ขอลองตั้งขอสังเกตุในช่วง ต้นเดือน มีนา ที่ผ่านมา เซทไทยไปป่วนเปี้ยน แถวๆ 1600 ก้อเริ่มมี นักวิเคราะห์ ออกมาบอกว่าหุ้นไทย pe แพงไปล่ะ.. หลังจากนั้นไม่นาน หุ้นไทยก้อปักหัวลง นักวิเคราะห์จากกองทุนและหลักทรัพย์ ก้อเริ่มออกมาบอกแนวรับ สำคัญๆ ไม่ว่าจะเป็น 1580 /1550 /1520 จากวันนั้น จนถึง วันนี้ ทุกๆ แนวรับที่ให้ไว้ ล้วนแล้วแต่ถูกทะลุทะลวง ทำลายลง จากแรงขายของ ".........." ด้วยเหตุผลอันเนื่องมาจาก "ความกังวลของนักลงทุน" ตามแนวทางการวิเคราะห์ของ บรรดาหลักทรัพย์และกองทุนชั้นนำในประเทศ ...
ตลอดแนวรับแต่ละแนว ล้วนแล้วแต่เป็นแนวที่ น่าสะสมหุ้นดี หุ้นเด็ด ที่ บรรดาหลักทรัพย์และกองทุนเหล่านั่น ออกบทวิเคราะห์มารองรับ .. ด้วยหลักการที่นำมาสนับสนุนล้วนแล้วแต่น่าเชื่อถือ..
ถ้าลองมองย้อนไปดูจะเห็นว่า ตามแนวรับหลักต่างๆ รายย่อยได้สะสมหุ้นดีๆ จากการหยิบยื่นของ บช หลักทรัพย์และกองทุน มาตลอดทาง จนมาถึง...
วันนี้แนวรับหลักไปอยู่ที่ 1500 / 1480 ถ้าแนวรับดังกล่าวมาถึง หุ้นไทยอาจถูกพิจารณาอีกครั้ง..ว่า pe ถูกลงจนถึงจุดที่น่าลงทุน ดึงดูดให้ fund flow จากต่างชาติเริ่มสะสมหุ้นไทยอีกครั้ง เริ่มมีกองทุน ทริกเกอร์ฟันด์ ออกกองใหม่ๆ มาเสนอขายรายย่อย บัญชีหลักทรัพย์เริ่ม short recovering คืนหุ้นที่ยืมมาขาย...
มองกันในแง่ดี การขายปรับพอร์ต ของกองทุน และ บช หลักทร้พย์ ในช่วงเวลาที่ผ่านมา .. โดยที่ขณะเดียวกันก็ออกบทวิเคราะห์มาแนะนำหุ้นต่างๆ มาโดยตลอด อาจถือเป็นโอกาสดีที่ รายย่อย จะได้หุ้นดีที่จากทั้งกองทุน และ บช หลักทร้พย์ ที่ขายออกมาตามแนวรับต่างๆ..
มองในอีกแง่ .. ก็อาจตั้งข้อสังเกตุด้านจริยธรรมที่ดูไม่ค่อยเหมาะสม เพราะอาจมองว่า.. บทวิเคราะห์ที่ออกมาเป็นเทคนิคในการฝากหุ้นให้รายย่อยรับไว้โดยมิรู้เท่าทัน.. ออกบทวิเคราะห์ว่าน่าสะสมแต่สิ้นวัน รายงานออกมาเป็น กองทุน และ บช หลักทร้พย์ เป็นฝ่ายขายให้หลุดแนวรับต่างๆ เสียเอง..
"ความกังวลของนักลงทุน" ในด้านต่างๆ ที่มักถูกอ้างอิงตามบทวิเคราะห์ ที่ผ่านมาของ บรรดาหลักทรัพย์และกองทุนชั้นนำในประเทศ ... แต่มาดูกันที่ตัวเลข ยอดซื้อขายสะสม จากเซท 1600 เมื่อต้นเดือน จนถึง เซทเกือบ 1500 ตอนนี้
นักลงทุนที่มีความกังวลดังกล่าวน่าจะเป็น กองทุน และ บช หลักทร้พย์ นะครับ เพราะ ท่านขายสะสมมาตลอด ในขณะที่
รายย่อย และ ต่างชาติ ซื้อสะสมมาตลอด..
สิ่งเหล่านี้..เป็นอีกหนึ่งความเหลื่อมล้ำในสังคมการลงทุนบ้านเรารึป่าว... ผู้มีอำนาจกำกับดูแลมีแนวคิดในการบริหารจัดการอย่างไร..??
วันนี้ กองทุนและหลักทรัพย์ ช่วยทำให้หุ้นไทย ถูกลงในสายตาต่างชาติ
ตลอดแนวรับแต่ละแนว ล้วนแล้วแต่เป็นแนวที่ น่าสะสมหุ้นดี หุ้นเด็ด ที่ บรรดาหลักทรัพย์และกองทุนเหล่านั่น ออกบทวิเคราะห์มารองรับ .. ด้วยหลักการที่นำมาสนับสนุนล้วนแล้วแต่น่าเชื่อถือ..
ถ้าลองมองย้อนไปดูจะเห็นว่า ตามแนวรับหลักต่างๆ รายย่อยได้สะสมหุ้นดีๆ จากการหยิบยื่นของ บช หลักทรัพย์และกองทุน มาตลอดทาง จนมาถึง...
วันนี้แนวรับหลักไปอยู่ที่ 1500 / 1480 ถ้าแนวรับดังกล่าวมาถึง หุ้นไทยอาจถูกพิจารณาอีกครั้ง..ว่า pe ถูกลงจนถึงจุดที่น่าลงทุน ดึงดูดให้ fund flow จากต่างชาติเริ่มสะสมหุ้นไทยอีกครั้ง เริ่มมีกองทุน ทริกเกอร์ฟันด์ ออกกองใหม่ๆ มาเสนอขายรายย่อย บัญชีหลักทรัพย์เริ่ม short recovering คืนหุ้นที่ยืมมาขาย...
มองกันในแง่ดี การขายปรับพอร์ต ของกองทุน และ บช หลักทร้พย์ ในช่วงเวลาที่ผ่านมา .. โดยที่ขณะเดียวกันก็ออกบทวิเคราะห์มาแนะนำหุ้นต่างๆ มาโดยตลอด อาจถือเป็นโอกาสดีที่ รายย่อย จะได้หุ้นดีที่จากทั้งกองทุน และ บช หลักทร้พย์ ที่ขายออกมาตามแนวรับต่างๆ..
มองในอีกแง่ .. ก็อาจตั้งข้อสังเกตุด้านจริยธรรมที่ดูไม่ค่อยเหมาะสม เพราะอาจมองว่า.. บทวิเคราะห์ที่ออกมาเป็นเทคนิคในการฝากหุ้นให้รายย่อยรับไว้โดยมิรู้เท่าทัน.. ออกบทวิเคราะห์ว่าน่าสะสมแต่สิ้นวัน รายงานออกมาเป็น กองทุน และ บช หลักทร้พย์ เป็นฝ่ายขายให้หลุดแนวรับต่างๆ เสียเอง..
"ความกังวลของนักลงทุน" ในด้านต่างๆ ที่มักถูกอ้างอิงตามบทวิเคราะห์ ที่ผ่านมาของ บรรดาหลักทรัพย์และกองทุนชั้นนำในประเทศ ... แต่มาดูกันที่ตัวเลข ยอดซื้อขายสะสม จากเซท 1600 เมื่อต้นเดือน จนถึง เซทเกือบ 1500 ตอนนี้
นักลงทุนที่มีความกังวลดังกล่าวน่าจะเป็น กองทุน และ บช หลักทร้พย์ นะครับ เพราะ ท่านขายสะสมมาตลอด ในขณะที่
รายย่อย และ ต่างชาติ ซื้อสะสมมาตลอด..
สิ่งเหล่านี้..เป็นอีกหนึ่งความเหลื่อมล้ำในสังคมการลงทุนบ้านเรารึป่าว... ผู้มีอำนาจกำกับดูแลมีแนวคิดในการบริหารจัดการอย่างไร..??