การเตรียมความพร้อมในการ สมัครงาน
การเตรียมตัวหางาน สมัครงานในยุคปัจจุบันควรจะเริ่มตั้งแต่ก่อนจบการศึกษา หรือขณะที่ยังเป็นนักศึกษาอยู่ กล่าวคือไม่ว่าเรายังเป็นนักศึกษาก็ควรเริ่มมองหางาน เพื่อฝึกงาน ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ หาประสบการณ์ เตรียมความพร้อม สู่โลกอาชีพในอนาคต อย่างคำกล่าวที่ว่า “ฟอร์มดี มีชัยไปกว่าครึ่ง” นั่นคือ การเตรียมพร้อมที่ดี ย่อมได้เปรียบนั่นเอง ส่วนความเชื่อที่ว่า เรียนเก่งหรือเรียนดี แล้วจะหางานง่ายนั้น อาจจะไม่จริงเสมอไปในยุคปัจจุบัน การรับคนเข้าทำงานในทุกวันนี้นั้นจะพิจารณาสิ่งอื่นๆประกอบด้วย เช่น บุคลิกภาพ ความคล่องตัว ความอดทน ความเป็นคนมีปฏิภาณไหวพริบ เป็นต้น การเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องราวต่างๆในการหางานหรือสมัครงานจึงเป็นการเตรียมพร้อมที่ดีและควรทำ โปรดระลึกว่า การจะไปหางานหรือสมัครงานนั้น เราควรจะมีสิ่งที่น่าสนใจในตัวเรา และสิ่งที่น่าสนใจนั้นต้องเป็นสิ่งที่ผู้รับสมัครเขาสนใจด้วย เพราะการสมัครงาน สัมภาษณ์งาน ก็เหมือนกับการไปเสนอขายสินค้า ซึ่งสินค้านั้นก็คือตัวเรา และความสามารถของเรา การจะขายสินค้าให้ได้จำเป็นจะต้องมีเทคนิควิธีการต่างๆ ที่จะทำให้ผู้ซื้อสนใจและเห็นคุณค่าของสินค้าพร้อมกับที่อยากจะได้สินค้านั้นไว้ ดังนั้น เราจำเป็นที่จะต้องเตรียมตัวให้ดี เตรียมตัวให้พร้อมเพื่อเสนอขายตัวเราเองให้เป็นที่สนใจของผู้รับสมัครให้ได้ ถ้าเราสามารถทำได้ โอกาสที่เราจะได้งานก็จะมีมากขึ้น
เนื้อหาสาระที่จะนำมากล่าวต่อไปนี้ เป็นขั้นตอนหรือวิธีการเตรียมความพร้อมก่อนการสมัครงาน ก่อนหางานทำ ควรเตรียมความพร้อมดังนี้ 1. รู้จักตนเอง 2. มองหาแหล่งงาน 3. ศึกษาการเขียนเอกสารประวัติย่อ เช่น Resume, จดหมายสมัครงาน, การเขียนใบสมัคร และ 4. เตรียมพร้อมสำหรับการสัมภาษณ์งาน
1. รู้จักตนเอง
ผู้สมัครงานควรจะต้องสำรวจตัวเองให้ดีเสียก่อนว่าเรามีจุดเด่นจุดด้อยตรงไหน มีความรู้ มีทักษะ ความสามารถ อะไรบ้างและ มีความชอบอะไร สิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยสำคัญที่เราจะต้องรู้ให้ชัดเจนก่อนการสมัครงาน เพราะเมื่อรู้จักตนเองแล้ว จะทราบว่า เราพร้อมทำงานแล้วหรือยัง? เราเหมาะที่จะทำงานประเภทใด? และเรามีคุณสมบัติเหมาะสมกับตำแหน่งงานที่จะสมัครหรือไม่?
ขั้นตอนการรู้จักตนเอง
1) ค้นหาทักษะ (Skills)
ไม่ว่าคุณจะทำงานอะไร คุณย่อมต้องมีทักษะ และคุณย่อมต้องใช้ทักษะความสามารถในการทำงาน โดย ทักษะ (Skills) แบ่งออกได้ 3 แบบ คือ
(1) ทักษะที่เกิดจากการเรียนรู้ เช่น ทักษะในการขับรถ พูดภาษาต่างประเทศ การใช้คอมพิวเตอร์
(2) ทักษะที่ติดตัวที่ติดตัวเรามาและสามารถพัฒนาให้ดีขึ้นได้ เช่น การวาดรูป ร้องเพลง
(3) ทักษะที่ได้จากสิ่งแวดล้อมไม่ว่าจะเป็นบ้าน ที่ทำงาน โรงเรียน เช่น ทักษะการเข้ากลุ่มเพื่อน ทักษะการเป็นผู้นำ การเจรจา การประสานงาน เป็นต้น
งานแต่ละชนิดเมื่อจำแนกหน้าที่ของงานออกแล้วจะประกอบด้วย กิจกรรมหลายอย่าง ซึ่งแต่ละ กิจกรรมก็จะประกอบไปด้วยทักษะมากมาย เช่น อาชีพเซลล์ มีกิจกรรมทางด้านการขาย ติดต่อลูกค้า ทักษะมีทั้งการพูด การเจรจา การใช้คอมพิวเตอร์ และการขับรถ เป็นต้น
2) สำรวจจุดเด่นของตัวเอง (Personalities)
จุดเด่น หมายถึงลักษณะทางบุคลิกภาพ ซึ่งทุกคนมีบุคลิกภาพแตกต่างกันไปและงานทุกงานต้องการคนที่มีบุคลิกภาพเฉพาะด้าน เช่น พนักงานบัญชี ควรจะเป็นคนที่มีความละเอียดรอบคอบ งานขายหรืองานประชาสัมพันธ์ ควรจะเป็นคนที่เข้ากับคนอื่นได้ง่าย รู้จักการบริหารจัดการเกี่ยวกับคน เป็นต้น
3) สำรวจเป้าหมายของการทำงาน
เป้าหมายของการทำงาน คือความสำเร็จสัมฤทธิผล โดยให้เราคิดถึงผลสัมฤทธิ์ของการทำงานที่ทำให้เรารู้สึกประทับใจมาทัก 4-5 ข้อ แล้วนำมารวบรวมเก็บไว้เป็นองค์ประกอบในการสมัครงาน
2. มองหาแหล่งงาน
วิธีการมองหาแหล่งงานมีมากมายหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการดูจากสื่อสิ่งพิมพ์, การแนะนำจากญาติมิตรเพื่อนฝูง, การติดต่อผ่านบริษัทจัดหางาน หรือแม้กระทั่งหน่วยแนะแนวจัดหางานของทางสถาบันการศึกษาที่เราเรียนอยู่ เป็นต้น แต่ในยุคปัจจุบัน ที่สื่ออินเตอร์เน็ตได้เข้ามามีบทบาทอย่างมากในการหางาน ผู้สมัครงานสามารถเข้าไปค้นหาตำแหน่งงานว่างที่ต้องการได้จากเว็บไซต์หางาน ตัวอย่างเช่น
www.aecjoblisting.com เว็บไซต์หางานเป็นสื่อที่ดีที่สุดทีใช้ในการหางานในยุคปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นงาน พาร์ทไทม์ งานประจำ มีการศึกษาตั้งแต่ระดับมัธยมต้น มัธยมปลาย ปวช ปวส ปริญาตรี ปริญญาโท ข้อดีสำหรับผู้สมัครงานก็คือ
ผู้สมัครงานสามารถค้นหางาน หรือค้นหาตำแหน่งว่างได้ในปริมาณมากกว่าการค้นหาจากสื่ออื่นๆ เช่น ป้ายประกาศตามหน้าบริษัทต่างๆ, บริษัทจัดหางาน, หรือหนังสือพิมพ์ เป็นต้น
ผู้สมัครงานสามารถเลือกหางานที่ปรากฏในเว็บไซต์หางาน (
aecjoblisting.com) ที่อยู่ในเขตใกล้บ้านหรือสถานที่ทำงานที่ตนสนใจ นอกจากนั้นคุณยังสามารถสมัครงานต่างประเทศได้อีกด้วยหากว่าคุณมีความสนใจทำงานที่ต่างประเทศ (อย่างน้อยก็แถบประเทศ AEC ของเรา เช่น พม่า ลาว เวียดนาม สิงคโปร์ มาเลเซีย เป็นต้น)
มีคำแนะนำเกี่ยวกับการเขียนใบสมัคร และ Resume ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ให้แก่ผู้สมัครงาน (
https://www.aecjoblisting.com/advice/)
ผู้สมัครงานสามารถส่งใบสมัครและ Resume ไปให้กับองค์กรผ่าทางระบบได้ทันที
มีระบบแนะนำงานที่น่าสนใจให้กับผู้สมัครงาน ซึ่ผู้สมัครงานสามารถตั้งระบบให้จัดส่งเป็นอีเมล์เป็นรายวัน รายสัปดาห์ หรือรายเดือนได้
สะดวกต่อการใช้งาน เพราะผู้สมัครงานสามารถเปิดเว็บไซต์ได้ผ่านทางคอมพิวเตอร์ทั่วไปหรือทางมือถือ แทบเลต อีกด้วย
3. ศึกษาการเขียนเอกสารประวัติย่อ เช่น Resume, จดหมายสมัครงาน, การเขียนใบสมัคร
การศึกษาเรื่องการเขียนประวัติย่อ หรือเรซูเม่ (Resume) การเขียนจดหมายสมัครงานหรือใบสมัครงาน เป็นสิ่งที่สำคัญมากของผู้สมัครงาน เพราะเรซูเม่คือใบเบิกทางใบแรกให้ผู้สมัครงานได้มีโอกาสโชว์ความสามารถ โชว์บุคลิกภาพ หน้าตา ต่อนายจ้าง เมื่อผู้สมัครงานค้นหางานที่ต้องการสมัครแล้วผู้สมัครงานจะต้องส่งเรซูเม่หรือประวัติย่อให้นายจ้างพิจารณา ยิ่งเรซูเม่เขียนดีมากแค่ไหนนายจ้างก็จะยิ่งเห็นความสามารถของคุณมากเท่านั้นและโอกาสในการได้งานของคุณก็จะมากขึ้นด้วย เข้าทำนองที่ว่า “เรซูเม่ดี มีชัยไปกว่าครึ่ง” นั่นเอง
เรซูเม่ในยุคปัจจุบัน ไม่ได้อยู่ในรูปแบบกระดาษเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป แต่ผู้สมัครงานสามารถสร้างรูซูเม่ดีๆได้โดยการสร้างผ่านระบบของเว็บไซต์หางาน (ตัวอย่าง
www.aecjoblisting.com) และนอกตาการเขียนเรซูเม่แบบทั่วไปแล้ว ผู้สมัครงานยังสามารถแนบตัวอย่างผลงานหรือประสบการณ์ทำงานในรูปแบบเว็บไซต์ลิ้ง อีกทั้งยังสามารถสร้างวีดีโอเรซูเม่ เพื่อเพิ่มโอกาสในการได้งานอีกด้วย (ตัวอย่างการสร้างวีดีโอเรซูเม่
www.aecjoblisting.com/advice/vdo-resume-วีดีโอเรซูเม่/ )
4.เตรียมพร้อมสำหรับการสัมภาษณ์งาน
เรื่องสุดท้ายที่สำคัญมากกับผู้สมัครงาน คือ การเตรียมตัวให้พร้อมกับการสัมภาษณ์งาน เมื่อรูซเม่ของคุณสมารถดึงดูดนายจ้างให้เรียกคุณมาสัมภาษณ์งานแล้ว อย่าลืมสร้างความประทับใจแรกพบให้กับนายจ้างด้วยการเตรียมพร้อมการสัมภาษณ์งานให้ดี ผู้สมัครงานควรจะเรียนรู้ตั้งแต่เรื่องการแต่งกายไปสัมภาษณ์งาน การเตรียมตอบคำถามสัมภาษณ์งาน มารยาทในห้องสัมภาษณ์งาน และมารยาทภายหลังการสัมภาษณ์งาน ซึ่งผู้สมัครงานสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
www.aecjoblisting.com/advice/
AEC Job Listing
การเตรียมความพร้อมในการ สมัครงาน
การเตรียมตัวหางาน สมัครงานในยุคปัจจุบันควรจะเริ่มตั้งแต่ก่อนจบการศึกษา หรือขณะที่ยังเป็นนักศึกษาอยู่ กล่าวคือไม่ว่าเรายังเป็นนักศึกษาก็ควรเริ่มมองหางาน เพื่อฝึกงาน ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ หาประสบการณ์ เตรียมความพร้อม สู่โลกอาชีพในอนาคต อย่างคำกล่าวที่ว่า “ฟอร์มดี มีชัยไปกว่าครึ่ง” นั่นคือ การเตรียมพร้อมที่ดี ย่อมได้เปรียบนั่นเอง ส่วนความเชื่อที่ว่า เรียนเก่งหรือเรียนดี แล้วจะหางานง่ายนั้น อาจจะไม่จริงเสมอไปในยุคปัจจุบัน การรับคนเข้าทำงานในทุกวันนี้นั้นจะพิจารณาสิ่งอื่นๆประกอบด้วย เช่น บุคลิกภาพ ความคล่องตัว ความอดทน ความเป็นคนมีปฏิภาณไหวพริบ เป็นต้น การเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องราวต่างๆในการหางานหรือสมัครงานจึงเป็นการเตรียมพร้อมที่ดีและควรทำ โปรดระลึกว่า การจะไปหางานหรือสมัครงานนั้น เราควรจะมีสิ่งที่น่าสนใจในตัวเรา และสิ่งที่น่าสนใจนั้นต้องเป็นสิ่งที่ผู้รับสมัครเขาสนใจด้วย เพราะการสมัครงาน สัมภาษณ์งาน ก็เหมือนกับการไปเสนอขายสินค้า ซึ่งสินค้านั้นก็คือตัวเรา และความสามารถของเรา การจะขายสินค้าให้ได้จำเป็นจะต้องมีเทคนิควิธีการต่างๆ ที่จะทำให้ผู้ซื้อสนใจและเห็นคุณค่าของสินค้าพร้อมกับที่อยากจะได้สินค้านั้นไว้ ดังนั้น เราจำเป็นที่จะต้องเตรียมตัวให้ดี เตรียมตัวให้พร้อมเพื่อเสนอขายตัวเราเองให้เป็นที่สนใจของผู้รับสมัครให้ได้ ถ้าเราสามารถทำได้ โอกาสที่เราจะได้งานก็จะมีมากขึ้น
เนื้อหาสาระที่จะนำมากล่าวต่อไปนี้ เป็นขั้นตอนหรือวิธีการเตรียมความพร้อมก่อนการสมัครงาน ก่อนหางานทำ ควรเตรียมความพร้อมดังนี้ 1. รู้จักตนเอง 2. มองหาแหล่งงาน 3. ศึกษาการเขียนเอกสารประวัติย่อ เช่น Resume, จดหมายสมัครงาน, การเขียนใบสมัคร และ 4. เตรียมพร้อมสำหรับการสัมภาษณ์งาน
1. รู้จักตนเอง
ผู้สมัครงานควรจะต้องสำรวจตัวเองให้ดีเสียก่อนว่าเรามีจุดเด่นจุดด้อยตรงไหน มีความรู้ มีทักษะ ความสามารถ อะไรบ้างและ มีความชอบอะไร สิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยสำคัญที่เราจะต้องรู้ให้ชัดเจนก่อนการสมัครงาน เพราะเมื่อรู้จักตนเองแล้ว จะทราบว่า เราพร้อมทำงานแล้วหรือยัง? เราเหมาะที่จะทำงานประเภทใด? และเรามีคุณสมบัติเหมาะสมกับตำแหน่งงานที่จะสมัครหรือไม่?
ขั้นตอนการรู้จักตนเอง
1) ค้นหาทักษะ (Skills)
ไม่ว่าคุณจะทำงานอะไร คุณย่อมต้องมีทักษะ และคุณย่อมต้องใช้ทักษะความสามารถในการทำงาน โดย ทักษะ (Skills) แบ่งออกได้ 3 แบบ คือ
(1) ทักษะที่เกิดจากการเรียนรู้ เช่น ทักษะในการขับรถ พูดภาษาต่างประเทศ การใช้คอมพิวเตอร์
(2) ทักษะที่ติดตัวที่ติดตัวเรามาและสามารถพัฒนาให้ดีขึ้นได้ เช่น การวาดรูป ร้องเพลง
(3) ทักษะที่ได้จากสิ่งแวดล้อมไม่ว่าจะเป็นบ้าน ที่ทำงาน โรงเรียน เช่น ทักษะการเข้ากลุ่มเพื่อน ทักษะการเป็นผู้นำ การเจรจา การประสานงาน เป็นต้น
งานแต่ละชนิดเมื่อจำแนกหน้าที่ของงานออกแล้วจะประกอบด้วย กิจกรรมหลายอย่าง ซึ่งแต่ละ กิจกรรมก็จะประกอบไปด้วยทักษะมากมาย เช่น อาชีพเซลล์ มีกิจกรรมทางด้านการขาย ติดต่อลูกค้า ทักษะมีทั้งการพูด การเจรจา การใช้คอมพิวเตอร์ และการขับรถ เป็นต้น
2) สำรวจจุดเด่นของตัวเอง (Personalities)
จุดเด่น หมายถึงลักษณะทางบุคลิกภาพ ซึ่งทุกคนมีบุคลิกภาพแตกต่างกันไปและงานทุกงานต้องการคนที่มีบุคลิกภาพเฉพาะด้าน เช่น พนักงานบัญชี ควรจะเป็นคนที่มีความละเอียดรอบคอบ งานขายหรืองานประชาสัมพันธ์ ควรจะเป็นคนที่เข้ากับคนอื่นได้ง่าย รู้จักการบริหารจัดการเกี่ยวกับคน เป็นต้น
3) สำรวจเป้าหมายของการทำงาน
เป้าหมายของการทำงาน คือความสำเร็จสัมฤทธิผล โดยให้เราคิดถึงผลสัมฤทธิ์ของการทำงานที่ทำให้เรารู้สึกประทับใจมาทัก 4-5 ข้อ แล้วนำมารวบรวมเก็บไว้เป็นองค์ประกอบในการสมัครงาน
2. มองหาแหล่งงาน
วิธีการมองหาแหล่งงานมีมากมายหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการดูจากสื่อสิ่งพิมพ์, การแนะนำจากญาติมิตรเพื่อนฝูง, การติดต่อผ่านบริษัทจัดหางาน หรือแม้กระทั่งหน่วยแนะแนวจัดหางานของทางสถาบันการศึกษาที่เราเรียนอยู่ เป็นต้น แต่ในยุคปัจจุบัน ที่สื่ออินเตอร์เน็ตได้เข้ามามีบทบาทอย่างมากในการหางาน ผู้สมัครงานสามารถเข้าไปค้นหาตำแหน่งงานว่างที่ต้องการได้จากเว็บไซต์หางาน ตัวอย่างเช่น www.aecjoblisting.com เว็บไซต์หางานเป็นสื่อที่ดีที่สุดทีใช้ในการหางานในยุคปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นงาน พาร์ทไทม์ งานประจำ มีการศึกษาตั้งแต่ระดับมัธยมต้น มัธยมปลาย ปวช ปวส ปริญาตรี ปริญญาโท ข้อดีสำหรับผู้สมัครงานก็คือ
ผู้สมัครงานสามารถค้นหางาน หรือค้นหาตำแหน่งว่างได้ในปริมาณมากกว่าการค้นหาจากสื่ออื่นๆ เช่น ป้ายประกาศตามหน้าบริษัทต่างๆ, บริษัทจัดหางาน, หรือหนังสือพิมพ์ เป็นต้น
ผู้สมัครงานสามารถเลือกหางานที่ปรากฏในเว็บไซต์หางาน (aecjoblisting.com) ที่อยู่ในเขตใกล้บ้านหรือสถานที่ทำงานที่ตนสนใจ นอกจากนั้นคุณยังสามารถสมัครงานต่างประเทศได้อีกด้วยหากว่าคุณมีความสนใจทำงานที่ต่างประเทศ (อย่างน้อยก็แถบประเทศ AEC ของเรา เช่น พม่า ลาว เวียดนาม สิงคโปร์ มาเลเซีย เป็นต้น)
มีคำแนะนำเกี่ยวกับการเขียนใบสมัคร และ Resume ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ให้แก่ผู้สมัครงาน (https://www.aecjoblisting.com/advice/)
ผู้สมัครงานสามารถส่งใบสมัครและ Resume ไปให้กับองค์กรผ่าทางระบบได้ทันที
มีระบบแนะนำงานที่น่าสนใจให้กับผู้สมัครงาน ซึ่ผู้สมัครงานสามารถตั้งระบบให้จัดส่งเป็นอีเมล์เป็นรายวัน รายสัปดาห์ หรือรายเดือนได้
สะดวกต่อการใช้งาน เพราะผู้สมัครงานสามารถเปิดเว็บไซต์ได้ผ่านทางคอมพิวเตอร์ทั่วไปหรือทางมือถือ แทบเลต อีกด้วย
3. ศึกษาการเขียนเอกสารประวัติย่อ เช่น Resume, จดหมายสมัครงาน, การเขียนใบสมัคร
การศึกษาเรื่องการเขียนประวัติย่อ หรือเรซูเม่ (Resume) การเขียนจดหมายสมัครงานหรือใบสมัครงาน เป็นสิ่งที่สำคัญมากของผู้สมัครงาน เพราะเรซูเม่คือใบเบิกทางใบแรกให้ผู้สมัครงานได้มีโอกาสโชว์ความสามารถ โชว์บุคลิกภาพ หน้าตา ต่อนายจ้าง เมื่อผู้สมัครงานค้นหางานที่ต้องการสมัครแล้วผู้สมัครงานจะต้องส่งเรซูเม่หรือประวัติย่อให้นายจ้างพิจารณา ยิ่งเรซูเม่เขียนดีมากแค่ไหนนายจ้างก็จะยิ่งเห็นความสามารถของคุณมากเท่านั้นและโอกาสในการได้งานของคุณก็จะมากขึ้นด้วย เข้าทำนองที่ว่า “เรซูเม่ดี มีชัยไปกว่าครึ่ง” นั่นเอง
เรซูเม่ในยุคปัจจุบัน ไม่ได้อยู่ในรูปแบบกระดาษเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป แต่ผู้สมัครงานสามารถสร้างรูซูเม่ดีๆได้โดยการสร้างผ่านระบบของเว็บไซต์หางาน (ตัวอย่าง www.aecjoblisting.com) และนอกตาการเขียนเรซูเม่แบบทั่วไปแล้ว ผู้สมัครงานยังสามารถแนบตัวอย่างผลงานหรือประสบการณ์ทำงานในรูปแบบเว็บไซต์ลิ้ง อีกทั้งยังสามารถสร้างวีดีโอเรซูเม่ เพื่อเพิ่มโอกาสในการได้งานอีกด้วย (ตัวอย่างการสร้างวีดีโอเรซูเม่ www.aecjoblisting.com/advice/vdo-resume-วีดีโอเรซูเม่/ )
4.เตรียมพร้อมสำหรับการสัมภาษณ์งาน
เรื่องสุดท้ายที่สำคัญมากกับผู้สมัครงาน คือ การเตรียมตัวให้พร้อมกับการสัมภาษณ์งาน เมื่อรูซเม่ของคุณสมารถดึงดูดนายจ้างให้เรียกคุณมาสัมภาษณ์งานแล้ว อย่าลืมสร้างความประทับใจแรกพบให้กับนายจ้างด้วยการเตรียมพร้อมการสัมภาษณ์งานให้ดี ผู้สมัครงานควรจะเรียนรู้ตั้งแต่เรื่องการแต่งกายไปสัมภาษณ์งาน การเตรียมตอบคำถามสัมภาษณ์งาน มารยาทในห้องสัมภาษณ์งาน และมารยาทภายหลังการสัมภาษณ์งาน ซึ่งผู้สมัครงานสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.aecjoblisting.com/advice/
AEC Job Listing