงหมดเราก็ลงไปเดินกาดรินคำ เห็นแสงไฟจากด้านบนเมญ่า ฝากท้องที่นี่เลยแล้วกัน มื้อนี้ 50 บาท



จากนั้นเดินข้ามไปฝั่ง Think park เราชอบต้นไม้ใหญ่ 2 ต้นนี้มาก


กำลังจะเดินนกลับที่พัก เราก็เจอร้าน Libralista ชอบมาก เป็นร้านกาแฟที่มีหนังสือดีๆเต็มไปหมด เงียบสงบดี ทุกอย่างลงตัวถูกจริตเรา คงได้แวะมาบ่อยๆแน่




จากนั้นก็มุ่งหน้ากลับที่พักเพื่อเก็บแรงไว้สำหรับลุยต่อวันรุ่งขึ้น ตลอดวันทอดน่องท่องเชียงใหม่ไป 26.68 กิโลเมตร


วันที่ 16 ธันวาคม 2558 วันนี้ตั้งใจจะไปวัดอุโมงค์ มื้อเช้าเราเจ้าไปกินขนมเส้นป้ายุพินที่กาดหลวงอีกครั้ง


กลับมาเก็บกระเป๋าแล้วฝากไว้ที่โรงแรมก่อนจะเริ่มทอดน่องท่องเชียงใหม่อีกวัน จุดแรกเป็นวัดบุพพาราม



แวะกินยาธาตุที่ร้านขายยาสมุนไพรก่อนทอดน่องต่อ


ออกเดินไปทางวัดมหาวัน



มุ่งหน้าผ่านประตูท่าแพไปทางวัดพระสิงห์ จนมาถึงวัดปราสาท


เดินต่อจนถึงโรงพยาบาลมหาราชเชียงใหม่ เจอไอติมป่าตันที่เคยหอมอร่อย ตอนนี้หวานนำ ไม่หอมเหมือนเดิม


เดินต่อไปจนใกล้ถึงวัดอุโมงค์แล้วก็เจอหมาเจ้าถิ่นไล่เห่าเรา แค่ใส่หน้ากากอนามัยต้องเกลียดกันขนาดนั้นเลย เดินต่อไปเจออีก 2 ตัวรอบนี้ไม่ใส่หน้ากากแล้ว มันมากระโดดเล่นกับเราอย่างสนุกเลย สุดท้ายก็มีถึงวัดอุโมงค์ ยังคงเงียบสงบเหมือนเดิม




ถึงเวลาออกเดินกลับแล้ว ขากลับเราก็มาทางเดิมจนมาถึงประตูเชียงใหม่ เจอร้านก๋วยเตี๋ยวต้มยำไข่หวานก็เลยแวะชิม ชามนี้ 50 บาท


อิ่มท้องแล้วก็เดินต่อมาวัดพระสิงห์อีกครั้ง



ทอดน่องไปต่อที่วัดเจดีย์หลวง เราได้มีโอกาสร่วมวางดอกไม้จันท์สมเด็จพระสังฆราชที่นี่ด้วย




เดินต่อมาที่วัดพันเตาอีกครั้ง เจดีย์บูรณะเสร็จสวยงามแล้ว




เดินต่อไปทางประตูท่าแพวันนี้เงียบสงบดี



เดินกลับมาแวะกินโรตีป้าเดก่อนกลับ


รับกระเป๋าเสร็จก็เดินไปสนามบินเชียงใหม่ เวลาเหลือพอควรเราก็เลยไม่ต้องเร่งรีบอะไร พอมาถึงสนามบินก็แวะถ่ายรูปก่อน



นิทรรศการในสนามบินเปลี่ยนแล้ว เดินดูก่อนขึ้นเครื่องสบายๆ รอบนี้เรากลับกับหางแดง ออกก่อนเวลาและถึงกรุงเทพฯก่อน 30 นาที ชอบจัง จบทริปนี้ด้วยการเดิน 26.02 กิโลเมตร


ทุกครั้งที่มาเชียงใหม่เรามักจะเดิน เพราะมันได้สัมผัสทุกอย่างรอบตัว ได้แวะกินนั่นกินนี่ ได้พูดคุยแลกเปลี่ยน หรือแม้กระทั่งบอกทางคนเชียงใหม่ที่อยู่ต่างอำเภอ (ขอยืนยันเรามีถิ่นพำนักอยู่กรุงเทพฯ)

ป.ล. รูปเยอะและไม่สวยขออภัยด้วยครับ