สวัสดีครับ
กระทู้นี้เป็นกระทู้ย่อยจากการเดินทางขี่มอไซด์เที่ยวทั่วประเทศ เนื่องจากในระหว่างการเดินทาง เมื่อผมเข้ามาเที่ยวที่เมืองเชียงใหม่ ก็ได้รับการติดต่อให้ลองเข้าไปเที่ยวชมการท่องเที่ยวเกษตรเชิงนิเวศน์ ณ บ้านโปง หมู่ที่ 6 ตำบลป่าไผ่ อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ ตั้งอยู่หลังมหาวิทยาลัยแม่โจ้ โดยผู้เชิญชวนได้แจ้งว่า “หากบอลว่าง ลองเข้ามาเที่ยวชมการท่องเที่ยวเกษตรเชิงนิเวศน์ ที่บ้านโปงได้นะ” ทันทีที่ผมได้ฟังคำว่า “การท่องเที่ยวเกษตรเชิงนิเวศน์” ก็รู้สึกไม่คุ้นหู ไอเราก็ชอบเที่ยว แต่ส่วนใหญ่จะเที่ยวชมในสถานที่ทางธรรมชาติต่างๆ ไม่เคยมีโอกาสสัมผัสการเที่ยวในลักษณะเกษตรเชิงนิเวศน์ และผมเองก็อยู่ที่เชียงใหม่อยู่แล้ว คงไม่เป็นการเสียเวลามากนัก หากจะเข้าไปสำรวจ และเปิดรับประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับตัวเองจึงตอบตกลง ซึ่งก็เป็นการเดินทางไปโดยไม่ได้รับค่าจ้างค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น แต่ผู้เชื้อเชิญยินดีจะให้ผมไปพักอาศัยอยู่ด้วยกับผู้นำชุมชน และมีอาหารให้ทานฟรี แน่นอนว่า ทำไมจะไม่ไปละ ในเมื่อจะได้เข้าไปสัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ และเป็นประสบการณ์ที่ดี วันนี้จึงอยากนำประสบการณ์มาเล่าสู่กันฟังแบบนอกรอบ ลองมาติดตามชมกันดูนะครับผม ^^
เริ่มต้นเดินทางออกจากตัวเมืองเชียงใหม่ ขับรถมอไซด์มุ่งตรงไปอำเภอสันทราย
ไปจนเจอมหาวิทยาลัยแม่โจ้ จากนั้นก็จะมีถนนลัดเลาะไปด้านหลังมหาวิทยาลัย เลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา เลี้ยวซ้าย ผ่านหลายแยกอยู่นะ บอกไม่ถูก เพราะวันนั้นผมเองก็ยังงง สุดท้าย มาฉลาด หาจนเจอเพราะใช้ GPS บน Google Map ในมือถือ “ค่ายแทนคุณ ม.แม่โจ้” จึงได้นำผมไปถึงยังค่ายลูกเสือแห่งนี้เพื่อพบปะกับอาจารย์มิ่งขวัญ ผู้ที่จะให้ผมเข้ามาศึกษาวิถึของการท่องเที่ยวเกษตรเชิงนิเวศน์
ผมมาแบบคนโง่ๆ ที่ไม่รู้อะไรเลย รู้แค่ว่าเราจะเที่ยวเที่ยว ได้เที่ยวแบบเกษตรเชิงนิเวศน์ มันคืออะไรหว่า..?? ก็ยังไม่รู้ บ้านโปงเป็นยังไงก็ไม่ได้ศึกษา เขาบอกให้ลองมา ก็มา แต่เมื่อมาถึงบ้านโปง ก็เริ่มสังเกตุเห็นสิ่งที่แตกต่างไม่เหมือนกับที่อื่นๆ ที่เคยไปมา นั่นคือระหว่างทางที่เข้าไปยังค่ายแทนคุณ มีต้นไม้เยอะมาก พลางก็แอบคิดในใจ “นี้มาเที่ยวอุทยานแห่งชาติรึยังไง ต้นไม้เยอะขนาดนี่” เพียงแต่สิ่งที่แตกต่างจากต้นไม้ในอุทยานฯ คือต้นไม้ที่นี่ ต่างมีผ้าเหลืองผูกรัดไว้รอบๆ ต้นไม้แทบจะทุกต้น หลายสิบ หลายร้อย หรืออาจจะหลายพันต้น ผมอดคิดจินตนาการขึ้นมาในใจไม่ได้ “ดีนะที่ตุมากลางวัน หากมากลางคืน เจอต้นไม้ผู้ผ้าเหลืองแบบนี้ตลอดทาง คงหลอนน่าดู”
แต่เมื่อขับมาได้สักระยะ ก็เจอกับป้ายปูนซีเมนต์อันใหญ่ มีข้อความเขียนไว้ว่า “โครงการอนุรักษ์ ศึกษา และพัฒนาบ้านโปง ตามพระราชดำริ”
จึงเริ่มทำให้เข้าใจได้ว่าชุมชนและมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ซึ่งในอดีตชื่อสถาบันเทคโนโลยี่การเกษตรแม่โจ้ ร่วมกับกรมป่าไม้ ช่วยกันดูแลรักษาผืนป่าแห่งนี้ไว้ แต่ก็ยังอดสงสัยกับผ้าเหลืองที่มาพันรอบๆ ต้นไม้นับร้อยนับพันต้นไม่ได้อยู่ดี
[CR] พาเที่ยวบ้านโปง จังหวัดเชียงใหม่ การท่องเที่ยวเกษตรเชิงนิเวศน์ ชุมชนเล็กๆ ที่เข้มแข็งด้วยการเดินตามรอยพระราชดำริ
กระทู้นี้เป็นกระทู้ย่อยจากการเดินทางขี่มอไซด์เที่ยวทั่วประเทศ เนื่องจากในระหว่างการเดินทาง เมื่อผมเข้ามาเที่ยวที่เมืองเชียงใหม่ ก็ได้รับการติดต่อให้ลองเข้าไปเที่ยวชมการท่องเที่ยวเกษตรเชิงนิเวศน์ ณ บ้านโปง หมู่ที่ 6 ตำบลป่าไผ่ อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ ตั้งอยู่หลังมหาวิทยาลัยแม่โจ้ โดยผู้เชิญชวนได้แจ้งว่า “หากบอลว่าง ลองเข้ามาเที่ยวชมการท่องเที่ยวเกษตรเชิงนิเวศน์ ที่บ้านโปงได้นะ” ทันทีที่ผมได้ฟังคำว่า “การท่องเที่ยวเกษตรเชิงนิเวศน์” ก็รู้สึกไม่คุ้นหู ไอเราก็ชอบเที่ยว แต่ส่วนใหญ่จะเที่ยวชมในสถานที่ทางธรรมชาติต่างๆ ไม่เคยมีโอกาสสัมผัสการเที่ยวในลักษณะเกษตรเชิงนิเวศน์ และผมเองก็อยู่ที่เชียงใหม่อยู่แล้ว คงไม่เป็นการเสียเวลามากนัก หากจะเข้าไปสำรวจ และเปิดรับประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับตัวเองจึงตอบตกลง ซึ่งก็เป็นการเดินทางไปโดยไม่ได้รับค่าจ้างค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น แต่ผู้เชื้อเชิญยินดีจะให้ผมไปพักอาศัยอยู่ด้วยกับผู้นำชุมชน และมีอาหารให้ทานฟรี แน่นอนว่า ทำไมจะไม่ไปละ ในเมื่อจะได้เข้าไปสัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ และเป็นประสบการณ์ที่ดี วันนี้จึงอยากนำประสบการณ์มาเล่าสู่กันฟังแบบนอกรอบ ลองมาติดตามชมกันดูนะครับผม ^^
เริ่มต้นเดินทางออกจากตัวเมืองเชียงใหม่ ขับรถมอไซด์มุ่งตรงไปอำเภอสันทราย
ไปจนเจอมหาวิทยาลัยแม่โจ้ จากนั้นก็จะมีถนนลัดเลาะไปด้านหลังมหาวิทยาลัย เลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา เลี้ยวซ้าย ผ่านหลายแยกอยู่นะ บอกไม่ถูก เพราะวันนั้นผมเองก็ยังงง สุดท้าย มาฉลาด หาจนเจอเพราะใช้ GPS บน Google Map ในมือถือ “ค่ายแทนคุณ ม.แม่โจ้” จึงได้นำผมไปถึงยังค่ายลูกเสือแห่งนี้เพื่อพบปะกับอาจารย์มิ่งขวัญ ผู้ที่จะให้ผมเข้ามาศึกษาวิถึของการท่องเที่ยวเกษตรเชิงนิเวศน์
ผมมาแบบคนโง่ๆ ที่ไม่รู้อะไรเลย รู้แค่ว่าเราจะเที่ยวเที่ยว ได้เที่ยวแบบเกษตรเชิงนิเวศน์ มันคืออะไรหว่า..?? ก็ยังไม่รู้ บ้านโปงเป็นยังไงก็ไม่ได้ศึกษา เขาบอกให้ลองมา ก็มา แต่เมื่อมาถึงบ้านโปง ก็เริ่มสังเกตุเห็นสิ่งที่แตกต่างไม่เหมือนกับที่อื่นๆ ที่เคยไปมา นั่นคือระหว่างทางที่เข้าไปยังค่ายแทนคุณ มีต้นไม้เยอะมาก พลางก็แอบคิดในใจ “นี้มาเที่ยวอุทยานแห่งชาติรึยังไง ต้นไม้เยอะขนาดนี่” เพียงแต่สิ่งที่แตกต่างจากต้นไม้ในอุทยานฯ คือต้นไม้ที่นี่ ต่างมีผ้าเหลืองผูกรัดไว้รอบๆ ต้นไม้แทบจะทุกต้น หลายสิบ หลายร้อย หรืออาจจะหลายพันต้น ผมอดคิดจินตนาการขึ้นมาในใจไม่ได้ “ดีนะที่ตุมากลางวัน หากมากลางคืน เจอต้นไม้ผู้ผ้าเหลืองแบบนี้ตลอดทาง คงหลอนน่าดู”
แต่เมื่อขับมาได้สักระยะ ก็เจอกับป้ายปูนซีเมนต์อันใหญ่ มีข้อความเขียนไว้ว่า “โครงการอนุรักษ์ ศึกษา และพัฒนาบ้านโปง ตามพระราชดำริ”
จึงเริ่มทำให้เข้าใจได้ว่าชุมชนและมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ซึ่งในอดีตชื่อสถาบันเทคโนโลยี่การเกษตรแม่โจ้ ร่วมกับกรมป่าไม้ ช่วยกันดูแลรักษาผืนป่าแห่งนี้ไว้ แต่ก็ยังอดสงสัยกับผ้าเหลืองที่มาพันรอบๆ ต้นไม้นับร้อยนับพันต้นไม่ได้อยู่ดี