จากประสบการณ์ส่วนตัว ที่เคยพูดคุยกับบุคคลที่มีแนวคิดไปในแนวนี้ ในครอบครัว มีอาชีพ แพทย์ ครู ค้าขาย นะครับ ผมได้ความประมาณนี้
1. สลิ่มส่วนใหญ่ เห็นด้วยกับระบอบประชาธิปไตย แต่ไม่เห็นด้วยกับการเลือกตั้งในปัจจุบัน งงมั้ยครับ เพราะสลิ่มคิดว่า เสียงส่วนใหญ่ของประเทศที่เลือกพรรคการเมืองเข้ามา ถูกชักจูงโดยผลประโยชน์ระยะสั้น หรือที่เป็นวาทกรรม ประชานิยม ทำลายชาติ โดยสลิ่มมองว่า นโยบายหาเสียงเหล่านี้ คือ การนำเอาภาษี รายได้ความมั่นคงของชาติในระยะยาว มาใช้ในการกระจายรายได้ให้ทั่วถึง ลดช่องว่างในสังคม เป็นการสิ้นเปลืองอย่างสูญเปล่า เพื่อล่อใจประชาชนให้เลือกพรรคๆนั้น สร้างค่านิยมฟุ้งเฟ้อ ฟุ่มเฟือย ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่มีหนี้สิน เป็นทาสทุนนิยมสามารย์ ไม่สามารถพึ่งพาตนเองได้ จนในที่สุด ต้องตกเป็นเครื่องมือในการผูกขาดอำนาจทางการเมืองของนักการเมือง ซึ่งสลิ่มมองว่า เอื้อต่อการคอรัปชั่น แบ่งผลประโยชน์ให้กับตนเองและพวกพ้อง เป็นความพยายามที่จะรวมอำนาจทั้งบริหาร นิติบัญญัติ มาไว้ในมือของคนตระกูลเดียว เรียกว่า เผด็จการรัฐสภาครับ
( ผมว่านี่เป็น แนวคิดพื้นฐาน ของสลิ่มที่เริ่มสนใจการเมืองผ่านการปลุกระดม เป็นการล้างสมองเริ่มต้นให้พร้อมสู่การเป็นสลิ่มต่อไป )
2. ดังนั้น สลิ่มจึงมองว่า ในเมื่อ เสียงส่วนใหญ่ของประเทศ ถูกชักจูงได้ง่ายด้วยผลประโยชน์ที่นักการเมืองยื่นให้ ประเทศไทยก็ยังคงไม่พร้อมสำหรับประชาธิปไตยแบบที่อารยประเทศเค้าเป็นกันต่อไป ดังนั้น สลิ่มจึงคิดว่า คนดีๆที่มาปกครองประเทศ ควรเป็นคนที่คิดแบบเดียวกะตน โดยอาจจะไม่ต้องผ่านการเลือกตั้ง หรืออาจจะผ่านระบบแบบไทยๆมาก็ได้ ซึ่งสลิ่มส่วนใหญ่ในระดับนี้ มักมีแนวคิดที่ค่อนข้างไปทางอนุรักษนิยมที่ฝังแน่นมาในสังคมไทยมาอย่างยาวนาน เช่น การศึกษา โฆษณาชวนเชื่อประวัติศาสตร์บิดเบือน ขนบธรรมเนียมล้าหลังแบบต่างๆ อาทิ ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ ห้ามเถียงผู้ใหญ่กว่า ระบบอุปถัมภ์ เป็นต้น
รวมถึงแนวคิดชาตินิยม ที่ถูกปลุกปั่นจนเลยเถิดไปจนกลายเป็น คลั่งชาติ ที่ขาดสติ ขาดเหตุผล ต้องการให้ประเทศเป็นไปตามแนวคิดของตนเอง เชื่อว่ามีแต่พวกที่คิดแบบตนเท่านั้นที่รักชาติ รักสถาบัน ส่วนคนที่คิดแตกต่างไปจากตนนั้น เป็นพวกหนักแผ่นดิน สมควรถูกกวาดล้าง ขับไล่ให้ออกนอกประเทศ ไม่แตกต่างจากในสมัยล่าแม่มด หรือฮิตเลอร์เท่าไรนัก
3. เมื่อสลิ่มเสพข้อมูลเพียงด้านเดียว จนถูกล้างสมองให้ขาดสติ ขาดความรู้สึกผิดชอบชั่วดี มองว่าอีกฝ่ายเป็นฟาย ไม่ใช่มนุษย์แล้ว ก็มักแสดงออก โดยการต่อต้านแนวคิดต่างๆที่ไม่เหมือนกับแนวคิดที่ตนถูกฝังชิปมา เช่น การปฎิเสธหลักการของประชาธิปไตยแบบสากลที่นานาชาติให้การยอมรับ ต่อต้านประเทศต่างๆที่ไม่เอาด้วยกับพวกตน เช่น USA UK Australia เป็นต้น และคิดว่าสิ่งที่สลิ่มยึดถืออยู่ เป็นความสะใจส่วนตัว ไม่สนความถูกต้องและกฎหมายอีกต่อไป ใครคิดเห็นไม่เหมือนตน เป็นพวกชั่วช้า สมควรถูกกำจัดให้หมดไป แม้ว่าประเทศชาติจะเสียหายเท่าไหร่ก็ยอม อย่างที่เห็นในปัจจุบัน คือ การยอมรับให้ระบอบเผด็จการทหารเข้ามาปกครองประเทศจนถูกต่างชาติบอยคอต การยอมรับแนวคิดรัฐฎาธิปัตย์และการเเช่แข็งประเทศให้ล้าหลัง ด้อยพัฒนาต่อไปเพียงเพื่อกำจัดศัตรูทางการเมือง เป็นต้น
( สลิ่มแบบนี้พบได้ทั่วไปตามม้อบ กปปส. เสื้อหลากสี และเวบบอร์ดต่างๆ โดยสามารถ identify ได้ง่ายๆ คือ มักจะไม่มีเหตุผล ชอบใช้คำด่าหยาบคาย ไม่ก็เเดกดัน เสียดสี แล้วเปิดตูด อินดี้หนีไป แล้วมักไม่ยอมรับความคิดของคนอื่นครับผม )
ข้อมูลนี้ เป็นข้อมูลที่ผมประสบพบเจอมาด้วยตัวเอง ก็เลยเก็บมาเล่าให้เพื่อนๆสมาชิกฟังกันครับ
หากท่านใดต้องการเพิ่มเติมสาระ เนื้อหา เชิญมาสทนากันได้ครับผม
ปล. ลอกอินเก่า 551 ผมไปเเล้ว pantip มีลิมิตมั้ยครับ ว่าคนนึงสมัครได้กี่ไอดีครับผม
ผมพอจะเข้าใจแนวคิดของสลิ่มบางคนแล้วครับผม
1. สลิ่มส่วนใหญ่ เห็นด้วยกับระบอบประชาธิปไตย แต่ไม่เห็นด้วยกับการเลือกตั้งในปัจจุบัน งงมั้ยครับ เพราะสลิ่มคิดว่า เสียงส่วนใหญ่ของประเทศที่เลือกพรรคการเมืองเข้ามา ถูกชักจูงโดยผลประโยชน์ระยะสั้น หรือที่เป็นวาทกรรม ประชานิยม ทำลายชาติ โดยสลิ่มมองว่า นโยบายหาเสียงเหล่านี้ คือ การนำเอาภาษี รายได้ความมั่นคงของชาติในระยะยาว มาใช้ในการกระจายรายได้ให้ทั่วถึง ลดช่องว่างในสังคม เป็นการสิ้นเปลืองอย่างสูญเปล่า เพื่อล่อใจประชาชนให้เลือกพรรคๆนั้น สร้างค่านิยมฟุ้งเฟ้อ ฟุ่มเฟือย ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่มีหนี้สิน เป็นทาสทุนนิยมสามารย์ ไม่สามารถพึ่งพาตนเองได้ จนในที่สุด ต้องตกเป็นเครื่องมือในการผูกขาดอำนาจทางการเมืองของนักการเมือง ซึ่งสลิ่มมองว่า เอื้อต่อการคอรัปชั่น แบ่งผลประโยชน์ให้กับตนเองและพวกพ้อง เป็นความพยายามที่จะรวมอำนาจทั้งบริหาร นิติบัญญัติ มาไว้ในมือของคนตระกูลเดียว เรียกว่า เผด็จการรัฐสภาครับ
( ผมว่านี่เป็น แนวคิดพื้นฐาน ของสลิ่มที่เริ่มสนใจการเมืองผ่านการปลุกระดม เป็นการล้างสมองเริ่มต้นให้พร้อมสู่การเป็นสลิ่มต่อไป )
2. ดังนั้น สลิ่มจึงมองว่า ในเมื่อ เสียงส่วนใหญ่ของประเทศ ถูกชักจูงได้ง่ายด้วยผลประโยชน์ที่นักการเมืองยื่นให้ ประเทศไทยก็ยังคงไม่พร้อมสำหรับประชาธิปไตยแบบที่อารยประเทศเค้าเป็นกันต่อไป ดังนั้น สลิ่มจึงคิดว่า คนดีๆที่มาปกครองประเทศ ควรเป็นคนที่คิดแบบเดียวกะตน โดยอาจจะไม่ต้องผ่านการเลือกตั้ง หรืออาจจะผ่านระบบแบบไทยๆมาก็ได้ ซึ่งสลิ่มส่วนใหญ่ในระดับนี้ มักมีแนวคิดที่ค่อนข้างไปทางอนุรักษนิยมที่ฝังแน่นมาในสังคมไทยมาอย่างยาวนาน เช่น การศึกษา โฆษณาชวนเชื่อประวัติศาสตร์บิดเบือน ขนบธรรมเนียมล้าหลังแบบต่างๆ อาทิ ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ ห้ามเถียงผู้ใหญ่กว่า ระบบอุปถัมภ์ เป็นต้น
รวมถึงแนวคิดชาตินิยม ที่ถูกปลุกปั่นจนเลยเถิดไปจนกลายเป็น คลั่งชาติ ที่ขาดสติ ขาดเหตุผล ต้องการให้ประเทศเป็นไปตามแนวคิดของตนเอง เชื่อว่ามีแต่พวกที่คิดแบบตนเท่านั้นที่รักชาติ รักสถาบัน ส่วนคนที่คิดแตกต่างไปจากตนนั้น เป็นพวกหนักแผ่นดิน สมควรถูกกวาดล้าง ขับไล่ให้ออกนอกประเทศ ไม่แตกต่างจากในสมัยล่าแม่มด หรือฮิตเลอร์เท่าไรนัก
3. เมื่อสลิ่มเสพข้อมูลเพียงด้านเดียว จนถูกล้างสมองให้ขาดสติ ขาดความรู้สึกผิดชอบชั่วดี มองว่าอีกฝ่ายเป็นฟาย ไม่ใช่มนุษย์แล้ว ก็มักแสดงออก โดยการต่อต้านแนวคิดต่างๆที่ไม่เหมือนกับแนวคิดที่ตนถูกฝังชิปมา เช่น การปฎิเสธหลักการของประชาธิปไตยแบบสากลที่นานาชาติให้การยอมรับ ต่อต้านประเทศต่างๆที่ไม่เอาด้วยกับพวกตน เช่น USA UK Australia เป็นต้น และคิดว่าสิ่งที่สลิ่มยึดถืออยู่ เป็นความสะใจส่วนตัว ไม่สนความถูกต้องและกฎหมายอีกต่อไป ใครคิดเห็นไม่เหมือนตน เป็นพวกชั่วช้า สมควรถูกกำจัดให้หมดไป แม้ว่าประเทศชาติจะเสียหายเท่าไหร่ก็ยอม อย่างที่เห็นในปัจจุบัน คือ การยอมรับให้ระบอบเผด็จการทหารเข้ามาปกครองประเทศจนถูกต่างชาติบอยคอต การยอมรับแนวคิดรัฐฎาธิปัตย์และการเเช่แข็งประเทศให้ล้าหลัง ด้อยพัฒนาต่อไปเพียงเพื่อกำจัดศัตรูทางการเมือง เป็นต้น
( สลิ่มแบบนี้พบได้ทั่วไปตามม้อบ กปปส. เสื้อหลากสี และเวบบอร์ดต่างๆ โดยสามารถ identify ได้ง่ายๆ คือ มักจะไม่มีเหตุผล ชอบใช้คำด่าหยาบคาย ไม่ก็เเดกดัน เสียดสี แล้วเปิดตูด อินดี้หนีไป แล้วมักไม่ยอมรับความคิดของคนอื่นครับผม )
ข้อมูลนี้ เป็นข้อมูลที่ผมประสบพบเจอมาด้วยตัวเอง ก็เลยเก็บมาเล่าให้เพื่อนๆสมาชิกฟังกันครับ
หากท่านใดต้องการเพิ่มเติมสาระ เนื้อหา เชิญมาสทนากันได้ครับผม
ปล. ลอกอินเก่า 551 ผมไปเเล้ว pantip มีลิมิตมั้ยครับ ว่าคนนึงสมัครได้กี่ไอดีครับผม