สวัสดีค่ะ นานาค่ะ ^^
เป็นกระทู้ที่ 2 แล้วที่มาเขียนรีวิว ยังไม่ค่อยคล่องเท่าไหร่ ยังไงก็ฝากด้วยนะคะ ^^
เมื่อวันที่ 6-7 ตุลา 2015 ที่ผ่านมา มีโอกาสได้ไปประเทศสิงคโปร์ หลังจากที่ห่างหายจากการท่องเที่ยวไปพักใหญ่ๆ อยู่ดีๆก็นึกอยากไปสวนสนุกUniversal ตอนแรกเป้าหมายอยู่ที่โอซาก้า แต่ด้วยเวลาอันจำกัด ทำให้เราเลือกไปสิงคโปร์
เผอิญช่วงนั้นตั๋วราคาโปรฯ ก็โผล่มาให้จับจองพอดี รอบนี้บินกับ Jet Star ในราคา 2759 ต่อคนค่ะ ไม่ถูกไม่แพงเกินไป แต่โดนค่าชาร์ทบัตรเครดิตไปก็เป็นลม 5555+
หลังจากได้ตั๋วเครื่องบินแล้ว บังเอิญงานท่องเที่ยวฯมาจัดช่วงใกล้ๆไปพอดีเลย เราก็ไปเดินหาบัตรเข้าUSS ที่งานท่องเที่ยว ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิตต์ ค่ะ เพราะได้ข่าวมาว่าซื้อหน้าทางเข้ามันแพงกว่า เกือบ 2พันแน่ะ
เตรียมตัวเรียบร้อยแล้ว เราเดินทางกันเลยดีกว่าาาาา
วันเดินทาง....
6.10.2015
ตื่นแต่เช้าอาบน้ำแต่งตัว จูงมือแฟน โบกแทคซี่ไปสนามบินสุวรรณภูมิ
จะบินตอน 9.25 แถมไม่เคยไปสุวรรณภูมิ เลยกลัวเสียเวลารีบออกมาตั้งแต่ 6โมงเช้า ถึงสนามบิน 7โมง.... เอ่ออ เร็วไปจริงๆค่ะ ก็นั่งรอ นอนรอต่อไป
เช็คอินเรียบร้อย เดินไปเกท อยากแวะดูของปลอดภาษีแต่ต้องผ่านค่ะ 555
ในที่สุดก็ได้บินสักที....
ถึงสนามบินChangi ประมาณบ่ายโมงนิดๆ ด้วยบรรยากาศหมอกควัน...
หมอกควันจริงๆค่ะ(เราไปช่วงที่มีหมอกควันเกิดจากไฟป่าที่อินโดฯ) มองแบบมัวๆ วิวไม่ค่อยสวยเท่าไหร่เลย...
ใครเขียนใบตม.มาแล้วก็ไปด่านตรวจคนเข้าเมืองค่ะ
ใครยังไม่เขียน ไม่เป็นไร มีตัวอย่างเปนภาษาไทยให้ด้วยล่ะ...
เจ้าหน้าที่ตม.น่ารัก ยิ้มแย้มดีค่ะ ไม่ต้องทำอะไรมาก ผ่านฉลุย...
เสร็จแล้วเราก็ต้องไปยัง Treminal 2 เพื่อไปขึ้นรถไฟใต้ดิน
ให้เดินตามป้าย "Skytrain to T2" (ตามที่วงกลมในภาพค่ะ)
แวะถ่ายรูปกับทุเรียนยักษ์นิดนึงงงง
พอถถึงT2 เราก็เดินตามป้ายไปขึ้น MRT เป็นรถไฟใต้ดินค่ะ ทริปนี้เราจะใช้รถไฟใต้ดินทั้งทริปเลย เพราะฉะนั้นก็เลยซื้อบัตร แบบเติมเงินไว้เลย โดยเงินที่เราต้องจ่ายคือ 12$ เป็นค่าบัตร 5$ อีก 7$ เป็นค่าโดยสาร คล้ายๆบัตรแรบบิทบ้านเราอ่ะค่ะ แต่ค่าบัตร 5$ เนี่ย เราสามารถแลกคืนได้ตอนคืนบัตรค่ะ(ก็ไปต่อแถวที่เดียวกับตอนซื้อบัตร) ชื่อบัตร ez link ค่ะ
หน้าตาเป็นแบบนี้
(ขอแมพจาก พนง.ได้ด้วยนะคะ เป็นอันเล็กๆพกง่ายดี)
อันนี้เป็นแผนที่รถไฟใต้ดิน MRT
เครดิตในภาพค่ะ
เอาล่ะ!! ถึงเวลาเดินทางของจริงแล้ว เป้าหมายวันนี้คือการไปถ่ายรูปกับ Merlion นั่นเอง เราตัดสินใจไปลงที่สถานี Raffles Place แล้วเดินไป Merlion กัน แต่พอมาถึงเราก็เจอพระพิรุณแห่งสิงคโปร์ต้อนรับค่ะ... ฝนตก!!
ตกแรงด้วย ร่มก็ไม่มี เน็ตก็ใช้ไม่ได้.... แฟนบ่นนอยด์มาก มาเที่ยวทั้งทีเจอฝนตั้งแต่เริ่ม จะเดินไปไหนก็ไม่รู้อีก....
ตรงนี้แถวๆตึก UOB
เลยตัดสินใจวิ่งเข้าห้าง ห้างชื่ออะไรก็ไม่รู้ สับสนไปหมดเพราะตึกสูงๆเยอะมาก + ฝนตก ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น หาที่หลบก่อนดีกว่า..... แล้วเราก็เดินหาศูนย์อาหาร หาอะไรรองท้องก่อนค่ะ
มิกกี้เหงื่อตกเลย
เดินวนๆหาของกิน แต่สุดท้ายก็ได้อาหารญี่ปุ่นมาค่ะ ส่วนใหญ่เป็นอาหารจีน ไม่ค่อยกล้ากินเท่าไหร่ ยังไม่อยากเสี่ยง เอานี่ดีกว่า ราคา9$ ค่ะ
หลังจากหาอะไรรองท้องเรียบร้อยแล้ว เราก็ไปเดินหาซื้อซิมส์ใส่มือถือเพื่อจะเปิดแผนที่ค่ะ แต่ก่อนอื่น ซื้อร่มก่อน ฝนยังตกอยู่เลย TvT โชคดี(หรือโชคร้าย) มีร้านค้าในสถานี มีร่มขาย ราคาค่อนข้างแพง เราว่าแพงเลยแหละ 12$ แพงกว่าเบนโตะเมื่อกี๊อีก... แต่ก็เอาค่ะ ยังไงก็ต้องใช้
แล้วสองเราก็กางร่มลุยฝนเพื่อตามหาซิมโทรศัพท์♥ โรแมนติก 55555
ฝนหยุดละ
wifi ก็ไม่มี
บรรยากาศในซอยริมแม่น้ำสิงคโปร์ค่ะ คาดว่ากลางคืนน่าจะครึกครื้น
ซิมส์หาซื้อได้ตามเซเว่นทั่วไป แต่ต้องบอกเขานะคะ ว่าเอาซิมสำหรับนักท่องเที่ยว ไม่งั้นเขาจะหยิบซิมธรรมดาให้เรา
สำหรับซิมนี้ก็หาซื้อย๊ากกยากก... หมดเกือบทุกที่
เข้าเซเว่นแรก
มีค่ะ เจอหนุ่มแว่น(พนง.) ขอพาสปอร์ตเราไปสแกนข้อมูล เกือบครึ่งชม.... ไม่ผ่าน ไม่ได้ หรือยังไง?! พี่แกเลยซอรี่แล้วคืนพาสปอร์ตให้เรา แต่เราก็ยังเดินหาต่อไปไม่ถอยค่ะ!!
มีผู้หญิงคนนึงก็จะมาซื้อเหมือนเราค่ะ แต่เขาน่าจะเป็นคนสิงคโปร์นี่แหละ ไม่ผ่านเหมือนกัน = ="
เข้าเซเว่น ที่สอง
หมดค่ะ
เข้าเซเว่น ที่... เท่าไหร่จำไม่ได้แล้ว
เอาเป็นว่าเดินมาครึ่งค่อนเมือง(เวอร์555) ในที่สุดเราก็เจอค่ะ !!! เจอผู้หญิงคนเดิม(ที่เจอกันเซเว่นแรก) มาซื้อซิมที่นี่เหมือนกัน เขาก็คุยกับพนังงานว่า เนี่ย เขาก็มาซื้อซิมเหมือนกัน บลาๆๆ สรุป พี่ผญ.คนนั้นสแกนไม่ได้เหมือนเดิม แล้วเขาก็เดินจากไปค่ะ.... เราก็ต่อคิวอยู่ลุ้นๆ ว่าจะได้มั้ยเนี่ยยย เมื่อยแล้วนะ.....
....พนง.เขาก็ถามค่ะว่า มากี่วัน? เราบอก 2วัน...
....งั้นเอาซิมนี้สิ สำหรับนักท่องเที่ยว 100gb 2วันคุณใช้ได้สบายเลย
...เราก็ เอ๊ะ ทำไมที่แรกไม่เห็นเอาซิมนี้ให้เลย (เราคิดว่าอันไหนก็เหมือนกัน)
ก็โอเคเลยค่ะ (หันไปยิ้มกับแฟน แบบดีใจ โซเชี่ยลไม่อั้นฮ่าาาา)
เราเลือกใช้ซิมส์ของ Singtel มีซิมส์สำหรับนักท่องเที่ยวคือ
hi! Tourist SIM
ราคา 15$ ใช้ได้ 5 วัน
เล่นเน็ตได้ 100 GB
โทรในประเทศ 100 นาที
โทรต่างประเทศ 30 นาที
**โทรกลับไทยได้ด้วยนะคะ กด 019 <+66 ><เบอร์โทร Tel. No.>
เช่น. 019 66 80 999 9999
*ซิมส์ มี 3ไซส์ ใส่ Iphone ได้ค่ะไม่ต้องห่วง
ถ้าไปมากกว่า 5 วัน ก็มีซิมส์สำหรับ 10วัน ในราคา 30$ ค่ะ
รายละเอียดตามลิ้งค์ของค่ายมือถือนี้เลยค้าบบ
http://info.singtel.com/personal/phones-plans/mobile/prepaid/hitouristsimcards
หน้าตาประมาณนี้
พอได้ซิมมาใส่มือถือเรียบร้อยแล้ว ก็เปิดแผนที่หาเส้นทางไป Merlion ต่อค่ะ เพราะตอนนี้ไม่รู้เลยว่าตัวเองอยู่ส่วนไหน เดินมางง มาก พอเปิดแมพได้ละอ้อออ..... อยู่ตรงนี้นี่เอง หน้าสถานี Clarke Quay เงิบบบค่ะ... เดินหาซิมตามตรอกซอกซอย มาโผล่ที่นี่... ห่างจากสถานี
Raffles Place ประมาณ 1กม. ข้างหน้าก็ China town แล้ว แล้วต้องเดินกลับไปอีก(ประมาณ1.4 กม.) แค่คิกก็เหงื่อตกแล้วววว
ตามนั้นค่ะ เดินย้อนกลับ เปิดแผนที่ค้นหาเส้นทางเดินไปเรื่อยๆ เดินริมแม่น้ำสิงคโปร์ไปเลยค่ะ ง่ายดี
ออกเดินทางสู่ Merlion
อ๊ะ เจอสะพาน Cavenagh Bridge สวยๆๆ
แวะถ่ายรูปกันหน่อย
อากาศร้อนชื้นมากก
ข้ามสะพานมากเจอ Victoria Theatre & Concert Hall ค่ะ สวยงาม
แล้วเราก็เดินตามถนน Fuiierton ข้ามกลับมาฝั่งเดิม (เดินไม่รอเลย ==')
เห็นอาคาร One Fullerton แล้ว แสดงว่าใกล้แล้วเย่ๆๆ
มีรถ เรือด้วย ตกลงรถหรือเรือ??
ในที่สุด เฮ้อออออ
มาถึงสักที นั่งพักริมน้ำ ร้อนมากๆเลยค่ะ มันชื้นๆ อากาศไม่ค่อยโอเคเลย เดี๋ยวพี่สาวที่บินตามมาทีหลังจะมา นัดเจอกันที่นี่ ได้นั่งพักเหนื่อย ชมวิวไปในตัว
พอพี่สาวมาแล้ว เราก็เดินไปอีกฝั่งของสิงโต เพื่อถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกัน บรรยากาศก็ หมอกลงเหมือนเดิม เลยได้รูปไม่ค่อยเยอะ ตอนแรกกะจะไปขึ้ชิงช้าสวรรค์ด้วย เรียกเหมือนเด็กเลยอ่ะ555 (เหมือนที่เอเชียธีก) แต่สภาพอากาศแบบนี้ มองไม่เห็นวิวสวยๆแน่ๆ เลยตัดออกจากทริปนี้ไปค่ะ.....
คนเยอะมากเลย
ตึกเรือๆ
ก่อนกลับ ข้างหลังสิงโตตัวใหญ่ ก็มีตัวเล็กด้วย
แต่แอบเฟล เจ้ถ่ายไม่ตรงมุม งือ-
ชื่นชมแล้วก็ถึงเวลาลากลับค่ะ ไปหาอะไรกินแถวๆโรงแรมดีกว่า....
[CR] - ลางาน แบกเป้ ไป สิ ง ค โ ป ร์ - [Part 1]
สวัสดีค่ะ นานาค่ะ ^^
เป็นกระทู้ที่ 2 แล้วที่มาเขียนรีวิว ยังไม่ค่อยคล่องเท่าไหร่ ยังไงก็ฝากด้วยนะคะ ^^
เมื่อวันที่ 6-7 ตุลา 2015 ที่ผ่านมา มีโอกาสได้ไปประเทศสิงคโปร์ หลังจากที่ห่างหายจากการท่องเที่ยวไปพักใหญ่ๆ อยู่ดีๆก็นึกอยากไปสวนสนุกUniversal ตอนแรกเป้าหมายอยู่ที่โอซาก้า แต่ด้วยเวลาอันจำกัด ทำให้เราเลือกไปสิงคโปร์
เผอิญช่วงนั้นตั๋วราคาโปรฯ ก็โผล่มาให้จับจองพอดี รอบนี้บินกับ Jet Star ในราคา 2759 ต่อคนค่ะ ไม่ถูกไม่แพงเกินไป แต่โดนค่าชาร์ทบัตรเครดิตไปก็เป็นลม 5555+
หลังจากได้ตั๋วเครื่องบินแล้ว บังเอิญงานท่องเที่ยวฯมาจัดช่วงใกล้ๆไปพอดีเลย เราก็ไปเดินหาบัตรเข้าUSS ที่งานท่องเที่ยว ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิตต์ ค่ะ เพราะได้ข่าวมาว่าซื้อหน้าทางเข้ามันแพงกว่า เกือบ 2พันแน่ะ
เตรียมตัวเรียบร้อยแล้ว เราเดินทางกันเลยดีกว่าาาาา
วันเดินทาง....
6.10.2015
ตื่นแต่เช้าอาบน้ำแต่งตัว จูงมือแฟน โบกแทคซี่ไปสนามบินสุวรรณภูมิ
จะบินตอน 9.25 แถมไม่เคยไปสุวรรณภูมิ เลยกลัวเสียเวลารีบออกมาตั้งแต่ 6โมงเช้า ถึงสนามบิน 7โมง.... เอ่ออ เร็วไปจริงๆค่ะ ก็นั่งรอ นอนรอต่อไป
เช็คอินเรียบร้อย เดินไปเกท อยากแวะดูของปลอดภาษีแต่ต้องผ่านค่ะ 555
ในที่สุดก็ได้บินสักที....
ถึงสนามบินChangi ประมาณบ่ายโมงนิดๆ ด้วยบรรยากาศหมอกควัน...
หมอกควันจริงๆค่ะ(เราไปช่วงที่มีหมอกควันเกิดจากไฟป่าที่อินโดฯ) มองแบบมัวๆ วิวไม่ค่อยสวยเท่าไหร่เลย...
ใครเขียนใบตม.มาแล้วก็ไปด่านตรวจคนเข้าเมืองค่ะ
ใครยังไม่เขียน ไม่เป็นไร มีตัวอย่างเปนภาษาไทยให้ด้วยล่ะ...
เจ้าหน้าที่ตม.น่ารัก ยิ้มแย้มดีค่ะ ไม่ต้องทำอะไรมาก ผ่านฉลุย...
เสร็จแล้วเราก็ต้องไปยัง Treminal 2 เพื่อไปขึ้นรถไฟใต้ดิน
ให้เดินตามป้าย "Skytrain to T2" (ตามที่วงกลมในภาพค่ะ)
แวะถ่ายรูปกับทุเรียนยักษ์นิดนึงงงง
พอถถึงT2 เราก็เดินตามป้ายไปขึ้น MRT เป็นรถไฟใต้ดินค่ะ ทริปนี้เราจะใช้รถไฟใต้ดินทั้งทริปเลย เพราะฉะนั้นก็เลยซื้อบัตร แบบเติมเงินไว้เลย โดยเงินที่เราต้องจ่ายคือ 12$ เป็นค่าบัตร 5$ อีก 7$ เป็นค่าโดยสาร คล้ายๆบัตรแรบบิทบ้านเราอ่ะค่ะ แต่ค่าบัตร 5$ เนี่ย เราสามารถแลกคืนได้ตอนคืนบัตรค่ะ(ก็ไปต่อแถวที่เดียวกับตอนซื้อบัตร) ชื่อบัตร ez link ค่ะ
หน้าตาเป็นแบบนี้
(ขอแมพจาก พนง.ได้ด้วยนะคะ เป็นอันเล็กๆพกง่ายดี)
อันนี้เป็นแผนที่รถไฟใต้ดิน MRT
เครดิตในภาพค่ะ
เอาล่ะ!! ถึงเวลาเดินทางของจริงแล้ว เป้าหมายวันนี้คือการไปถ่ายรูปกับ Merlion นั่นเอง เราตัดสินใจไปลงที่สถานี Raffles Place แล้วเดินไป Merlion กัน แต่พอมาถึงเราก็เจอพระพิรุณแห่งสิงคโปร์ต้อนรับค่ะ... ฝนตก!!
ตกแรงด้วย ร่มก็ไม่มี เน็ตก็ใช้ไม่ได้.... แฟนบ่นนอยด์มาก มาเที่ยวทั้งทีเจอฝนตั้งแต่เริ่ม จะเดินไปไหนก็ไม่รู้อีก....
ตรงนี้แถวๆตึก UOB
เลยตัดสินใจวิ่งเข้าห้าง ห้างชื่ออะไรก็ไม่รู้ สับสนไปหมดเพราะตึกสูงๆเยอะมาก + ฝนตก ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น หาที่หลบก่อนดีกว่า..... แล้วเราก็เดินหาศูนย์อาหาร หาอะไรรองท้องก่อนค่ะ
มิกกี้เหงื่อตกเลย
เดินวนๆหาของกิน แต่สุดท้ายก็ได้อาหารญี่ปุ่นมาค่ะ ส่วนใหญ่เป็นอาหารจีน ไม่ค่อยกล้ากินเท่าไหร่ ยังไม่อยากเสี่ยง เอานี่ดีกว่า ราคา9$ ค่ะ
หลังจากหาอะไรรองท้องเรียบร้อยแล้ว เราก็ไปเดินหาซื้อซิมส์ใส่มือถือเพื่อจะเปิดแผนที่ค่ะ แต่ก่อนอื่น ซื้อร่มก่อน ฝนยังตกอยู่เลย TvT โชคดี(หรือโชคร้าย) มีร้านค้าในสถานี มีร่มขาย ราคาค่อนข้างแพง เราว่าแพงเลยแหละ 12$ แพงกว่าเบนโตะเมื่อกี๊อีก... แต่ก็เอาค่ะ ยังไงก็ต้องใช้
แล้วสองเราก็กางร่มลุยฝนเพื่อตามหาซิมโทรศัพท์♥ โรแมนติก 55555
ฝนหยุดละ
wifi ก็ไม่มี
บรรยากาศในซอยริมแม่น้ำสิงคโปร์ค่ะ คาดว่ากลางคืนน่าจะครึกครื้น
ซิมส์หาซื้อได้ตามเซเว่นทั่วไป แต่ต้องบอกเขานะคะ ว่าเอาซิมสำหรับนักท่องเที่ยว ไม่งั้นเขาจะหยิบซิมธรรมดาให้เรา
สำหรับซิมนี้ก็หาซื้อย๊ากกยากก... หมดเกือบทุกที่
เข้าเซเว่นแรก
มีค่ะ เจอหนุ่มแว่น(พนง.) ขอพาสปอร์ตเราไปสแกนข้อมูล เกือบครึ่งชม.... ไม่ผ่าน ไม่ได้ หรือยังไง?! พี่แกเลยซอรี่แล้วคืนพาสปอร์ตให้เรา แต่เราก็ยังเดินหาต่อไปไม่ถอยค่ะ!!
มีผู้หญิงคนนึงก็จะมาซื้อเหมือนเราค่ะ แต่เขาน่าจะเป็นคนสิงคโปร์นี่แหละ ไม่ผ่านเหมือนกัน = ="
เข้าเซเว่น ที่สอง
หมดค่ะ
เข้าเซเว่น ที่... เท่าไหร่จำไม่ได้แล้ว
เอาเป็นว่าเดินมาครึ่งค่อนเมือง(เวอร์555) ในที่สุดเราก็เจอค่ะ !!! เจอผู้หญิงคนเดิม(ที่เจอกันเซเว่นแรก) มาซื้อซิมที่นี่เหมือนกัน เขาก็คุยกับพนังงานว่า เนี่ย เขาก็มาซื้อซิมเหมือนกัน บลาๆๆ สรุป พี่ผญ.คนนั้นสแกนไม่ได้เหมือนเดิม แล้วเขาก็เดินจากไปค่ะ.... เราก็ต่อคิวอยู่ลุ้นๆ ว่าจะได้มั้ยเนี่ยยย เมื่อยแล้วนะ.....
....พนง.เขาก็ถามค่ะว่า มากี่วัน? เราบอก 2วัน...
....งั้นเอาซิมนี้สิ สำหรับนักท่องเที่ยว 100gb 2วันคุณใช้ได้สบายเลย
...เราก็ เอ๊ะ ทำไมที่แรกไม่เห็นเอาซิมนี้ให้เลย (เราคิดว่าอันไหนก็เหมือนกัน)
ก็โอเคเลยค่ะ (หันไปยิ้มกับแฟน แบบดีใจ โซเชี่ยลไม่อั้นฮ่าาาา)
เราเลือกใช้ซิมส์ของ Singtel มีซิมส์สำหรับนักท่องเที่ยวคือ
hi! Tourist SIM
ราคา 15$ ใช้ได้ 5 วัน
เล่นเน็ตได้ 100 GB
โทรในประเทศ 100 นาที
โทรต่างประเทศ 30 นาที
**โทรกลับไทยได้ด้วยนะคะ กด 019 <+66 ><เบอร์โทร Tel. No.>
เช่น. 019 66 80 999 9999
*ซิมส์ มี 3ไซส์ ใส่ Iphone ได้ค่ะไม่ต้องห่วง
ถ้าไปมากกว่า 5 วัน ก็มีซิมส์สำหรับ 10วัน ในราคา 30$ ค่ะ
รายละเอียดตามลิ้งค์ของค่ายมือถือนี้เลยค้าบบ
http://info.singtel.com/personal/phones-plans/mobile/prepaid/hitouristsimcards
หน้าตาประมาณนี้
พอได้ซิมมาใส่มือถือเรียบร้อยแล้ว ก็เปิดแผนที่หาเส้นทางไป Merlion ต่อค่ะ เพราะตอนนี้ไม่รู้เลยว่าตัวเองอยู่ส่วนไหน เดินมางง มาก พอเปิดแมพได้ละอ้อออ..... อยู่ตรงนี้นี่เอง หน้าสถานี Clarke Quay เงิบบบค่ะ... เดินหาซิมตามตรอกซอกซอย มาโผล่ที่นี่... ห่างจากสถานี
Raffles Place ประมาณ 1กม. ข้างหน้าก็ China town แล้ว แล้วต้องเดินกลับไปอีก(ประมาณ1.4 กม.) แค่คิกก็เหงื่อตกแล้วววว
ตามนั้นค่ะ เดินย้อนกลับ เปิดแผนที่ค้นหาเส้นทางเดินไปเรื่อยๆ เดินริมแม่น้ำสิงคโปร์ไปเลยค่ะ ง่ายดี
ออกเดินทางสู่ Merlion
อ๊ะ เจอสะพาน Cavenagh Bridge สวยๆๆ
แวะถ่ายรูปกันหน่อย
อากาศร้อนชื้นมากก
ข้ามสะพานมากเจอ Victoria Theatre & Concert Hall ค่ะ สวยงาม
แล้วเราก็เดินตามถนน Fuiierton ข้ามกลับมาฝั่งเดิม (เดินไม่รอเลย ==')
เห็นอาคาร One Fullerton แล้ว แสดงว่าใกล้แล้วเย่ๆๆ
มีรถ เรือด้วย ตกลงรถหรือเรือ??
ในที่สุด เฮ้อออออ
มาถึงสักที นั่งพักริมน้ำ ร้อนมากๆเลยค่ะ มันชื้นๆ อากาศไม่ค่อยโอเคเลย เดี๋ยวพี่สาวที่บินตามมาทีหลังจะมา นัดเจอกันที่นี่ ได้นั่งพักเหนื่อย ชมวิวไปในตัว
พอพี่สาวมาแล้ว เราก็เดินไปอีกฝั่งของสิงโต เพื่อถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกัน บรรยากาศก็ หมอกลงเหมือนเดิม เลยได้รูปไม่ค่อยเยอะ ตอนแรกกะจะไปขึ้ชิงช้าสวรรค์ด้วย เรียกเหมือนเด็กเลยอ่ะ555 (เหมือนที่เอเชียธีก) แต่สภาพอากาศแบบนี้ มองไม่เห็นวิวสวยๆแน่ๆ เลยตัดออกจากทริปนี้ไปค่ะ.....
คนเยอะมากเลย
ตึกเรือๆ
ก่อนกลับ ข้างหลังสิงโตตัวใหญ่ ก็มีตัวเล็กด้วย
แต่แอบเฟล เจ้ถ่ายไม่ตรงมุม งือ-
ชื่นชมแล้วก็ถึงเวลาลากลับค่ะ ไปหาอะไรกินแถวๆโรงแรมดีกว่า....