สวยงามทุกองค์ประกอบจริงๆ เป็นละครที่ดูแล้วอิ่มเอมใจ เพราะซาบซึ้งถึงความละเมียดละไม ความตั้งใจ ความปราณีต พิถีพิถัน ทุกการดำเนินเรื่องของเรื่องนี้จริงๆ แค่ 2 ตอน ก็ตรึงคนดูอย่างเราอยู่จริงๆ บทละคร บทพูด นักแสดง ภาพ CG และซาวน์ประกอบต่างๆ ทำให้อินไปกับละครทั้งในฝั่งบางระจัน และฝั่งที่เป็นปัจจุบัน สะท้อนให้รู้สึกถึงบรรยากาศการต่อสู้ที่บางระจัน และคนปัจจุบันที่เริ่มลืมเลือนการเสียสละของวีรชนในอดีต วันนี้ค่อย ๆ อิ่มเอมและดื่มด่ำไปกับการดำเนินเรื่องที่ครบรส ทั้งตลก, ซึ้ง, เศร้า และอยากรู้เรื่องราวตอนต่อไป ขอกล่าวถึงแต่ละส่วนดังนี้
- บทละคร การเล่าเรื่องเข้าใจง่าย สนุก และครบทุกรสชาติ สมกับที่มีการแก้บทหลาย ๆ ครั้ง ชอบ "บทพูด" ต่างๆ ที่ในภาคอดีตช่างไพเราะเสนาะหูไปเสียหมด โดยภาษาพูดของเมืองใจและชาวบางระจันลื่นไหลและไพเราะมาก มีการสอดแทรกคำคม คำสอน และคำเตือนต่างๆ ผ่านบทพูดของตัวละคร ไม่ว่าจะเป็น สิ่งที่ "เมืองใจ" พูดกับ "ศิโรตม์" หรือ "พระอาจารย์" พูดกับ "กาหลง" มีการสอดแทรกความเชื่อต่างๆ ทางด้านการรบ เช่น การสักยันต์, การท่องตำราพิชัยสงคราม, คาถาแก้พิษ, การล่องหน หรือ พรางตัว โดยใช้ CG ประกอบที่เนียนมาก ๆ ทำให้ทึ่งกับวิชาต่างๆ ยิ่งไปอีก การเดินเรื่องทั้งทาง บางระจัน และ ยุคปัจจุบัน ล้วนน่าสนใจ และอยากรู้ความเป็นไปพร้อมกับตัวละคร
- นักแสดง เหมาะสมกับบทบาทมากทั้งรูปร่าง หน้าตาที่ออกแนวไทยๆ ดูแล้วเชื่อว่าเป็นคนยุคนั้นจริง การแต่งหน้าดูธรรมชาติ กริยาของผู้แสดงเป็นคนในยุค "บางระจัน" เข้มแข็ง เด็ดเดี่ยว จริงจัง หากแต่นุ่มนวล งดงาม ทั้งคำพูดและกริยา ส่วนยุคปัจจุบันก็น่าเชื่อถือทั้งบทพูดและสัมผัสได้
"อ๋อม" แสดงเป็น "เมืองใจ" ได้ดีมาก ๆ ทั้งน้ำเสียง กริยา สายตา การเดิน ลุกนั่ง กราบ สง่างามราวกับหลุดมาจากยุคโบราณ พูดภาษาโบราณได้ลื่นไหล ห่วงบ้านห่วงเมือง ถึงกับกินข้าวไม่ลง และเก็บเรื่องรักเป็นเรื่องรอง รอให้จบศึกจึงคิดถึงเรื่องรัก ทุกกริยาของอ๋อมดูแล้วเชื่อว่าหลุดมาจากยุคนั้นจริงๆ
"ปุ๊กลุ๊ก" แสดงได้ดีทั้งสองยุค ตอนเป็น "กาหลง" ดูอ่อนโยน น่าสงสาร และเมื่อเป็น "ลติกา" ก็เป็นสาวมั่นที่เหมือนรอคอยอะไรบางอย่างอยู่ และผูกพันกับใครบางคนในอดีต ปุ๊กลุ๊กทำให้เชื่อว่า กาหลง กับ ลติกา เป็นคนละคนกัน
"ไมค์" เป็น "ศิโรตม์" ที่เป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่ที่ชัดเจน ไม่เชื่ออะไรง่ายๆ ถ้ายังไม่มีการพิสูจน์ แต่ก็รู้สึกถูกชะตากับเมืองใจ เป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่ได้ดี จับต้องพบเห็นได้รอบตัว
"นาว" เป็น "จันกะพ้อ" ได้น่ารักสนใส มีชีวิตชีวา และ มีอุดมการมุ่งมั่นที่แม้เป็นหญิงก็อยากช่วยชาติด้วย ฉลาด น่ารัก และกล้าหาญ นาวแสดงได้น่ารัก และมีเสน่ห์
- ดนตรีประกอบ และ ซาวน์ต่างๆ ช่างเหมาะสมลงตัวไปเสียทุกฉาก จนต้องแอบนึกชมอยู่ในใจว่าช่างโดนจริงๆ เลย ทั้งบทพูดและซาวน์ต่างๆ ช่างเสนาะหูจริงๆ ทำให้อินกับละคร และเริ่มร้องเพลง "อตีตา" ได้แล้ว อิอิ
- CG และการตัดต่อ เนียนมาก ๆ การตัดต่อเลื่อนไหล สนุก ทำให้อยากดูต่อ ในส่วนของ CG ก็เนียน และทำให้เซอร์ไพร้ส์ทางสายตา และภาพไปอีก นอกจากภาพการถ่ายทำที่สวยงามแล้ว ฉากที่พระอาจารย์ธรรมโชติเสกคาถาให้จันกะพ้อดู, ฉากบาตรน้ำมนต์, ฉากเมืองใจ เสกคาถาแก้พิษที่โดนน้ำร้อนลวก และ ฉากเมืองใจพรางตัว ล่องหน เป็นเซอร์ไพร้ส์ที่ไม่ได้คาดว่าจะได้เห็น แต่พอได้ดูแล้วทำให้ประทับใจ อยากรู้ว่าจะมี CG อะไรเด้ด ๆ อีกหรือเปล่า
"อตีตา" เป็นละครที่อยากให้คนไทยทุกคนได้ดู นอกจากได้ข้อคิดเรื่องความรักชาติ ความสามัคคี การเสียสละของบรรพบุรุษแล้ว ยังได้ภาคภูมิใจกับผลงานของคนไทย ที่งามทั้งภาพที่ได้ชม ไพเราะเสนาะหูทั้งบทพูดภาษาโบราณเพราะ ๆ และดนตรีประกอบโดนๆ และซาบซึ้งใจไปกับเนื้อเรื่องและนักแสดงในเรื่องนี้ ที่ได้ทั้งความอิ่มเอมใจ, ซาบซึ้ง ไปกับเนื้อเรื่องที่เล่าได้อย่างน่าสนใจและสนุก อีกทั้งได้ภาคภูมิใจกับผลงานของคนไทยที่สร้างผลงานได้งดงามและตราตรึงใจ ที่เห็นถึงความตั้งใจ ปราณีต และกลมกล่อม อยากให้คนไทยทุกคนได้ชมเรื่องนี้จริงๆ ค่ะ
งดงามด้วยภาพ เสนาะหู ซาบซึ้งใจ - อตีตา
- บทละคร การเล่าเรื่องเข้าใจง่าย สนุก และครบทุกรสชาติ สมกับที่มีการแก้บทหลาย ๆ ครั้ง ชอบ "บทพูด" ต่างๆ ที่ในภาคอดีตช่างไพเราะเสนาะหูไปเสียหมด โดยภาษาพูดของเมืองใจและชาวบางระจันลื่นไหลและไพเราะมาก มีการสอดแทรกคำคม คำสอน และคำเตือนต่างๆ ผ่านบทพูดของตัวละคร ไม่ว่าจะเป็น สิ่งที่ "เมืองใจ" พูดกับ "ศิโรตม์" หรือ "พระอาจารย์" พูดกับ "กาหลง" มีการสอดแทรกความเชื่อต่างๆ ทางด้านการรบ เช่น การสักยันต์, การท่องตำราพิชัยสงคราม, คาถาแก้พิษ, การล่องหน หรือ พรางตัว โดยใช้ CG ประกอบที่เนียนมาก ๆ ทำให้ทึ่งกับวิชาต่างๆ ยิ่งไปอีก การเดินเรื่องทั้งทาง บางระจัน และ ยุคปัจจุบัน ล้วนน่าสนใจ และอยากรู้ความเป็นไปพร้อมกับตัวละคร
- นักแสดง เหมาะสมกับบทบาทมากทั้งรูปร่าง หน้าตาที่ออกแนวไทยๆ ดูแล้วเชื่อว่าเป็นคนยุคนั้นจริง การแต่งหน้าดูธรรมชาติ กริยาของผู้แสดงเป็นคนในยุค "บางระจัน" เข้มแข็ง เด็ดเดี่ยว จริงจัง หากแต่นุ่มนวล งดงาม ทั้งคำพูดและกริยา ส่วนยุคปัจจุบันก็น่าเชื่อถือทั้งบทพูดและสัมผัสได้
"อ๋อม" แสดงเป็น "เมืองใจ" ได้ดีมาก ๆ ทั้งน้ำเสียง กริยา สายตา การเดิน ลุกนั่ง กราบ สง่างามราวกับหลุดมาจากยุคโบราณ พูดภาษาโบราณได้ลื่นไหล ห่วงบ้านห่วงเมือง ถึงกับกินข้าวไม่ลง และเก็บเรื่องรักเป็นเรื่องรอง รอให้จบศึกจึงคิดถึงเรื่องรัก ทุกกริยาของอ๋อมดูแล้วเชื่อว่าหลุดมาจากยุคนั้นจริงๆ
"ปุ๊กลุ๊ก" แสดงได้ดีทั้งสองยุค ตอนเป็น "กาหลง" ดูอ่อนโยน น่าสงสาร และเมื่อเป็น "ลติกา" ก็เป็นสาวมั่นที่เหมือนรอคอยอะไรบางอย่างอยู่ และผูกพันกับใครบางคนในอดีต ปุ๊กลุ๊กทำให้เชื่อว่า กาหลง กับ ลติกา เป็นคนละคนกัน
"ไมค์" เป็น "ศิโรตม์" ที่เป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่ที่ชัดเจน ไม่เชื่ออะไรง่ายๆ ถ้ายังไม่มีการพิสูจน์ แต่ก็รู้สึกถูกชะตากับเมืองใจ เป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่ได้ดี จับต้องพบเห็นได้รอบตัว
"นาว" เป็น "จันกะพ้อ" ได้น่ารักสนใส มีชีวิตชีวา และ มีอุดมการมุ่งมั่นที่แม้เป็นหญิงก็อยากช่วยชาติด้วย ฉลาด น่ารัก และกล้าหาญ นาวแสดงได้น่ารัก และมีเสน่ห์
- ดนตรีประกอบ และ ซาวน์ต่างๆ ช่างเหมาะสมลงตัวไปเสียทุกฉาก จนต้องแอบนึกชมอยู่ในใจว่าช่างโดนจริงๆ เลย ทั้งบทพูดและซาวน์ต่างๆ ช่างเสนาะหูจริงๆ ทำให้อินกับละคร และเริ่มร้องเพลง "อตีตา" ได้แล้ว อิอิ
- CG และการตัดต่อ เนียนมาก ๆ การตัดต่อเลื่อนไหล สนุก ทำให้อยากดูต่อ ในส่วนของ CG ก็เนียน และทำให้เซอร์ไพร้ส์ทางสายตา และภาพไปอีก นอกจากภาพการถ่ายทำที่สวยงามแล้ว ฉากที่พระอาจารย์ธรรมโชติเสกคาถาให้จันกะพ้อดู, ฉากบาตรน้ำมนต์, ฉากเมืองใจ เสกคาถาแก้พิษที่โดนน้ำร้อนลวก และ ฉากเมืองใจพรางตัว ล่องหน เป็นเซอร์ไพร้ส์ที่ไม่ได้คาดว่าจะได้เห็น แต่พอได้ดูแล้วทำให้ประทับใจ อยากรู้ว่าจะมี CG อะไรเด้ด ๆ อีกหรือเปล่า
"อตีตา" เป็นละครที่อยากให้คนไทยทุกคนได้ดู นอกจากได้ข้อคิดเรื่องความรักชาติ ความสามัคคี การเสียสละของบรรพบุรุษแล้ว ยังได้ภาคภูมิใจกับผลงานของคนไทย ที่งามทั้งภาพที่ได้ชม ไพเราะเสนาะหูทั้งบทพูดภาษาโบราณเพราะ ๆ และดนตรีประกอบโดนๆ และซาบซึ้งใจไปกับเนื้อเรื่องและนักแสดงในเรื่องนี้ ที่ได้ทั้งความอิ่มเอมใจ, ซาบซึ้ง ไปกับเนื้อเรื่องที่เล่าได้อย่างน่าสนใจและสนุก อีกทั้งได้ภาคภูมิใจกับผลงานของคนไทยที่สร้างผลงานได้งดงามและตราตรึงใจ ที่เห็นถึงความตั้งใจ ปราณีต และกลมกล่อม อยากให้คนไทยทุกคนได้ชมเรื่องนี้จริงๆ ค่ะ