สี่ทุ่ม…
....
แสงไฟจากโทรศัพท์กระพริบเตือน
ฉันทิ้งหนังสือในมือทันใด..เพื่อคว้ามันขึ้นมา
นิ้วลากช้าๆดูที่หน้าจอแสดงผล ...
ก่อนจะโยนทิ้งอย่างอ่อนแรง
ซุกใบหน้ากับหมอน...
คำถามเดิมๆ วนเข้ามาในความคิด
ณ เวลานี้..เธอรู้สึกขาดอะไรไปบ้างไหม…
“มาแล้วค่ะ ขอโทษที่ช้า งานเพิ่งเสร็จ” “ นอนหรือยัง” “ฝันดีนะคะ” ...
ประโยคสั้นๆ เดิมๆ เหล่านี้ ทำให้ฉันเข้านอนพร้อมกับรอยยิ้มได้ทุกคืน
บางครั้งฉันขอเธอว่า คืนนี้ไม่ต้องบอกฝันดีกันนะ..
เพราะฉันไม่อยากรู้สึกเหมือนถูกบอกลา แม้เพียงแค่ชั่วคราว
เพราะฉันไม่รู้ว่า วันใหม่ที่ตื่นขึ้นมา..เราจะยังมีกันอยู่ไหม
ฉันรู้ดีว่า ระยะเวลาของเรามันสั้นนัก..ไม่ช้าก็เร็ว เราต้องได้กล่าวลากันจริงๆ
ฉันอยากมีความรู้สึกว่า ได้เข้านอนโดยที่ยังมีเธออยู่ข้างๆ ไม่ได้ร่ำลากันไปไหน
แค่เพียงฉันเรียกไป...เธอจะมา...ไฟเขียวที่วาบขึ้นในทุกครั้ง...
คล้ายเป็นเครื่องยืนยันว่า “เค้ายังอยู่ตรงนี้นะ” ..ทำให้ฉันหลับต่ออย่างไร้กังวล
และบางครั้ง ฉันบอกเธอว่า คืนนี้มาหาฉันในฝันหน่อยได้ไหม ฉันอยากเจอเธอ แม้แค่ในความฝันก็ตาม..
เธอหัวเราะ แล้วบอกว่า เออ จะพยายามละกัน ถ้าได้นอนนะ ^^
บางครั้งฉันอยากจะแสร้งทำเป็นมือพลาดไปโดนสารพัดสิ่งบนหน้าจอ
เพียงเพื่อให้อะไรก็ได้เหล่านั้นมันเด้งไปหาเธอ แล้วบอกว่า..ขอโทษ ไม่ตั้งใจ..
แค่นี้ฉันก็คงจะแอบอมยิ้มได้ และความรู้สึกหนักอึ้งทั้งหลายก็คงบางเบา
แต่ฉันรู้ว่า ครั้งนี้มัน “จริง” เกินกว่าจะมาเล่นตลกฝืดๆแบบนี้
กำแพงที่มองไม่เห็นกำลังก่อตัวสูงขึ้นทุกที แปรผันตรงตามระยะเวลาที่ห่างหาย
ฉันรู้..อีกฟากของกำแพง...ยังคงมีเธออยู่ตรงนั้น
เธอก็รู้เช่นกัน..ว่า..ฉันยังคงอยู่ตรงนี้..
แต่...
ทุกเหตุผลที่เหมาะสมล้วนบอกฉันและเธอว่า ปล่อยให้สิ่งนี้กั้นเราให้อยู่โลกคนละใบจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด
ฉันเข้าใจดี และจะไม่ร้องขอ
แต่ในบางคืนที่เงียบงันและยาวนาน
ฉันแค่อยากรู้ว่า…
ในช่วงเวลาเดิมๆ ของคืนวัน
เราเคยได้แตะมือกันผ่านกำแพงล่องหนแล้วรู้สึกตรงกันว่า ..อยากกลับมาเป็นเหมือนเดิมบ้างไหม ..
"เธอ...รู้สึก..ขาดอะไรไหม.."
"เธอรู้สึกขาดอะไรไหม..."
....
แสงไฟจากโทรศัพท์กระพริบเตือน
ฉันทิ้งหนังสือในมือทันใด..เพื่อคว้ามันขึ้นมา
นิ้วลากช้าๆดูที่หน้าจอแสดงผล ...
ก่อนจะโยนทิ้งอย่างอ่อนแรง
ซุกใบหน้ากับหมอน...
คำถามเดิมๆ วนเข้ามาในความคิด
ณ เวลานี้..เธอรู้สึกขาดอะไรไปบ้างไหม…
“มาแล้วค่ะ ขอโทษที่ช้า งานเพิ่งเสร็จ” “ นอนหรือยัง” “ฝันดีนะคะ” ...
ประโยคสั้นๆ เดิมๆ เหล่านี้ ทำให้ฉันเข้านอนพร้อมกับรอยยิ้มได้ทุกคืน
บางครั้งฉันขอเธอว่า คืนนี้ไม่ต้องบอกฝันดีกันนะ..
เพราะฉันไม่อยากรู้สึกเหมือนถูกบอกลา แม้เพียงแค่ชั่วคราว
เพราะฉันไม่รู้ว่า วันใหม่ที่ตื่นขึ้นมา..เราจะยังมีกันอยู่ไหม
ฉันรู้ดีว่า ระยะเวลาของเรามันสั้นนัก..ไม่ช้าก็เร็ว เราต้องได้กล่าวลากันจริงๆ
ฉันอยากมีความรู้สึกว่า ได้เข้านอนโดยที่ยังมีเธออยู่ข้างๆ ไม่ได้ร่ำลากันไปไหน
แค่เพียงฉันเรียกไป...เธอจะมา...ไฟเขียวที่วาบขึ้นในทุกครั้ง...
คล้ายเป็นเครื่องยืนยันว่า “เค้ายังอยู่ตรงนี้นะ” ..ทำให้ฉันหลับต่ออย่างไร้กังวล
และบางครั้ง ฉันบอกเธอว่า คืนนี้มาหาฉันในฝันหน่อยได้ไหม ฉันอยากเจอเธอ แม้แค่ในความฝันก็ตาม..
เธอหัวเราะ แล้วบอกว่า เออ จะพยายามละกัน ถ้าได้นอนนะ ^^
บางครั้งฉันอยากจะแสร้งทำเป็นมือพลาดไปโดนสารพัดสิ่งบนหน้าจอ
เพียงเพื่อให้อะไรก็ได้เหล่านั้นมันเด้งไปหาเธอ แล้วบอกว่า..ขอโทษ ไม่ตั้งใจ..
แค่นี้ฉันก็คงจะแอบอมยิ้มได้ และความรู้สึกหนักอึ้งทั้งหลายก็คงบางเบา
แต่ฉันรู้ว่า ครั้งนี้มัน “จริง” เกินกว่าจะมาเล่นตลกฝืดๆแบบนี้
กำแพงที่มองไม่เห็นกำลังก่อตัวสูงขึ้นทุกที แปรผันตรงตามระยะเวลาที่ห่างหาย
ฉันรู้..อีกฟากของกำแพง...ยังคงมีเธออยู่ตรงนั้น
เธอก็รู้เช่นกัน..ว่า..ฉันยังคงอยู่ตรงนี้..
แต่...
ทุกเหตุผลที่เหมาะสมล้วนบอกฉันและเธอว่า ปล่อยให้สิ่งนี้กั้นเราให้อยู่โลกคนละใบจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด
ฉันเข้าใจดี และจะไม่ร้องขอ
แต่ในบางคืนที่เงียบงันและยาวนาน
ฉันแค่อยากรู้ว่า…
ในช่วงเวลาเดิมๆ ของคืนวัน
เราเคยได้แตะมือกันผ่านกำแพงล่องหนแล้วรู้สึกตรงกันว่า ..อยากกลับมาเป็นเหมือนเดิมบ้างไหม ..
"เธอ...รู้สึก..ขาดอะไรไหม.."