สวัสดีครับ ผมขออนุญาตแชร์ประสบการณ์ 'กระซิบรักที่เมืองน่าน อู้คำหวานที่เมืองแพร่' เป็นทริป 3 วัน 2 คืนกับครอบครัว เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว รวมระยะทาง 1,350 กิโลเมตร โดยสรุปแพลนแต่ละวันเป็นดังนี้
วันที่ 1 : ออกเดินทาง - วัดพระธาตุสุโทนมงคลคีรี - อุทยานแห่งชาติขุนสถาน - เสาหินนาน้อย - พักที่เฮือนวาดเขียน อ.นาน้อย จ.น่าน
วันที่ 2 : ดอยเสมอดาว - วัดพระธาตุแช่แห้ง - วัดภูมินทร์ - นั่งรถรางชมเมืองน่าน - วัดพระธาตุเขาน้อย - พักที่น่านบูติกโฮเทล จ.น่าน
วันที่ 3 : วัดพระธาตุอินทร์แขวน - วัดพระธาตุดอยเล็ง - วัดพระธาตุช่อแฮ - เดินทางกลับ
********************
จุดเริ่มต้นทริป
จุดเริ่มต้นของทริปนี้เกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อประมาณ 3 ปีที่แล้ว ตอนนั้นคุณแม่ไปอ่านเจอเรื่องราวเกี่ยวกับการไหว้พระธาตุประจำปีเกิด ซึ่งสรุปได้ดังนี้
1. คุณพ่อเกิดปีชวด ต้องไหว้พระธาตุจอมทอง จ.เชียงใหม่
2. ผมเกิดปีฉลู ต้องไหว้พระธาตุลำปางหลวง จ.ลำปาง
3. คุณแม่เกิดปีขาล ต้องไหว้พระธาตุช่อแฮ จ.แพร่
4. น้องสาวเกิดปีเถาะ ต้องไหว้พระธาตุแช่แห้ง จ.น่าน
ตอนนั้นแอบคิดในใจว่า โอ้โห คุณแม่ อะไรจะขนาดนั้น ทำไมการทำบุญมันช่างยากลำบากยากเย็นเหลือเกิน นี่ถ้ามีไหว้พระธาตุวัดเส้าหลิน ผมต้องออกท่องยุทธจักรที่เมืองจีนด้วยเลยมั้ย แต่ก็ได้แค่แอบคิดในใจ กลัวคุณแม่ได้ยิน
เมื่อ 3 ปีที่แล้วจึงเกิดทริปเชียงใหม่ พวกเราสี่คนขับรถขึ้นเหนือไปไหว้พระธาตุจอมทองกับพระธาตุลำปางหลวง
ผ่านไป 3 ปี ได้ฤกษ์ที่ทุกคนว่างตรงกัน จึงเกิดเป็นทริปเก็บตกไหว้พระธาตุที่แพร่-น่านขึ้นอีกครั้งด้วยประการฉะนี้
********************
ออกเดินทาง
ออกเดินทางจากกรุงเทพ ฯ เวลาประมาณ 05.30 น. ขับรถผ่านจังหวัดปทุมธานี อยุธยา อ่างทอง สิงห์บุรี ชัยนาท อุทัยธานี นครสวรรค์ พิจิตร พิษณุโลก อุตรดิตถ์ จนถึงเมืองแพร่ เส้นทางตั้งแต่อยุธยาถึงพิษณุโลกเป็นเส้นตรงที่ขับง่ายสบายมาก แต่ตั้งแต่อุตรดิตถ์จนถึงน่านก็จะมีขึ้นลงเขาแบบชิว ๆ แล้ว
12.00 น. ถึงแยกเด่นชัย ปากทางเข้าเมืองแพร่ ผมแวะกินข้าวเที่ยงที่ 'ร้านสวนไซทอง' เป็นร้านอาหารชื่อดังของจังหวัดแพร่ มีอาหารเหนือ ไส้อั่วย่าง หมูยอ ส้มตำ ไก่ย่าง ที่เด็ดสุดน่าจะเป็นซี่โครงหมูอบ ยังอร่อยตราตรึงใจมาจนถึงวันนี้ ความเท่ของร้านนี้คือการให้บริการแบบ KFC คือ สั่งอาหาร - จ่ายเงิน - รับอาหาร - ยกไปกินที่โต๊ะด้วยตัวเอง เก๋ดี
ไส้อั่วย่างเตาดิน หอมแต๊ ๆ
********************
วัดพระธาตุสุโทนมงคลคีรี
หลังจากอิ่มหนำสำราญ ผมขับรถไปเที่ยวที่วัดพระธาตุสุโทนมงคลคีรี ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากร้านสวนไซทองและแยกเด่นชัยนัก
จุดเด่นของวัดนี้คือพระนอนขนาดใหญ่ ด้านบนมีพระธาตุที่งดงาม แต่วันที่ผมไปวัดปิดปรับปรุงพอดี เลยได้แต่ถ่ายรูปด้านนอก เสียดายมากกกกก
********************
อุทยานแห่งชาติขุนสถาน
หลังจากไหว้พระขอพรเรียบร้อยแล้ว จุดหมายต่อไปของผมคือ 'อุทยานแห่งชาติขุนสถาน' โดยวันนี้ผมจะขับรถผ่านเมืองแพร่ไปก่อนแล้วค่อยกลับมาแวะเที่ยววันสุดท้าย ขับรถตามเส้นไปเมืองน่าน ผ่านอำเภอร้องกวางไปซักพักก็จะเห็นแยกเลี้ยวขวาเข้าอุทยานแห่งชาติขุนสถาน
ถนนขึ้นดอยเส้นนี้ แม้ว่าจะสวยงามแต่ก็โหดใช้ได้ทีเดียว มีบางจุดที่ต้องลัดเลี้ยวริมหน้าผาสูง ทำเอาใจหวิว ๆ เหมือนกัน
ไฮไลท์ของอุทยานแห่งชาติขุนสถานคือ 'พญาเสือโคร่ง' ซึ่งจะผลิดอกสีชมพูงดงามประหนึ่งซากุระเมืองไทย ผมตั้งใจมาชมพญาเสือโคร่งมาก ๆ อุตส่าห์ไปหาข้อมูลว่าเมื่อปีที่แล้วพญาเสือโคร่งที่นี่ผลิดอกช่วงวันเด็ก ไอ้เราก็จัดแจงจัดทริปตอนวันเด็ก หวังจะได้เห็นพญาเสือโคร่งแบ่งบานทั่วทั้งดอย
หลังจากขึ้นมาถึงสถานีวิจัยต้นน้ำขุนสถาน ภาพที่เห็นตรงหน้าทำให้ผมต้องตะลึงงัน
เจ้าหน้าที่แจ้งว่าพญาเสือโคร่งปีนี้ออกดอกช้า น่าจะเริ่มบานอาทิตย์หน้า โถ คลาดกันจนได้
ที่สถานีวิจัยต้นน้ำขุนสถานมีบ้านพักด้วยนะครับ
วิวสวยเลยทีเดียว
กุหลาบหิน
********************
เรื่องเล่าที่นาน้อย
เนื่องจากคืนนี้ผมจะพักที่ อ.นาน้อย จ.น่าน ผมจึงต้องข้ามดอยมาลงอีกฝั่งหนึ่ง ซึ่งจะผ่านบ้านเกิดแฟนผม
แฟนผมชื่อน้ำฝนครับ เธอเกิดที่น่าน ดังนั้นทริปนี้นอกจากจะเป็นการไหว้พระธาตุตามปีเกิดของคุณแม่แล้ว ผมยังแอบตามรอยชีวิตวัยเด็กของน้ำฝนด้วย
น้ำฝนชอบเล่าถึงชีวิตวัยเด็กของเธอว่าเกิดบนดอย บนดอยปลูกกระหล่ำ ชอบเล่นกับเด็กม้ง ตอนประถมต้องนั่งรถคอกหมูลงดอยมาเรียนที่โรงเรียนประจำตำบล หน้าหนาวไปต่อแถวรับผ้าห่มที่คนมาบริจาค ฯลฯ
ตอนแรกคิดว่าน้ำฝนอำ แบบแกล้งลองใจหนุ่มกรุงเทพ ฯ ว่ารักจริงรึเปล่า น่ารักแบบน้ำฝนเนี่ยนะเป็นเด็กดอย เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด
วันนี้ขับรถผ่านอุทยานแห่งชาติขุนสถาน
เฮ้ย บนดอยปลูกกระหล่ำจริงด้วย
บ้านเกิดน้ำฝนอยู่ ต.สันทะ นึกภาพแผนที่ประเทศไทยนะ จ.น่าน อยู่ชายแดนประเทศไทย แล้ว อ.นาน้อย ก็อยู่ชายแดน จ.น่าน แล้ว ต.สันทะ ก็อยู่ชายแดน อ.นาน้อย คือเรียกได้ว่าเป็นชายแดนของชายแดนของชายแดนอะ
เวลาขับรถผ่านสถานที่ที่น้ำฝนเคยเล่าให้ฟังก็แอบขำในใจ ชีวิตเด็กดอยของน้ำฝนดูลำบากมาก เห็นแล้วอยากสนับสนุนผ้าห่มและทุนการศึกษาย้อนหลังให้เลย
อีกมุมนึงก็แอบชื่นชมนะ จากเด็กดอยในตำบลห่างไกล จบธรรมศาสตร์และมีชีวิตแบบทุกวันนี้ได้ เธอมาไกลมากจริง ๆ
********************
เสาดินนาน้อย
หากพูดถึงแพะเมืองผี จ.แพร่ คนส่วนใหญ่จะร้อง อ๋อ!
แต่พอพูดถึงเสาดินนาน้อย จ.น่าน ร้อยทั้งร้อยจะร้อง เอ๋? เขาดินอะไรนะ?
เสาดินนาน้อยเป็นสถาปัตยกรรมทางธรรมชาติ มีลักษณะเป็นเสาดินรูปร่างแปลกตา ตั้งบนพื้นที่ขนาดใหญ่ เขาบอกว่าคล้าย ๆ แพะเมืองผีที่แพร่ (ผมไม่เคยไปแพะเมืองผีเหมือนกัน) สถานที่นี้อยู่ไม่ไกลจาก อ.นาน้อย มากนัก
ตอนแรกไม่ได้ตั้งความหวังกับสถานที่นี้ซักเท่าไหร่ แบบเวลาเหลือก็แวะเข้าไปดูขำ ๆ แต่ปรากฏว่าเสาดินนาน้อยอลังการและแปลกตากว่าที่ผมคิดไว้เยอะมาก แม้ว่ามันสวยงาม มีสเน่ห์ แต่ก็ดูลึกลับ ให้มาเดินคนเดียวช่วงโพล้เพล้นี่ก็ไม่เอาเหมือนกันนะ
เสี้ยวหนึ่งของความอลังการ
นี่เป็นแค่น้ำจิ้ม ของจริงกว้างใหญ่อลังการกว่านี้มาก
********************
เฮือนวาดเขียน
หลังจากเดินชมความมหัศจรรย์ของเสาดินนาน้อย ผมกลับเข้าตัวเมืองนาน้อย แวะกินข้าวที่ 'ร้านระเบียงวิว' ติดกับปั๊ม ปตท. อาหารรสชาติใช้ได้ ในบรรยากาศ roof top (คือมี 2 ชั้น)
ได้กินปลาคังสด ๆ อากาศหนาว ๆ ชมทัศนียภาพ อ.นาน้อย ยามเย็นก็สวยงาม และทำให้สดชื่นดีเหมือนกัน
ที่พักของผมในคืนนี้ชื่อว่า 'เฮือนวาดเขียน'
สาเหตุที่เลือกมาพักที่ อ.นาน้อย แทนที่จะพักที่ตัวเมืองแพร่หรือน่านเป็นเพราะผมอยากขึ้นไปชมพระอาทิตย์ขึ้นตอนเช้าที่ดอยเสมอดาว ซึ่งถ้าให้ไปนอนเต๊นท์บนโน้น คุณพ่อคุณแม่ก็ทนความเหน็บหนาวไม่ไหว การพักที่ อ.นาน้อย ซึ่งอยู่ตีนดอยแล้วค่อยตื่นเช้าไปดูพระอาทิตย์ขึ้นจึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด
เฮือนวาดเขียนอยู่ไม่ไกลจากร้านระเบียงวิวมากนัก (คือเมืองเล็กมาก ทุกอย่างจะอยู่ใกล้กันหมด) เจ้าของคือคุณอุษณีย์น่ารักและอัธยาศัยดีมากกก ห้องพักที่นี่มี 3 หลัง ได้แก่ เฮือนข้าเจ้า เฮือนศรีน่าน และเฮือนชมดอย ส่วนชื่อรีสอร์ท 'เฮือนวาดเขียน' ผมเข้าใจว่ามาจากชื่อลูกสาวของเจ้าของ คือ เหมือนวาด กับ แม้นเขียน นั่นเอง
ผมได้พักที่ 'เฮือนศรีน่าน' ซึ่งห้องกว้างขวาง สะอาดสะอ้าน ทันสมัย ราคาไม่แพง ประทับใจสุด ๆ เข้าใจว่าแรกเริ่มเดิมทีแกคงทำบ้านเป็นโฮมสเตย์ ต่อมาก็ซื้อที่ขยับขยายออกไป เห็นที่ดินแปลงข้าง ๆ แกปลูกผักปลอดสารพิษไว้ทำอาหารให้แขกด้วย น่ารักมาก ๆ
ถ้าใครอยากไปเที่ยวดอยเสมอดาวแต่ไม่อยากนอนบนดอยแบบผม ผมแนะนำให้พักที่เฮือนวาดเขียนนี่ได้เลยนะครับ ประทับใจมาก ๆ เฮือนข้าเจ้าจะเก่าหน่อย แต่เฮือนศรีน่านกับเฮือนชมดอยนี่สวยงาม ทันสมัย ใช้ได้เลย
เฮือนศรีน่าน คุณภาพเกินราคา
เฮือนชมดอย บ้านพักหลังใหม่สุด
บรรยากาศด้านหลังรีสอร์ท กลางคืนออกมาดูดาวก็เพลินดีเหมือนกัน
คืนนั้นผมหลับตั้งแต่สามทุ่มกว่า ตื่นอีกทีตอนตีสี่ห้าสิบ
ได้เวลาขึ้นดอยเสมอดาวแล้ว
To be continued
อ่านต่อ
กระซิบรักที่เมือง 'น่าน' อู้คำหวานที่เมือง 'แพร่' ตอนที่ 2
http://ppantip.com/topic/34682715
*** ขออนุญาตฝากเพจนายอุ๊ย!! เพจสนุก ๆ ไว้ในอ้อมใจด้วยนะครับ ^^ -->
https://www.facebook.com/lovenaioui ***
กระซิบรักที่เมือง 'น่าน' อู้คำหวานที่เมือง 'แพร่' ----- ตอนที่ 1
วันที่ 1 : ออกเดินทาง - วัดพระธาตุสุโทนมงคลคีรี - อุทยานแห่งชาติขุนสถาน - เสาหินนาน้อย - พักที่เฮือนวาดเขียน อ.นาน้อย จ.น่าน
วันที่ 2 : ดอยเสมอดาว - วัดพระธาตุแช่แห้ง - วัดภูมินทร์ - นั่งรถรางชมเมืองน่าน - วัดพระธาตุเขาน้อย - พักที่น่านบูติกโฮเทล จ.น่าน
วันที่ 3 : วัดพระธาตุอินทร์แขวน - วัดพระธาตุดอยเล็ง - วัดพระธาตุช่อแฮ - เดินทางกลับ
จุดเริ่มต้นทริป
จุดเริ่มต้นของทริปนี้เกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อประมาณ 3 ปีที่แล้ว ตอนนั้นคุณแม่ไปอ่านเจอเรื่องราวเกี่ยวกับการไหว้พระธาตุประจำปีเกิด ซึ่งสรุปได้ดังนี้
1. คุณพ่อเกิดปีชวด ต้องไหว้พระธาตุจอมทอง จ.เชียงใหม่
2. ผมเกิดปีฉลู ต้องไหว้พระธาตุลำปางหลวง จ.ลำปาง
3. คุณแม่เกิดปีขาล ต้องไหว้พระธาตุช่อแฮ จ.แพร่
4. น้องสาวเกิดปีเถาะ ต้องไหว้พระธาตุแช่แห้ง จ.น่าน
ตอนนั้นแอบคิดในใจว่า โอ้โห คุณแม่ อะไรจะขนาดนั้น ทำไมการทำบุญมันช่างยากลำบากยากเย็นเหลือเกิน นี่ถ้ามีไหว้พระธาตุวัดเส้าหลิน ผมต้องออกท่องยุทธจักรที่เมืองจีนด้วยเลยมั้ย แต่ก็ได้แค่แอบคิดในใจ กลัวคุณแม่ได้ยิน
เมื่อ 3 ปีที่แล้วจึงเกิดทริปเชียงใหม่ พวกเราสี่คนขับรถขึ้นเหนือไปไหว้พระธาตุจอมทองกับพระธาตุลำปางหลวง
ผ่านไป 3 ปี ได้ฤกษ์ที่ทุกคนว่างตรงกัน จึงเกิดเป็นทริปเก็บตกไหว้พระธาตุที่แพร่-น่านขึ้นอีกครั้งด้วยประการฉะนี้
ออกเดินทาง
ออกเดินทางจากกรุงเทพ ฯ เวลาประมาณ 05.30 น. ขับรถผ่านจังหวัดปทุมธานี อยุธยา อ่างทอง สิงห์บุรี ชัยนาท อุทัยธานี นครสวรรค์ พิจิตร พิษณุโลก อุตรดิตถ์ จนถึงเมืองแพร่ เส้นทางตั้งแต่อยุธยาถึงพิษณุโลกเป็นเส้นตรงที่ขับง่ายสบายมาก แต่ตั้งแต่อุตรดิตถ์จนถึงน่านก็จะมีขึ้นลงเขาแบบชิว ๆ แล้ว
12.00 น. ถึงแยกเด่นชัย ปากทางเข้าเมืองแพร่ ผมแวะกินข้าวเที่ยงที่ 'ร้านสวนไซทอง' เป็นร้านอาหารชื่อดังของจังหวัดแพร่ มีอาหารเหนือ ไส้อั่วย่าง หมูยอ ส้มตำ ไก่ย่าง ที่เด็ดสุดน่าจะเป็นซี่โครงหมูอบ ยังอร่อยตราตรึงใจมาจนถึงวันนี้ ความเท่ของร้านนี้คือการให้บริการแบบ KFC คือ สั่งอาหาร - จ่ายเงิน - รับอาหาร - ยกไปกินที่โต๊ะด้วยตัวเอง เก๋ดี
วัดพระธาตุสุโทนมงคลคีรี
หลังจากอิ่มหนำสำราญ ผมขับรถไปเที่ยวที่วัดพระธาตุสุโทนมงคลคีรี ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากร้านสวนไซทองและแยกเด่นชัยนัก
จุดเด่นของวัดนี้คือพระนอนขนาดใหญ่ ด้านบนมีพระธาตุที่งดงาม แต่วันที่ผมไปวัดปิดปรับปรุงพอดี เลยได้แต่ถ่ายรูปด้านนอก เสียดายมากกกกก
อุทยานแห่งชาติขุนสถาน
หลังจากไหว้พระขอพรเรียบร้อยแล้ว จุดหมายต่อไปของผมคือ 'อุทยานแห่งชาติขุนสถาน' โดยวันนี้ผมจะขับรถผ่านเมืองแพร่ไปก่อนแล้วค่อยกลับมาแวะเที่ยววันสุดท้าย ขับรถตามเส้นไปเมืองน่าน ผ่านอำเภอร้องกวางไปซักพักก็จะเห็นแยกเลี้ยวขวาเข้าอุทยานแห่งชาติขุนสถาน
ถนนขึ้นดอยเส้นนี้ แม้ว่าจะสวยงามแต่ก็โหดใช้ได้ทีเดียว มีบางจุดที่ต้องลัดเลี้ยวริมหน้าผาสูง ทำเอาใจหวิว ๆ เหมือนกัน
ไฮไลท์ของอุทยานแห่งชาติขุนสถานคือ 'พญาเสือโคร่ง' ซึ่งจะผลิดอกสีชมพูงดงามประหนึ่งซากุระเมืองไทย ผมตั้งใจมาชมพญาเสือโคร่งมาก ๆ อุตส่าห์ไปหาข้อมูลว่าเมื่อปีที่แล้วพญาเสือโคร่งที่นี่ผลิดอกช่วงวันเด็ก ไอ้เราก็จัดแจงจัดทริปตอนวันเด็ก หวังจะได้เห็นพญาเสือโคร่งแบ่งบานทั่วทั้งดอย
หลังจากขึ้นมาถึงสถานีวิจัยต้นน้ำขุนสถาน ภาพที่เห็นตรงหน้าทำให้ผมต้องตะลึงงัน
เรื่องเล่าที่นาน้อย
เนื่องจากคืนนี้ผมจะพักที่ อ.นาน้อย จ.น่าน ผมจึงต้องข้ามดอยมาลงอีกฝั่งหนึ่ง ซึ่งจะผ่านบ้านเกิดแฟนผม
แฟนผมชื่อน้ำฝนครับ เธอเกิดที่น่าน ดังนั้นทริปนี้นอกจากจะเป็นการไหว้พระธาตุตามปีเกิดของคุณแม่แล้ว ผมยังแอบตามรอยชีวิตวัยเด็กของน้ำฝนด้วย
น้ำฝนชอบเล่าถึงชีวิตวัยเด็กของเธอว่าเกิดบนดอย บนดอยปลูกกระหล่ำ ชอบเล่นกับเด็กม้ง ตอนประถมต้องนั่งรถคอกหมูลงดอยมาเรียนที่โรงเรียนประจำตำบล หน้าหนาวไปต่อแถวรับผ้าห่มที่คนมาบริจาค ฯลฯ
ตอนแรกคิดว่าน้ำฝนอำ แบบแกล้งลองใจหนุ่มกรุงเทพ ฯ ว่ารักจริงรึเปล่า น่ารักแบบน้ำฝนเนี่ยนะเป็นเด็กดอย เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด
วันนี้ขับรถผ่านอุทยานแห่งชาติขุนสถาน
เฮ้ย บนดอยปลูกกระหล่ำจริงด้วย
บ้านเกิดน้ำฝนอยู่ ต.สันทะ นึกภาพแผนที่ประเทศไทยนะ จ.น่าน อยู่ชายแดนประเทศไทย แล้ว อ.นาน้อย ก็อยู่ชายแดน จ.น่าน แล้ว ต.สันทะ ก็อยู่ชายแดน อ.นาน้อย คือเรียกได้ว่าเป็นชายแดนของชายแดนของชายแดนอะ
เวลาขับรถผ่านสถานที่ที่น้ำฝนเคยเล่าให้ฟังก็แอบขำในใจ ชีวิตเด็กดอยของน้ำฝนดูลำบากมาก เห็นแล้วอยากสนับสนุนผ้าห่มและทุนการศึกษาย้อนหลังให้เลย
อีกมุมนึงก็แอบชื่นชมนะ จากเด็กดอยในตำบลห่างไกล จบธรรมศาสตร์และมีชีวิตแบบทุกวันนี้ได้ เธอมาไกลมากจริง ๆ
เสาดินนาน้อย
หากพูดถึงแพะเมืองผี จ.แพร่ คนส่วนใหญ่จะร้อง อ๋อ!
แต่พอพูดถึงเสาดินนาน้อย จ.น่าน ร้อยทั้งร้อยจะร้อง เอ๋? เขาดินอะไรนะ?
เสาดินนาน้อยเป็นสถาปัตยกรรมทางธรรมชาติ มีลักษณะเป็นเสาดินรูปร่างแปลกตา ตั้งบนพื้นที่ขนาดใหญ่ เขาบอกว่าคล้าย ๆ แพะเมืองผีที่แพร่ (ผมไม่เคยไปแพะเมืองผีเหมือนกัน) สถานที่นี้อยู่ไม่ไกลจาก อ.นาน้อย มากนัก
ตอนแรกไม่ได้ตั้งความหวังกับสถานที่นี้ซักเท่าไหร่ แบบเวลาเหลือก็แวะเข้าไปดูขำ ๆ แต่ปรากฏว่าเสาดินนาน้อยอลังการและแปลกตากว่าที่ผมคิดไว้เยอะมาก แม้ว่ามันสวยงาม มีสเน่ห์ แต่ก็ดูลึกลับ ให้มาเดินคนเดียวช่วงโพล้เพล้นี่ก็ไม่เอาเหมือนกันนะ
เฮือนวาดเขียน
หลังจากเดินชมความมหัศจรรย์ของเสาดินนาน้อย ผมกลับเข้าตัวเมืองนาน้อย แวะกินข้าวที่ 'ร้านระเบียงวิว' ติดกับปั๊ม ปตท. อาหารรสชาติใช้ได้ ในบรรยากาศ roof top (คือมี 2 ชั้น)
ได้กินปลาคังสด ๆ อากาศหนาว ๆ ชมทัศนียภาพ อ.นาน้อย ยามเย็นก็สวยงาม และทำให้สดชื่นดีเหมือนกัน
ที่พักของผมในคืนนี้ชื่อว่า 'เฮือนวาดเขียน'
สาเหตุที่เลือกมาพักที่ อ.นาน้อย แทนที่จะพักที่ตัวเมืองแพร่หรือน่านเป็นเพราะผมอยากขึ้นไปชมพระอาทิตย์ขึ้นตอนเช้าที่ดอยเสมอดาว ซึ่งถ้าให้ไปนอนเต๊นท์บนโน้น คุณพ่อคุณแม่ก็ทนความเหน็บหนาวไม่ไหว การพักที่ อ.นาน้อย ซึ่งอยู่ตีนดอยแล้วค่อยตื่นเช้าไปดูพระอาทิตย์ขึ้นจึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด
เฮือนวาดเขียนอยู่ไม่ไกลจากร้านระเบียงวิวมากนัก (คือเมืองเล็กมาก ทุกอย่างจะอยู่ใกล้กันหมด) เจ้าของคือคุณอุษณีย์น่ารักและอัธยาศัยดีมากกก ห้องพักที่นี่มี 3 หลัง ได้แก่ เฮือนข้าเจ้า เฮือนศรีน่าน และเฮือนชมดอย ส่วนชื่อรีสอร์ท 'เฮือนวาดเขียน' ผมเข้าใจว่ามาจากชื่อลูกสาวของเจ้าของ คือ เหมือนวาด กับ แม้นเขียน นั่นเอง
ผมได้พักที่ 'เฮือนศรีน่าน' ซึ่งห้องกว้างขวาง สะอาดสะอ้าน ทันสมัย ราคาไม่แพง ประทับใจสุด ๆ เข้าใจว่าแรกเริ่มเดิมทีแกคงทำบ้านเป็นโฮมสเตย์ ต่อมาก็ซื้อที่ขยับขยายออกไป เห็นที่ดินแปลงข้าง ๆ แกปลูกผักปลอดสารพิษไว้ทำอาหารให้แขกด้วย น่ารักมาก ๆ
ถ้าใครอยากไปเที่ยวดอยเสมอดาวแต่ไม่อยากนอนบนดอยแบบผม ผมแนะนำให้พักที่เฮือนวาดเขียนนี่ได้เลยนะครับ ประทับใจมาก ๆ เฮือนข้าเจ้าจะเก่าหน่อย แต่เฮือนศรีน่านกับเฮือนชมดอยนี่สวยงาม ทันสมัย ใช้ได้เลย
คืนนั้นผมหลับตั้งแต่สามทุ่มกว่า ตื่นอีกทีตอนตีสี่ห้าสิบ
ได้เวลาขึ้นดอยเสมอดาวแล้ว
To be continued
อ่านต่อ
กระซิบรักที่เมือง 'น่าน' อู้คำหวานที่เมือง 'แพร่' ตอนที่ 2 http://ppantip.com/topic/34682715
*** ขออนุญาตฝากเพจนายอุ๊ย!! เพจสนุก ๆ ไว้ในอ้อมใจด้วยนะครับ ^^ --> https://www.facebook.com/lovenaioui ***