ถึงผู้ใจบุญที่ชอบบริจาคสิ่งของให้เด็กผู้ยากไร้

ผมเองเป็นครูครับ เพิ่งมีโอกาสได้ย้ายกลับมาโรงเรียนแถวๆ บ้านที่เชียงราย ประมาณเดือนกันยายน 58 ที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้อยู่เชียงใหม่ แม่อายครับ ได้ย้ายมาสอนโรงเรียนบนดอยแห่งหนึ่ง ใน อำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย เปิดสอนอนุบาล-ม.3 นักเรียน 140 กว่าคน นักเรียนเป็นชาวเขาเผ่าม้งทั้งหมดครับ ไฟฟ้าใช้แบบพลังงานแสงอาทิตย์ น้ำกินน้ำใช้เป็นประปาภูเขา ประมาณนี้นะคับ ข้อมูลเบื้องต้น
        เรื่องมีอยู่ว่า ประมาณต้นเดือนตุลาคม มีผู้ใจบุญแจ้งกับ ผอ ว่า จะมาถวายกฐินให้วัดในหมู่บ้านและจะนำของมาบริจาคให้กับนักเรียนรวมทั้งบริจาคเงินบางส่วนให้กับโรงเรียนด้วย และขอนำคณะเข้ามาพักในโรงเรียน ประมาณ 50 คน และให้ทำกับข้าวเย็นและมื้อเช้าให้ด้วย แล้วระบุมาเมนูมาด้วยว่าอยากกินอาหารอะไร(ประมาณว่าสั่งมาเลย) แต่ก็ช่างมันไม่เป็นไร ด้วยความดีใจที่จะมีผู้ใจบุญจะมาบริจาคเงินและสิ่งของให้กับนักเรียน คุณครูทุกคนและ ผอ รวมทั้งนักเรียน ช่วยกันจัดเตรียมสถานที่  ทั้งเสื่อ ทั้งผ้าห่ม ทั้งหมอน ที่ต้องลงดอยไปยืมของวัด หรือตามหมู่บ้านต่างๆ แต่ทุกคนก็ทำด้วยความเต็มใจ เพราะก็คิดว่า อุตส่าห์อยู่ไกลจาก กทม. ก็ต้องทำเพื่อคณะท่านให้กินอิ่มหลับสบาย  ซึ่งเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของคนเหนือคับ ที่จะต้องต้อนรับขับสู้ให้ผู้มาเยี่ยมเยือนได้รับความสะดวกสบายและความประทับใจมากที่สุด
       เมื่อ คณะผู้ใจบุญมาถึง พวกเราเหล่าครู และนักเรียนทั้งหลายก็ช่วยกันต้อนรับ กับกับข้าวไว้รอ จัดเป็นชุดไว้บนโต๊ะเป็นอย่างดีพร้อมทาน ไฟฟ้าซึ่งเป็นพลังงานแสงอาทิตย์ที่เก็บไว้เมื่อช่วงกลางวัน ก็ใกล้จะหมด ต้องวุ่นวายกันกลัวจะไม่มีไฟฟ้าใช้ ต้องไล่ปิดไฟที่ไม่ได้ใช้เพื่อให้แขกได้ใช้งานอย่างเต็มที่ มีการแสดงต้อนรับ จากนักเรียน และอีกหลายๆ อย่าง ที่พวกเราช่วยกันแก้ไขปัญหาในคืนนั้น งานเลิกประมาณ สี่ทุ่ม ซึ่งครูบางส่วนก็ต้องขี่มอเตอร์ไซค์กลับบ้านซึ่งอยู่ข้างล่าง ทั้งมืด ทั้งหนาว ทุกคนเหนื่อยแต่ก็ดีใจที่อย่างน้อยการเหนื่อยครั้งนี้นักเรียนจะได้ของที่มาบริจาค ได้เงินที่จะมาพัฒนาโรงเรียนหรือเป็นทุนอาหารกลางวัน
      ครูหลายคน รวมทั้งนักเรียน ต่างลุ้นกันว่า ของที่มาบริจาคที่ขนมาเป็นกระสอบๆ นั่นคืออะไร ครูบางคนก็หวังว่าอยากให้เป็นสมุด ดินสอ หรือไม่ก็อุปกรณ์การเรียน ต่างคนคิดไปต่างๆ นานา แต่พอเปิดกระสอบออกมา ถึงกับอึ้งคับ พูดอะไรไม่ออก ของที่เขาขนมาบริจาคให้เรา มันคือ ของที่อยู่ในชุดสังฆทานเก่าๆ พวกนมหมดอายุ แปรงฟันขึ้นรา ยาหมดอายุ ฯลฯ คือของที่มันอยู่ในชุดสังฆทานห่วยๆ เลยละคับ บางถุงหรือบางกระสอบ เป็นเสื้อผ้าที่ใช้แล้ว(จะว่าเสื้อผ้ามือสองก็ดูดีไป) ที่ไม่ได้ผ่านการซักการทำความสะอาด อะไรมาเลย มีทั้งชุดชั้นในของผู้หญิง กางเกงใน หรือแม้แต่รองเท้า ซึ่งบางคู่ก็ขาดแล้วก็มี ดูแล้วเหมือนขยะดีๆ นี่เอง สมุดก็เป็นสมุดที่ใช้แล้วเขียนได้ครึ่งเล่ม ดินสอ สีไม้ ก็เป็นของที่ใช้งานมาแล้วเหลืออย่างละนิดอย่างละหน่อย ดูแล้วหดหู่ใจ เขาคิดว่าเด็กดอย หรือเด็กผู้ยากไร้เป็นอะไรกันแน่ ถึงได้มอบของที่แย่ขนาดนี้
    และล่าสุดเมื่อเดือนธันวาคม 58 ที่ผ่านมา ก็มีคณะผู้ใจบุญมามอบของให้กับนักเรียนอีก ของที่ได้รับ มีเสือผ้าอีกเช่นเคย แต่ก็เป็นเสื้อผ้าที่ใช้แล้วเช่นกัน ยัดใส่มาในถุงใส พร้อมกับ นม 1 กล่อง มาม่า 2 ซอง ขนมถุงละห้าบาท 1 ถุง แต่ที่สำคัญ เสื้อผ้าครับ ปนเปกันมาในแต่ละถุง ไม่ได้แยกชายหรือหญิง เด็กหรือผู้ใหญ่ นักเรียนบางคนเอาถุงของบริจาคกลับไปบ้านแล้วกลับมาบอกว่า ถุงของผมมีเสื้อผ้าผู้หญิงด้วยไม่รู้เอาไปใช้ยังไง บางคนมีแต่เสื้อผ้าผู้ใหญ่ เสื้อผ้าสำหรับเด็กไม่มีเลย เห็นแล้วบอกตรงๆ ครับ อนาถใจและรู้สึกโมโหว่าสักแต่คิดว่าจะมาบริจาคเพื่อถ่ายรูปแล้วโชว์ไม่คิดถึงของข้างในถุงนั้นว่ามันดีหรือไม่ เหมาะสมหรือเปล่า ?
    ผมเชื่อว่าเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับทุกที่ที่ต้องการความช่วยเหลือประมาณนี้ และเชื่อว่าผู้เคยได้รับความช่วยเหลือคงเจอประมาณเดียวกันกับที่ผมเจอ ถึงผู้ใจบุญทั้งหลาย ถ้าจะเอาของประมาณนี้มาบริจาค เอาไปทิ้งเถอะครับ เด็กยากจน เด็กผู้ยากไร้ หรือแม้แต่คนที่ต้องการความช่วยเหลือประมาณนี้ เขาต้องการสิ่งที่จำเป็นและสามารถใช้งานได้จริงๆ ไม่จำเป็นต้องเป็นของใหม่ แต่ขอให้เป็นของที่สามารถใช้งานได้ดี และเหมาะสมกับเขา อย่าคิดว่าเขายากไร้ เขาต้อยต่ำ แล้วจะเอาอะไรโยนให้เขาก็ได้ ถ้าคิดแบบนั้น คุณได้บาปแทนบุญ ตั้งแต่คุณคิดจะทำ
    ขอเถอะครับขอความเห็นใจ เด็กพวกนี้ยังต้องการความช่วยเหลือ แต่ขอให้คิดสักนิดก่อนให้ ว่าสิ่งที่คุณใส่ลงไปในถุงของบริจาคมันเหมาะสมและใช้งานได้จริงหรือไม่ ขอแค่มองว่าพวกเขาเป็นคนเหมือนกัน แค่นั้นก็พอแล้วครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่