เนื่องจากกระทู้ที่แล้วบินเพราะ ผมใช้หัวข้อที่ไม่สุภาพ ขออภัยด้วยนะครับ คราวนี้ผมขอใช้คำที่สุภาพขึ้นนะครับ เนื้อหาเหมือนเดิม หวังว่าจะไม่บินอีกนะครับ
ผมไม่ได้มาร้องเรียน หรือเรียกร้องใดๆนะครับ มาเล่าสู่กันฟังเฉยๆครับ
เหตุเกิดวันอาทิตย์ที่ 10 ม.ค.2559 เวลาประมาณ 10.30 น. ผมในฐานะเจ้าบ้านคนเชียงใหม่ ได้พาพี่สาว(อายุเกือบ 70 ปี)และหลานสาว ซึ่งบินมาจากหาดใหญ่ตั้งใจมาซื้อของที่ระลึกและเป่าเค้กวันเกิดที่ร้านคุณ
เรื่องน่าเกลียดที่เกิดขึ้นเรื่องแรกคือ เมื่อพี่สาวเลือกซื้อหมอนสอดมือสีส้ม ถามพนักงานว่า มีใบใหม่มั๊ย พนักงานตอบว่า เป็นนโยบายของร้านว่าจะไม่หยิบใบใหม่ ต้องขายใบโชว์ก่อน ก็เข้าใจนะครับ พี่สาวเลยปรึกษากับลูกสาวว่าถ้าเราจะซื้อสีส้มอีกใบเหมือนกัน ก็จะได้ใบใหม่ใช่มั๊ย พนักงานขายได้ยิน ตอบด้วยน้ำเสียงไม่น่าฟังพร้อมกับสีหน้าบึ้งตึงว่า ถึงจะหยิบใบใหม่ เราก็ต้องแกะถุงพลาสติกออกและไม่แน่ว่าจะหยิบได้สีส้มหรือเปล่า แล้วแต่จะหยิบได้ (งงมั๊ย) คือ คนขายต้องการให้เราซื้อใบโชว์ 2 ใบ สีตามที่โชว์เลือกใหม่ไม่ได้ จึงอธิบายว่า ใบโชว์สีส้มใบแรกเราซื้อ แต่ต้องการซื้อสีส้มอีกใบ (ไม่ทราบว่าอบรมพนักงานอย่างไร ถึงได้ใช้กิริยาต้อนรับลูกค้าแบบนี้ เรามาซื้อนะ ไม่ได้มาขอ )
เรื่องน่าเกลียดตามมาอีก ระหว่างรอหมอนใบที่ 2 พี่สาวจะออกไปนั่งทานไอศกรีมจึงรีบชำระเงิน ใบเสร็จใบแรกชำระเวลา 11.08 น. เป็นเงิน 3,625 บาท ระหว่างเซ็นต์บัตรเครดิต ลูกสาวซึ่งเลือกของเพิ่มและจะชำระเงินอีก 1,555 บาท เห็นกระดาษขนาด A4 ติดอยู่ที่ผนังหลังคนขาย ว่า ซื้อครบ 5,000 บาทได้คูปอง 500 บาท จึงถามพนักงานเก็บเงินว่า รวมบิลกับแม่ได้มั๊ย พนักงานตอบว่า ไม่ได้ ต้องเป็นบิลเดียว จึงถามพนักงานว่า ทำไมคุณไม่แจ้งให้ลูกค้าทราบก่อนชำระเงินว่า ควรชำระพร้อมกัน พนักงานตอบได้น่ารักว่า มีกระดาษติดอยู่ ต้องอ่านเอง เป็นความผิดของลูกค้าอายุ 70 ปีที่ไม่เห็น ในกรณีเช่นนี้ ถ้าพนักงานขายมีความจริงใจและต้องการกระตุ้นยอดขาย ตามนโยบายของร้าน ซึ่งจัดโปรโมชั่นขึ้น ก็ควรจะบอก ผมจึงเสนอว่าให้วอยออกและทำซื้อเข้าไปใหม่ได้มั๊ย พนักงานตอบคำเดียว ว่า ไม่ได้ค่ะ แล้วไม่อธิบายอะไรอีกเลย หลานสาวชำระยอดที่ 2 เวลา 11.11 น. ห่างกัน 3 นาที (ความจริงห่างกันแค่นาทีเดียว แต่เพราะถามกันอยู่เรื่องรวมบิล)
เอาเถอะไหน ๆ ก็ตั้งใจมาเที่ยว มาซื้อของ รวมไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เข้าใจและรับได้ แต่สิ่งที่ทำให้หมดความอดทนจนรู้สึกว่า พนักงานร้านนี้แย่จริง ๆ ก็ตอนที่ พนักงานเอาหมอนใบใหญ่ ใส่ถุงพลาสติกขนาดเท่าหมอนใส่ให้ จนไม่มีที่จะถือ (ตามรูปประกอบ สินค้าที่ซื้อตามใบเสร็จที่ 2 ประกอบด้วย หมอน ผ้าเช็ดตัว 2 ชุด กระเป๋าสตางค์อีก 1 ใบ)
หลานสาวจึงถามว่า ขอถุงใบใหญ่หน่อยได้มั๊ยคะ เพราะจะขึ้นเครื่อง ถือลำบากค่ะ พนักงานตอบว่าไม่ได้ ถุงใบใหญ่สำหรับใส่หมอน 2 ใบ (งงอีกรอบ) ที่สุดเรายืนยันว่า เราถือไม่สะดวกจริง ๆ พนักงานจำยอมหยิบถุงใบใหญ่ด้วยหน้าตาที่บอกบุญไม่รับ และหยิบสินค้าที่เราซื้อใส่ถุงใบใหญ่อย่างแรง
มาถึงตรงนี้ ผมซึ่งยืนมองดูเหตุการณ์มาตลอด บอกตามตรงว่ารับไม่ได้ (อายแทน ไม่เข้าใจลูกค้าซื้อสินค้าตั้งเยอะทำไมต้องมีปัญหาแค่ถุงใบเดียว) อุตส่าห์พามาเที่ยวร้านที่คิดว่าเป็นหน้าตาของเชียงใหม่ แล้วเจอเหตุการณ์แบบนี้
ขอพบผู้จัดการ แต่พนักงานในส่วนร้านกาแฟ แจ้งว่าผู้จัดการจะเข้าบ่าย ๆ
มีเจ้าหน้าที่ผู้หญิงท่านหนึ่งมารับเรื่อง และแจ้งว่าเป็นสินค้าโปรโมชั่นจึงไม่สามารถวอยใบเสร็จได้ เพราะเครื่องล็อคไว้ ทางเราจึงบอกว่า ถ้าเป็นแบบนั้นเราก็เข้าใจและรับได้ แต่พนักงานขายและเก็บเงินไม่แจ้งเหตุผลให้ลูกค้าทราบและไม่แนะนำว่าควรจะชำระเป็นใบเสร็จเดียวกัน กลับตอบว่าไม่ทราบว่ามาด้วยกัน ทั้งที่เวลานั้นไม่มีลูกค้าท่านอื่น มีแต่กลุ่มของผม ซึ่งช่วยกันเลือกสินค้าและผลัดกันถ่ายรูป
สรุปเวลา 11.30 น. หมดเวลาที่จะนั่งฉลองวันเกิดของหลานสาวด้วยเค้กและไอศกรีมร้านโน้ต ตามที่สัญญากัน เพราะต้องรีบไปสนามบิน เศร้ามั๊ย
จึงอยากถามว่าคุณโน้ตด้วยความเคารพนะครับ ว่า “ลูกน้องคุณโน้ต เป็นอะไรมากมั๊ยครับ"
อย่ามัวตำหนิลูกทัวร์จีน ที่มาถ่ายรูปแต่ไม่ซื้อของเลย เราตั้งใจมาซื้อแต่กลับได้รับการต้อนรับแบบนี้ ปรับปรุงด้วยครับ ขอบคุณครับ
หมายเหตุ: ผมยืม account หลานมาเพื่อเล่าสู่กันฟังครับ
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ขอชี้แจงเพิ่มเติมให้ทราบนะครับ
Step 1 ขายหมอนตัวโชว์ ไม่มีนโยบายหยิบใบใหม่ เรื่องนี้คงบอกไม่ได้ว่าเป็นนโยบายร้านหรือพนง ขาย หลาย คห สงสัยว่า เมื่อไม่หยิบใบใหม่ ซื้อทำไม ต้องบอกก่อนว่า ครอบครัวเรามีความชื่นชอบคุณโน๊ตเป็นการส่วนตัว หลานสาวคนที่ตั้งใจจะเป่าเทียนวันเกิดในร้าน ก็บินจากหาดใหญ่มาชมเดี่ยว 11 เมื่อ พนง หญิง บอกด้วยน้ำเสียงแข็ง ๆ ว่าต้องซื้อตัวโชว์ เราพยามเข้าใจว่าเป็นนโยบายร้าน และไม่อยากถือสาเด็ก คิดว่าคงเป็นบุคลิคส่วนตัว และเราแก้ปัญหาด้วยการซื้อใบโชว์ไว้แทน เพื่อให้พี่สาวซึ่งมาจากหาดใหญ่ ได้ใบใหม่
Step 2 เรื่องรวมบิลครบ 5000 พนักงานเก็บเงินซึ่งเป็นคนละคนกับคนขายหมอน ไม่มีการแจ้งให้ลูกค้าทราบและไม่มีการแนะนำว่า ถ้าซื้อครบ 5000 จะได้ 500 และไม่อธิบายว่าต้องเป็นใบเสร็จเดียว รวมบิลไม่ได้ ก่อนจะมีการชำระเงิน ถ้า พนง จำความได้และยอมรับความจริง จะต้องจำได้ว่า เป็นคนตอบลูกค้าว่า มีกระดาษติดอยู่ จึงไม่แจ้ง (เป็นขนาด A4 ติดที่ผนังหลังเคาเตอร์เก็บเงิน หลัง พนงอีกที) ทางเราบอกว่า ถ้าน้องมีความจริงใจต่อลูกค้า ควรแนะนำ เพราะผู้ใหญ่อายุจะ 70 ก็ไม่ทันได้สังเกตป้าย อีกอย่างคุณแม่เพิ่งชำระเงินเสร็จ ลูกสาวก็รอชำระต่อทันที พนง ยืนยันว่า รวมบิลไม่ได้ แก้บิลไม่ได้ (ตอบได้แค่นั้น โดยไม่อธิบายต่อ) เราจำยอมชำระเงินอีก 1 ใบเสร็จ เพราะพี่สาวซึ่งปกติเป็นคนใจเย็นและไม่วีนใคร จึงบอกว่าไม่เป็นไร เพราะคิดว่าตั้งใจมาซื้อกลับไปฝากลูกสาวและหลาน ๆ ที่หาดใหญ่ ถ้าไม่ซื้อก็จะฝากไม่ครบ ทางเราไม่อยากให้เสียบรรยากาศและเสียความรู้สึกคนมาไกล จึงปล่อยผ่านไป
Step 3 ใช้ถุงขนาดไม่เหมาะสมกับสินค้า (ตามรูปประกอบ) ขอเปลี่ยนถุงไม่ยอม เมื่อหลานยืนยันว่าถือขึ้นเครื่องไม่สะดวก เพราะไม่มีที่จะหิ้วแล้ว พนง หยิบถุงใบใหม่แล้วเอาถุงใบเดิมของเราใส่ซ้อนเข้าไป และวางถุงคืนเราอย่างแรง ถึงตอนนี้พี่สาว พูดเบา ๆ ว่า เค้าโยนถุงให้เราเลยเหรอ แค่ขอถุงอีกใบ ผิดตรงไหน
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
จขกท นะครับ
คุณโน้ตได้โทรศัพท์ติดต่อมาเป็นการส่วนตัว เพื่อขอทราบรายละเอียดพร้อมชี้แจงและขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
พร้อมกล่าวว่าจะดูแลและสังคายนาใหม่
ขอบคุณครับ
ขออนุญาตถาม คุณโน้ต อุดม ด้วยความเคารพครับ “ลูกน้องคุณโน้ต เป็นอะไรกันครับ”
ผมไม่ได้มาร้องเรียน หรือเรียกร้องใดๆนะครับ มาเล่าสู่กันฟังเฉยๆครับ
เหตุเกิดวันอาทิตย์ที่ 10 ม.ค.2559 เวลาประมาณ 10.30 น. ผมในฐานะเจ้าบ้านคนเชียงใหม่ ได้พาพี่สาว(อายุเกือบ 70 ปี)และหลานสาว ซึ่งบินมาจากหาดใหญ่ตั้งใจมาซื้อของที่ระลึกและเป่าเค้กวันเกิดที่ร้านคุณ
เรื่องน่าเกลียดที่เกิดขึ้นเรื่องแรกคือ เมื่อพี่สาวเลือกซื้อหมอนสอดมือสีส้ม ถามพนักงานว่า มีใบใหม่มั๊ย พนักงานตอบว่า เป็นนโยบายของร้านว่าจะไม่หยิบใบใหม่ ต้องขายใบโชว์ก่อน ก็เข้าใจนะครับ พี่สาวเลยปรึกษากับลูกสาวว่าถ้าเราจะซื้อสีส้มอีกใบเหมือนกัน ก็จะได้ใบใหม่ใช่มั๊ย พนักงานขายได้ยิน ตอบด้วยน้ำเสียงไม่น่าฟังพร้อมกับสีหน้าบึ้งตึงว่า ถึงจะหยิบใบใหม่ เราก็ต้องแกะถุงพลาสติกออกและไม่แน่ว่าจะหยิบได้สีส้มหรือเปล่า แล้วแต่จะหยิบได้ (งงมั๊ย) คือ คนขายต้องการให้เราซื้อใบโชว์ 2 ใบ สีตามที่โชว์เลือกใหม่ไม่ได้ จึงอธิบายว่า ใบโชว์สีส้มใบแรกเราซื้อ แต่ต้องการซื้อสีส้มอีกใบ (ไม่ทราบว่าอบรมพนักงานอย่างไร ถึงได้ใช้กิริยาต้อนรับลูกค้าแบบนี้ เรามาซื้อนะ ไม่ได้มาขอ )
เรื่องน่าเกลียดตามมาอีก ระหว่างรอหมอนใบที่ 2 พี่สาวจะออกไปนั่งทานไอศกรีมจึงรีบชำระเงิน ใบเสร็จใบแรกชำระเวลา 11.08 น. เป็นเงิน 3,625 บาท ระหว่างเซ็นต์บัตรเครดิต ลูกสาวซึ่งเลือกของเพิ่มและจะชำระเงินอีก 1,555 บาท เห็นกระดาษขนาด A4 ติดอยู่ที่ผนังหลังคนขาย ว่า ซื้อครบ 5,000 บาทได้คูปอง 500 บาท จึงถามพนักงานเก็บเงินว่า รวมบิลกับแม่ได้มั๊ย พนักงานตอบว่า ไม่ได้ ต้องเป็นบิลเดียว จึงถามพนักงานว่า ทำไมคุณไม่แจ้งให้ลูกค้าทราบก่อนชำระเงินว่า ควรชำระพร้อมกัน พนักงานตอบได้น่ารักว่า มีกระดาษติดอยู่ ต้องอ่านเอง เป็นความผิดของลูกค้าอายุ 70 ปีที่ไม่เห็น ในกรณีเช่นนี้ ถ้าพนักงานขายมีความจริงใจและต้องการกระตุ้นยอดขาย ตามนโยบายของร้าน ซึ่งจัดโปรโมชั่นขึ้น ก็ควรจะบอก ผมจึงเสนอว่าให้วอยออกและทำซื้อเข้าไปใหม่ได้มั๊ย พนักงานตอบคำเดียว ว่า ไม่ได้ค่ะ แล้วไม่อธิบายอะไรอีกเลย หลานสาวชำระยอดที่ 2 เวลา 11.11 น. ห่างกัน 3 นาที (ความจริงห่างกันแค่นาทีเดียว แต่เพราะถามกันอยู่เรื่องรวมบิล)
เอาเถอะไหน ๆ ก็ตั้งใจมาเที่ยว มาซื้อของ รวมไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เข้าใจและรับได้ แต่สิ่งที่ทำให้หมดความอดทนจนรู้สึกว่า พนักงานร้านนี้แย่จริง ๆ ก็ตอนที่ พนักงานเอาหมอนใบใหญ่ ใส่ถุงพลาสติกขนาดเท่าหมอนใส่ให้ จนไม่มีที่จะถือ (ตามรูปประกอบ สินค้าที่ซื้อตามใบเสร็จที่ 2 ประกอบด้วย หมอน ผ้าเช็ดตัว 2 ชุด กระเป๋าสตางค์อีก 1 ใบ)
หลานสาวจึงถามว่า ขอถุงใบใหญ่หน่อยได้มั๊ยคะ เพราะจะขึ้นเครื่อง ถือลำบากค่ะ พนักงานตอบว่าไม่ได้ ถุงใบใหญ่สำหรับใส่หมอน 2 ใบ (งงอีกรอบ) ที่สุดเรายืนยันว่า เราถือไม่สะดวกจริง ๆ พนักงานจำยอมหยิบถุงใบใหญ่ด้วยหน้าตาที่บอกบุญไม่รับ และหยิบสินค้าที่เราซื้อใส่ถุงใบใหญ่อย่างแรง
มาถึงตรงนี้ ผมซึ่งยืนมองดูเหตุการณ์มาตลอด บอกตามตรงว่ารับไม่ได้ (อายแทน ไม่เข้าใจลูกค้าซื้อสินค้าตั้งเยอะทำไมต้องมีปัญหาแค่ถุงใบเดียว) อุตส่าห์พามาเที่ยวร้านที่คิดว่าเป็นหน้าตาของเชียงใหม่ แล้วเจอเหตุการณ์แบบนี้
ขอพบผู้จัดการ แต่พนักงานในส่วนร้านกาแฟ แจ้งว่าผู้จัดการจะเข้าบ่าย ๆ
มีเจ้าหน้าที่ผู้หญิงท่านหนึ่งมารับเรื่อง และแจ้งว่าเป็นสินค้าโปรโมชั่นจึงไม่สามารถวอยใบเสร็จได้ เพราะเครื่องล็อคไว้ ทางเราจึงบอกว่า ถ้าเป็นแบบนั้นเราก็เข้าใจและรับได้ แต่พนักงานขายและเก็บเงินไม่แจ้งเหตุผลให้ลูกค้าทราบและไม่แนะนำว่าควรจะชำระเป็นใบเสร็จเดียวกัน กลับตอบว่าไม่ทราบว่ามาด้วยกัน ทั้งที่เวลานั้นไม่มีลูกค้าท่านอื่น มีแต่กลุ่มของผม ซึ่งช่วยกันเลือกสินค้าและผลัดกันถ่ายรูป
สรุปเวลา 11.30 น. หมดเวลาที่จะนั่งฉลองวันเกิดของหลานสาวด้วยเค้กและไอศกรีมร้านโน้ต ตามที่สัญญากัน เพราะต้องรีบไปสนามบิน เศร้ามั๊ย
จึงอยากถามว่าคุณโน้ตด้วยความเคารพนะครับ ว่า “ลูกน้องคุณโน้ต เป็นอะไรมากมั๊ยครับ"
อย่ามัวตำหนิลูกทัวร์จีน ที่มาถ่ายรูปแต่ไม่ซื้อของเลย เราตั้งใจมาซื้อแต่กลับได้รับการต้อนรับแบบนี้ ปรับปรุงด้วยครับ ขอบคุณครับ
หมายเหตุ: ผมยืม account หลานมาเพื่อเล่าสู่กันฟังครับ
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ขอชี้แจงเพิ่มเติมให้ทราบนะครับ
Step 1 ขายหมอนตัวโชว์ ไม่มีนโยบายหยิบใบใหม่ เรื่องนี้คงบอกไม่ได้ว่าเป็นนโยบายร้านหรือพนง ขาย หลาย คห สงสัยว่า เมื่อไม่หยิบใบใหม่ ซื้อทำไม ต้องบอกก่อนว่า ครอบครัวเรามีความชื่นชอบคุณโน๊ตเป็นการส่วนตัว หลานสาวคนที่ตั้งใจจะเป่าเทียนวันเกิดในร้าน ก็บินจากหาดใหญ่มาชมเดี่ยว 11 เมื่อ พนง หญิง บอกด้วยน้ำเสียงแข็ง ๆ ว่าต้องซื้อตัวโชว์ เราพยามเข้าใจว่าเป็นนโยบายร้าน และไม่อยากถือสาเด็ก คิดว่าคงเป็นบุคลิคส่วนตัว และเราแก้ปัญหาด้วยการซื้อใบโชว์ไว้แทน เพื่อให้พี่สาวซึ่งมาจากหาดใหญ่ ได้ใบใหม่
Step 2 เรื่องรวมบิลครบ 5000 พนักงานเก็บเงินซึ่งเป็นคนละคนกับคนขายหมอน ไม่มีการแจ้งให้ลูกค้าทราบและไม่มีการแนะนำว่า ถ้าซื้อครบ 5000 จะได้ 500 และไม่อธิบายว่าต้องเป็นใบเสร็จเดียว รวมบิลไม่ได้ ก่อนจะมีการชำระเงิน ถ้า พนง จำความได้และยอมรับความจริง จะต้องจำได้ว่า เป็นคนตอบลูกค้าว่า มีกระดาษติดอยู่ จึงไม่แจ้ง (เป็นขนาด A4 ติดที่ผนังหลังเคาเตอร์เก็บเงิน หลัง พนงอีกที) ทางเราบอกว่า ถ้าน้องมีความจริงใจต่อลูกค้า ควรแนะนำ เพราะผู้ใหญ่อายุจะ 70 ก็ไม่ทันได้สังเกตป้าย อีกอย่างคุณแม่เพิ่งชำระเงินเสร็จ ลูกสาวก็รอชำระต่อทันที พนง ยืนยันว่า รวมบิลไม่ได้ แก้บิลไม่ได้ (ตอบได้แค่นั้น โดยไม่อธิบายต่อ) เราจำยอมชำระเงินอีก 1 ใบเสร็จ เพราะพี่สาวซึ่งปกติเป็นคนใจเย็นและไม่วีนใคร จึงบอกว่าไม่เป็นไร เพราะคิดว่าตั้งใจมาซื้อกลับไปฝากลูกสาวและหลาน ๆ ที่หาดใหญ่ ถ้าไม่ซื้อก็จะฝากไม่ครบ ทางเราไม่อยากให้เสียบรรยากาศและเสียความรู้สึกคนมาไกล จึงปล่อยผ่านไป
Step 3 ใช้ถุงขนาดไม่เหมาะสมกับสินค้า (ตามรูปประกอบ) ขอเปลี่ยนถุงไม่ยอม เมื่อหลานยืนยันว่าถือขึ้นเครื่องไม่สะดวก เพราะไม่มีที่จะหิ้วแล้ว พนง หยิบถุงใบใหม่แล้วเอาถุงใบเดิมของเราใส่ซ้อนเข้าไป และวางถุงคืนเราอย่างแรง ถึงตอนนี้พี่สาว พูดเบา ๆ ว่า เค้าโยนถุงให้เราเลยเหรอ แค่ขอถุงอีกใบ ผิดตรงไหน
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
จขกท นะครับ
คุณโน้ตได้โทรศัพท์ติดต่อมาเป็นการส่วนตัว เพื่อขอทราบรายละเอียดพร้อมชี้แจงและขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
พร้อมกล่าวว่าจะดูแลและสังคายนาใหม่
ขอบคุณครับ