มีคำที่อาจารย์ บังคับอยู่ 10 คำในนั้น รบกวนช่วยติหน่อยนะคะ อายที่จะให้เพื่อนๆ อ่าน 5555
ด้วยความคิดถึง
ยามเย็นอันเงียบสงบท่ามกลางแสงแดดอบอุ่นสีทองสาดส่องลอดผ่านม่านทิวสน สะท้อนเป็นเงากิ่งไม้วูบไหวยามต้องสายลมอยู่เบื้องล่างพื้นถนน เสียงซ่าๆ เป็นระรอกเมื่อน้ำทะเลสีฟ้าครามถูกซัดเข้าหาดทรายขาว ดวงตะวันที่ทำหน้าที่ให้แสงสว่างเป็นกิจวัตรกำลังลาลับขอบฟ้าตัดกับพื้นน้ำ งดงามราวกับภาพวาดของศิลปินระดับโลก
ทว่าแท้จริงแล้วในความสวยงามกลับมีความโหดร้ายแฝงอยู่ในนั้น สายตาที่เริ่มจะพร่ามัวและริ้วรอยบนใบหน้าบ่งบอกถึงประสบการณ์การใช้ชีวิตอย่างโชกโชนของชายวัยชราทอดมองผืนน้ำที่สงบนิ่งอย่างไร้จุดหมาย วันนี้เมื่อหลายสิบปีก่อน ณ สถานที่แห่งนี้เป็นความทรงจำที่ฝังแน่นยากจะลืมได้ลงของเขา ไม่ไกลจากจุดที่เขายืนมีพาหนะคู่ใจจอดอยู่ไม่ไกลนัก เป็นจักรยานทรงโบราณคันโปรดที่เขาใช้กว่า 30 ปีมาแล้ว ด้วยความรักและดูแลเป็นอย่างดี ทำให้จักรยานยังดูไม่เก่าเหมือนอายุการใช้งานของมันนัก ตะกร้าสานทรงกลมบรรจุดอกเดซี่เต็มความจุที่เขานำติดตัวมาด้วยถูกวางลงชายหาดสีขาวอย่างบรรจง ชายชราหลับตาลงช้าๆ ปล่อยจิตใจดำดิ่งลงสู่ห้วงอารมณ์ ความคิดถึง ความเสียใจ ความห่วงหา ถาโถมเข้ามาทำให้เขาหวนกลับไปนึกถึงเรื่องราวในวันนั้นอีกครั้ง...
เสียงหัวเราะของเด็กชายวัย 10 ขวบ และ 7 ขวบสองคน ที่วิ่งเล่นอยู่ริมชายหาดดังก้องไปทั่วบริเวณ แม้ว่าเขาทั้งสองจะมาเที่ยวทะเลหลายครั้งแล้วก็ตามแต่ทุกครั้งที่มาพวกเขาต่างตื่นเต้นเสมอครั้งนี้ก็เช่นเคย บอลที่เตรียมมาจากบ้านปลิวไปมาตามแรงผลักที่เขาทั้งคู่โต้ตอบกันไปมา ด้วยวัยที่ยังเด็กจึงถูกพ่อแม่สั่งห้ามลงเล่นน้ำหากไม่มีท่านทั้งสองอยู่ด้วยโดยเด็ดขาด ท้องฟ้าเริ่มครึ้มลง ผู้คนที่เล่นน้ำบางตาลงจนแทบจะเหลือเพียงเด็กชายคู่นี้เท่านั้น ด้วยความชะล่าใจว่าบ้านพักอยู่ใกล้เพียงเดินพ้นชายหาดและข้ามฝั่งถนนก็ถึง ทำให้เด็กทั้งสองเล่นโยนบอลต่อไปโดยไม่สนใจเวลา แสงไฟจากร้านค้าข้างทางฝั่งตรงข้ามทะเลสาดส่องให้เห็นรำไร
พวกเขายังคงโยนบอลส่งให้กันต่อจนกระทั่งบอลหลุดมือชายผู้เป็นน้องและถูกคลื่นซัดลงทะเลไป ชายผู้พี่เสียสละลงไปเก็บบอลเนื่องจากตนเป็นพี่และตัวสูงกว่าน้อง หารู้ไม่ว่าคลื่นที่ซัดมาในตอนพลบค่ำได้ดูดเอาทรายไหลลงทะเลกลายเป็นแอ่งน้ำขนาดใหญ่อยู่ใต้น้ำ ชายผู้พี่เดินลงไปเก็บบอลที่ลอยออกห่างจากฝั่งไปเรื่อยๆ เขาลงไปอยู่ใต้น้ำครึ่งตัวแล้ว สุดมือจะเอื้อมถึงมีคลื่นลูกใหญ่ซัดเข้าชายฝั่งอย่างแรงทำให้ตัวเขาถูกพัดไปลึกกว่าเดิมและไปอยู่จุดที่เขาไม่สามารถเหยียบพื้นทรายข้างล่างได้ ชายผู้พี่ตะเกียดตะกายร้องขอความช่วยเหลือท่ามกลางคลื่นทะเลที่แรงขึ้นและเรียวแรงที่กำลังจะหมดลง ชายผู้เป็นน้องด้วยเด็กยังไม่รู้เดียงสามองเห็นพี่ชายกำลังจะจมน้ำจึงวิ่งไปถนนฝั่งตรงข้ามเพื่อขอความช่วยเหลือและบอกกับพ่อแม่ของตน เมื่อกลับมายังจุดเกิดเหตุกลับไม่พบพี่ชายของตนเสียแล้ว ชาวบ้านและผู้คนละแวกนั้นต่างร่วมมือกันค้นหาพี่ชายเขาอย่างเต็มที่ พ่อแม่ร่ำไห้แทบขาดใจ เขาก็แทบจะมองไม่เห็นอะไรเลยเพราะสายน้ำที่รินไหลจากสองตาบดบังทุกอย่าง
เวลาผ่านไปเท่าไหร่ไม่ทราบได้ แต่เขารู้สึกว่ามันช่างนานแสนนาน เสียงไซเรนของรถกู้ภัยดังมาแต่ไกล ทีมกู้ภัยเข้ามาช่วยค้นหาพี่ชายเขาได้ไม่นานนัก ก็มีเสียงตะโกนมาบอกว่า ‘เจอแล้ว!’ ร่างของเด็กผู้พี่ถูกนำขึ้นมาจากน้ำหลายคนช่วยปั้มหัวใจหวังว่าเขาจะยังมีชีวิตอยู่ ทว่าปาฏิหาริย์ไม่มีจริง พี่ชายได้จากเขาไปโดยไม่มีวันได้หวนกลับตลอดกาล เด็กชายยืนมองร่างอันซีดเซียวที่ถูกพ่อแม่โอบกอดไว้ทั้งน้ำตา ราวกับว่าโทรทัศน์ที่กำลังฉายภาพสีสดใสกลายเป็นภาพขาวดำและมืดสนิทไปในที่สุด ความผิดที่เขาทำให้พี่ชายต้องตาย ภาพพี่ชายกำลังจมหายไป เป็นดั่งตราบาปที่เขาไม่มีวันลืมมัน…
ชายชราปาดหยาดน้ำตาใสที่ไหลรินตามริ้วรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้าทิ้ง เงยหน้าขึ้นมองฟ้าที่บัดนี้กลายเป็นสีม่วงช้ำ แล้วพูดเบาๆ ว่า ‘แล้วปีหน้าผมจะมาหาพี่ใหม่นะครับ’ ก่อนจะเดินกลับไปที่รถจักรยานจูงสองล้อคู่ใจหายลับไปในทิวสนที่เรียงรายอยู่สองฝั่งถนน
ปล. แท็กการศึกษา เพราะเป็นวิชาเรียนของ จขกท แท็กนักเขียน เพราะเรียนเอกการเขียนข่าวและเขียนหนังสือ
รบกวนติงานเขียนเราทีค่ะ ต้องส่งอาจารย์แต่เราไม่มั่นใจเลย
ด้วยความคิดถึง
ยามเย็นอันเงียบสงบท่ามกลางแสงแดดอบอุ่นสีทองสาดส่องลอดผ่านม่านทิวสน สะท้อนเป็นเงากิ่งไม้วูบไหวยามต้องสายลมอยู่เบื้องล่างพื้นถนน เสียงซ่าๆ เป็นระรอกเมื่อน้ำทะเลสีฟ้าครามถูกซัดเข้าหาดทรายขาว ดวงตะวันที่ทำหน้าที่ให้แสงสว่างเป็นกิจวัตรกำลังลาลับขอบฟ้าตัดกับพื้นน้ำ งดงามราวกับภาพวาดของศิลปินระดับโลก
ทว่าแท้จริงแล้วในความสวยงามกลับมีความโหดร้ายแฝงอยู่ในนั้น สายตาที่เริ่มจะพร่ามัวและริ้วรอยบนใบหน้าบ่งบอกถึงประสบการณ์การใช้ชีวิตอย่างโชกโชนของชายวัยชราทอดมองผืนน้ำที่สงบนิ่งอย่างไร้จุดหมาย วันนี้เมื่อหลายสิบปีก่อน ณ สถานที่แห่งนี้เป็นความทรงจำที่ฝังแน่นยากจะลืมได้ลงของเขา ไม่ไกลจากจุดที่เขายืนมีพาหนะคู่ใจจอดอยู่ไม่ไกลนัก เป็นจักรยานทรงโบราณคันโปรดที่เขาใช้กว่า 30 ปีมาแล้ว ด้วยความรักและดูแลเป็นอย่างดี ทำให้จักรยานยังดูไม่เก่าเหมือนอายุการใช้งานของมันนัก ตะกร้าสานทรงกลมบรรจุดอกเดซี่เต็มความจุที่เขานำติดตัวมาด้วยถูกวางลงชายหาดสีขาวอย่างบรรจง ชายชราหลับตาลงช้าๆ ปล่อยจิตใจดำดิ่งลงสู่ห้วงอารมณ์ ความคิดถึง ความเสียใจ ความห่วงหา ถาโถมเข้ามาทำให้เขาหวนกลับไปนึกถึงเรื่องราวในวันนั้นอีกครั้ง...
เสียงหัวเราะของเด็กชายวัย 10 ขวบ และ 7 ขวบสองคน ที่วิ่งเล่นอยู่ริมชายหาดดังก้องไปทั่วบริเวณ แม้ว่าเขาทั้งสองจะมาเที่ยวทะเลหลายครั้งแล้วก็ตามแต่ทุกครั้งที่มาพวกเขาต่างตื่นเต้นเสมอครั้งนี้ก็เช่นเคย บอลที่เตรียมมาจากบ้านปลิวไปมาตามแรงผลักที่เขาทั้งคู่โต้ตอบกันไปมา ด้วยวัยที่ยังเด็กจึงถูกพ่อแม่สั่งห้ามลงเล่นน้ำหากไม่มีท่านทั้งสองอยู่ด้วยโดยเด็ดขาด ท้องฟ้าเริ่มครึ้มลง ผู้คนที่เล่นน้ำบางตาลงจนแทบจะเหลือเพียงเด็กชายคู่นี้เท่านั้น ด้วยความชะล่าใจว่าบ้านพักอยู่ใกล้เพียงเดินพ้นชายหาดและข้ามฝั่งถนนก็ถึง ทำให้เด็กทั้งสองเล่นโยนบอลต่อไปโดยไม่สนใจเวลา แสงไฟจากร้านค้าข้างทางฝั่งตรงข้ามทะเลสาดส่องให้เห็นรำไร
พวกเขายังคงโยนบอลส่งให้กันต่อจนกระทั่งบอลหลุดมือชายผู้เป็นน้องและถูกคลื่นซัดลงทะเลไป ชายผู้พี่เสียสละลงไปเก็บบอลเนื่องจากตนเป็นพี่และตัวสูงกว่าน้อง หารู้ไม่ว่าคลื่นที่ซัดมาในตอนพลบค่ำได้ดูดเอาทรายไหลลงทะเลกลายเป็นแอ่งน้ำขนาดใหญ่อยู่ใต้น้ำ ชายผู้พี่เดินลงไปเก็บบอลที่ลอยออกห่างจากฝั่งไปเรื่อยๆ เขาลงไปอยู่ใต้น้ำครึ่งตัวแล้ว สุดมือจะเอื้อมถึงมีคลื่นลูกใหญ่ซัดเข้าชายฝั่งอย่างแรงทำให้ตัวเขาถูกพัดไปลึกกว่าเดิมและไปอยู่จุดที่เขาไม่สามารถเหยียบพื้นทรายข้างล่างได้ ชายผู้พี่ตะเกียดตะกายร้องขอความช่วยเหลือท่ามกลางคลื่นทะเลที่แรงขึ้นและเรียวแรงที่กำลังจะหมดลง ชายผู้เป็นน้องด้วยเด็กยังไม่รู้เดียงสามองเห็นพี่ชายกำลังจะจมน้ำจึงวิ่งไปถนนฝั่งตรงข้ามเพื่อขอความช่วยเหลือและบอกกับพ่อแม่ของตน เมื่อกลับมายังจุดเกิดเหตุกลับไม่พบพี่ชายของตนเสียแล้ว ชาวบ้านและผู้คนละแวกนั้นต่างร่วมมือกันค้นหาพี่ชายเขาอย่างเต็มที่ พ่อแม่ร่ำไห้แทบขาดใจ เขาก็แทบจะมองไม่เห็นอะไรเลยเพราะสายน้ำที่รินไหลจากสองตาบดบังทุกอย่าง
เวลาผ่านไปเท่าไหร่ไม่ทราบได้ แต่เขารู้สึกว่ามันช่างนานแสนนาน เสียงไซเรนของรถกู้ภัยดังมาแต่ไกล ทีมกู้ภัยเข้ามาช่วยค้นหาพี่ชายเขาได้ไม่นานนัก ก็มีเสียงตะโกนมาบอกว่า ‘เจอแล้ว!’ ร่างของเด็กผู้พี่ถูกนำขึ้นมาจากน้ำหลายคนช่วยปั้มหัวใจหวังว่าเขาจะยังมีชีวิตอยู่ ทว่าปาฏิหาริย์ไม่มีจริง พี่ชายได้จากเขาไปโดยไม่มีวันได้หวนกลับตลอดกาล เด็กชายยืนมองร่างอันซีดเซียวที่ถูกพ่อแม่โอบกอดไว้ทั้งน้ำตา ราวกับว่าโทรทัศน์ที่กำลังฉายภาพสีสดใสกลายเป็นภาพขาวดำและมืดสนิทไปในที่สุด ความผิดที่เขาทำให้พี่ชายต้องตาย ภาพพี่ชายกำลังจมหายไป เป็นดั่งตราบาปที่เขาไม่มีวันลืมมัน…
ชายชราปาดหยาดน้ำตาใสที่ไหลรินตามริ้วรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้าทิ้ง เงยหน้าขึ้นมองฟ้าที่บัดนี้กลายเป็นสีม่วงช้ำ แล้วพูดเบาๆ ว่า ‘แล้วปีหน้าผมจะมาหาพี่ใหม่นะครับ’ ก่อนจะเดินกลับไปที่รถจักรยานจูงสองล้อคู่ใจหายลับไปในทิวสนที่เรียงรายอยู่สองฝั่งถนน
ปล. แท็กการศึกษา เพราะเป็นวิชาเรียนของ จขกท แท็กนักเขียน เพราะเรียนเอกการเขียนข่าวและเขียนหนังสือ