เพราะเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนจึงเจ็บปวด

กราบสวัสดีมิตรรักแฟนกระทู้ซู่ขู่ซู่คน(ทุกๆคน)เด้อค่ายิ้มยิ้ม

สำหรับวันนี้เราจะมารีวิวข้อเสียของการเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนคะ

เราเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนประเทศสหรัฐอเมริกา2015-2016 ตอนนี้อยู่ม.หก และถูกส่งตัวมายังภาคใต้ของอเมริกา

เราอยู่ที่อเมริกามาประมาณ4เดือนแล้วคะ เหตุผลที่อยากเขียนกระทู้นี้ขึ้นมาเพราะเราอยากเป็นเหตุผลให้คนๆนึ่งฮ่าๆๆไม่ใช่ละ แต่เป็นเพราะมีผู้ปกครองและรุ่นน้องถามกันเยอะว่ามาเรียนแลกเปลี่ยนดีมั้ย? หวังว่ากระทู้นี้จะช่วยในการตัดสินใจการเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนของใครหลายๆคนนะคะ


เยี่ยมสำหรับเรา ตั้งแต่มาวันแรกที่ตัดสินใจมาเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนจนถึงทุกวันนี้ ในความเห็นเราคือ เราไม่ชอบความเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน มันไม่ได้เป็นแบบที่เราคิดไว้และไม่ใช่lifestyleของเรา แต่ในข้อเสียมันก็มีนะข้อดีมีไม่แพ้ข้อเสียเลยด้วยซ้ำ แต่วันนี้เรามาเล่าแค่ข้อเสียที่เราไม่ชอบเพราะเห็นหลายๆกระทู้เกี่ยวกับนักเรียนแลกเปลี่ยนมีแต่ด้านสวยหรู่และดูสนุกสนาน เลยอยากลองเขียนกระทู้ด้านลบๆบ้าง ว่าเเล้วก็มาดูกันเลยดีกว่าเนอะว่าข้อเสียที่เราไม่ชอบในการเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนกันเลยคะเยี่ยม


1> ค่าโครงการแพงเกินกับการเรียนภาษาอังกฤษ เงิน300,000-500,000 เอาไปทำอย่างอื่นได้ตั้งหลายอย่าง เช่น ซื้อคลอสภาษาอังกฤษดีๆเรียนในประเทศไทยได้ตั้งหลายคลอสแถมบางทีเงินเหลือ อาจใช้ไปเที่ยวต่างประเทศที่ใกล้ประเทศไทยที่ใช้ภาษาอังกฤษ เช่น ประเทศสิงคโปร์ เพื่อจะได้หาประสบการณ์ฝึกใช้ภาษาอังกฤษที่เรียนมากก็ได้อีกอย่างไม่ต้องอยู่ห่างกับคนที่เรารักเป็นปีๆไม่จำเป็นเป็นต้องดรอปเรียนอีกด้วย ว่าด้วยเรื่องค่าของเงิน เงินจำนวนครึ่งล้านสำหรับบางคน สามารถนำไปซื้อรถ หรือซื้อบ้านได้เลย

2> ใช้เงินอย่างเดียวหารายได้ไม่ได้! ข้อนี้เรารู้สึกผิดมากๆเพราะอยู่ที่นี่ของแพงมาก ก็จริงที่อยู่ไทยเราก็ใช้เงินของพ่อแม่อย่างเดียวเหมือนกันแต่ยังไงก็ตามเราก็รู้สึกผิดเพราะเราใช้เงินเก่งชอบช้อปปิ้งแล้วเรารู้สึกว่าเหมือนเวลาซื้อของเหมือนมันเเพงกว่าที่ไทยหนึ่งเท่าแต่เราก็พยายามซื้อของในช่วงที่มันลดราคาตลอดนะ

3> เมื่อมาแลกเปลี่ยนแล้วจะถูกจำกัดอิสระ  อยากไปบ้านเพื่อน อยากไปเที่ยวต่างเมืองหรือไปเที่ยวกับเพื่อนต้องแจ้งทางโครงการอย่างน้อยหนึ่งสัปดาห์(สำหรับโครงการที่เคร่งครัดเรื่องกฎมากๆ)

4> อยากไปไหน อยากซื้ออะไร ต้องถามโฮสและรอโฮสว่างถึงจะได้ไป เช่น อยากไป the mall แล้วอยากช้อปปิ้งนานๆ ก็ต้องเกรงใจโฮสอีก บางทีเขาอาจไปเดินกับเราเพราะไม่อยากให้เราไปไหนมาไหนคนเดียวเพราะเป็นห่วง สำหรับข้อสองกับข้อสามถูกจะเป็นเรื่องของอิสระและเสรี

5> เลือกรัฐ เลือกเมือง ไม่ได้ อุสาห์เสียเงินมากมายมาไกลต่างบ้านต่างเมืองขนาดนี้ ถ้าได้อยู่รัฐที่ชอบ เมืองที่อยากไป เราคงมีความสุขกับที่ของเรา แล้วลองนึกภาพดูสิคะ สภาพที่เลือกรัฐเลือกเมืองไม่ได้ เกิดเราเป็นคนขี้หนาวหรือเกลียดหน้าหนาว แล้วได้ไปอยู่ภาคเหนือขึ้นมาต้องโครตไม่มีความสุขแน่ๆ สำหรับประสบการ์ณตรงของเรานะคะ เราอยู่ตอนใต้ของอเมริกา เรียกว่าใต้สุดเลยก็ว่าได้ สิ่งที่เราไม่ชอบคือคนส่วนมากจะพูดภาษาสเปนกัน แล้วเราไม่มีพื้นฐานภาษาสเปนเลย แล้วมันแอบเบื่อนะคะเวลาอยู่กับโฮสแฟมมิลี่แล้วครอบครัวเค้าคุยกันส่วนมากจะคุยภาษาสเปน ซึ่งเราตั้งใจมาเรียนภาษาอังกฤษ หลายครั้งที่อยู่ในกลุ่มคนสเปนเราก็หง่อย-ไปหลายทีเลยละคะ ซึ่งมองกลับกันหากคนที่เรียนศิลป์ภาษาสเปนมาอยู่แล้ว ถ้าเขามีโอกาสเลือกรัฐเลือกเมืองได้แล้วเค้าต้องการจะเรียนทั้งสองภาษาแล้วมาลงรัฐและเมืองที่ใช้สองภาษาอย่างที่เราอยู่ตอนนี้มันยิ่งจะเกิดประโยชน์สูงสุด ถ้าเราเลือกได้เราอยากไปแถวภาคกลางไม่ก็ภาคเหนือ เราอยากปั้นsnow man ฮ่าๆๆ แต่ตอนนี้อาบแดดไปก่อนเพราะตอนนี้ร้อนมั๊กๆ

6> สำหรับคนรักศักดิ์ศรียิ่งชีพ หากท่านทั้งหลายไม่ชอบการเหยีดเชื้อชาติ เหยียดสีผิด สีตา สีผม สีทาบ้าน ดินสอสี ฮ่าๆ ไม่ใช่ละ หรือ วัฒนธรรมของคุณๆฝรั่ง ที่เเสนจะขัดกับวัฒนธรรมไทยมากๆ เช่น คนจับหัว เล่นหัว การเอาตีนพาดบ่า พาดหัวคนที่อายุมากกว่า เป็นต้น ซึ่งลองนึกภาพดูนะคะ สำหรับคนซีเรียสเรื่องผู้น้อยผู้ใหญ่อาจอยู่ยากถึงขั้นไม่มีความสุขกับวัฒนธรรมฟรีสไตล์ของเขาเลยก็ว่าได้ จะว่าไปเเล้วเราก็มีเรื่องเล่า ประสบการณ์ตรงกับวัฒนธรรมของฝรั่ง จะเล่าให้ฟังคะ(อีกแล้ว555) เรื่องมีอยู่ว่า...ขณะอยู่บนรถ โฮสแม่เรานั่งเบาะหน้าที่คู่กับโฮสพ่อ แล้วโฮสน้องสาวเราก็นั่งอยู่เบาะหลังซึ่งตรงกับโฮสแม่ และเรานั่งเบาะหลังตรงกับโฮสพ่อ และนางก็เอาตีนของนางwith her scocks ยกขึ้นไปเเตะบ่าโฮสแม่ ตอนแรกเราก็ตกใจนะแต่ก็คิดว่าเป็นวัฒนธรรมเขาเลยเฉยๆ จากนั้นนางก็หัวเราะ แล้วก็ขยับฝาตีนมหาประไรของนางขึ้นไปบนหัวโฮสแม่แล้วขยี้หัวโฮสแม่ด้วยความเร็วปานกลางจนถึงเร็วพร้อมเสียหัวเราะทั้งแม่และลูกอย่างสนุกสนาน ไอ้เราที่นั่งดูนี่จากความรู้สึกทำใจมาถึงsuperช้อคเลยคะ เศร้า

7> การนั่งกินข้าวคนเดียวในโรงอาหารขนาดbigที่รอบข้างเต็มไปด้วยฝรั่งเต็มและสายตาที่จับจ้องเรา เชื่อว่างนักเรียนแลกเปลี่ยนทุกคนต้องมีวันนั้นเป็นของตัวเองนะเค๊อะ วันที่โดดเดียวดายในท้องเลอะนะคะ  สำหรับคนที่ไม่เคยอยู่คนนเดียว ไม่ชอบalone หรือเกลียดการอยู่คนเดียวต้องอ่านข้อนี้เลยคะ ร้องไห้

8>ต้องดรอปเรียนที่ประเทศไทย เรียนช้าไปหนึ่งปี และต้องเรียนซ้ำกับรุ่นน้อง กลับไปคงไม่ได้นั่งเรียนกับเพื่อนซี้เหมือนเดิมแล้ว อาจทำให้ความสุขในการเรียนของใครหลายๆคนดรอปลงในปีที่ต้องกลับมาเรียนซ้ำ (ข้อนี้เราแล้วแต่กฎของโรงเรียนนั้นๆนะคะ) เช่น ของโรงเรียนเราสามารถนำเกรดจากอเมริกามาเทียบได้หนึ่งเทอม ย้ำแค่หนึ่งเทอมและเทียบได้แค่เทอมที่หนึ่งเท่านั้น ซึ่งนั้นหมายความว่าอย่างไรก็ตามก็ต้องเรียนซ้ำเหมือนเดิม สำหรับน้องๆที่ไม่ได้คิดถึงข้อเสียข้อนี้ก็อย่าลืมไปคุยกับฝ่ายวิชาการชองโรงเรียนน้องๆด้วยนะคะว่ามีวิธีจัดการกับเรื่องนี้ยังไง

9>ต้องอดทนเเละรับนิสัยของคนในบ้านให้ได้ถึงแม้เค้าจะนิสัยเห็นแก่ตัว ขี้หวง ขี้งก และขี้...อะไรก็ว่ากันไป แล้วแต่ดวงและโชคดีโชคร้ายของแต่ละคนนะคะบางคนอาจโชคดีได้โฮสดี บางคนโชคร้ายได้โฮสไม่ดี เพราะอย่าลืมว่าเราเลือกไม่ได้!  สำหรับเรา เราอยู่ในประเภทโชคร้ายคะ แต่เราโชคดีหน่อยเพราะเรามีความคิดบวก(รึป่าวว)เกี่ยวมั้ยเนี่ย...แต่เราว่าเกี่ยวนะ ไม่ว่าจะอยู่กับคนที่เค้านิสัยต่างจากเราแล้วเรารับเค้าไม่ได้แบบสุดๆ มีช่วงนึ่งแย่มากร้องไห้ทุกวันเพราะเราเข้ากับโฮสไม่ได้แต่วันนึ่งเราพยายามทำใจยอมรับพยายามมองข้อดีของเขาเยอะๆพยายามคิดบวกมองบวก เดี๋ยวทุกอย่างก็ผ่านไป ไวเหมือนโกหก ฮ่าๆ

และแล้วก็เดินทางมาถึงตอนจบของกระทุ้ที่เป็นสาระแรกในชีวิตของเราแล้วนะคะ หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจการเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนของใครหลายๆคนนะคะ หัวใจ ฟังเสียงหัวใจตัวเองว่าเราต้องการอะไรกันแน่ ตัดสินใจดีๆ คิดให้รอบด้าน อย่าใช้อารมณ์ชั่ววูบตัดสินใจเพียงแค่คำว่าเป็นนักเรียนเเลกเปลี่ยนแล้วดูเก๋ดูเท่ห์ อิจฉาเพื่อนที่เพื่อนไปเรียนถึงต่างประเทศ การมาเรียนต่างประเทศไม่ใช่แค่การเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนยังมีอีกหลายๆรูปแบบเลือกในสิ่งที่เป็นตัวเองแล้วเรามีความสุขกับมัน(ลองศึกษาดู) หัดเป็นนักลงทุนที่ดีนะคะ ลงทุนกับการศึกษา ลงทุนไปเท่านี้เราจะได้กลับมาเท่าไหร่ สิ่งที่จะได้รับคุ้มมั้ยกับเงินที่ลงทุนไป ถ้าคิดดีแล้วก็ลุยโลดดดดดดด เต็มที่กับมัน สู้ๆเด้อ

ปล. หากผิดพลาดประการใด เช่น พิมผิด ใช้ภาษาไม่ถูก คำหยาบ การเข้าใจผิดในเรื่องต่างๆ ของขอประทานอภัยจากผู้อ่านทุกท่านนำเด้อค่า
ปล. หากเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ป้าๆ อาๆ ลุงๆ น้าๆ พ่อๆ แม่ๆ มีข้อเสนอเกี่ยวกับนักเรียนแลกเปลี่ยนสามารถเพิ่มเติมแก้ไขในคำพูดของ จขกท.ได้เด้อค่า
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่