สวัสดีสมาชิกทุกท่านค่ะ อยากจะรบกวนขอคำแนะนำให้น้องหมาของน้องสาวค่ะ ยาวหน่อยนะคะ
เนื่องจากน้องสาวคลำตรงสะโพกด้านซ้ายของน้องหมาแล้วรู้สึกมีก้อนเนื้อปูดออกมาได้สักพักนึง ก็เลยพาเค้าไปโรงพยาบาลแห่งหนึ่งแถวบ้านเพื่อตรวจดูว่าเป็นเนื้อร้ายหรือไม่
วันที่ 10 มกราคม
น้องสาวก็พาน้องหมาไปที่ รพ ดังกล่าว คุณหมอก็พาน้องหมาไปตรวจโดยบอกให้น้องสาวรออยู่ข้างนอกค่ะ
สักพักใหญ่คุณหมอเดินกลับมาและเล่าว่า ได้ทำการจับก้อนเนื้อตรวจคลำๆแล้ว และมีลักษณะเหมือนถุงน้ำแต่ว่าไม่สามารถตอบได้ว่าเป็นอะไร
ต้องเจาะชิ้นเนื้อเอาไปตรวจดู และจะทราบผลภายใน 5 - 7 วันค่ะ
4-5 วันถัดมา. คุณหมอโทรมาบอกว่า ชิ้นเนื้อที่เอาไปตรวจนั้น ไม่สามารถหาข้อมูลได้เพราะไม่มีตัวเซลล์อยู่ในเนื้อที่เอาไปตรวจ
จะให้แน่ใจก็ควรจะตรวจ ultrasound เช็คดูอีกทีหนึ่งค่ะ และหมอนัดอีกทีวันที่ 17 ค่ะ
วันที่ 17 น้องสาวก็พาไปที่ รพ เดิม แต่เจอกับหมอผู้หญิงอีกท่านหนึ่ง และพาไปที่ห้องทำ ultrasound ได้พบและคุยกับอาจารย์หมอที่เป็นคนทำ ultrasound ให้ อาจารย์หมอก็บอกว่าดูไม่เหมือนเป็นเซลล์มะเร็งหรือเป็นเนื้อร้าย อาจจะเป็นการอักเสบที่ทำให้มันบวมขึ้นมาค่ะ
หมอก็บอกว่าให้มาตรวจ ultrasound ซ้ำอีกทีหลังจาก 3 เดือน ถ้ามันไม่ได้ใหญ่ขึ้น ก็ไม่น่าเป็นห่วงเท่าไหร่
แต่ถ้ามันโตขึ้นภายใน 3 เดือนก็แนะนำให้ตัดทิ้งค่ะ เพราะก้อนที่อักเสบอาจจะพัฒนากลายเป็นเนื้องอก และนำไปสู่การเป็นเนื้อร้ายได้ในอนาคต
น้องสาวก็ถามหมอต่อ เรื่องการตรวจสุขภาพ หมอก็เลย ultrasound ช่วงท้องให้ น้องหมาก็ดิ้น
มีผู้ช่วยมาจับหมา 2 คน คนผู้หญิงจับขาหน้าทั้งสองข้าง คนผู้ชายจับขาหลังทั้งสองข้าง ให้น้องหมานอนในลักษณะนอนหงาย
แล้วอาจารย์หมอก็พูดขึ้นมาว่า หมาไม่ชอบนอนหงาย ให้นอนตะแคงก็ได้ ทำ ultrasound ได้เหมือนกัน
หลังจากนั้นพบว่ามีไขมันในตับในสองข้างและไตก็รู้สึกแหว่งไปนิดนึง ถุงน้ำดี ดูไม่มีอะไร
อาจารย์หมอก็เลยแนะนำให้ไปเจาะเลือดตรวจเลยทันที ถ้าสะดวก
จากนั้นก็ย้ายห้องตรวจ หมอผู้หญิงที่เจอวันนั้น ก็เป็นคนมาเจาะเลือดให้ น้องหมาก็ดิ้นพอสมควร น้องสาวก็พูดเตือนว่าน้องหมาเค้าแรงเยอะเหมือนกันนะ
มีผู้ช่วยผู้ชายมาช่วยจับ และหมอก็เจาะเลือกจากขาหน้าข้างซ้าย
พอได้ผลตรวจเลือดมา หมอแจ้งว่าค่าไตปกติ ค่าตับก็ปกติ แต่ค่าถุงน้ำดีผิดปกติ มีผลกระทบต่อต่อมหมวกไต และทำให้มีปัญหาอื่นๆ ตามมา
ซึ่งจะทำให้ร่างกายส่วนอื่นๆผิดปกติไปด้วย เช่น ท้องจะป่อง ผิวหนังจะบาง ฮอโมนผิดปกติ ดื่มน้ำและปัสสาวะบ่อยกว่าปกติ ฯลฯ
หมอก็แนะนำต่อว่า อยากให้มาตรวจเลือดซ้ำอีกครั้งในวันอังคาร ให้งดอาหารและน้ำก่อนเจาะ และต้องทิ้งไว้ที่ รพ ทั้งวัน เพื่อให้ได้ผลที่ละเอียดกว่า
โดยน้องหมาจะต้องอยู่ตั้งแต่ 8 โมงเช้า และรับกลับได้ตอน 2 ทุ่ม และจะมีการเจาะเลือดตรวจ 3 ครั้ง
พอเสร็จแล้วก็พาน้องหมากลับบ้าน ก็ยังร่าเริง วิ่งเล่น กระโดด ไล่เห่ามอเตอร์ไซค์ เป็นปกติ กินได้ นอนหลับคะ แกะพลาสเตอร์ที่ขาหน้าออก ก็ไม่มีอะไรผิดปกติ
พอถึงวันอังคารที่ 19 ตอนเช้าน้องหมาก็ดูเป็นปกติ วิ่งไปหาของกินใต้โต๊ะอาหาร และวิ่งไล่มอเตอร์ไซค์ แถมยังเห่าเสียงดัง
น้องสาวก็พาน้องหมาไป รพ แห่งเดิม ไปถึงตั้งแต่ 8:15 มีเจ้าหน้าที่รับน้องหมาไว้ แล้วก็ขับรถไปทำงานต่อ
ช่วงประมาณ 13:40 น้องสาวก็ได้รับโทรศัทพ์จากหมออีกท่านหนึ่ง แจ้งว่าน้องหมาดูเดินกะเผลก แนะนำให้ลอง x-ray ดู น้องสาวก็ตกลงค่ะ
สักประมาณ 2 ชั่วโมงต่อมา คุณหมอท่านเดิม ก็โทรกลับมาบอกว่าน้องหมาสะโพกหลุด
ตอนแรกน้องสาวก็ไม่ทันได้คิดอะไร คิดแต่พยายามถามข้อมูลว่าต้องทำอย่างไรถึงจะรักษาได้
พอถึงเวลา 20:15 น้องสาวก็ไปรับน้องหมาที่ รพ เจอคุณหมออีกท่าน น่าจะเป็นคนเดียวกันกับที่โทรมาคุย
หมอรีบพาไปดูฟิล์ม x-ray และอธิบายว่าน้องหมาสะโพกหลุด ซึ่งเป็นกรณีที่เกิดขึ้นได้ยาก ต้องมีการกระแทกอย่างแรง และอธิบายต่อถึงเรื่องการรักษาวิธีต่างๆ รวมถึงการผ่าตัด จากนั้นน้องสาวก็ไปรับตัวน้องหมา ซึ่งถูกอุ้มออกมารอ พอน้องทำเรื่องจ่ายเงินเสร็จ ผู้ช่วยก็อุ้มน้องหมาไปส่งให้ถึงที่รถ
พอกลับถึงบ้าน ก็ปล่อยให้เค้าเดินไปเข้าห้องน้ำเอง ก็สังเกตุเห็นน้องหมาเดินกะเผลก เดินได้แค่ 3 ขา ยกขาหลังซ้ายไว้เกือบตลอด ไม่สามารถลงน้ำหนักที่ขาได้เลย คนที่บ้านก็ทักกันทุกคน ถามว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมอยู่ดีๆ เดินกะเผลก
น้องสาวเลยโทรกลับหาคุณที่รับน้องหมาเข้าตั้งแต่ช่วงเช้าและดูแลจนถึงช่วงเย็น ว่าเกิดอะไรขึ้น คุณหมอบอกว่าไม่ทราบว่าเกิดเรื่องนี้ขึ้นได้อย่างไร
เราก็เลยช่วยคุยต่อให้และถามหมอว่า หมอเป็นคนรับน้องหมาไว้ตอนเช้าหรือเปล่า แล้วเค้าเป็นปกติดีใช่มั้ย
หมอก็ตอบว่าใช่ เดิน 4 ขาได้ปกติ เราก็ถามต่อว่า แล้วอยู่ๆ น้องหมาจะสะโพกหลุดได้ยังงัย ในเมื่อตอนเช้ายังดีๆอยู่เลย
สิ่งที่หมอตอบคือ หมอบอกว่า หมอก็แค่เจาะเลือดเองค่ะ ฟังแล้วเหมือนจะปัดความรับผิดชอบ
เราก็ถามต่อว่า นอกจากเจาะเลือดแล้ว เวลาอื่น น้องหมาก็อยู่ในกรงหรือเปล่าคะ หมอก็ตอบว่าใช่ค่ะ
เราพูดต่อว่า แล้วมันจะเป็นไปได้ยังงัย และย้ำหลายรอบว่าอยู่ๆจะสะโพกหลุดได้ยังงัย หมอตอบแค่ว่าไม่ทราบเหมือนกัน
อาจจะเกิดจากที่ผ่านมามีการกระแทกอยู่ก่อนแล้ว และพอโดนอีกนิดหน่อยก็หลุดได้
เราเลยถามว่าที่ รพ นี้ มีกล้องวงจรปิดไหม เผื่อว่าจะได้ดูว่าน้องหมาไปโดนอะไรหรือเปล่า
หมอตอบว่าเดี๋ยวจะสอบถามเจ้าหน้าที่ให้ และพรุ่งนี้จะให้ติดต่อไปอีกครั้ง จากนั้นก็วางสาย
พอแฟนน้องสาวทราบเรื่อง ก็รีบขับรถพาน้องสาวกลับไปที่ รพ อีกครั้งเพื่อไปคุยรายละเอียดหาสาเหตุ ทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่าคุณหมอท่านนั้นกลับไปแล้ว
และได้แจ้งเรื่องนี้ให้กับเจ้าของโรงพยาบาลทราบแล้วค่ะ พรุ่งนี้เจ้าของเค้าจะเข้ามาคุยช่วง 11 โมงเช้าพรุ่งนี้ค่ะ
อยากทราบว่า เป็นไปได้มั๊ยคะ ว่าอยู่ดีๆ น้องหมาจะสะโพกหลุด
คือเราฟังดูแล้วรู้สึกว่า ทาง รพ จะปัดความรับผิดชอบ
กรณีแบบนี้ ควรทำยังงัยดีคะ อยากทราบความเป็นไปได้ในทางการแพทย์ และในเชิงกฏหมายว่าควรทำยังงัยดีคะ
รูปขาหน้าของน้องหมา ข้างซ้าย และข้างขวาค่ะ เดาว่าโดนเจาะที่ข้างขวา เพราะดูแล้วช้ำมากเลย (หมอว่าต้องเจาะ 3 ครั้ง)
ข้างซ้าย
ข้างขวา
ส่วนอันนี้น้องหมาตอนเดินกะเผลกค่ะ
ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
น้องหมาไปตรวจเลือดที่ รพ กลับมาสะโพกหลุด เป็นไปได้หรือคะ หมอบอกว่าไม่ได้ทำอะไรนอกจากเจาะเลือด
เนื่องจากน้องสาวคลำตรงสะโพกด้านซ้ายของน้องหมาแล้วรู้สึกมีก้อนเนื้อปูดออกมาได้สักพักนึง ก็เลยพาเค้าไปโรงพยาบาลแห่งหนึ่งแถวบ้านเพื่อตรวจดูว่าเป็นเนื้อร้ายหรือไม่
วันที่ 10 มกราคม
น้องสาวก็พาน้องหมาไปที่ รพ ดังกล่าว คุณหมอก็พาน้องหมาไปตรวจโดยบอกให้น้องสาวรออยู่ข้างนอกค่ะ
สักพักใหญ่คุณหมอเดินกลับมาและเล่าว่า ได้ทำการจับก้อนเนื้อตรวจคลำๆแล้ว และมีลักษณะเหมือนถุงน้ำแต่ว่าไม่สามารถตอบได้ว่าเป็นอะไร
ต้องเจาะชิ้นเนื้อเอาไปตรวจดู และจะทราบผลภายใน 5 - 7 วันค่ะ
4-5 วันถัดมา. คุณหมอโทรมาบอกว่า ชิ้นเนื้อที่เอาไปตรวจนั้น ไม่สามารถหาข้อมูลได้เพราะไม่มีตัวเซลล์อยู่ในเนื้อที่เอาไปตรวจ
จะให้แน่ใจก็ควรจะตรวจ ultrasound เช็คดูอีกทีหนึ่งค่ะ และหมอนัดอีกทีวันที่ 17 ค่ะ
วันที่ 17 น้องสาวก็พาไปที่ รพ เดิม แต่เจอกับหมอผู้หญิงอีกท่านหนึ่ง และพาไปที่ห้องทำ ultrasound ได้พบและคุยกับอาจารย์หมอที่เป็นคนทำ ultrasound ให้ อาจารย์หมอก็บอกว่าดูไม่เหมือนเป็นเซลล์มะเร็งหรือเป็นเนื้อร้าย อาจจะเป็นการอักเสบที่ทำให้มันบวมขึ้นมาค่ะ
หมอก็บอกว่าให้มาตรวจ ultrasound ซ้ำอีกทีหลังจาก 3 เดือน ถ้ามันไม่ได้ใหญ่ขึ้น ก็ไม่น่าเป็นห่วงเท่าไหร่
แต่ถ้ามันโตขึ้นภายใน 3 เดือนก็แนะนำให้ตัดทิ้งค่ะ เพราะก้อนที่อักเสบอาจจะพัฒนากลายเป็นเนื้องอก และนำไปสู่การเป็นเนื้อร้ายได้ในอนาคต
น้องสาวก็ถามหมอต่อ เรื่องการตรวจสุขภาพ หมอก็เลย ultrasound ช่วงท้องให้ น้องหมาก็ดิ้น
มีผู้ช่วยมาจับหมา 2 คน คนผู้หญิงจับขาหน้าทั้งสองข้าง คนผู้ชายจับขาหลังทั้งสองข้าง ให้น้องหมานอนในลักษณะนอนหงาย
แล้วอาจารย์หมอก็พูดขึ้นมาว่า หมาไม่ชอบนอนหงาย ให้นอนตะแคงก็ได้ ทำ ultrasound ได้เหมือนกัน
หลังจากนั้นพบว่ามีไขมันในตับในสองข้างและไตก็รู้สึกแหว่งไปนิดนึง ถุงน้ำดี ดูไม่มีอะไร
อาจารย์หมอก็เลยแนะนำให้ไปเจาะเลือดตรวจเลยทันที ถ้าสะดวก
จากนั้นก็ย้ายห้องตรวจ หมอผู้หญิงที่เจอวันนั้น ก็เป็นคนมาเจาะเลือดให้ น้องหมาก็ดิ้นพอสมควร น้องสาวก็พูดเตือนว่าน้องหมาเค้าแรงเยอะเหมือนกันนะ
มีผู้ช่วยผู้ชายมาช่วยจับ และหมอก็เจาะเลือกจากขาหน้าข้างซ้าย
พอได้ผลตรวจเลือดมา หมอแจ้งว่าค่าไตปกติ ค่าตับก็ปกติ แต่ค่าถุงน้ำดีผิดปกติ มีผลกระทบต่อต่อมหมวกไต และทำให้มีปัญหาอื่นๆ ตามมา
ซึ่งจะทำให้ร่างกายส่วนอื่นๆผิดปกติไปด้วย เช่น ท้องจะป่อง ผิวหนังจะบาง ฮอโมนผิดปกติ ดื่มน้ำและปัสสาวะบ่อยกว่าปกติ ฯลฯ
หมอก็แนะนำต่อว่า อยากให้มาตรวจเลือดซ้ำอีกครั้งในวันอังคาร ให้งดอาหารและน้ำก่อนเจาะ และต้องทิ้งไว้ที่ รพ ทั้งวัน เพื่อให้ได้ผลที่ละเอียดกว่า
โดยน้องหมาจะต้องอยู่ตั้งแต่ 8 โมงเช้า และรับกลับได้ตอน 2 ทุ่ม และจะมีการเจาะเลือดตรวจ 3 ครั้ง
พอเสร็จแล้วก็พาน้องหมากลับบ้าน ก็ยังร่าเริง วิ่งเล่น กระโดด ไล่เห่ามอเตอร์ไซค์ เป็นปกติ กินได้ นอนหลับคะ แกะพลาสเตอร์ที่ขาหน้าออก ก็ไม่มีอะไรผิดปกติ
พอถึงวันอังคารที่ 19 ตอนเช้าน้องหมาก็ดูเป็นปกติ วิ่งไปหาของกินใต้โต๊ะอาหาร และวิ่งไล่มอเตอร์ไซค์ แถมยังเห่าเสียงดัง
น้องสาวก็พาน้องหมาไป รพ แห่งเดิม ไปถึงตั้งแต่ 8:15 มีเจ้าหน้าที่รับน้องหมาไว้ แล้วก็ขับรถไปทำงานต่อ
ช่วงประมาณ 13:40 น้องสาวก็ได้รับโทรศัทพ์จากหมออีกท่านหนึ่ง แจ้งว่าน้องหมาดูเดินกะเผลก แนะนำให้ลอง x-ray ดู น้องสาวก็ตกลงค่ะ
สักประมาณ 2 ชั่วโมงต่อมา คุณหมอท่านเดิม ก็โทรกลับมาบอกว่าน้องหมาสะโพกหลุด
ตอนแรกน้องสาวก็ไม่ทันได้คิดอะไร คิดแต่พยายามถามข้อมูลว่าต้องทำอย่างไรถึงจะรักษาได้
พอถึงเวลา 20:15 น้องสาวก็ไปรับน้องหมาที่ รพ เจอคุณหมออีกท่าน น่าจะเป็นคนเดียวกันกับที่โทรมาคุย
หมอรีบพาไปดูฟิล์ม x-ray และอธิบายว่าน้องหมาสะโพกหลุด ซึ่งเป็นกรณีที่เกิดขึ้นได้ยาก ต้องมีการกระแทกอย่างแรง และอธิบายต่อถึงเรื่องการรักษาวิธีต่างๆ รวมถึงการผ่าตัด จากนั้นน้องสาวก็ไปรับตัวน้องหมา ซึ่งถูกอุ้มออกมารอ พอน้องทำเรื่องจ่ายเงินเสร็จ ผู้ช่วยก็อุ้มน้องหมาไปส่งให้ถึงที่รถ
พอกลับถึงบ้าน ก็ปล่อยให้เค้าเดินไปเข้าห้องน้ำเอง ก็สังเกตุเห็นน้องหมาเดินกะเผลก เดินได้แค่ 3 ขา ยกขาหลังซ้ายไว้เกือบตลอด ไม่สามารถลงน้ำหนักที่ขาได้เลย คนที่บ้านก็ทักกันทุกคน ถามว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมอยู่ดีๆ เดินกะเผลก
น้องสาวเลยโทรกลับหาคุณที่รับน้องหมาเข้าตั้งแต่ช่วงเช้าและดูแลจนถึงช่วงเย็น ว่าเกิดอะไรขึ้น คุณหมอบอกว่าไม่ทราบว่าเกิดเรื่องนี้ขึ้นได้อย่างไร
เราก็เลยช่วยคุยต่อให้และถามหมอว่า หมอเป็นคนรับน้องหมาไว้ตอนเช้าหรือเปล่า แล้วเค้าเป็นปกติดีใช่มั้ย
หมอก็ตอบว่าใช่ เดิน 4 ขาได้ปกติ เราก็ถามต่อว่า แล้วอยู่ๆ น้องหมาจะสะโพกหลุดได้ยังงัย ในเมื่อตอนเช้ายังดีๆอยู่เลย
สิ่งที่หมอตอบคือ หมอบอกว่า หมอก็แค่เจาะเลือดเองค่ะ ฟังแล้วเหมือนจะปัดความรับผิดชอบ
เราก็ถามต่อว่า นอกจากเจาะเลือดแล้ว เวลาอื่น น้องหมาก็อยู่ในกรงหรือเปล่าคะ หมอก็ตอบว่าใช่ค่ะ
เราพูดต่อว่า แล้วมันจะเป็นไปได้ยังงัย และย้ำหลายรอบว่าอยู่ๆจะสะโพกหลุดได้ยังงัย หมอตอบแค่ว่าไม่ทราบเหมือนกัน
อาจจะเกิดจากที่ผ่านมามีการกระแทกอยู่ก่อนแล้ว และพอโดนอีกนิดหน่อยก็หลุดได้
เราเลยถามว่าที่ รพ นี้ มีกล้องวงจรปิดไหม เผื่อว่าจะได้ดูว่าน้องหมาไปโดนอะไรหรือเปล่า
หมอตอบว่าเดี๋ยวจะสอบถามเจ้าหน้าที่ให้ และพรุ่งนี้จะให้ติดต่อไปอีกครั้ง จากนั้นก็วางสาย
พอแฟนน้องสาวทราบเรื่อง ก็รีบขับรถพาน้องสาวกลับไปที่ รพ อีกครั้งเพื่อไปคุยรายละเอียดหาสาเหตุ ทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่าคุณหมอท่านนั้นกลับไปแล้ว
และได้แจ้งเรื่องนี้ให้กับเจ้าของโรงพยาบาลทราบแล้วค่ะ พรุ่งนี้เจ้าของเค้าจะเข้ามาคุยช่วง 11 โมงเช้าพรุ่งนี้ค่ะ
อยากทราบว่า เป็นไปได้มั๊ยคะ ว่าอยู่ดีๆ น้องหมาจะสะโพกหลุด
คือเราฟังดูแล้วรู้สึกว่า ทาง รพ จะปัดความรับผิดชอบ
กรณีแบบนี้ ควรทำยังงัยดีคะ อยากทราบความเป็นไปได้ในทางการแพทย์ และในเชิงกฏหมายว่าควรทำยังงัยดีคะ
รูปขาหน้าของน้องหมา ข้างซ้าย และข้างขวาค่ะ เดาว่าโดนเจาะที่ข้างขวา เพราะดูแล้วช้ำมากเลย (หมอว่าต้องเจาะ 3 ครั้ง)
ข้างซ้าย
ข้างขวา
ส่วนอันนี้น้องหมาตอนเดินกะเผลกค่ะ
ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ