วันที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2549 - ธนาคารแห่งประเทศไทยออกมาตรการกันสำรอง 30% เพื่อป้องกันกันเก็งกำไรค่าเงินบาท ส่งผลให้ผู้ลงทุนต่างชาติตื่นตระหนกพากันเทขายหุ้นเป็นจำนวนมาก โดยดัชนีลดลงกว่า 142.63 จุดหรือ 19.52% ซึ่งเป็นการลดลงมากที่สุดในวันเดียวในประวัติศาสาตร์ตลาดหลักทรัพย์ฯ ก่อนปิดตลาดที่ลบ 108.41 จุด หรือลดลง 14.84% และมีการใช้มาตรการCircuit Breaker เป็นครั้งแรกของตลาดในช่วงเวลา 11.26 น.ซึ่งเป็นช่วงที่ดัชนีลดลงกว่า 74.06 หรือ 10.14% จากกรณีธนาคารแห่งประเทศไทยออกมาตราการกันสำรอง 30%
วันที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2551 – ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยสั่งใช้มาตรการ Circuit Breaker 30 นาที ตั้งแต่เวลา 14.35 น. ดัชนีตลาดหลักทรัพย์อยู่ที่ 449.91 จุด ลดลง 50.08 จุด ลดลง10.02 % ทั้งนี้การปรับลดตัวลงของหุ้นไทยนั้นเป็นไปตามภูมิภาคหลายแห่งที่ร่วงแรงมากกว่า 10% เกิดจากความไม่มั่นใจของนักลงทุน หลังจากวิกฤติการเงินเริ่มลามไปสู่ภาคเศรษฐกิจจริง
27 ตุลาคม พ.ศ. 2551 – ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยสั่งใช้มาตรการเซอร์กิต Circuit Breaker 30 นาทีตั้งแต่เวลา 16.04 น. เวลานั้น ดัชนีร่วงลง 10% อยู่ที่ระดับ 389.58 จุด หรือลดลง43.29 จุด หลังเปิดการซื้อขายอีกครั้งในรอบที่ 2 ดัชนียังคงปรับลดลงต่อเนื่อง โดยปิดตลาดช่วงบ่ายที่ระดับ 387.43 จุด ลดลง 45.44 จุด หรือลดลง 10.50 % ดัชนีต่ำที่สุดในรอบ 6 ปี เนื่องจากวิกฤติสินเชื่อซับไพรม์
กรณีที่สภาวะการซื้อขายมีความผันผวนรุนแรง ราคาหลักทรัพย์โดยรวมเปลี่ยนแปลงลดลงมาก เพื่อให้นักลงทุนมีเวลาในการตรวจสอบข้อมูลข่าวสารที่มีผลกระทบต่อการลงทุนอย่างครบถ้วน ตลาดหลักทรัพย์จะหยุดทำการซื้อขายโดยอัตโนมัติเป็นการชั่วคราว ตามหลักเกณฑ์ดังนี้
ครั้งที่ 1 เมื่อ SET Index เปลี่ยนแปลงลดลงถึง 10% ของค่าดัชนีปิดในวันทำการก่อนหน้าตลาดหลักทรัพย์ จะพักการซื้อขายหลักทรัพย์ ทั้งหมดเป็นเวลา 30 นาที และ
ครั้งที่ 2 เมื่อ SET Index เปลี่ยนแปลงลดลงถึง 20% (ลดลงอีก 10%) ของค่าดัชนีปิดใน วันทำการก่อนหน้าตลาดหลักทรัพย์จะพักการซื้อขายหลักทรัพย์ทั้งหมดเป็นเวลา 1 ชั่วโมง
และหลังจากการทำงานครั้งที่ 2 ของ Circuit Breaker แล้วตลาดหลักทรัพย์จะเปิดให้ทำการซื้อขายต่อไป จนถึงเวลาปิดทำการตามปกติโดยไม่มีการหยุดพักการซื้อขายอีก
หากระยะเวลาในรอบการซื้อขายที่ Circuit Breaker ทำงานนั้นเหลือไม่ถึง 30 นาที หรือ 1 ชั่วโมง ก็ให้หยุดพัก การซื้อขายเพียงระยะเวลาที่เหลือในรอบการซื้อขายนั้นแล้วเปิดให้ซื้อขายหลักทรัพย์ได้ตามปกติในรอบ การซื้อขายถัดไป
ข้อมูลจาก : www.set.or.th/th/products/trading/equity/tradingsystem_p8.html
ปู่เซตเคยโดน Circuit Breaker ด้วยนะ....อ้าวแล้ว Circuit Breaker คืออะไร มาดูกัน!!
วันที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2549 - ธนาคารแห่งประเทศไทยออกมาตรการกันสำรอง 30% เพื่อป้องกันกันเก็งกำไรค่าเงินบาท ส่งผลให้ผู้ลงทุนต่างชาติตื่นตระหนกพากันเทขายหุ้นเป็นจำนวนมาก โดยดัชนีลดลงกว่า 142.63 จุดหรือ 19.52% ซึ่งเป็นการลดลงมากที่สุดในวันเดียวในประวัติศาสาตร์ตลาดหลักทรัพย์ฯ ก่อนปิดตลาดที่ลบ 108.41 จุด หรือลดลง 14.84% และมีการใช้มาตรการCircuit Breaker เป็นครั้งแรกของตลาดในช่วงเวลา 11.26 น.ซึ่งเป็นช่วงที่ดัชนีลดลงกว่า 74.06 หรือ 10.14% จากกรณีธนาคารแห่งประเทศไทยออกมาตราการกันสำรอง 30%
วันที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2551 – ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยสั่งใช้มาตรการ Circuit Breaker 30 นาที ตั้งแต่เวลา 14.35 น. ดัชนีตลาดหลักทรัพย์อยู่ที่ 449.91 จุด ลดลง 50.08 จุด ลดลง10.02 % ทั้งนี้การปรับลดตัวลงของหุ้นไทยนั้นเป็นไปตามภูมิภาคหลายแห่งที่ร่วงแรงมากกว่า 10% เกิดจากความไม่มั่นใจของนักลงทุน หลังจากวิกฤติการเงินเริ่มลามไปสู่ภาคเศรษฐกิจจริง
27 ตุลาคม พ.ศ. 2551 – ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยสั่งใช้มาตรการเซอร์กิต Circuit Breaker 30 นาทีตั้งแต่เวลา 16.04 น. เวลานั้น ดัชนีร่วงลง 10% อยู่ที่ระดับ 389.58 จุด หรือลดลง43.29 จุด หลังเปิดการซื้อขายอีกครั้งในรอบที่ 2 ดัชนียังคงปรับลดลงต่อเนื่อง โดยปิดตลาดช่วงบ่ายที่ระดับ 387.43 จุด ลดลง 45.44 จุด หรือลดลง 10.50 % ดัชนีต่ำที่สุดในรอบ 6 ปี เนื่องจากวิกฤติสินเชื่อซับไพรม์
กรณีที่สภาวะการซื้อขายมีความผันผวนรุนแรง ราคาหลักทรัพย์โดยรวมเปลี่ยนแปลงลดลงมาก เพื่อให้นักลงทุนมีเวลาในการตรวจสอบข้อมูลข่าวสารที่มีผลกระทบต่อการลงทุนอย่างครบถ้วน ตลาดหลักทรัพย์จะหยุดทำการซื้อขายโดยอัตโนมัติเป็นการชั่วคราว ตามหลักเกณฑ์ดังนี้
ครั้งที่ 1 เมื่อ SET Index เปลี่ยนแปลงลดลงถึง 10% ของค่าดัชนีปิดในวันทำการก่อนหน้าตลาดหลักทรัพย์ จะพักการซื้อขายหลักทรัพย์ ทั้งหมดเป็นเวลา 30 นาที และ
ครั้งที่ 2 เมื่อ SET Index เปลี่ยนแปลงลดลงถึง 20% (ลดลงอีก 10%) ของค่าดัชนีปิดใน วันทำการก่อนหน้าตลาดหลักทรัพย์จะพักการซื้อขายหลักทรัพย์ทั้งหมดเป็นเวลา 1 ชั่วโมง
และหลังจากการทำงานครั้งที่ 2 ของ Circuit Breaker แล้วตลาดหลักทรัพย์จะเปิดให้ทำการซื้อขายต่อไป จนถึงเวลาปิดทำการตามปกติโดยไม่มีการหยุดพักการซื้อขายอีก
หากระยะเวลาในรอบการซื้อขายที่ Circuit Breaker ทำงานนั้นเหลือไม่ถึง 30 นาที หรือ 1 ชั่วโมง ก็ให้หยุดพัก การซื้อขายเพียงระยะเวลาที่เหลือในรอบการซื้อขายนั้นแล้วเปิดให้ซื้อขายหลักทรัพย์ได้ตามปกติในรอบ การซื้อขายถัดไป
ข้อมูลจาก : www.set.or.th/th/products/trading/equity/tradingsystem_p8.html