เมื่อคืน ได้ดู อัสนี วสันต์ ร่ำไรคอนเสิร์ต คอนเสิร์ตเมื่อปี 2550 (9 ปีแล้ว) แต่บรรยากาศและการเล่นสดของพี่น้องอัสนี วสันต์ และวงของทั้งคู่ เรียกได้ว่าสุดๆจริงๆ ยิ่งเสริมด้วยแขกรับเชิญอย่าง น้าแอ๊ด คาราบาว กับเพลงวณิพก ยิ่งสนุกสนานกว่าเดิมอีก
พอมานั่งนึกดู ผมก็นึกขึ้นได้ว่า พี่น้องคู่นี้ มีคอนเสิร์ตทีไร ผมคิดไปเองรึเปล่าว่าแทบไม่มีการโปรโมทเลย แบบต่อให้มีก็เรียกได้ว่าโปรโมทน้อยมาก ถ้าเทียบกับศิลปินปัจจุบัน นี่อาจเป็นสิ่งที่ยืนยันถึงความเป็นตำนานที่ยังมีลมหายใจของทั่งคู่ เหมือนกับว่ามีคนหลายคนรอฟังเพลงของพวกเขาอยู่ตลอด ขอแค่มีข่าวว่าจะจัดคอนเสิร์ต คนก็เต็มแล้ว และจากบรรยากาศที่เคยดูในบันทึกการแสดงสด น่าอิจฉาคนที่ได้ไปมากๆ ผมเองยังอยากไปดูสดซักครั้ง แค่นอนดูที่บ้านยังสนุกเลย ไปอยู่บรรยากาศจริงคงเหนื่อยหอบแน่ๆ และที่ผมได้ยินมาตลอดทุกๆคอนเสิร์ตของพวกเขา คือความเสียดายที่ไม่ได้ฟังเพลงนั้นเพลงนี้ เพลงที่คนชื่นชอบ เพลงที่คนคิดถึง แสดงให้เห็นว่าอัสนี วสันต์ มีเพลงให้เล่นเป็นร้อยเพลง และทุกคนก็อยากฟังทุกเพลงของเขา
ที่ผมชอบเกี่ยวกับพวกเขาอีกอย่างคือ สองพี่น้องคู่นี้ ภาพลักษณ์มีด้านเดียวคือเป็นศิลปิน เขาไม่ใช่ดารา ไม่ใช่เซเลบ นอกจากงานด้านเพลงแล้ว ผลงานอื่นแทบไม่มีเลยก็ว่าได้
กระทูนี้ ขอนับถือในความเป็นตำนานของอัสนี วสันต์ ครับ
พอมานั่งนึกดู ผมก็นึกขึ้นได้ว่า พี่น้องคู่นี้ มีคอนเสิร์ตทีไร ผมคิดไปเองรึเปล่าว่าแทบไม่มีการโปรโมทเลย แบบต่อให้มีก็เรียกได้ว่าโปรโมทน้อยมาก ถ้าเทียบกับศิลปินปัจจุบัน นี่อาจเป็นสิ่งที่ยืนยันถึงความเป็นตำนานที่ยังมีลมหายใจของทั่งคู่ เหมือนกับว่ามีคนหลายคนรอฟังเพลงของพวกเขาอยู่ตลอด ขอแค่มีข่าวว่าจะจัดคอนเสิร์ต คนก็เต็มแล้ว และจากบรรยากาศที่เคยดูในบันทึกการแสดงสด น่าอิจฉาคนที่ได้ไปมากๆ ผมเองยังอยากไปดูสดซักครั้ง แค่นอนดูที่บ้านยังสนุกเลย ไปอยู่บรรยากาศจริงคงเหนื่อยหอบแน่ๆ และที่ผมได้ยินมาตลอดทุกๆคอนเสิร์ตของพวกเขา คือความเสียดายที่ไม่ได้ฟังเพลงนั้นเพลงนี้ เพลงที่คนชื่นชอบ เพลงที่คนคิดถึง แสดงให้เห็นว่าอัสนี วสันต์ มีเพลงให้เล่นเป็นร้อยเพลง และทุกคนก็อยากฟังทุกเพลงของเขา
ที่ผมชอบเกี่ยวกับพวกเขาอีกอย่างคือ สองพี่น้องคู่นี้ ภาพลักษณ์มีด้านเดียวคือเป็นศิลปิน เขาไม่ใช่ดารา ไม่ใช่เซเลบ นอกจากงานด้านเพลงแล้ว ผลงานอื่นแทบไม่มีเลยก็ว่าได้