สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 15
ผมตกข่าว ไปหรือเปล่า?
เมืองปัตตานี นี่ยังเป็นเมืองที่ยังอยู่ในราชอาณาจักรไทยหรือเปล่า?
หรือว่าปัตตานีกลายเป็นรัฐอิสระไปแล้วตั้งแต่เมื่อไหร่?
หรือว่าปัตตานีกลายเป็นเมือง ๆ หนึ่งของรัฐอิสลามซาอุดิอารเบียไปแล้ว?
ซาอุดิอารเบีย ห้ามไม่ให้ศาสนาอื่น สร้างศาสนาสถานในประเทศของตัวเอง คนที่ออกจากอิสลามต้องถูกประหารชีวิตตามกฎหมายชาริอะห์ แต่ซาอุดิอารเบีย สนับสนุนทั้งเงินทุน และลัทธิวาฮะบีย์ ให้เผยแพร่ไปทุกมุมโลกโดยสะดวก ประเทศไหน ชุมชนมไหน ขัดขวางการเผยแพร่อิสลาม ก็มีความชอบธรรมให้มุสลิมประกาศทำสงครามศาสนา หรือญิฮัดได้ ตามคำสอนในคัมภีร์อัลกรุอ่าน
ถ้า ปัตตานี ยังอยู่ในราชอาณาจักรไทย ประเทศไทยให้สิทธิเสรีภาพในการนับถือศาสนาแก่คนทุกศาสนา ไม่ใช่ประเทศที่เห็นแก่ตัวเอาแต่ได้ เหมือนประเทศที่เป็นต้นกำเหนิดอิสลาม อย่างซาอุดิอารเบีย ไทยไม่ได้ปฎิบัติต่อคนกลุ่มน้อยต่างศาสนา เหมือนที่อิสลามสอนให้ไปไล่ฆ่า เก็บภาษี หรือบังคับเปลี่ยนศาสนา แก่พวก กาเฟรซิมมีย์
ตอนนี้ มุสลิม สามารถไปสร้าง มัสยิค ได้แทบทุกจังหวัดของประเทศไทยแล้วทั้ง ๆ ที่มีมุสลิมอาศัยอยู่เพียงน้อยนิด ด้วยเงินสนับสนุนจากต่างชาติ แต่ทำไมมุสลิมในปัตตานี ถึงห้ามไม่ให้สร้างพุทธสถานในดินแดนปัตตานี
ถ้าพูดถึงความเห็นแก่ตัวนั้น พวกยิวชิดช้ายตกขอบไปเลย เมื่อพบกับมุสลิม
12 ปี ที่ผ่านมา มีเหตุรุนแรงใน ๓ ภาคใต้เกิดขึ้น 15,374 ครั้ง มีคนตาย 6,543 คน บาดเจ็บ 11,919 คน ........."กาเฟรสยาม" คนพุทธ ต้องหนีตาย อพยพไปอยู่ทีอื่น จนกลายเป็นคนส่วนน้อย ที่ชีวิตไม่รู้ว่าจะถุกมุสลิมฆ่าเสียเมื่อไหร่ จากที่แต่เดิมนั้น สัดส่วนคนศาสนาพุทธ ก็มีอยู่ในสามจังหวัดภาตใต้ ไม่ได้ต่างอะไรกับมุสลิมมากมาย
อย่าให้ตัวเลขความรุนแรง ความตาย ความบาดเจ็บ เหล่านี้ ขับไล่คนพุทธออกจากพื้นที่ เพราะความรุนแรงเหล่านี้ เป็นวิธีการเผยแพร่อิสลาม มาตั้งแต่ยุคก่อกำเหนิดอิสลามแล้ว ... การทำสงครามสงครามศาสนา หรือญิฮัด นั้น เป็นการทำความดีสูงสุดในความสอนของอิสลาม
ถ้าคนพุทธ "กาเฟรสยาม" ต้องหนีจาก ๓ จังหวัดภาคใต้ คนพุทธ ก็ต้องหนีไปเรื่อย ๆ และล้มหายตายจากไปในที่สุด .... ในวันหนึ่งข้างหน้า ไม่แน่ว่า ในกรุงเทพ แถวมีนบุรี หนองจอก นั้น อาจจะเป็นเขตหวงห้ามของอิสลาม ที่ไม่สามารถสร้างพุทธสถานอะไรได้เลย
ดังนั้น ระดมเงินทุนสร้างไปเลยครับ มุสลิม ๓ จังหวัดภาคใต้ เขาจะต้องเรียนรู้และเลือกอยู่กับกับคนต่างศาสนา ต่างวัฒนธรรม อย่างสงบสุข หรือ เขาจะพยายามสร้างปัตตานี เป็นรัฐอิสลาม ด้วยการทำญิฮัด ต่อไป ก็เป็นเรื่องของเขา เพราะตอนนี้สถานการณ์ใน ๓ จังหวัดภาคใต้ มันก็ไม่ต่างอะไรกับเหตุการณ์ที่ซีเรีย และ อิรัก มากมาย และเป็นยาวนานกว่า สิบปีแล้ว
มันไม่มีอะไร เลวร้ายไปกว่านี้อีกแล้ว การพยายามสร้างรัฐอิสลาม ๓ จังหวัดภาคใต้นั้น ผู้ก่อการร้ายก็พยายามสร้าง "รัฐปัตตานีดารุสลาม" มานานนับสิบปีแล้ว เกิดขึ้นก่อนที่พวกไอเอส จะสร้างรัฐอิสลามใน อิรัก และ ซีเรีย อีก
เมืองปัตตานี นี่ยังเป็นเมืองที่ยังอยู่ในราชอาณาจักรไทยหรือเปล่า?
หรือว่าปัตตานีกลายเป็นรัฐอิสระไปแล้วตั้งแต่เมื่อไหร่?
หรือว่าปัตตานีกลายเป็นเมือง ๆ หนึ่งของรัฐอิสลามซาอุดิอารเบียไปแล้ว?
ซาอุดิอารเบีย ห้ามไม่ให้ศาสนาอื่น สร้างศาสนาสถานในประเทศของตัวเอง คนที่ออกจากอิสลามต้องถูกประหารชีวิตตามกฎหมายชาริอะห์ แต่ซาอุดิอารเบีย สนับสนุนทั้งเงินทุน และลัทธิวาฮะบีย์ ให้เผยแพร่ไปทุกมุมโลกโดยสะดวก ประเทศไหน ชุมชนมไหน ขัดขวางการเผยแพร่อิสลาม ก็มีความชอบธรรมให้มุสลิมประกาศทำสงครามศาสนา หรือญิฮัดได้ ตามคำสอนในคัมภีร์อัลกรุอ่าน
ถ้า ปัตตานี ยังอยู่ในราชอาณาจักรไทย ประเทศไทยให้สิทธิเสรีภาพในการนับถือศาสนาแก่คนทุกศาสนา ไม่ใช่ประเทศที่เห็นแก่ตัวเอาแต่ได้ เหมือนประเทศที่เป็นต้นกำเหนิดอิสลาม อย่างซาอุดิอารเบีย ไทยไม่ได้ปฎิบัติต่อคนกลุ่มน้อยต่างศาสนา เหมือนที่อิสลามสอนให้ไปไล่ฆ่า เก็บภาษี หรือบังคับเปลี่ยนศาสนา แก่พวก กาเฟรซิมมีย์
ตอนนี้ มุสลิม สามารถไปสร้าง มัสยิค ได้แทบทุกจังหวัดของประเทศไทยแล้วทั้ง ๆ ที่มีมุสลิมอาศัยอยู่เพียงน้อยนิด ด้วยเงินสนับสนุนจากต่างชาติ แต่ทำไมมุสลิมในปัตตานี ถึงห้ามไม่ให้สร้างพุทธสถานในดินแดนปัตตานี
ถ้าพูดถึงความเห็นแก่ตัวนั้น พวกยิวชิดช้ายตกขอบไปเลย เมื่อพบกับมุสลิม
12 ปี ที่ผ่านมา มีเหตุรุนแรงใน ๓ ภาคใต้เกิดขึ้น 15,374 ครั้ง มีคนตาย 6,543 คน บาดเจ็บ 11,919 คน ........."กาเฟรสยาม" คนพุทธ ต้องหนีตาย อพยพไปอยู่ทีอื่น จนกลายเป็นคนส่วนน้อย ที่ชีวิตไม่รู้ว่าจะถุกมุสลิมฆ่าเสียเมื่อไหร่ จากที่แต่เดิมนั้น สัดส่วนคนศาสนาพุทธ ก็มีอยู่ในสามจังหวัดภาตใต้ ไม่ได้ต่างอะไรกับมุสลิมมากมาย
อย่าให้ตัวเลขความรุนแรง ความตาย ความบาดเจ็บ เหล่านี้ ขับไล่คนพุทธออกจากพื้นที่ เพราะความรุนแรงเหล่านี้ เป็นวิธีการเผยแพร่อิสลาม มาตั้งแต่ยุคก่อกำเหนิดอิสลามแล้ว ... การทำสงครามสงครามศาสนา หรือญิฮัด นั้น เป็นการทำความดีสูงสุดในความสอนของอิสลาม
ถ้าคนพุทธ "กาเฟรสยาม" ต้องหนีจาก ๓ จังหวัดภาคใต้ คนพุทธ ก็ต้องหนีไปเรื่อย ๆ และล้มหายตายจากไปในที่สุด .... ในวันหนึ่งข้างหน้า ไม่แน่ว่า ในกรุงเทพ แถวมีนบุรี หนองจอก นั้น อาจจะเป็นเขตหวงห้ามของอิสลาม ที่ไม่สามารถสร้างพุทธสถานอะไรได้เลย
ดังนั้น ระดมเงินทุนสร้างไปเลยครับ มุสลิม ๓ จังหวัดภาคใต้ เขาจะต้องเรียนรู้และเลือกอยู่กับกับคนต่างศาสนา ต่างวัฒนธรรม อย่างสงบสุข หรือ เขาจะพยายามสร้างปัตตานี เป็นรัฐอิสลาม ด้วยการทำญิฮัด ต่อไป ก็เป็นเรื่องของเขา เพราะตอนนี้สถานการณ์ใน ๓ จังหวัดภาคใต้ มันก็ไม่ต่างอะไรกับเหตุการณ์ที่ซีเรีย และ อิรัก มากมาย และเป็นยาวนานกว่า สิบปีแล้ว
มันไม่มีอะไร เลวร้ายไปกว่านี้อีกแล้ว การพยายามสร้างรัฐอิสลาม ๓ จังหวัดภาคใต้นั้น ผู้ก่อการร้ายก็พยายามสร้าง "รัฐปัตตานีดารุสลาม" มานานนับสิบปีแล้ว เกิดขึ้นก่อนที่พวกไอเอส จะสร้างรัฐอิสลามใน อิรัก และ ซีเรีย อีก
non-self ถูกใจ, oleang007 ถูกใจ, lirpa ถูกใจ, Binary [00110] หลงรัก, TPhetB ถูกใจ, Varalbastra ซึ้ง, jj kal ทึ่ง, สมาชิกหมายเลข 800639 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2933340 ถูกใจ, 447 ถูกใจรวมถึงอีก 14 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 12
ผมว่าคุนพุทธปัตตานีอ่านแล้วคงจะเจ็บปวดมากเลยนะครับ
เมื่อก่อนมีพุทธมุสลิมพอๆกัน 50-50 ก็อยู่กันสงบสุขดี
พอเกิดเหตุการณ์ 3 จังหวัดขึ้น โจรมุสลิมไล่คนพุทธออกนอกพื้นที่จนเหลือแค่นี้
แล้วพอจะสร้างพุทธมนฑล ก็ถูกอ้างว่ามีคนพุทธในพื้นที่แค่ 15-20%
อันที่จริง 15-20% นี่ไม่ถือว่าน้อยนะครับ
ที่ตำบลดอนฉิมพลี เป็นหมู่บ้านคนไทยพุทธ แทบไม่มีมุสลิม
มุสลิมยังรับเงินจากต่างประเทศ ไปสร้างมัสยิดล้อมหมู่บ้านไว้ทั้ง 4 ทิศ ชาวบ้านยังไม่ว่าอะไร
จนกระทั่งจะสร้างมัสยิดแห่งที่ 5 โผล่กลางหมู่บ้าน ถึงโดนประท้วง
เมื่อก่อนมีพุทธมุสลิมพอๆกัน 50-50 ก็อยู่กันสงบสุขดี
พอเกิดเหตุการณ์ 3 จังหวัดขึ้น โจรมุสลิมไล่คนพุทธออกนอกพื้นที่จนเหลือแค่นี้
แล้วพอจะสร้างพุทธมนฑล ก็ถูกอ้างว่ามีคนพุทธในพื้นที่แค่ 15-20%
อันที่จริง 15-20% นี่ไม่ถือว่าน้อยนะครับ
ที่ตำบลดอนฉิมพลี เป็นหมู่บ้านคนไทยพุทธ แทบไม่มีมุสลิม
มุสลิมยังรับเงินจากต่างประเทศ ไปสร้างมัสยิดล้อมหมู่บ้านไว้ทั้ง 4 ทิศ ชาวบ้านยังไม่ว่าอะไร
จนกระทั่งจะสร้างมัสยิดแห่งที่ 5 โผล่กลางหมู่บ้าน ถึงโดนประท้วง
oleang007 ถูกใจ, นายบางโพ ถูกใจ, Binary [00110] ถูกใจ, Varalbastra ถูกใจ, jj kal ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2969310 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 800639 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2933340 ถูกใจ, 447 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2883122 ถูกใจรวมถึงอีก 19 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 3
ทำไม..พวกมุสลิมฯ..จึงไปสร้างมัสยิด.แถวๆภาคเหนือได้หมด..
ทั้งๆที่ 90-95 % เป็นพุทธ..แบบนี้ไม่ได้อาจเป็นปมขัดแย้งหรอกเหรอ.
ไปดูได้.บนดอย.บนเขา ในจังหวัดที่สุขสงบต่างๆ
ก็บอกแล้ว..ทุกอย่าง.มุสลิมต้องทำได้..แต่ทีคนอื่นจะไม่ให้ทำ.
หนุ่มสาวรักกัน..ต้องเปลี่ยนมานับถืออิสลามก่อน..ถ้าไม่เปลี่ยน..ห้ามอยู่กัน.
เข้านับถือได้..แต่ถ้าออก..ต้องฆ่า..ฆ่า
ทั้งๆที่ 90-95 % เป็นพุทธ..แบบนี้ไม่ได้อาจเป็นปมขัดแย้งหรอกเหรอ.
ไปดูได้.บนดอย.บนเขา ในจังหวัดที่สุขสงบต่างๆ
ก็บอกแล้ว..ทุกอย่าง.มุสลิมต้องทำได้..แต่ทีคนอื่นจะไม่ให้ทำ.
หนุ่มสาวรักกัน..ต้องเปลี่ยนมานับถืออิสลามก่อน..ถ้าไม่เปลี่ยน..ห้ามอยู่กัน.
เข้านับถือได้..แต่ถ้าออก..ต้องฆ่า..ฆ่า
oleang007 ถูกใจ, jj kal ทึ่ง, สมาชิกหมายเลข 800639 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2933340 ถูกใจ, 447 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2044135 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1567547 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 828004 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 721464 ถูกใจ, my chulo ถูกใจรวมถึงอีก 7 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 24
ศรัทธาของท่านก็คือศรัทธาของท่าน ศรัทธาของฉันก็คือศรัทธาของฉัน นี่เป็นหลักของอิสลามโดยตรง ผู้คัดค้านควรศึกษาประโยคนี้ให้เข้าใจถ่องแท้
พื้นที่จังหวัดปัตตานีไม่ใช่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์รึว่าอะไรเป็นเพียงดินแดนธรรมดา การมีหลากหลายศาสนาอยู่ร่วมกันไม่ใช่เรื่องแปลก มุสลิมควรจะยินดีที่พุทธมณฑลเข้าไปก่อสร้างด้วยซ้ำ เพราะเป็นการแสดงภาพลักษณ์ที่ดีว่ามุสลิมมีความสันติอยู่ร่วมกับศาสนาอื่นได้อย่างไม่มีปัญหา และมุสลิมไม่เห็นแก่ตัวยอมให้ศาสนาอื่นเข้ามาสร้างศาสนสถานได้ในดินแดนที่มีมุสลิมอยู่มาก
อีกประการที่ควรเข้าใจให้ตรงกัน คือพื้นที่ที่จะสร้างนี้ไม่ได้ไปทำความเดือดร้อนให้ใครรึไปขับไล่ใคร เพราะพื้นที่ที่จะสร้างนี้เป็นที่ดินงอกบริเวณปากอ่าวปัตตานี
พื้นที่จังหวัดปัตตานีไม่ใช่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์รึว่าอะไรเป็นเพียงดินแดนธรรมดา การมีหลากหลายศาสนาอยู่ร่วมกันไม่ใช่เรื่องแปลก มุสลิมควรจะยินดีที่พุทธมณฑลเข้าไปก่อสร้างด้วยซ้ำ เพราะเป็นการแสดงภาพลักษณ์ที่ดีว่ามุสลิมมีความสันติอยู่ร่วมกับศาสนาอื่นได้อย่างไม่มีปัญหา และมุสลิมไม่เห็นแก่ตัวยอมให้ศาสนาอื่นเข้ามาสร้างศาสนสถานได้ในดินแดนที่มีมุสลิมอยู่มาก
อีกประการที่ควรเข้าใจให้ตรงกัน คือพื้นที่ที่จะสร้างนี้ไม่ได้ไปทำความเดือดร้อนให้ใครรึไปขับไล่ใคร เพราะพื้นที่ที่จะสร้างนี้เป็นที่ดินงอกบริเวณปากอ่าวปัตตานี
สมาชิกหมายเลข 6927965 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 738367 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 4579398 ถูกใจ, oleang007 ถูกใจ, jj kal ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 800639 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2933340 ถูกใจ, 447 ถูกใจ, Mahasati Neo ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1567547 ถูกใจรวมถึงอีก 9 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 1
ทำไมถึงสร้างไม่ได้ เหตุผลโคตรไร้สาระ ถ้าคุณอ้างว่าในพื้นที่มีมุสลิมเยอะ แล้วในประเทศไทยเนี่ยมีชาวพุทธเยอะกว่ามุสลิมตั้งเท่าไหร่ เขายังให้พวกคุณสร้างโน่นสร้างนี่ได้เลย และในเมื่อประเทศไทยให้อิสะในการนับถือศาสนา แล้วพวกคุณดันเอา "กฎหมู่" มาสนองความต้องการของตัวเอง แถมยังมีขู่ว่าจะประท้วงอีก นี่เป็นตัวอย่างแสดงให้เห็นถึง "ความเห็นแก่ตัว" ของชาวมุสลิมในพื้นที่เป็นอย่างดี
oleang007 ถูกใจ, jj kal ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2969310 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 800639 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2933340 ถูกใจ, 447 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1567547 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 828004 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2342905 ถูกใจ, Toshiro kokoro ถูกใจรวมถึงอีก 11 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
แสดงความคิดเห็น
นักวิชาการมุสลิมแนะการสร้าง “พุทธมณฑลปัตตานี” อาจเป็นปมขัดแย้งความรู้สึกของมุสลิมในพื้นที่
วันนี้ (16 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศความรู้สึกของประชาชนมุสลิมในพื้นที่จะหวัดปัตตานี ต่อกรณีที่มีการผลักดันให้มีการสร้างพุทธมณฑลในพื้นที่จังหวัดปัตตานี บนที่ดินงอกบริเวณปากอ่าวปัตตานี ม.6 ต.รูสะมิแล อ.เมือง จ.ปัตตานี ในเนื้อที่ 100 ไร่ ได้มีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสม ใน
การที่จะสร้างพุทธมณฑลในพื้นที่จังหวัดปัตตานีที่มีประชากรที่นับถือศาสนาอิสลามมากกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ ทั้งที่มีประชากรที่นับถือศาสนาพุทธไม่เกิน 15 เปอร์เซ็นต์ อาจสร้างปมขัดแย้งทางความรู้สึกไม่ดีระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐกับประชาชนในพื้นที่ ถึงความไม่จริงใจ ไม่ให้ความเคารพต่อความเชื่อทีประชาชนในพื้นที่ส่วนใหญ่มีอยู่
หลายฝ่ายเป็นห่วงในเวลาที่ทุกฝ่ายกำลังหาเส้นทางสันติภาพที่ยั่งยืนให้เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ ดังนั้นเส้นทางการสู่สันติภาพนั้น ทุกฝ่ายต้องไม่ไปสร้างอะไรที่อาจกลายเป็นปมหรือเงื่อนไขของความขัดแย้ง หรือทุกฝ่ายต้องร่วมสร้างบรรยากาศในพื้นที่ให้เอื้อต่อการสร้างสันติภาพได้ด้วย ไม่
เพียงแค่การพูดคุยในเวทีระหว่างประเทศ ระหว่างตัวแทนของรัฐกับตัวแทนผู้คิดต่าง จึงทำให้นักวิชาการ ผู้นำศาสนาในพื้นที่เรียกร้องให้ผู้ที่มีความเกี่ยวข้องกับการสร้างพุทธมณฑลปัตตานีในครั้งนี้ ทบทวนและคิดให้รอบคอบ อย่างน้อยให้มีการสอบถามความเห็นของประชาชนในพื้นที่ก่อนดีไหม เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาตามมาทีหลัง
ด้านนายวรวิทย์ บารู อดีต สว.ปัตตานี ได้กล่าวถึงกรณีการพยายามผลักดันให้มีการสร้างพุทธมณฑลในปัตตานีว่า เป็นเรื่องที่สร้างได้เพราะถ้าคิดแค่ว่ามีอำนาจอยู่ในมือ แต่ถ้าดูความเหมาะสมแล้ว มันไม่น่าจะเหมาะสมถ้าเราใช้สติปัญญาคิด เนื่องจากจังหวัดปัตตานีทุกคนก็รู้แม้กระทั่งประเทศเพื่อนบ้านเรายังรู้เลยว่า ที่นี้ส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม ที่นี่เคยเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นมุสลิมมากที่สุดและเข้มแข็งที่สุดของประเทศไทย จนกลายเป็นที่เชื่อมั่น
ของมุสลิมทั่วโลก รัฐบาลในอดีตและปัจจุบันจึงได้ถือโอกาสนี้จะมาสร้างเป็นแหล่งผลิตผลิตภัณฑ์ฮาลาล โดยเฉพาะการแปรอาหารฮาลาลเพื่อการส่งออก ดังนั้นการที่จะมาสร้างอะไรก็แล้วแต่ที่เป็นสัญลักษณ์ให้เปลี่ยนจากเดิม อาจจะสุ่มเสี่ยงต่อการพัฒนาพื้นที่ในอนาคตได้ ไม่ว่าการผลิตอาหารฮาลาล เพื่อการส่งออก เวทีการพูดคุยสันติสุขที่เพิ่งจะเริ่มต้น ความพยายามสร้างพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้เพื่อสอดรับกับบรรยากาศของการพูดคุย
จึงอยากให้มีการทบทวนหรือกลับไปถามประชาชนในพื้นที่ก่อนดีไหม ว่าประชาชนในพื้นที่เขาคิดอย่างไรต่อกรณีการสร้างพุทธมณฑล แต่ที่อยากถามผู้ที่เกี่ยวข้องว่าสร้างเพื่ออะไร มันมีความสำคัญต่อพี่น้องที่นับถือศาสนาพุทธอย่างไร เพราะยังมีกิจกรรมที่สามารถส่งเสริมทางพุทธศาสนาอีกหลาย
ทาง มากกว่าที่จะมุ่งเน้นเพียงแค่สัญลักษณ์ของความเป็นพุทธศาสนา ซึ่งอาจกลายเป็นปมของความขัดแย้ง อย่าคิดว่าประชาชนไม่ออกมาเดินขบวน แล้วคิดว่าประชาชนจะเห็นด้วย เราไม่ควรที่จะผลักให้ประชาชนกลับไปอยู่กับอีกฝ่ายโดยที่ไม่จำเป็น เพราะวันนี้เรากำลังสร้างบรรยากาศปรองดองเพื่อสันติภาพ จึงอยากให้ทุกคนทุกฝ่ายควรที่จะตระหนักในเรื่องนี้ให้มาก
ขณะเดียวกันที่ห้องประชุมวัดตานีนรสโมสร พระอารามหลวง อ.เมือง จ.ปัตตานี นายภาณุ อุทัยรัตน์ เลขาธิการ ศอ.บต. เป็นประธานประชุมหารือ การจัดสร้างพุทธมณฑลประจำจังหวัดปัตตานี โดยมี นายวีรพงค์ แก้วสุวรรณ ผู้ว่าฯปัตตานี พระสิริจริยาลังการ เจ้าคณะจังหวัดปัตตานี พร้อมด้วยรองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ หัวหน้าหน่วยงาน และผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม
ตามที่จังหวัดปัตตานี ได้มีโครงการจัดตั้งพุทธมณฑลประจำจังหวัดขึ้นมาเป็นระยะเวลาหลายปี แต่ยังมีปัญหาหลายอย่างทำให้การดำเนินการไม่เป็นไปตามโครงการ ทั้งการจัดหาสถานที่ การคมนาคม และงบประมาณ ซึ่งล่าสุด ผู้ว่าฯปัตตานี ได้เสนอใช้พื้นที่บริเวณ ต.รูสะมิแล ถัดจากสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ปัตตานี เป็นที่ตั้ง ได้มีการหารือเป็นการภายในและมีความก้าวหน้ามาเป็นลำดับ จึงได้มีการประชุมหารืออย่างเป็นทางการครั้งนี้เป็นครั้งแรก
ที่ประชุมได้มีการพิจารณาร่างประกาศหรือคำสั่งแต่งตั้งที่ปรึกษา และคณะกรรมการจัดตั้งพุทธมณฑลปัตตานีฝ่ายต่าง ๆ การพิจารณารูปแบบของสังเวชนียสถาน 4 ตำบล การพิจารณารูปแบบพระประธาน รูปแบบฐานองค์พระประธาน รวมทั้งรูปแบบการระดมทุน เช่น การหารือกับบริษัทไปรษณีย์ไทย
เพื่อออกไปรษณียบัตรเพื่อจำหน่ายให้ผู้ร่วมทำบุญ ได้จัดซื้อหรือร่วมบริจาคเงิน และตอบกลับไปรษณียบัตรดังกล่าวมาเพื่อจะใช้เป็นส่วนผสมหนึ่งในการจัดสร้างพุทธมณฑลปัตตานี เป็นต้น
http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9590000005449