แปลฉลองภาพชาร์ลกับเอริคในโถงทางเดินเข้าห้องเซเรโบรค่ะ



เครดิตภาพ ตัดต่อโดย...
http://leafierleaf.tumblr.com/post/137697686865

เรื่องย่อของภาคนี้คือ หลังจากที่มิสทีคกระทืบแม็กโชว์ออกทีวีในภาคก่อน ชาวโลกส่วนใหญ่ยอมรับมิวแทนต์มากขึ้น (แต่ก็ยังแอบเหยียดหน่อยๆอยู่ดี) อพ็อคคาลิปส์ที่มิวแทนต์โบราณที่ได้รับการบูชาในฐานะเทพเจ้าตื่นจากจำศีลขึ้นมาเห็นโลกยุค80 แล้วไม่พอใจเลยคิดจะล้างโลกเพื่อจัดระเบียบใหม่ บลาๆ

และช่วงที่เริ่มเรื่องคือปี1983 ดำเนินเรื่องในไทม์ไลน์ใหม่(happy end ทุกคนอยู่พร้อมหน้าพร้อมตาในโรงเรียนของชาร์ล) ที่จะเกิดทับไทม์ไลน์เดิม (เรื่องทุกอย่างในวูฟออริจิ้นที่เกิดหลังจากปี1973 , x-men 1-3,  หนังวูฟตะลุยญี่ปุ่น จนจบที่bad end เซ็นทิเนลครองโลก) ซึ่งเป็นผลมาจากการย้อนเวลามาสปอยล์เรื่องทั้งหมดใส่ชาร์ลของวูฟในภาคที่แล้ว ชาร์ลที่รู้เหตุการณ์ล่วงหน้าแล้วเลยไม่น่าจะตัดสินใจอะไรพลาดๆแบบเดิมอีก ส่วนจะพลาดแบบใหม่หรือเปล่าก็ต้องดูกันอีกที อนาคตเลยเปลี่ยนหมดจ้ะ

แปลแบบเรื้อนๆ เสื่อมๆ ตกๆ หล่นๆ จาก
http://collider.com/x-men-apocalypse-news-things-to-know/?utm_source=facebook&utm_medium=social&utm_campaign=collidersocial

1.    หนังจะเริ่มตรงหลังจากเหตุการณ์ในภาคที่แล้ว ชาร์ลกับแฮงค์ก็เปิดโรงเรียนสอนมิวแทนต์อีกครั้ง เอริคหนีคดีไปมีเมียใหม่ใช้ชีวิตแบบคนธรรมดาในยุโรป เรเวนเป็นนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมิวแทนต์

2.    ฉากแรกเป็นฉากย้อนอดีตเมื่อ5,000ปีก่อน อารมณ์ประมาณยุคที่เริ่มเขียนคัมภีร์ไบเบิ้ล

3.    เรื่องในภาคนี้ต่างจากไทม์ไลน์เดิมตรงที่คนทั่วไปรับรู้การมีตัวตนของเผ่ามิวแทนต์มาตั้งแต่ปี1973 เพราะเอริคอาละวาดหน้าทำเนียบโชว์ออกทีวีวันนั้น มิวแทนต์เลยเปิดตัวได้ ไม่ต้องหลบๆซ่อนๆอีก ส่วนใหญ่ก็ได้รับการยอมรับจากสังคม

4.    เรเวนออกเดินทางไปทั่วโลกเพื่อช่วยเหลือมิวแทนต์ที่ยังถูกกดขี่อยู่ ทั้งที่คนทั่วไปทำท่าเหมือนจะรับได้ที่มีมิวแทนต์อยู่ร่วมสังคมด้วยนั่นแหละ

5.    เรื่องที่จะเกิดในภาคนี้อาจไม่ทำให้เกิดx-men1-3 (bad end เซ็นทิเนลครองโลก) แต่จะทำให้เกิดอนาคตใหม่ (happy end ทุกคนอยู่พร้อมหน้าพร้อมตาในโรงเรียนของชาร์ล) ที่เห็นกันในส่วนอนาคตของภาคก่อนแทน

6.    ดังนั้นในไทม์ไลน์นี้ใครจะตายใครจะรอดจะไม่เหมือนกับในx-men1-3 อีกแล้ว คนที่รอดอาจตาย คนที่ตายอาจรอด deadflag ปักหัวทุกคนที่ไม่ได้โผล่ในhappy end ภาคก่อนแล้วจ่ะ

7.    ภาคApocalypse จะเป็นตอนจบเรื่องของชาร์ล เอริค แฮงค์ และเรเวน ที่เริ่มขึ้นในภาคfirst class ซึ่งจะทำให้คนในครอบครัวกลับมาพร้อมหน้ากันอีกครั้ง

8.    สก็อตกับจีนจะเป็นตัวเอกในภาคนี้ และเรื่องของสองคนนี้จะเกี่ยวพันกับเรื่องของชาร์ลและเรเวนอย่างมาก ชาร์ลทำตัวเหมือนผู้ปกครอง ส่วนเรเวนทำตัวเหมือนผู้นำ

9.    สก็อตจะเป็นคนสับสนในชีวิตที่พยายามหาที่อยู่ของตัวเองบนโลกนี้

10.    ไซคลอปส์ใส่แว่นยี่ห้อเรย์แบนด์

11.    หลังจากที่Tye Sheridan รู้ว่าได้เล่นบทไซคลอปส์เด็ก ก็ส่งเมลล์ไปหาJames Marsden (ไซคลอปส์โต) บอกว่าเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับช่วงเล่นเป็นไซคลอปส์ต่อ ตาเจมส์ก็ตอบเมลล์กลับมาในไม่กี่ชั่วโมง

12.    ในเรื่องนี้สก็อตกับฮาว็อคเป็นพี่น้องกัน ผู้กำกับตั้งใจจะเน้นความสัมพันธ์ของสองคนนี้มาตั้งกะภาคfirst class แล้ว แต่มันสลับตำแหน่งกันว้อย

13.    หลังจากที่ลูคัส ทิล(ฮาว็อค)ถ่ายฉากของตัวเองจบ ก็อยู่มอนทรีออลต่อจนทุกคนถ่ายจบเรื่อง แถมอยู่รวมกับTye Sheridan ด้วย

14.    โดยรวมแล้วภาคapocalypseคือภาคที่ครอบครัวจะมาอยู่พร้อมหน้ากัน

15.    ไซม่อน คินเบิร์ก(คนเขียนบทและโปรดิวเซอร์) บอกว่าภาคนี้จะมีบรรยากาศน่ารักสดใสแบบภาคfirst class ผสมกับความเชยแบบเท่ๆแบบยุค80 และหายนะระดับสูงสุดที่จะส่งผลกระทบไปทั้งโลกเหมือนในภาคก่อนหน้านี้

16.    เพราะการมีตัวตนอยู่ของมิวแทนต์ไม่เป็นความลับอีกต่อไป โรงเรียนของชาร์ลเลยใหญ่ขึ้นและมีบรรยากาศสดใสขึ้นตั้งแต่ตอนเริ่มเรื่อง

17.    บทของชาร์ลในภาคนี้จะคล้ายภาคก่อน ตรงที่เริ่มต้นมาแบบสดใสมองโลกในแง่ดีเต็มไปด้วยความหวังแต่จบไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ และโปรเฟสเซอร์xในภาคนี้จะต่างจากที่แพททริค สจ๊วร์ตเล่นไว้นิดหน่อย

18.    4ขุนพลของอพ็อคคาลิปส์ไม่ได้มีแค่4คน ตี่งโป๊ะ

19.    ผู้กำกับไม่ได้กะจะให้ไซล็อคเป็น1ใน-4ขุนพลของอพ็อคคาลิปส์มาตั้งแต่แรก แค่กะจะให้ไม่ซ้ำกับเวอร์ชั่นอื่นและอยากให้มีผู้หญิงเพิ่มมาอีกคนแล้วเลือกๆเอาจากมิวแทนต์ที่มีอยู่ หวยเลยมาออกที่ไซล็อก ไซม่อน คินเบิร์กเจอโอลิเวีย มุน ที่มาแคสต์บทในเรื่องเดดพูลแล้วคิดว่าน่าจะเหมาะกับไซล็อกมาก

20.    ตอนที่ไซม่อน คินเบิร์กถามว่าจะเล่นเป็นไซล็อกได้มั้ย โอลิเวียส่งภาพแฟนอาร์ตที่มีคนเอาภาพนางไปตัดต่อให้ใส่ชุดไซล็อกส่งไปให้เลย

21.    ประวัติของไซล็อกในส่วนที่ได้พลังมายังไงเรียนมาจากสำนักดาบไหนจะไม่เปิดเผยในหนัง แต่จะบอกใบ้ไว้ให้แฟนๆเข้าใจได้ ตอนที่เราเห็นนางในหนังคือเป็นไซล็อกเต็มตัว มีพลังเต็มที่แล้ว

22.    ชุดไซล็อกตอนแรกควรจะเป็นสีดำ แต่โอลิเวีย มุนบอกเอาสีม่วงให้ตรงตามคอมิคดีกว่า

23.    โอลิเวีย มุน เห็นว่านอกจากชุดโป๊ๆแล้ว ควรจะเน้นเรื่องประวัติของนางด้วย นางเป็นอาวุธที่ควรใช้งานเพื่อความถูกต้อง

24.    ในหนังไซล็อกจะยกของด้วยพลังจิตได้ แต่จะไม่เห็นนางใช้พลังอ่านใจ พลังนี้นางจะเก็บไว้เป็นไม้ตายสุดท้าย

25.    ในหนังเราจะได้เห็นไซล็อกใช้ทั้งดาบจริงและดาบพลังจิต

26.    เอริคพยายามจะใช้ชีวิตแบบคนธรรมดาแล้ว แต่ก็ทำไม่ได้ ยังมีมนุษย์มารบกวน

27.    ไซม่อน คินเบิร์กและไบรอัน ซิงเกอร์ ดูการ์ตูนApocalypse สารพัดเวอร์ชั่นระหว่างที่คุยกันว่าควรจะทำหนังออกมาแบบไหน

28.    สองคนนี้ปรึกษากันอยู่9เดือนกว่าจะเขียนสคริปต์ที่ใช้ถ่ายทำเสร็จ

29.    อพ็อคคาลิปส์ในหนังเลยเป็นส่วนผสมของอพ็อคคาลิปส์จากการ์ตูนสารพัดเวอร์ชั่นนั่นเอง

30.    ไบรอัน ซิงเกอร์บอกอพ็อคคาลิปส์ในหนังเหมือนจะเป็นพระเจ้าในพระคัมภีร์เก่า

31.    เลือกอพ็อคคาลิปส์มาเป็นตัวร้ายหลักในภาคนี้เพราะคาแร็คเตอร์น่าสนใจ  และน่าสนใจมากว่าคนมีพลังพิเศษที่ครั้งหนึ่งเคยมีคนบูชาเหมือนพระเจ้า พอตื่นมาอีกทีทุกคนก็เห็นว่าพลังพิเศษนั่นเป็นของธรรมดาไปแล้วจะมีปฏิกริยายังไงบ้าง

32.    อพ็อคคาลิปส์เวอร์ชั่นหนังมีพลังหลายอย่าง แต่ยังต้องมีข้อจำกัดบางประการเพื่อให้หนังมันน่าดูขึ้น ไม่งั้นหนังก็จบตั้งกะตอนอพ็อคคาลิปส์ตื่นแล้ว

33.    อพ็อคคาลิปส์ย้ายร่างได้ ในเรื่องนี้จะมีตัวตนในรูปแบบของพลังงาน ยิ่งย้ายร่างบ่อยยิ่งสะสมพลังได้มาก

34.    ...แต่ดันเลือกร่างผิด ในหนังเลยติดอยู่ในร่างมิวแทนต์ตัวเล็กๆเท่าโพ ดาเมรอนนั่นซะนานเลย

35.    ออสการ์ ไอแซ็คเป็นตัวเลือกอันดับ1ที่จะมาเล่นเป็นอพ็อคคาลิปส์ เพราะอพ็อคคาลิปส์ไม่ควรหน้าขาวเป็นฝรั่งจ๋าอยู่แล้ว

36.    อพ็อคคาลิปส์ตื่นมาเพื่อจัดระเบียบโลกใหม่ ไม่ว่าต้องทำลายอะไรไปบ้างก็ตาม

37.    เดดพูล แกมบิท แฟนทาสติก4 (เฮ้ย!? จะเอาแบบนี้ต่อจริงๆอ่ะ รีบูทอีกรอบก่อนมั้ยยยย) และวูฟ3 จะเริ่มขึ้นในไทม์ไลน์ใหม่หลังวูฟย้อนเวลามาตอนปี73 และเกิดขึ้นหลังภาคอพ็อคคาลิปส์เนี่ยแหละ

38.    ถ่ายหนังแบบเตรียมทำ3Dมาตั้งแต่แรก จะได้ไม่ต้องยัดเอฟเฟกต์ทีหลังเยอะ

39.    แฮงค์สอนอยู่ในโรงเรียนชาร์ล และสร้างเครื่องควบคุมพลังให้สำหรับมิวแทนต์ที่ควบคุมพลังไม่ได้ด้วย สร้างเครื่องบินลำใหม่ให้อีกต่างหาก

40.    แฮงค์กับชาร์ลในภาคนี้ก็ยังสนิทกันดีอยู่ เหมือนจะเป็นเพื่อนกันมากกว่าลูกศิษย์กับอาจารย์ซะอีก แต่ในขณะที่ชาร์ลมุ่งจะอยู่ร่วมกับมนุษย์อย่างสันติ แฮงค์กลับเห็นว่าโลกนี้ยังจำเป็นต้องมีx-menอยู่ เลยสร้างเครื่องบินประจำทีมไว้รอ

41.    ในหนังจะเห็นแฮงค์และบีสต์เท่าๆกัน ช่วงแรกจะเห็นแฮงค์ ช่วงหลังจะเห็นบีสต์ รอบนี้เปลี่ยนชนิดของยางที่ใช้ทำเมคอัพ ทำให้หน้าบีสต์แสดงอารมณ์ได้มากขึ้น

42.    นิค ฮอลท์เป็นคนออกไอเดียว่าให้จีนเป็นคนจับหัวสก็อตหันไปหันมาตอนจะยิงพลังแทน เพราะสก็อตยังควบคุมพลังของตัวเองไม่ได้

43.    นิค ฮอลท์กับเจมส์ แม็กอวอยสนิทกันมาก บางครั้งตอนแสดงด้วยกันไบรอัน ซิงเกอร์เลยปล่อยให้ด้นสด

44.    แฮงค์ดูแลเด็กๆx-menเหมือนเป็นผู้ปกครอง

45.    แฮงค์กับไนท์ครอว์เลอร์เล่นมุขล้อเลียนเรื่องตัวสีฟ้ากัน ถ่ายไว้หลายเวอร์ชั่น

46.    มอยร่าจะโดนล้อเรื่องความจำเสื่อมไปตลอดเรื่อง แต่ตอนต้นเรื่องนางยังทำงานให้กับCIAนะ

47.    ตอนถ่ายภาคอพ็อคคาลิปส์มีคุยกันเรื่องภาคต่อด้วย แต่ยังไม่มากเท่าที่พูดถึงภาคอพ็อคคาลิปส์ระหว่างถ่ายภาคdays of future past

48.    อะไรที่ยังไม่ได้เล่าในสองภาคก่อนก็จะมาเล่าในภาคนี้ ต่อไปอาจมีภาคdark phoenix saga

49.    เราจะได้เห็นแองเจิ้ลในหนังทั้งแบบปีกเหล็กและปีกนกสีขาวสวยๆ(ทั้งสองเวอร์ชั่นเป็นปีกซีจีล้วนๆ)

50.    ภาคนี้เน้นเอริคกับเรเวนพอๆกับที่ภาคfirst classเน้นเรื่องของชาร์ล

51.    ฮาว็อคมีงานมีการดีๆทำแล้ว ย้ายไปอยู่เมืองโอมาฮ่า ทำงานเป็นผู้บริหารอยู่บริษัทBerkshire Hathaway.

52.    คู่รัก3คู่ในภาคนี้คือ เรเวนกับแฮงค์ จีนกับสก็อต ชาร์ลกับมอยร่า

53.    ตอนแรกอยากเล่าภาคนี้เป็นสองท่อน ท่อนแรกคือเกิดอะไรขึ้นกับเอริคและเรเวนบ้างหลังจากแยกย้ายกันไปในภาคก่อน และเรื่องจุดกำเนิดของจีน สก็อต และสตรอม

54.    เผ่าเซเลสเทียลอาจอยู่เบี้องหลังเรื่องในภาคนี้หรือเปล่าก็ไม่รู้วววว

55.    มิวแทนต์เด็กๆในภาคนี้ส่วนใหญ่ยังใช้พลังไม่ค่อยเป็น

56.    ในเรื่องเป็นยุคที่ตัวละครยังเถียงกันอยู่ว่าEmpire Strikes Back หรือ Star Wars เรื่องไหนสนุกกว่ากัน

57.    เป็นหนังดีและดาร์คสุดที่ไบรอัน ซิงเกอร์เคยทำมาแล้ว

58.    บทงอกใหม่และแก้ได้เรื่อยๆถ้าไบรอัน ซิงเกอร์หรือไซม่อน คินเบิร์กได้แรงบันดาลใจใหม่ๆขึ้นมา

59.    บางฉากต้องใช้ทั้งกล้องGo-Pro กล้องถ่ายหนัง สตันท์ การออกแบบท่า และซีจีมากๆ

60.    เรื่องบทมีคนช่วยเขียนอีกสองคนคือMike Dougherty และ Dan Harris

61.    ไบรอัน ซิงเกอร์กลับไปดูซีรี่ส์Elementary.แก้เครียดหลังถ่ายทำเสร็จแต่ละวัน

62.    พลังของอาจู...โทดๆ จูบิลี่ในหนังจะเป็นพลาสม่าหรือไฟฟ้า ไม่ใช่แค่ดอกไม้ไฟสวยๆนะ

63.    ตอนเริ่มเรื่องอาจูอยู่กับชาร์ลมา10ปีแล้วจ้า

64.    อาจูไม่ได้ไปบู๊ด้วย แค่มายิงมุขตบมุขกับแก๊งค์จีน สก็อต ไนท์ครอว์เลอร์เท่านั้นเอง

65.    ชุดที่อาจูใส่เป็นชุดแฟชั่นอย่างเริ่ดในยุค80 มาครบทั้งที่เสริมไหล่ ทั้งหมุดบนเสี้อ

66.    ไนท์ครอว์เลอร์จะคล้ายในคอมิคมากขึ้นอีกหน่อย ถึงจะใจดี กล้าหาญ และตลก แต่เรื่องในอดีตก็โคตรเศร้า

67.    ไนท์ครอว์เลอร์รู้จักกับแองเจิ้ลก่อนจะกลายเป็น1ใน4ขุนพลของอพ็อคคาลิปส์

68.    10ปีหลังภาคก่อน สไตรเกอร์ก็ยังหาวิธีใหม่ๆในการจัดการกับมิวแทนต์อยู่

69.    ภาคนี้เราจะได้เห็นว่าสไตรเกอร์กลายเป็นตัวโกงที่เรารู้จักกันได้ยังไง

70.    เราจะได้เห็นสตรอมเป็นโจรและนักล้วงกระเป๋าในไคโรเพื่อความอยู่รอด เจอแต่มิวแทนต์นิสัยไม่ดีจนมาเจออพ็อคคาลิปส์ที่ดูเป็นที่พึ่งได้

71.    อเล็กซานดร้า ชิปป์แสดงเป็นสตรอมโดยพูดสำเนียงเคนย่า

72.    สตรอมรู้สึกเหมือนอพ็อคคาลิปส์เป็นพ่อ เป็นผู้นำทางชีวิต

73.    อีแวน ปีเตอร์ถ่ายฉากควิกวิ่งอยู่30วัน ถ่ายทีละท่อนแล้วค่อยเอามาตัดต่อเข้าด้วยกันทีหลัง

74.    ควิกซิลเวอร์รู้แล้วว่าพ่อของตัวเองเป็นใคร และพยายามตามหามา10ปีแล้ว

75.    ในภาคนี้ควิกเลิกลักของแล้วนะ

76.    ควิกได้ออกเยอะกว่าภาคก่อน และมีบททำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันมากขึ้น

77.    อีแวน ปีเตอร์บอกว่าฉากควิกวิ่งเหมือนเป็นภาคต่อของการพัฒนาเทคนิคพิเศษ

78.    ฮิวจ์ แจ็คแมนจะมาเล่นเป็นวูฟในภาคนี้ด้วยมั้ย ก็ไม่รู้สินะ เรื่องนี้ลับที่สุดในกองถ่ายแล้ว