เสียค่าประสบการณ์ สองหมื่น กับพาสปอร์ตชำรุด

เรื่องนี้เกิดใหม่ๆ เมื่อเช้าวันที่ 22 มกรา นี้นะคะ เราไม่โทษใครทั้งนั้น ได้แต่ด่าตัวเอง และเล่ามาเป็นประสบการณ์ จะได้ไม่มีใครต้องมาเสียเงินโดยใช่เหตุแบบเรา เรื่องมีอยู่ว่า เรามาบินจากนอร์เวย์กลับไทยมาเยี่ยมครอบครัวคะ พาสปอร์ตมีรูนิดหน่อย เพราะน้องหมากัดตอนเราทำหล่น  และวางแผนไว้ว่าจะบินไปญี่ปุ่น หลังจากอยู่ไทยได้ หนึ่งอาทิตย์  ด้วยความที่ดีใจไม่ได้กลับบ้านมานานก็ลัลล้ากับครอบครัว และชะล่าใจ ประมาท เลินเล่อ คิดว่าพาสอร์ตคงไม่มีปัญหาอะไร เพราะเล่มนี้ ใช้ บินไปเที่ยว จาก นอร์เวย์ ไป กรีก และเสปน อัมเตอร์ดัม มาแล้ว ก็ไม่มีปัญหากับ ตม ที่ไหน ผ่านฉลุย ทำให้ไม่สนใจ และคิดว่า ถ้าไปเปลี่ยนกลัวจะได้พาสปอร์ตไม่ทันวันเดินทาง คิดว่าจะเปลี่ยนหลังจากกลับจากญี่ปุ่น
จนกระทัjงเช้าวันนี้ตอนเช็คอินกับสายการบินหนึ่ง เจ้าหน้าที่แจ้งมาว่า พาสปอร์ตชำรุด แต่มีเจ้าหน้าทีอีกคนหนึ่งบอกว่า ถ้าผ่านเครื่องแสกนไปได้ก็ไม่มีปัญหา และพาสปอร์ตเราก็ผ่านเครื่องแสกนมาได้ (คือมันแสกนได้ตั้งแต่ตอนเช็คอินจากนอร์เวย์ และตอนเข้ามาเมืองไทยก้อแสกนผ่านเครื่องมาได้ ตลอด ) แต่มีเจ้าหน้าที่อีกคนหนึ่ง ยืนยันว่า ไม่ได้ ไปไม่ได้ และยกเลิกเที่ยวบินของเราทันที บอกให้เราไปจองใหม่

ณ เวลานั้นคือเครียดคะ เพราะได้นัดน้องอีกคนหนึ่งจากนอร์เวย์ บินตรงไปนาริตะ ซึ่งน้องจะไปรอเราที่นาริตะ และเครียดว่าจะติดต่อน้องยังไง เรียกว่า เลือดไม่วิ่งไปบนหน้าเลยคะ  

เราไม่รู้เลยว่า พาสปอร์ตเดี๋ยวนี้ทำวันเดียวก็ได้ จนกระทั่งมีเจ้าหน้าที่มาบอกว่า มีแบบด่วนพิเศษ จ่าย 3000 บาท จากนั้นเรารีบหารถแท็กชี่ ตรงดิ่งไปกงศุล แจ้งวัฒนะ  ใช้เวลาไม่นานในการทำพาสปอร์ตคะ สิบห้า นาทีก้อเรียบร้อย รับเล่มตั้งแต่ บ่ายสองโมงครึ่ง ขึ้นไป  ตรงนี้ไม่มีปัญหาคะ ยอมจ่าย
แต่คราวนี้ เราโทรติดต่อไปศูนย์ของสายการบิน และเล่าให้ฟังว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ทางเจ้าหน้าที่บอกว่า เราต้องจ่ายเงินเพิ่มอีก 17040บาท เที่ยวเดียวตอนซื้อตั๋ว ราคาตั๋วเดิมอยู่ที่ 14415 ซื้อไปกลับ  มึนเลย คิดว่าได้ตั๋วถูก ที่ไหนได้ ต้องจ่ายเพิ่มอีก ถ้าไม่นัดน้องที่มาจากนอร์เวย์แล้วหละก้อยอมทิ้งหมดเลย ไม่อยากไปแล้ว แต่ห่วงน้องมากกว่า จำใจต้องยอมจ่าย

      คิดว่าหลายๆคนคงไม่มีปัญหาเรื่องพาสปอร์ตคะ แต่แค่เตือนไว้สำหรับคนที่เกิดอุบัติเหตุกับพาสปอร์ต จะนิดหน่อย อย่าคิดว่าไม่เป็นไรนะคะ ทำใหม่เลยดีกว่าคะ


      แต่ที่เราคิดและสงสัยนะคะ เพราะไม่รู้จริงๆ คือเจ้าหน้าที่ตรงเช็คอิน มีสิทธิ์ตัดสินใจได้เหมือนตรง ตม เหรอคะ ว่า คนนี้ไปได้ ไปไม่ได้ คือสงสัยนะคะ เพราะเราคิดว่า ถ้าตรงจุด ตม ขาออก เราใช้เครื่องสแกนออกไปแล้ว ก็ผ่านแล้ว ส่วนตรงญี่ปุน ถ้ามีปัญหา ก็เป็นปัญหาของเราใช่มั้ยคะ หรือว่า เป็นปัญหาของสายการบินด้วย

ตอนนี้นั่งทำใจกับเงินสองหมื่นที่ต้องเสียไปกับประสบการณ์ของตัวเอง ไว้อาลัย แทบเล็ต ที่แพลนไว้ว่าจะซื้อแป็บ เพราะเกินงบ อดซื้อเลย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่