เห็นช่วงนี้ กระแสการยกเลิกวีซ่าเข้าญี่ปุ่น มาแรงเหลือเกินในห้องนี้ ผมจึงอยากมาเล่าประสบการ์ณส่วนตัว และการรับมือของ ตม.ไทยและ ญี่ปุ่นครับ
ผมเห็นคนส่วนหนึ่งวิตกกังวล เกี่ยวกับว่าจะไปถูกส่งกลับหน้า ตม. ซึ่งมันก็น่าวิตกกังวลจริงๆเพราะจากประสบการ์ณ ญี่ปุ่นเองเป็นประเทศที่พิจารณาการตรวจคนเข้าเมืองอย่างเข้มข้นมากครับ
ท้าวความก่อนว่า ผมเคยเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่น โดยวิธีการ SHORE PASS เข้าญี่ปุ่น ซึ่งกรณีขอ SHORE PASS จะสามารถทำได้เลยที่สนามบินนาริตะ
แต่จะมีบอกอย่างชัดเจนว่าสามารถ อยู่ได้แค่ในเขต Tokyo และ Chiba ได้3วัน แต่จะต้องมีตั๋วเครื่องบินไปประเทศที่3โดยใช้ญี่ปุ่นเป็นจุดแวะพักเท่านั้น ถึงจะขอ ชอร์พาสเข้าญี่ปุ่นได้
เริ่มจากวันเดินทางผมและญาติผู้หญิง ออกจากกรุงเทพ โดยเจแปนแอร์ไไลน์ มีการตรวจสอบเอกสารอย่างรัดกุม และเจ้าหน้าที่เชคอินจะเพ่งเล็งผู้โดยสารชอร์พาส เป็นพิเศษ โดยเจ้าหน้าที่เช็คอินจะถามหาเหตุผลในการขอชอร์พาสเข้าญี่ปุ่น ... เข้าใจว่าปกติแล้ว พนักงานเช็คอินจะต้องแสกนผู้โดยสารก่อนออกเดินทางเนื่องจากหากเข้าเมืองไม่ได้ สายการบินจะมีส่วนรับผิดชอบ
พอพ้น ส่วนของเช็คอิน ก็จะเข้าสู่ ส่วนตม.ขาออกของไทยเอง เค้าก็ช่วยแสกนผู้โดยสารครับ หากพบพิรุธ ซึ่งดวงผมคงดีมั้งงงง ตม.ขาออกไทยนี่แหละครับ สงสัย ผมกับเพื่อน ถูกกักตัวสอบสวนทั้งๆที่ไม่มีความผิด จนกระทั่งใกล้ถึงเวลา4ทุ่มเครื่องออก เจ้าหน้าที่สายการบินJAL ก็ดีมากครับ มาตามถึง ตม. เลยทีเดียว บอกเครื่องบินคอยอยู่นะ แต่ตม.ไทยขาออกยังไม่ยอมปล่อยผมและเพื่อน จน สอบสวนเสร็จ ตม. ก็คงรู้แล้วว่าผมเป็นผู้บริสุทธิ์ แต่หลังจาก หลุดตม. ออกมา เครื่องออกไปแล้วครับ จนท.ตม.ขาออกก็ขอโทษผม พร้อมให้เหตุผลที่ว่า เนื่องจากประเทศญี่ปุ่นเป็นจุดหมายปลายทางของการไปค้ามนุษย์เยอะมาก ตม.ขาออกไทยเองจึงต้องเพ่งเล็งคนที่จะออกไปญี่ปุ่นโดยไม่ใช้วีซ่าเป็นพิเศษ เพราะตอนนั้น พาสผมและเพื่อน ขาวมากครับ ไปมาแค่ มาเลย์และสิงคโปร์ ...จนท.พาผมไปออฟฟิศสายการบินเจแปนแอร์ไลน์ ปรากฏว่าตั๋ว
BKK-NRTในวันรุ่งขึ้นเตํม จึงช่วยรีรูทเป็น BKK-KIX-...-NRT-BKK ให้
วันรุ่งขึ้น ก็มาเช็คอิน และเข้าตม. ปกติ จนท. ตม.ขาออก จดบันทึกลงในหน้าสุดท้ายของพาสปอร์ตญาติผู้หญิงผมครับ
ว่า นส...... ให้การว่าจะเดินทางกลับเข้าไทยในวันที่ .... พร้อมกับนาย.....
จากนั้นผมก็เดินทางของผมไป จนกระทั่ง วันที่ผมจะต้องเดินทางเข้ามาชอร์พาสที่นาริตะ 1คืน ก่อนกลับกรุงเทพ โดยผมมีใบจองโรงแรม ซึ่งผมเองก็พักโรงแรมแถวๆสนามบินนาริตะแหละครับ HOTEL EXCEL TOKYU และเตรียมเอกสารรับรองต่างๆของผมที่เมืองไทย
พอถึงเวลาลุ้นระทึก ตม. ถามผมถึงเหตุผลในการเข้า ญี่ปุ่น มาทำไม บลาๆๆๆ ขอดูเอกสารตั๋วกลับและใบจองโรงแรม และขอดูเงินโชว์สำหรับใช้ในญี่ปุ่น 1วัน ก็เข้าเมืองได้อย่างไม่มีปัญหาครับ ตม.แสตมป์ให้อยู่ 3คืน4วัน
มารอบสองครับ รอบนี้ ไม่มีปัญหาที่ไทย แต่ก็มีการสอบถามจาก จนท. เช็คอิน และ ตม.ขาออกนิดหน่อย
ก็เดินทางปกติ จนกระทั่ง ถึงวันที่ต้องขอชอร์พาสเข้าญี่ปุ่นอีกรอบ เอกสารพร้อม ทุกอย่างพร้อมหมด แต่โดนโยนเข้าห้องเย็นครับ
เค้าถามถึงจุดประสงค์ในการมา คำถามเบสิคของ ตม. เค้าบลาๆๆๆ แหละครับ ผมก็พยายามอธิบายพร้อมโชว์พาสให้เค้าดูว่า ผมและญาติเคยเข้ามาญี่ปุ่นแล้ว และเดินทางออกปกติ คุณโปรดเชื่อใจผม นี่ใบจองโรงแรมก็มี ผมเลือกแวะญี่ปุ่นเพราะ ผมชอบและสะสมไมล์กับ JAL อยู่ โดยเค้าแยกสัมภาษณ์ผมกับญาติผู้หญิงคนหล่ะห้องนะครับ แต่เหมือนไม่เป็นผลครับ อาจเป็นเพราะญาติผู้หญิงผมพูดอังกฤษไม่ได้ด้วย และเค้าเสนอในผม ผ่านเข้าเมืองได้ แต่ไม่ให้ญาติผู้หญิงผมผ่าน ตม. แต่ผมทิ้งญาติไม่ได้หร่อกครับ สรุป... เค้าจะส่งผมกลับ แต่ตอนนั้น 2ทุ่มแล้ว ไม่มีเครื่องกลับ กทม. แล้ว ไฟ้ท์ไวสุด คือตอนเช้า ตม.จึงจัดการ รีไฟ้ท์ผมจากเดิมที่ตั๋วผมจะออกจากนาริตะโดยไฟ้ท์ JL707 เวลา 18.00 เป็น JL717 ออกจาก NRT ราวๆ10โมงเช้า และตม.บังคับให้ผมจ่ายค่าโรงแรม ซึ่งเป็นโรงแรมสำหรับคนถูกกักตัวครับ
ตอนแรกผมก็ไม่ยอมจ่าย ครับ ผมบอกคุณก็ปล่อยผมสิ่ โรงแรมสำหรับทรานสิทผมจองไว้ จ่ายเงินไปแล้วคุณจะให่ผมจ่ายอีกทำไม...ผมก็ยื้อเวลาจนกระทั่งประมาณ4ทุ่มครับ ที่นาริตะจะปิดสนามบิน เค้าบอกว่าผมต้องจ่ายเงินเพราะอยู่ในนี้ไม่ได้ ตอนนั้นก็เหนื่อยแล้วครับ เลยยอมจ่ายเงินค่าโรงแรมให้ จนท. หลังจากนั้น เค้าก็พาลงไปเอากระเป๋าพร้อมตรวจสิ่งของต้องห้าม แล้วก็พาขึ้นรถไปโรงแรมใกล้ๆสนามบินชื่อ NARITA REST HOUSE HOTELโรงนี้จะมีโซนไว้กักคนโดยเฉพาะด้วยครับ หน้าห้องมีคนคุมเฝ้า อยากได้ น้ำหรืออะไร ให้บอกกับคนคุม เรามีสิทธิ์แค่อยู่ในห้อง บรรยากาศในห้อง มีคนเขียนด่าตม. ญี่ปุ่นเต็มไปหมด แน่นอนครับภาษาไทยของเราก็มี เขียนด่าใส่ ปลอกโคมไฟ เขียนใส่กำแพง ฯลฯ ทำให้ได้รู้ว่า คนไทยโดน ตม. ญี่ปุ่น กักเยอะเหมือนกัน
พอตอนเช้า จนท. ก็เอา อาหารเช้ามาให้ พร้อมกับ บอดดิ้งพาส และนัดจะมารับในเวลา 9โมงครึ่ง พอถึงเวลา จนท.ก็พาไปส่งถึงหน้าเกท เลยครับ พร้อมบอกข้อมูล ผู้โดยสารแก่แอร์โฮสเตส เพื่อให้ช่วยดูแลต่อ พอเครื่องบิน แอร์JAL ซึ่งเป็นคนไทยเหมือนกันก็ดีมากครับ
ให้กำลังใจและถามสารทุกข์ สุขดิบ บอกไม่ต้องซีเรียส และไปยก ขนมถั่วญี่ปุ่นที่แจกบนเครื่องJAL ให้ผมมาแพ็คนึง น่ารักมากครับ
พอเครื่องกำลังจะลดระดับ แอร์จะขอให้เรา ไปนั่งด้านหน้าเครื่องตรงบริเวณบิสสิเนสคลาส เพื่อเอาเราออกจากเครื่องคนแรก เพราะเมื่อมาถึงไทยจะมีเจ้าหน้าที่ตม.ไทย รับเราไปสัมภาษณ์ต่อครับ
ก็โดนสัมภาษณ์ ราวๆครึ่งชั่วโมงก็ถูกปล่อยตัวออกมา
#ผมแวะมาเล่าประสบการ์ณให้ฟังเฉยๆนะครับ ยังไงเค้าก็ยกเลิกวีซ่าให้เราแล้วก็ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดี แต่ถึงยังไงมันปฏิเสธไม่ได้เลยว่า พาสปอร์ตไทยอันแสนสุดขึ้นชื่อนี้ จะต้องโดนเพ่งเล็งบ้าง ผมอยากให้เราทุกคนมาช่วยกันลบชื่อเสียของพาสไทย ให้เดินทางไปไหนมาไหนง่ายๆ
#การแต่งตัวและบุคลิคเป็นเรื่องสำคัญ เข้าเมืองให้ได้ แล้วค่อยไปแต่งสวยข้างใน ดีกว่า สวยไปแต่เสียเงินฟรีและไม่ได้เที่ยวนะครับ
แวะมาเล่า "ประสบการ์ณการเข้าญี่ปุ่น แบบไม่ใช้วีซ่าครับ ทั้งเข้าได้ และ ถูกส่งกลับ"
ผมเห็นคนส่วนหนึ่งวิตกกังวล เกี่ยวกับว่าจะไปถูกส่งกลับหน้า ตม. ซึ่งมันก็น่าวิตกกังวลจริงๆเพราะจากประสบการ์ณ ญี่ปุ่นเองเป็นประเทศที่พิจารณาการตรวจคนเข้าเมืองอย่างเข้มข้นมากครับ
ท้าวความก่อนว่า ผมเคยเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่น โดยวิธีการ SHORE PASS เข้าญี่ปุ่น ซึ่งกรณีขอ SHORE PASS จะสามารถทำได้เลยที่สนามบินนาริตะ
แต่จะมีบอกอย่างชัดเจนว่าสามารถ อยู่ได้แค่ในเขต Tokyo และ Chiba ได้3วัน แต่จะต้องมีตั๋วเครื่องบินไปประเทศที่3โดยใช้ญี่ปุ่นเป็นจุดแวะพักเท่านั้น ถึงจะขอ ชอร์พาสเข้าญี่ปุ่นได้
เริ่มจากวันเดินทางผมและญาติผู้หญิง ออกจากกรุงเทพ โดยเจแปนแอร์ไไลน์ มีการตรวจสอบเอกสารอย่างรัดกุม และเจ้าหน้าที่เชคอินจะเพ่งเล็งผู้โดยสารชอร์พาส เป็นพิเศษ โดยเจ้าหน้าที่เช็คอินจะถามหาเหตุผลในการขอชอร์พาสเข้าญี่ปุ่น ... เข้าใจว่าปกติแล้ว พนักงานเช็คอินจะต้องแสกนผู้โดยสารก่อนออกเดินทางเนื่องจากหากเข้าเมืองไม่ได้ สายการบินจะมีส่วนรับผิดชอบ
พอพ้น ส่วนของเช็คอิน ก็จะเข้าสู่ ส่วนตม.ขาออกของไทยเอง เค้าก็ช่วยแสกนผู้โดยสารครับ หากพบพิรุธ ซึ่งดวงผมคงดีมั้งงงง ตม.ขาออกไทยนี่แหละครับ สงสัย ผมกับเพื่อน ถูกกักตัวสอบสวนทั้งๆที่ไม่มีความผิด จนกระทั่งใกล้ถึงเวลา4ทุ่มเครื่องออก เจ้าหน้าที่สายการบินJAL ก็ดีมากครับ มาตามถึง ตม. เลยทีเดียว บอกเครื่องบินคอยอยู่นะ แต่ตม.ไทยขาออกยังไม่ยอมปล่อยผมและเพื่อน จน สอบสวนเสร็จ ตม. ก็คงรู้แล้วว่าผมเป็นผู้บริสุทธิ์ แต่หลังจาก หลุดตม. ออกมา เครื่องออกไปแล้วครับ จนท.ตม.ขาออกก็ขอโทษผม พร้อมให้เหตุผลที่ว่า เนื่องจากประเทศญี่ปุ่นเป็นจุดหมายปลายทางของการไปค้ามนุษย์เยอะมาก ตม.ขาออกไทยเองจึงต้องเพ่งเล็งคนที่จะออกไปญี่ปุ่นโดยไม่ใช้วีซ่าเป็นพิเศษ เพราะตอนนั้น พาสผมและเพื่อน ขาวมากครับ ไปมาแค่ มาเลย์และสิงคโปร์ ...จนท.พาผมไปออฟฟิศสายการบินเจแปนแอร์ไลน์ ปรากฏว่าตั๋ว
BKK-NRTในวันรุ่งขึ้นเตํม จึงช่วยรีรูทเป็น BKK-KIX-...-NRT-BKK ให้
วันรุ่งขึ้น ก็มาเช็คอิน และเข้าตม. ปกติ จนท. ตม.ขาออก จดบันทึกลงในหน้าสุดท้ายของพาสปอร์ตญาติผู้หญิงผมครับ
ว่า นส...... ให้การว่าจะเดินทางกลับเข้าไทยในวันที่ .... พร้อมกับนาย.....
จากนั้นผมก็เดินทางของผมไป จนกระทั่ง วันที่ผมจะต้องเดินทางเข้ามาชอร์พาสที่นาริตะ 1คืน ก่อนกลับกรุงเทพ โดยผมมีใบจองโรงแรม ซึ่งผมเองก็พักโรงแรมแถวๆสนามบินนาริตะแหละครับ HOTEL EXCEL TOKYU และเตรียมเอกสารรับรองต่างๆของผมที่เมืองไทย
พอถึงเวลาลุ้นระทึก ตม. ถามผมถึงเหตุผลในการเข้า ญี่ปุ่น มาทำไม บลาๆๆๆ ขอดูเอกสารตั๋วกลับและใบจองโรงแรม และขอดูเงินโชว์สำหรับใช้ในญี่ปุ่น 1วัน ก็เข้าเมืองได้อย่างไม่มีปัญหาครับ ตม.แสตมป์ให้อยู่ 3คืน4วัน
มารอบสองครับ รอบนี้ ไม่มีปัญหาที่ไทย แต่ก็มีการสอบถามจาก จนท. เช็คอิน และ ตม.ขาออกนิดหน่อย
ก็เดินทางปกติ จนกระทั่ง ถึงวันที่ต้องขอชอร์พาสเข้าญี่ปุ่นอีกรอบ เอกสารพร้อม ทุกอย่างพร้อมหมด แต่โดนโยนเข้าห้องเย็นครับ
เค้าถามถึงจุดประสงค์ในการมา คำถามเบสิคของ ตม. เค้าบลาๆๆๆ แหละครับ ผมก็พยายามอธิบายพร้อมโชว์พาสให้เค้าดูว่า ผมและญาติเคยเข้ามาญี่ปุ่นแล้ว และเดินทางออกปกติ คุณโปรดเชื่อใจผม นี่ใบจองโรงแรมก็มี ผมเลือกแวะญี่ปุ่นเพราะ ผมชอบและสะสมไมล์กับ JAL อยู่ โดยเค้าแยกสัมภาษณ์ผมกับญาติผู้หญิงคนหล่ะห้องนะครับ แต่เหมือนไม่เป็นผลครับ อาจเป็นเพราะญาติผู้หญิงผมพูดอังกฤษไม่ได้ด้วย และเค้าเสนอในผม ผ่านเข้าเมืองได้ แต่ไม่ให้ญาติผู้หญิงผมผ่าน ตม. แต่ผมทิ้งญาติไม่ได้หร่อกครับ สรุป... เค้าจะส่งผมกลับ แต่ตอนนั้น 2ทุ่มแล้ว ไม่มีเครื่องกลับ กทม. แล้ว ไฟ้ท์ไวสุด คือตอนเช้า ตม.จึงจัดการ รีไฟ้ท์ผมจากเดิมที่ตั๋วผมจะออกจากนาริตะโดยไฟ้ท์ JL707 เวลา 18.00 เป็น JL717 ออกจาก NRT ราวๆ10โมงเช้า และตม.บังคับให้ผมจ่ายค่าโรงแรม ซึ่งเป็นโรงแรมสำหรับคนถูกกักตัวครับ
ตอนแรกผมก็ไม่ยอมจ่าย ครับ ผมบอกคุณก็ปล่อยผมสิ่ โรงแรมสำหรับทรานสิทผมจองไว้ จ่ายเงินไปแล้วคุณจะให่ผมจ่ายอีกทำไม...ผมก็ยื้อเวลาจนกระทั่งประมาณ4ทุ่มครับ ที่นาริตะจะปิดสนามบิน เค้าบอกว่าผมต้องจ่ายเงินเพราะอยู่ในนี้ไม่ได้ ตอนนั้นก็เหนื่อยแล้วครับ เลยยอมจ่ายเงินค่าโรงแรมให้ จนท. หลังจากนั้น เค้าก็พาลงไปเอากระเป๋าพร้อมตรวจสิ่งของต้องห้าม แล้วก็พาขึ้นรถไปโรงแรมใกล้ๆสนามบินชื่อ NARITA REST HOUSE HOTELโรงนี้จะมีโซนไว้กักคนโดยเฉพาะด้วยครับ หน้าห้องมีคนคุมเฝ้า อยากได้ น้ำหรืออะไร ให้บอกกับคนคุม เรามีสิทธิ์แค่อยู่ในห้อง บรรยากาศในห้อง มีคนเขียนด่าตม. ญี่ปุ่นเต็มไปหมด แน่นอนครับภาษาไทยของเราก็มี เขียนด่าใส่ ปลอกโคมไฟ เขียนใส่กำแพง ฯลฯ ทำให้ได้รู้ว่า คนไทยโดน ตม. ญี่ปุ่น กักเยอะเหมือนกัน
พอตอนเช้า จนท. ก็เอา อาหารเช้ามาให้ พร้อมกับ บอดดิ้งพาส และนัดจะมารับในเวลา 9โมงครึ่ง พอถึงเวลา จนท.ก็พาไปส่งถึงหน้าเกท เลยครับ พร้อมบอกข้อมูล ผู้โดยสารแก่แอร์โฮสเตส เพื่อให้ช่วยดูแลต่อ พอเครื่องบิน แอร์JAL ซึ่งเป็นคนไทยเหมือนกันก็ดีมากครับ
ให้กำลังใจและถามสารทุกข์ สุขดิบ บอกไม่ต้องซีเรียส และไปยก ขนมถั่วญี่ปุ่นที่แจกบนเครื่องJAL ให้ผมมาแพ็คนึง น่ารักมากครับ
พอเครื่องกำลังจะลดระดับ แอร์จะขอให้เรา ไปนั่งด้านหน้าเครื่องตรงบริเวณบิสสิเนสคลาส เพื่อเอาเราออกจากเครื่องคนแรก เพราะเมื่อมาถึงไทยจะมีเจ้าหน้าที่ตม.ไทย รับเราไปสัมภาษณ์ต่อครับ
ก็โดนสัมภาษณ์ ราวๆครึ่งชั่วโมงก็ถูกปล่อยตัวออกมา
#ผมแวะมาเล่าประสบการ์ณให้ฟังเฉยๆนะครับ ยังไงเค้าก็ยกเลิกวีซ่าให้เราแล้วก็ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดี แต่ถึงยังไงมันปฏิเสธไม่ได้เลยว่า พาสปอร์ตไทยอันแสนสุดขึ้นชื่อนี้ จะต้องโดนเพ่งเล็งบ้าง ผมอยากให้เราทุกคนมาช่วยกันลบชื่อเสียของพาสไทย ให้เดินทางไปไหนมาไหนง่ายๆ
#การแต่งตัวและบุคลิคเป็นเรื่องสำคัญ เข้าเมืองให้ได้ แล้วค่อยไปแต่งสวยข้างใน ดีกว่า สวยไปแต่เสียเงินฟรีและไม่ได้เที่ยวนะครับ