พอดี ได้รับ fwd มาจากในไลน์ครับ เลยอยากมาแชร์
"ตกเขียวฐานเสียง"ทีมผู้สมัครลงชิงตำตำแหน่งนายกสมาคมฟุตบอลฯ"ล็อบบี้จ่ายสโมสรภาคใต้รายละ 2 ล้าน หวังเทคะแนนนั่งนายกสมาคม ฯ "สมยศ"สวดยับ หากจริง สกปรก ไม่มีหัวใจเป็นนักกีฬา นำวงการฟุตบอลกลับไปเข้าวงจรอุบาทว์เหมือนในอดีต
เมื่อวันที่ 18 ม.ค. 2559 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ เมื่อเวลา 14.00น.วันที่ 15 มกราคม ที่ผ่านมา ได้มีคณะผู้สมัครกลุ่มที่สูญเสียผลประโยชน์กลุ่มหนึ่ง ซึ่งได้ลงสมัครลงชิงตำแหน่งนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ จำนวนประมาณ 10 คน ได้เดินทางไปที่"ร้านอาหารช่องเขา ซีฟู้ด"อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา โดยการเดินทางมาในครั้งนี้คณะดังกล่าวได้เชิญตัวแทนสโมสรสมาชิกโซนภาคใต้จำนวน 5 สโมสรจากจำนวนทั้หมด 10 สโมสรประกอบด้วย สโมสรพังงา สโมสรสุราษฏร์ธานี(ซึ่งขณะนี้ยังมีการโต้แย้งสิทธิ์กันอยู่) สโมสร ปัตตานี สโมสร ยะลา และสโมสร นราธิวาส ได้ร่วมประชุมและหารือแนวทางในการสนับสนุนผู้สมัครฯรายนี้ในการเลือกตั้งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯในวันที่ 11 ก.พ.2559 ที่จะถึงนี้
"แหล่งข่าว"รายหนึ่งที่เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้เปิดเผยว่าที่ประชุมได้ข้อยุติว่าทาง คณะดังกล่าวได้เสนอผลประโยชน์ตอบแทนให้แก่ สโมสรที่เข้าร่วมประชุมว่าหากสโมสรใดลงชื่อให้การสนับสนุนและมอบอำนาจให้เป็นตัวแทนไปลงคะแนนในการเลือกตั้ง ก็จะมอบเงินค่าตอบแทนให้สโมสรละ 1 ล้านบาทถ้าหากกลุ่มผู้สมัครรายนี้ชนะคะแนนเสียงทางกลุ่มนี้ยังเสนออีกว่าจะให้ค่าตอบแทนเป็นเงินเพิ่มอีกสโมสรละ 1 ล้านบาทรวมเป็น 2 ล้านบาท โดยให้ทุกสโมสรที่เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ลงนามไว้เป็นหลักฐาน แต่สโมสร นราธิวาส ไม่ยอมร่วมลงนามและได้ลุกออกจากห้องประชุมไป ซึ่งถือว่าเป็นการปฏิเสธที่จะร่วมสนับสนุนผู้สมัครกลุ่มที่สูญเสียผลประโยชน์รายนี้
"แหล่งข่าว" ที่ร่วมเข้าประชุมในครั้งนี้ยังกล่าวอีกว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าสโมสรในโซนภาคใต้ที่จะให้การสนับสนุนผู้สมัครกลุ่มที่สูญเสียผลประโยชน์ฯมีเพียงแค่ 4 สโมสรเท่านั้นและยังมีปัญหาอีกว่าสโมสรสุราษฏร์ธานี จะมีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงหรือไม่ และจากเหตุการณ์ดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าระหว่างการออกเดินสายหาเสียงและพบปะสโมสรต่างๆในภูมิภาคของผู้สมัครรายนี้และผู้สนับสนุน นอกจากจะมีการใช้อำนาจทางการเมืองของกลุ่มการเมืองในอดีตบีบบังคับสโมสรสมาชิกฯแล้วยังมีการเสนอผลประโยชน์ตอบแทนในรูปแบบต่างๆรวมทั้งการจ่ายเงินตอบแทน ซึ่งเป็นรูปแบบ ของการหาเสียงในอดีตที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่ายังคงเป็นรูปแบบเดิมในอดีต และท้ายที่สุดกลุ่มคนเหล่านี้ก็จะเข้ามาตักตวงและแสวงหาผลประโยชน์จากวงการฟุตอลต่อไป และตนคาดว่ากลุ่มนี้ก็จะตระเวณหาเสียงโดยใช้วิธีดังกล่าวกับสโมสรอื่นๆอีกแน่นอน
ด้าน พลตำรวจเอกสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผู้สมัครลงชิงตำแหน่งนายกสมาคมฯกล่าวว่า "ในกรณีดังกล่าว ก็เพิ่งจะทราบเหมือนกัน ถ้าหากข้อมูลนี้เป็นข้อเท็จจริง ผมมองว่าอันตราย และสกปรกมาก แต่ผมจะไม่ใช้วิธีแบบนี้แน่นอนมันไม่ใช่วิธีของลูกผู้ชาย มันไม่สง่างามมันต้องสู้กันแบบนักกีฬา
อ่านแล้วก็รู้สึกกลุ่มผู้สมัครบางกลุ่มก็ยังคงจะทำอะไรแบบเดิมเหมือนที่เคยทำ เราประชาชนคนธรรมดาไม่มีสิทธิ์ออกเสียงก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่ภาวนา
วงการฟุตบอลกำลังไปได้ดี อย่าวนกลับวงจรอุบาทว์แบบเดิมเลย _/\_ สาธุ
วงการฟุตบอลไทยกำลังจะดีขึ้น หรือ จะกลับสู่วังวนเดิม
"ตกเขียวฐานเสียง"ทีมผู้สมัครลงชิงตำตำแหน่งนายกสมาคมฟุตบอลฯ"ล็อบบี้จ่ายสโมสรภาคใต้รายละ 2 ล้าน หวังเทคะแนนนั่งนายกสมาคม ฯ "สมยศ"สวดยับ หากจริง สกปรก ไม่มีหัวใจเป็นนักกีฬา นำวงการฟุตบอลกลับไปเข้าวงจรอุบาทว์เหมือนในอดีต
เมื่อวันที่ 18 ม.ค. 2559 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ เมื่อเวลา 14.00น.วันที่ 15 มกราคม ที่ผ่านมา ได้มีคณะผู้สมัครกลุ่มที่สูญเสียผลประโยชน์กลุ่มหนึ่ง ซึ่งได้ลงสมัครลงชิงตำแหน่งนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ จำนวนประมาณ 10 คน ได้เดินทางไปที่"ร้านอาหารช่องเขา ซีฟู้ด"อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา โดยการเดินทางมาในครั้งนี้คณะดังกล่าวได้เชิญตัวแทนสโมสรสมาชิกโซนภาคใต้จำนวน 5 สโมสรจากจำนวนทั้หมด 10 สโมสรประกอบด้วย สโมสรพังงา สโมสรสุราษฏร์ธานี(ซึ่งขณะนี้ยังมีการโต้แย้งสิทธิ์กันอยู่) สโมสร ปัตตานี สโมสร ยะลา และสโมสร นราธิวาส ได้ร่วมประชุมและหารือแนวทางในการสนับสนุนผู้สมัครฯรายนี้ในการเลือกตั้งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯในวันที่ 11 ก.พ.2559 ที่จะถึงนี้
"แหล่งข่าว"รายหนึ่งที่เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้เปิดเผยว่าที่ประชุมได้ข้อยุติว่าทาง คณะดังกล่าวได้เสนอผลประโยชน์ตอบแทนให้แก่ สโมสรที่เข้าร่วมประชุมว่าหากสโมสรใดลงชื่อให้การสนับสนุนและมอบอำนาจให้เป็นตัวแทนไปลงคะแนนในการเลือกตั้ง ก็จะมอบเงินค่าตอบแทนให้สโมสรละ 1 ล้านบาทถ้าหากกลุ่มผู้สมัครรายนี้ชนะคะแนนเสียงทางกลุ่มนี้ยังเสนออีกว่าจะให้ค่าตอบแทนเป็นเงินเพิ่มอีกสโมสรละ 1 ล้านบาทรวมเป็น 2 ล้านบาท โดยให้ทุกสโมสรที่เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ลงนามไว้เป็นหลักฐาน แต่สโมสร นราธิวาส ไม่ยอมร่วมลงนามและได้ลุกออกจากห้องประชุมไป ซึ่งถือว่าเป็นการปฏิเสธที่จะร่วมสนับสนุนผู้สมัครกลุ่มที่สูญเสียผลประโยชน์รายนี้
"แหล่งข่าว" ที่ร่วมเข้าประชุมในครั้งนี้ยังกล่าวอีกว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าสโมสรในโซนภาคใต้ที่จะให้การสนับสนุนผู้สมัครกลุ่มที่สูญเสียผลประโยชน์ฯมีเพียงแค่ 4 สโมสรเท่านั้นและยังมีปัญหาอีกว่าสโมสรสุราษฏร์ธานี จะมีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงหรือไม่ และจากเหตุการณ์ดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าระหว่างการออกเดินสายหาเสียงและพบปะสโมสรต่างๆในภูมิภาคของผู้สมัครรายนี้และผู้สนับสนุน นอกจากจะมีการใช้อำนาจทางการเมืองของกลุ่มการเมืองในอดีตบีบบังคับสโมสรสมาชิกฯแล้วยังมีการเสนอผลประโยชน์ตอบแทนในรูปแบบต่างๆรวมทั้งการจ่ายเงินตอบแทน ซึ่งเป็นรูปแบบ ของการหาเสียงในอดีตที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่ายังคงเป็นรูปแบบเดิมในอดีต และท้ายที่สุดกลุ่มคนเหล่านี้ก็จะเข้ามาตักตวงและแสวงหาผลประโยชน์จากวงการฟุตอลต่อไป และตนคาดว่ากลุ่มนี้ก็จะตระเวณหาเสียงโดยใช้วิธีดังกล่าวกับสโมสรอื่นๆอีกแน่นอน
ด้าน พลตำรวจเอกสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผู้สมัครลงชิงตำแหน่งนายกสมาคมฯกล่าวว่า "ในกรณีดังกล่าว ก็เพิ่งจะทราบเหมือนกัน ถ้าหากข้อมูลนี้เป็นข้อเท็จจริง ผมมองว่าอันตราย และสกปรกมาก แต่ผมจะไม่ใช้วิธีแบบนี้แน่นอนมันไม่ใช่วิธีของลูกผู้ชาย มันไม่สง่างามมันต้องสู้กันแบบนักกีฬา
อ่านแล้วก็รู้สึกกลุ่มผู้สมัครบางกลุ่มก็ยังคงจะทำอะไรแบบเดิมเหมือนที่เคยทำ เราประชาชนคนธรรมดาไม่มีสิทธิ์ออกเสียงก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่ภาวนา
วงการฟุตบอลกำลังไปได้ดี อย่าวนกลับวงจรอุบาทว์แบบเดิมเลย _/\_ สาธุ