เคยดู "อตีตา" เวอร์ชั่นแรกผ่าน ๆ เนื่องจากทราบว่าจะมีการนำมารีเมกใหม่ และได้อ่านนิยายเพื่อเตรียมตัวดูละครเรื่องนี้มาตลอด เฝ้านับวันคอยติดตามข่าว เสาะหาภาพเบื้องหลัง และลุ้นกับการเปลี่ยนแปลงหลายๆ อย่างที่เกิดขึ้นมาในเรื่องนี้ ได้ติดตามชม "ทีเซอร์ อตีตา" มาตั้งแต่ปีแรก, ปีที่ 2 และดีใจที่เรื่องนี้ได้ออกอากาศในต้นปีเปิดศักราชใหม่ "อตีตา" เวอร์ชั่นล่าสุดได้ ผู้กำกับฝีมือดีที่ได้รางวัลมากมายจากการกำกับภาพ และกำกับการแสดงอย่าง คุณวินัย ปฐมบูรณ์ ที่เคยได้เห็นผลงานผ่านสายตาทางภาพยนตร์มาแล้ว ทำให้ยิ่งอยากดูละครเรื่องนี้มากๆ และเมื่อได้ชมตอนแรกคืนนี้บอกได้เลย "สมการรอคอย" จริงๆ เลยค่ะ ทั้งภาพ, เสียง, นักแสดง และการเล่าเรื่อง เกินความคาดหมายจริงๆ ค่ะ
- การเล่าเรื่อง เรื่องนี้ต่างจากนิยายและเวอร์ชั่นเดิมที่เริ่มเรื่องตามแบบนิยายคือ เมืองใจ กับ ศิโรตม์ เจอกันตั้งแต่ฉากแรกและเล่าเรื่องย้อนกลับไปในอดีต ซึ่งการเล่าเรื่องแบบเดิมอาจต้องตัดไปตัดมาเพื่อย้อนอดีตทำให้เสียอรรถรสในการชมและเข้าใจยาก แต่ในเวอร์ชั่นนี้มีการเปิดเรื่องจาก "ค่ายบางระจัน" ทำให้เห็นถึงบรรยากาศ, ความนึกคิด และสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นที่บางระจัน และเป็นเหตุผลที่ทำให้ เมืองใจ ต้องไปหาปืนใหญ่ ถึงแม้ฉากในการเจอกันจะเปลี่ยนแปลงจากนิยาย แต่สุดท้ายก็ต้องไปเจอกันใน "วัดมเหยงค์" ที่เป็นจุดเชื่อมสองภพเข้าด้วยกัน ในส่วนภาพปัจจุบันมีเพิ่มปมความขัดแย้งด้านธุรกิจของศิโรตม์เข้ามาด้วย อันนี้ไม่รู้ว่าจะมีผลสำคัญอะไรต่อไปในเนื้อเรื่องหรือไม่ คงต้องติดตามชมต่อไป
- ภาพ, การจัดแสง, มุมมองภาพ ตื่นตาตื่นใจ หัวใจเต้นรัวตั้งแต่ฉากแรกที่เห็นการเดินทัพของพม่า และการสู้รบทั้งบนบกในน้ำของชาวบางระจัน การพรางตัว การแนะนำตัวละครในฉากรบแต่ละตัวน่าสนใจมาก ฉากรบสวยงาม ดูสมจริง ลีลาท่าทางในการรบของเมืองใจ, นายจันทร์หนวดเขี้ยว, นายทองเหม็น ดุดันสมจริงมาก และหลังจากรบเสร็จก็มีการปูเรื่องให้เห็นบรรยากาศค่ายไม้ไผ่บางระจัน และบรรยากาศภายในหมู่บ้านบางระจัน ดูเป็นชุมชนจริงๆ ที่จับต้องได้ และเห็นถึงบรรยากาศในค่าย การสูญเสียชีวิตจากการรบ, การดูแลคนป่วย, การฝึกวิชาต่างๆ เพื่อเตรียมการรบ ทั้งชกมวย, ยิงธนู, การวางแผนการรบ และสถานการณ์ในบางระจัน ในตอนแรกนี้ ประทับใจฉากรบ และฉากหมู่บ้านบางระจัน มากๆ เลยค่ะ
- เสียง, ซาวน์ประกอบ ลงตัวมากๆ เข้ากับทุกสถานการณ์ในเรื่อง ได้ฟังเพลงไทยๆ นึกถึงบรรยากาศโบราณ ทั้งเพลงประกอบตอนต่อยมวยไทย, เพลงค้างคาวกินกล้วย,ซาวน์ต่างๆ ก็ลงตัว และตอนที่ร้องเพลงกล่อมคนในค่าย รวมทั้งการยิงเพลงประกอบ "อตีตา" ได้อารมณ์มากๆ เลยค่ะ
- นักแสดง ทุกคนแสดงได้ดีเหมาะสมกับบทบาทในตอนแรก เมืองใจ นักรบผู้กล้าหาญ ซึ่งยอมอ่อนข้อให้ความรักที่ต้องเก็บงำในใจ ประทับใจกับฉากตอนจบที่เมืองใจต่อสู้กับข้าศึก และคิดว่าตัวเองตาย แต่ยังห่วงใย "บางระจัน" ว่าจะไม่มีคนช่วย, กาหลง ผู้อ่อนโยน ดูแลคนอื่นตลอดเวลา และแอบหลงรักเมืองใจ ในขณะที่อีกโลกนึงเป็นสาวเปรี้ยวมั่น, จันกะพ้อ จอมซนสดใสร่าเริง แต่มีเลือดรักชาติเต็มหัวใจ และ ศิโรตม์ คนรุ่นใหม่ที่ไม่เชื่ออะไรที่โบราณคร่ำครึ ทุกตัวละครเปิดตัวอย่างน่าสนใจชวนลุ้น
- เสื้อผ้า หน้าผม เรื่องนี้อาจจะไม่ต้องมีชุดอะไรมากมาย ในส่วนของบางระจัน ดูสวยงามสมจริงทั้งเสื้อผ้าหน้าผม ในส่วนของพาร์ทปัจจุบันก็สวยงามตามท้องเรื่องดีค่ะ
ความรู้สึกที่ได้ชมละครตอนแรกโดยรวมคือ ความประทับใจที่ได้เห็นภาพที่เกินคาดทั้งฉากค่าย, ฉากรบ, ฉากรัก และการเดินเรื่องที่น่าสนใจ เข้าใจง่าย ได้เล่าเรื่องภูมิหลังตัวละครจากบทสนทนาสั้น ๆ ของตัวละครในเรื่อง ทั้งเมืองใจ, นายทองเหม็น,กาหลง และซาวน์ประกอบต่างๆ ก็ลงตัวมาก ๆ รอชม "อตีตา" วันศุกร์หน้า อย่างใจจดใจจ่อค่ะ
"อตีตา" ตอนแรก เล่าเรื่องได้น่าสนใจ เข้าใจง่าย และได้บรรยากาศทั้งรบ ทั้งรัก
- การเล่าเรื่อง เรื่องนี้ต่างจากนิยายและเวอร์ชั่นเดิมที่เริ่มเรื่องตามแบบนิยายคือ เมืองใจ กับ ศิโรตม์ เจอกันตั้งแต่ฉากแรกและเล่าเรื่องย้อนกลับไปในอดีต ซึ่งการเล่าเรื่องแบบเดิมอาจต้องตัดไปตัดมาเพื่อย้อนอดีตทำให้เสียอรรถรสในการชมและเข้าใจยาก แต่ในเวอร์ชั่นนี้มีการเปิดเรื่องจาก "ค่ายบางระจัน" ทำให้เห็นถึงบรรยากาศ, ความนึกคิด และสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นที่บางระจัน และเป็นเหตุผลที่ทำให้ เมืองใจ ต้องไปหาปืนใหญ่ ถึงแม้ฉากในการเจอกันจะเปลี่ยนแปลงจากนิยาย แต่สุดท้ายก็ต้องไปเจอกันใน "วัดมเหยงค์" ที่เป็นจุดเชื่อมสองภพเข้าด้วยกัน ในส่วนภาพปัจจุบันมีเพิ่มปมความขัดแย้งด้านธุรกิจของศิโรตม์เข้ามาด้วย อันนี้ไม่รู้ว่าจะมีผลสำคัญอะไรต่อไปในเนื้อเรื่องหรือไม่ คงต้องติดตามชมต่อไป
- ภาพ, การจัดแสง, มุมมองภาพ ตื่นตาตื่นใจ หัวใจเต้นรัวตั้งแต่ฉากแรกที่เห็นการเดินทัพของพม่า และการสู้รบทั้งบนบกในน้ำของชาวบางระจัน การพรางตัว การแนะนำตัวละครในฉากรบแต่ละตัวน่าสนใจมาก ฉากรบสวยงาม ดูสมจริง ลีลาท่าทางในการรบของเมืองใจ, นายจันทร์หนวดเขี้ยว, นายทองเหม็น ดุดันสมจริงมาก และหลังจากรบเสร็จก็มีการปูเรื่องให้เห็นบรรยากาศค่ายไม้ไผ่บางระจัน และบรรยากาศภายในหมู่บ้านบางระจัน ดูเป็นชุมชนจริงๆ ที่จับต้องได้ และเห็นถึงบรรยากาศในค่าย การสูญเสียชีวิตจากการรบ, การดูแลคนป่วย, การฝึกวิชาต่างๆ เพื่อเตรียมการรบ ทั้งชกมวย, ยิงธนู, การวางแผนการรบ และสถานการณ์ในบางระจัน ในตอนแรกนี้ ประทับใจฉากรบ และฉากหมู่บ้านบางระจัน มากๆ เลยค่ะ
- เสียง, ซาวน์ประกอบ ลงตัวมากๆ เข้ากับทุกสถานการณ์ในเรื่อง ได้ฟังเพลงไทยๆ นึกถึงบรรยากาศโบราณ ทั้งเพลงประกอบตอนต่อยมวยไทย, เพลงค้างคาวกินกล้วย,ซาวน์ต่างๆ ก็ลงตัว และตอนที่ร้องเพลงกล่อมคนในค่าย รวมทั้งการยิงเพลงประกอบ "อตีตา" ได้อารมณ์มากๆ เลยค่ะ
- นักแสดง ทุกคนแสดงได้ดีเหมาะสมกับบทบาทในตอนแรก เมืองใจ นักรบผู้กล้าหาญ ซึ่งยอมอ่อนข้อให้ความรักที่ต้องเก็บงำในใจ ประทับใจกับฉากตอนจบที่เมืองใจต่อสู้กับข้าศึก และคิดว่าตัวเองตาย แต่ยังห่วงใย "บางระจัน" ว่าจะไม่มีคนช่วย, กาหลง ผู้อ่อนโยน ดูแลคนอื่นตลอดเวลา และแอบหลงรักเมืองใจ ในขณะที่อีกโลกนึงเป็นสาวเปรี้ยวมั่น, จันกะพ้อ จอมซนสดใสร่าเริง แต่มีเลือดรักชาติเต็มหัวใจ และ ศิโรตม์ คนรุ่นใหม่ที่ไม่เชื่ออะไรที่โบราณคร่ำครึ ทุกตัวละครเปิดตัวอย่างน่าสนใจชวนลุ้น
- เสื้อผ้า หน้าผม เรื่องนี้อาจจะไม่ต้องมีชุดอะไรมากมาย ในส่วนของบางระจัน ดูสวยงามสมจริงทั้งเสื้อผ้าหน้าผม ในส่วนของพาร์ทปัจจุบันก็สวยงามตามท้องเรื่องดีค่ะ
ความรู้สึกที่ได้ชมละครตอนแรกโดยรวมคือ ความประทับใจที่ได้เห็นภาพที่เกินคาดทั้งฉากค่าย, ฉากรบ, ฉากรัก และการเดินเรื่องที่น่าสนใจ เข้าใจง่าย ได้เล่าเรื่องภูมิหลังตัวละครจากบทสนทนาสั้น ๆ ของตัวละครในเรื่อง ทั้งเมืองใจ, นายทองเหม็น,กาหลง และซาวน์ประกอบต่างๆ ก็ลงตัวมาก ๆ รอชม "อตีตา" วันศุกร์หน้า อย่างใจจดใจจ่อค่ะ