ผมได้ไปดูหนังเรื่อง The Big Short มา ขณะที่ดูอยู่นั้น ผมได้นึกถึงเหตุการณ์นึงในประเทศนึง
ในหนัง คือ มีคนที่เอาข้อมูลมาวิเคราะห์เหตุการณ์ล่วงหน้า ว่าหลักทรัพย์ที่อ้างอิงสินทรัพย์เป็นสัญญาเงินกู้ระยะยาว (เช่าชื้อบ้าน)
จะลดค่าลง เพราะคนจะส่งบ้านไม่ได้มากขึ้น จึงไปทำการช๊อต หลักทรัพย์แล้วทำให้ได้กำไรมหาศาล
ถึงตรงนี้ผมชื่นชมเขานะ ที่มีความสามารถ ความอดทนต่อความกดดัน จึงสามารถสำเร็จได้ แต่คนที่เดือดร้อนเป็นประชาขนของประเทศ
(ผ่านการที่เอาภาษีไปอุ้มแบงค์จอมโลภ)
แต่ผมก็กลับมานึกถึง ผู้บริหารประเทศๆหนึ่ง ได้รู้ข่าววงในล่วงหน้าว่าค่าเงินของประเทศตัวเองจะลดค่าลงอย่างมาก (เพราะเป็นผู้บริหาร เลยรู้ก่อน)
ผู้บริหารจึงสั่งให้นอมินีจากกองทุนต่างประเทศ ทำการชื้อดอลลาร์ล่วงหน้าจากประเทศตัวเอง (เขาไม่ได้เก่งเลย แต่เป็นการเอาเปรียบ เพราะอินไชเดอร์)
ชึ่งผลตรงนี้ทำให้ประเทศต้องกู้เงิน ประชาชนเดือดร้อนไปตามๆกัน แต่ตัวเขาบอกว่าถ้าเป็นคนอื่นก็ทำเหมือนกัน เขาไม่ได้โกงประเทศ แค่ทำธุรกรรมปกติ
ปล. เหตุการณ์ที่ผมคิดเป็นเหตุการณ์สมมุติ ว่าจะมีคนเลวแบบนี้อยู่หรือเปล่านะ
จบแค่นี้ครับ ไม่ได้คิดต่อละ เพราะออกจากโรงหนังละ
จินตนาการจากหนังเรื่อง The Big Short
ในหนัง คือ มีคนที่เอาข้อมูลมาวิเคราะห์เหตุการณ์ล่วงหน้า ว่าหลักทรัพย์ที่อ้างอิงสินทรัพย์เป็นสัญญาเงินกู้ระยะยาว (เช่าชื้อบ้าน)
จะลดค่าลง เพราะคนจะส่งบ้านไม่ได้มากขึ้น จึงไปทำการช๊อต หลักทรัพย์แล้วทำให้ได้กำไรมหาศาล
ถึงตรงนี้ผมชื่นชมเขานะ ที่มีความสามารถ ความอดทนต่อความกดดัน จึงสามารถสำเร็จได้ แต่คนที่เดือดร้อนเป็นประชาขนของประเทศ
(ผ่านการที่เอาภาษีไปอุ้มแบงค์จอมโลภ)
แต่ผมก็กลับมานึกถึง ผู้บริหารประเทศๆหนึ่ง ได้รู้ข่าววงในล่วงหน้าว่าค่าเงินของประเทศตัวเองจะลดค่าลงอย่างมาก (เพราะเป็นผู้บริหาร เลยรู้ก่อน)
ผู้บริหารจึงสั่งให้นอมินีจากกองทุนต่างประเทศ ทำการชื้อดอลลาร์ล่วงหน้าจากประเทศตัวเอง (เขาไม่ได้เก่งเลย แต่เป็นการเอาเปรียบ เพราะอินไชเดอร์)
ชึ่งผลตรงนี้ทำให้ประเทศต้องกู้เงิน ประชาชนเดือดร้อนไปตามๆกัน แต่ตัวเขาบอกว่าถ้าเป็นคนอื่นก็ทำเหมือนกัน เขาไม่ได้โกงประเทศ แค่ทำธุรกรรมปกติ
ปล. เหตุการณ์ที่ผมคิดเป็นเหตุการณ์สมมุติ ว่าจะมีคนเลวแบบนี้อยู่หรือเปล่านะ
จบแค่นี้ครับ ไม่ได้คิดต่อละ เพราะออกจากโรงหนังละ