สวัสดีครับ นี่เป็นกระทู้แรกของผมที่เคยเขียนเลยครับ หวังว่าจะเป็นแนวทางกับคนที่อยากลองไปแบ็คแพ็คคนเดียวนะครับ แล้วนี่ก็เป็นครั้งแรกของการแบกเป้ ขึ้นเหนือคนเดียวของผมด้วยนะครับ

เนื่องจากเคยคุยกับผู้หญิงคนหนึ่งไว้ว่า เราจะไปเที่ยวด้วยกัน ผมจึงเก็บเงินไว้ แต่เรื่องราวมันดันจบซะก่อน แล้วเธอชอบที่เหนือมาก ผมเลยอยากจะเดินตามรอย ว่าทำไมเธอถึงรักที่นั่นครับ เงินส่วนนี้แม้เราจะไม่ได้ไปด้วยกัน แต่เนื่องจากผมเก็บไว้เที่ยวกับเธอ ผมก็ต้องใช้เงินส่วนนี้ไปเที่ยวตามที่ตั้งใจไว้ครับ แม้ว่าจะไปคนเดียวก็เถอะ

ผมนั่งรถไฟจากโคราชไป หัวลำโพงที่ กรุงเทพ ถึงประมาณ ทุ่มกว่าๆ ผมขออนุญาติ เริ่มต้นที่ กรุงเทพนะครับ

โดยสารเป็นรถไฟชั้น 3 ราคา 200.- เรียกได้ว่าเมื่อยตูดกันเลยทีเดียว แต่ก็ประหยัดดีครับ เวลาเดินทางก็ 20.10 เป๊ะครับ เริ่มออกเลย

ระหว่างนั่งรถไฟไปตอนกลางคืน คนเดียว + ลม อาการเหงาเริ่มทำร้ายผม เริ่มคิดถึงเขา จนแอบไปร้องให้แถวทางขึ้นรถหว่างขบวน แหม่ทำไงได้ มันเหงาและคิดถึงมากนี่นา

เราไม่มีรถไฟไปถึงน่าน ครับ เราจึงต้องลงที่ สถานีรถไฟ เด่นชัย จังหวัด แพร่ แล้วต้องต่อรถตู้ไปอีก

มาถึง เด่นชัย ตอนประมาณ หกโมงเช้า ครับ รถไฟ เลทไป หน่อย

เมื่อลงจากรถไฟแล้วจะมีรถตู้ พาเข้า บขส.แพร่ - น่าน เลยครับ ผมไปลงน่าน เพราะมีป้าที่นั่งมาด้วย เขาก็เป็นคนที่ น่าน เหมือนกัน ป้าเขาเลยพาไปด้วย และแนะนำการเดินทางต่างๆ ด้วยครับ จาก สถานีรถไฟ เด่นชัย จ.แพร่ ไป น่านก็ 100 บาทครับ

นั่งรถ จาก เด่นชัยมาถึง น่านก็ ประมาณ 2 ชั่วโมง กว่าๆ ครับ ตอนนั้นก็ ประมาณ เกือบๆ 9โมงเช้า หมอกยังหนาอยู่เลย

เมื่อลง จาก บขส. น่าน ผมก็เดินไปอย่างไร้จุดหมาย กะว่าจะไป หาแลนด์มาร์ค แล้วค่อยหาโรงแรมอีกที แต่ขณะเดินอยู่นั้น มีลุงคนนึงขับ มอไซค์ผ่านมา แล้วเรียกผม แกบอกแกจะไปส่ง ผมเลยถามหาที่พักกับลุงแกซะเลย

ได้เรื่องว่า แกก็ทำรีสอร์ทอยู่ที่น่านนี่ล่ะครับ ผมจึงติดต่อขอพัก ซึ่งแกบอกถูกที่สุดมี ห้องล่ะ 500 (คิดในใจถือว่าแพง สำหรับการเไปคนเดียว แต่ก็เกรงใจ แกอุตส่าห์รับเรามา + เหนื่อยเนื่องจากไม่ได้นอนบนรถไฟซักเท่าไร) ก็ตัดสินใจขอสบายๆคืนนึงล่ะกัน เลยตกลงว่าจะไปค้างที่รีสอร์ทลุง

แล้วก็มาถึงครับ อยู่ในตัวเมืองใกล้สถานที่ท่องเที่ยวในตัวเมืองเลย ชื่อรีสอร์ทว่า "เฮือนริ่มน่าน" ซึ่งอยู่ติดกับแม่น้ำน่านเลยครับ ตอนเช้านี่หมอกจัดเลย
ส่วนบรรยากาศก็ดีมากครับ ร่มรื่น มีขนมผลไม้กาแฟ น้ำอัดลมให้ รับประทานที่ชั้น 1 เลยครับ แล้วยังมี แผนที่เมืองน่าน กับจักรยานให้ยืมฟรีอีกตั้งหาก

หลังจากวางสัมภาระ เข้าที่พักเรียบร้อยก็ ลุยเลยครับ ปั่นจักรยาน เที่ยวรอบตัวเมือง

ซึ่งในตัวเมืองน่าน หลักๆจะมีแต่วัดครับ

พอดูแผนที่ จะมีวันพระธาตุเขาน้อยซึ่งอยู่ไกลจากตัวเมืองที่สุด ผมจึงไปเริ่ม ที่นั่นครับ

ปั่นขึ้นเขานี่ไม่ใช่ง่ายๆเลยนะครับ ผมนี่หอบเลยครับ เพราะเป็นจักรยานแบบไม่มีเกียร์ แบบรถป้าไปตลาดไรงี้

ปั่นมาซักพักก็จะเจอ กับบรรได สำหรับคนชอบเดินครับ ใครปั่นจักรยานมาผมแน่นำให้จอดจักรยานไว้ตรงนี้แล้วเดินขึ้น จะสบายกว่าครับ

แต่ผมไม่เดินครับ คืออยากปล่อยจักรยานตอนขาลงให้ลงเขา น่าจะสนุก เลยดันทุรัง ปั่น และเข็นไปทางรถยนต์ซึ่งชันมากครับ

ในที่สุด ราวๆ 25 นาที ผมก็ขึ้นมาถึงครับ แหม่เหนื่อย สุดๆ แต่ก็เจอกับจุดชมวิวที่ชื่นใจ เป็นจุดชมวิวแรก ของทริปนี้เลยครับ มองลงไปเห็นตัวเมือง น่าน กันเลยทีเดียว

วัดประธาตุเขาน้อย

หลังจากชมวิว , พักเหนื่อยเสร็จแล้วก็ลงครับ ขาลงนี่สนุกมากครับ ปล่อยจักรยานไหลลงเขา

ส่วนวัดถัดไปที่แวะไปคือวัด พระญาวัด ซึ่งเป็นทางผ่านเพื่อที่จะเข้าไปชมวัดต่างๆในตัวเมืองน่านด้วย

ปั่นมาต่อด้วย วัดศรีพันต้นครับ

ต่อเนื่องด้วย ศาลพระหลักเมือง อยู่ห่างกันไม่มากครับ ช่วงนี้เข้าในตัวเมืองแล้ว

ต่อไปจะเป็น แลนด์มาร์ค ของน่านเลยครับ คือวัด ภูมินทร์ แต่ก่อนที่จะถึงวัดภูมินทร์ ติดกับวัด มีเป็นศูนย์ OTOP ของน่าน ผมเลยแวะหาไรกินซักหน่อย เพราะตอนนั้นก็เที่ยวแล้ว ตั้งแต่เช้ายังไม่ได้กินอะไรเลย

มาเหนือก็ต้องโดนข้าวซอยของที่นี่หน่อยครับ อร่อยมากๆเลย 30 บาท

หลังจากอิ่มแล้วก็ ต่อด้วย แลนด์มาร์คของที่นี่ครับ วัดภูมินทร์

แล้วก็เข้าไปข้างในโบสถ์ ตรงกลางครับ ซึ่งมีจิตกรรมฝาผนังโบราณไว้ด้วย

แล้วก็ขาดไม่ได้กับภาพนี้ครับ กระซิบรักบรรลือโลก ผมเห็นแล้วนี่เกือบร้องให้ครับ คิดถึงเขา เขาเป็นคนทำให้ผมรู้จักกับภาพนี้ น่าเสียดาย อันที่จริงเราน่าจะมายืนดูภาพนี้ด้วยกันเนอะ

หลังจากชมวัดเรียบร้อยก็ ปั่นต่อครับผม แต่ก็พบกับสิ่งที่ไม่คาดคิด

หลักจากนั้นผมก็กลับที่พักเพื่อไปนอนครับ ซึ่งเหนื่อยมาก กลับไปถึงประมาณ บ่าย 3 กว่าๆครับ แล้วก็นอนเลย

ตื่นมาอีกที ห้าโมงเย็นครับ ก็อาบน้ำ เตรียมตัวออกไปหาไรกิน กับชมเมืองน่านในตอนกลางคืน

พอค่ำๆน่านจะเงียบมากครับ ราวๆ 3 ทุ่มนี่คือ เงียบปิดบ้านนอนรถไม่มีวิ่งกันแล้ว

ริมแม่น้ำน่านแถวที่พัก

หลังจากนั้น ก็มาหาไรกินครับ เนื่องจากเหงามาทั้งวัน เลยไปหาร้านนมนั่งครับ กะจะได้เจอผู้คนเยอะๆ เจอวัยรุ่นไรงี้ ก็ไปได้ที่ร้าน I-KAY ไอ้เข้ นั่นแหละครับ

ที่ร้านยังมีของฝากแนวๆ อีกด้วยครับ

หลังจากนั้นก็กลับที่พักครับ เตรียมตัวไป ดอยเสมอดาว ในวันพรุ่งนี้ต่อครับ