--------------------------> จุดตาย จุดดับ ของ Tesla motor <----------------------

ความคิดเห็นนี้เป็นความคิดเห็นส่วนบุคคล

ช่วงนี้ เป็น Honeymoon period ของ  tesla  motor   ไม่ว่าหุ้นหรือรถไฟฟ้า  ทีผลิตออกมา  ได้รับความนิยม

ผมกลับมองเห็นว่า มีจุด  ที่  ธุรกิจ  มีโอกาสตาย   อยู่พอสมควรหาก

ธุรกิจ เปลี่ยนผ่านไม่สำเร็จ มีโอกาสโดนสูงมาก   เพราะต้นทุนยังสูง  และนวติกรรมยังมีข้อบกพร่องอยู่

เหมือน โกดัก  โนเกีย   ปาล์มอิงค์  ซีรอกซ์  etc .





ตามสมติฐาน

เมื่อ  เวลา  คือ commodity  ที่   มีค่ามากที่สุด

1.  จุดจบ  จุดตาย  ของ    tesla     คือ       เวลา            ที่ชาร์ทแบทเตอรี่









แบทเตอรี่   ไม่สามารถ   ชาร์ท   ให้เต็มได้  ภายใน 30 วินาที   เหมือนกับ  การเติมน้ำมัน



ระยะยาว   TESLA  จะ  ติด กับดัก   เรื่องเวลา


ดูภาพ   รถวิ่ง   415  ไมล์    ใช้เวลาชาร์จ    2   ชั่วโมง 45  นาที  



คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

รถไฟฟ้า  จะกินมาร์เก็ตแชร์ไปได้  แต่ไม่น่าจะถึง  20  %  อย่างน้อย ก็ช่วงอายุ  10  ปีนี้   ของ elon musk   ที่จะก้าว ไปสู่อายุ 50 กว่าปี

ช่วงนี้อยู่ในช่วง Honeymoon period

เพราะพลังงานฟอสซิลเช่นน้ำมัน  หรือก็าซ  นั้นมีข้อดี   เรื่อง   เวลาในการเติมสั้น

พลังานศักย์ รอ ปฏิกิริยาเคมี  ปลดปลอยพลังงาน

สันดาบ  จุดระเบิดอย่างไว



2.  จุดตายจุดที่ 2   คือขยะจากแบทเตอรี่ที่เสื่อมสภาพ


ปัญหานี้ยังไม่เกิดเพราะใช้น้อย


เมื่อใช้มาก  จะต้องหาที่เก็บเหมือนกากของเสียโรงงงาน

คำถามคือจะทิ้งที่ไหน


3.จดตายจุดที่ 3   คือ  POWER OF HABBIT

การเปลี่ยนแปลง โลก   ให้มาซื้อรถ   ผมลดราคาให้เหลือ   5  แสนเลยเอา  เพราะ   มีรางวัลคือแรงจูงใจ  คือรักษาสิ่งแวดล้อม กับ  เอาไว้อวดเพื่อนๆได้


รางวัล  แรงจูงใจเหล่านี้ไม่พอเพียงที่ให้คน  มาซื้อรถคันใหม่ได้    แถม   ยังต้องเสียเวลาชาร์แบทอีก  ทีละอย่างน้อย 1 ชั่วโมง


ติดกับดักเรืองนิสัยและพฤติกรรมคน       อย่างน้อย   ก็   10-15  ปี  ฟันธง



เพราะสิ่งที่เปลี่ยนยากที่สุดคือ   นิสัยของคน

(ขนาด มือถือ smart 3 G ราคาถูก  กว่าหลายเท่า  ชาร์ทแบ็ตง่ายกว่า   ยังเปลี่ยนพฤติกรรมคนยากเลย


รถ  กับ  มือถือ    ราคาต่างกัน    เป็น  100  เท่า)



บอกตรงๆ       อย่างไรเสีย   หากไม่สามารถ  คิดนวัตกกรมชาร์ทแบตให้เร็วได้เหมือนเติมน้ำมัน



หุ้น   TESLA  เตรียมเน่าได้เลย  ในอนาคต  เมือฟองสบู่แตก    หมดฮันนีมูน  พีเรียด   และคนส่วนใหญ่ได้ตระหนักถึง   ในข้อนี้






หาก tesla เกิดคิดค้นนวัตกรรมที่สามารถ  ก้าวผ่าน   ข้อนี้ไปได้   เตรียมขายหุ้น น้ำมันทิ้งได้เลย   หากก้าวผ่านไม่ได้ก็จะเหมือนกับ บริษัทโนเกีย

สุดท้ายขายกิจการทิ้ง       งานนี้  อยู่ที่ elon musk  คนเดียว


ผมหละนึกถึง Nicola  tesla   อัจฉรยะที่โลกลืม   ผู้ประดิษฐ์เทสล่าคอยน์



ให้อ่านอัจฉริยะคนนี้ในตอนท้าย


4.จุดตาย ข้อที่ 4  

การใช้ไฟฟ้าไม่ทำให้เกิด มลพิษจริงหรือ?

ตามกฎของพลังงาน    

กฎทรงพลังงาน (อังกฤษ: Conservation of energy) เป็นกฎในทางฟิสิกส์ กล่าวว่า พลังงานโดยรวมในระบบปิดหนึ่งๆ จะมีค่าคงที่เสมอ และไม่สามารถสร้างขึ้นใหม่ได้ ทำได้แต่เพียงเปลี่ยนรูปของพลังงานไปเท่านั้น

คำถาม  พลังงานไฟฟ้าเหล่านี้มาจากไหน  ที่เอามาประจุในแบตเตอรี่



1.พลังงงานแสงอาทิตย์  (พลังงานลม  น้ำ  คลื่น  ต้นกำเนิดจากดวงอาทิตย์)   แล้วปัจจุบันนี้พลังงานเหล่านี้ ใช้อยู่กี่% ของโลก
2.พลังงานนิวเคลี่ยร์(การปลดปล่อยพลังงานศักย์ออกจากอะตอม)
3.พลังงานจากฟอสซิล (พลังงานทางอ้อมของดวงอาทิตย์ที่มาสะสมไว้)
4.พลังงานเคมี(จากการปลดปล่อยพลังงานศักย์)

ดุข้อมูลถึงปี 2012     ส่วนใหญ่มาจากฟอสซิล




คำถาม  อนาคตต่อไป  มาจากพลังงานทางเลือกหมดได้หรือเปล่า   ผมตอบเลยว่ามีโอกาส


แต่ปัจจุบัน  เรายังไม่มีองค์ความรู้ไปถึงจุดนั้น  และความคุ้มทุนยังต่ำกว่ามาก


ดูข้อมูลนี้ก่อน
ช็อค!!!!! บริษัทยักษ์ใหญ่ พลังงานไฟฟ้าแสงอาทิตย์ พลังงานลม สเปน เผชิญกับภาวะล้มละลาย
http://ppantip.com/topic/34543196

ความเป็นไปได้  คือพลังงานนิวเคลียร์  การปลดปล่อยพลังานศักย์ออกจากอะตอม


แต่      คุณจะเอาหรือ?  

ในโลกนี้ได้อย่างก็เสียอย่างเสมอ    



5.จุดตายข้อที่   5


กำแพงราคา   อันนี้   ดูเหมือนน่าจะง่ายสุด ในการสอบผ่าน

แต่ก็ไม่แน่ เพราะ  

ของดีหลายอย่าง   เจ๊งไม่เป็นท่า  เพราะทำการตลาดไม่เป็น

เห็นมานักต่อนักแล้ว



ลองอ่านประวัติ  

ของเทสลาดู   ก็จะรู้ว่า  ของดี    หาก จัดการไม่ดี ก็มีปัญหาได้  แม้แต่ elon  ก็เถอะ  เกือบเจ๊งมาแล้วช่วงแรกดีที่
NASA ให้เงินต่อลมหายใจ

นิโคลา เทสลา (เซอร์เบีย: Никола Тесла, Nikola Tesla) เกิดเมื่อ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2399 - ถึงแก่กรรม 7 มกราคม พ.ศ. 2486 (86 ปี) เป็น นักประดิษฐ์, นักฟิสิกส์, วิศวกรเครื่องกล, วิศวกรไฟฟ้า และ นักทำนายอนาคต เขาเกิดที่ Smiljan ในอดีตออสเตรีย - ฮังการี ซึ่งปัจจุบันคือสาธารณรัฐโครเอเชีย ภายหลังเขาได้รับสัญชาติเป็นพลเมืองอเมริกัน

เทสลามีปัญหาทางประสาทในวัยเด็ก ที่เขาต้องทุกข์ทรมาน จาก โรคย้ำคิดย้ำทำ เขาได้งานแรกในบูดาเปสต์โดยทำงานที่บริษัทโทรศัพท์ เทสล่าได้ประดิษฐ์ลำโพงสำหรับโทรศัพท์ระหว่างที่ทำงานอยู่ที่นี่ ก่อนที่จะเดินทางเร่ร่อนไปอเมริกาในปี 2427 เพื่อที่จะไปทำงานกับ โทมัส เอดิสัน แต่ในไม่นาน เขาก็เริ่มก่อตั้ง ห้องปฏิบัติการ/บริษัท พัฒนาอุปกรณ์ไฟฟ้า ของตัวเองโดยมีผู้สนับสนุนด้านการเงินให้ สิทธิบัตรมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับแบบเหนี่ยวนำ และ หม้อแปลงไฟฟ้า ได้รับการจดทะเบียนโดย จอร์จ เวสติงเฮ้าส์ ซึ่งเป็นผู้ว่าจ้างให้เทสลาเป็นที่ปรึกษาและพัฒนาระบบไฟฟ้ากระแสสลับด้วย

ผลงานของเทสลาที่ทำให้เขาเป็นสนใจในสมัยนั้นอาทิเช่น การทดลองเกี่ยวกับ คลื่นความถี่สูงและแรงดันไฟฟ้าแรงสูง ใน นิวยอร์ก และ โคโลราโด สปริงซ์, สิทธิบัตรของอุปกรณ์และทฤษฎีที่ใช้ในการสร้างวิทยุสื่อสาร, การทดลอง X-ray ของเขา, เขายังเป็นผู้คิดค้นตัวกำเนิดสัญญาน (oscillator) หลากหลายรูปแบบอีกด้วย และ โครงการ Wardenclyffe Tower ซึ่งเป็นความพยายามในการส่งสัญญานไร้สายข้ามทวีปแต่โชคร้ายที่โครงการนี้ไม่ประสบความสำเร็จ

แม้เทสลาจะเป็นผู้คิดค้นสัญญานวิทยุ การค้นพบหลักการสนามแม่เหล็กไฟฟ้า แต่ผลงานที่ทำให้เขาเป็นที่รู้จักกันดีคือ การค้นคว้าพัฒนาไฟฟ้ากระแสสลับ ซึ่งในขณะนั้นมีการแข่งขันกับไฟฟ้ากระแสตรงที่ถูกพัฒนาขึ้นมา โทมัส เอดิสัน แต่ในที่สุดไฟฟ้ากระแสสลับก็ได้รับความนิยมมากกว่า เพราะเกิดการสูญเสียน้อยกว่าในการส่งกระแสไฟฟ้าในระยะทางไกล

เทสลาประสบความสำเร็จเป็นที่รู้จักและทำให้ผู้คนเห็นถึงความสามารถของจากโชว์สิ่งประดิษฐ์ที่ดูน่าอัศจรรย์ทั้งหลาย ถึงแม้ว่าเขาจะได้เงินจากสิทธิบัตรต่าง ๆ แต่เขาก็ได้ทำการทดลองอย่างมากมายด้วยเช่นกัน ทำให้ในช่วงบั้นปลายชีวิตของเขาต้องเป็นหนี้ และ มีปัญหาด้านการเงิน ต้องอาศัยอยู่อย่างโดษเดี่ยวในห้องพักหมายเลข 3327 ที่โรงแรม New Yorker ด้วยลักษณะและธรรมชาติในการทำงานของเทสลาทำให้เขาถูกขนานนามว่าเป็น "นักวิทยาศาสตร์เพี้ยน"

เทสลาถูกพบว่าเสียชีวิตในห้องพักหมายเลข 3327 ที่โรงแรม New Yorker เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2486

หลังจากการตายของเขางานของเทสล่าก็ได้เงียบหายไป แต่ในปี 2533 เขาก็เริ่มกลับมาเป็นที่รู้จักอีกครั้ง ในปี 2548 เขาถูกเสนอชื่อให้เป็นตัวแทน 1 ใน 100 คนในรายการโทรทัศน์ "The Greatest American" โดยการสำรวจนิยมโดย AOL กับ ช่อง Discovery

การทำงานและสิ่งประดิษฐ์ที่มีชื่อเสียงของเขายังเป็นจุดกำเนิดของทฤษฎีสมคบคิดจำนวนมาก และ ยังได้นำไปใช้สนับสนุนวิทยาศาสตร์เทียม, ทฤษฎียูเอฟโอ และ ไสยศาสตร์ยุคใหม่ อีกด้วย

ในปี 2503 หน่วยสำหรับวัดความ ความหนาแน่นของเส้นแรงแม่เหล็ก หรือ การเหนี่ยวนำด้วยพลังแม่เหล็ก (ที่รู้จักกันทั่วไปว่าเป็นสนามแม่เหล็ก B \), ถูกตั้งชื่อว่า เทสลา เพื่อเป็นเกียรติแก่เขา

นอกจากนี้ เทสลายังถือเป็นวิศวกรที่สร้างนวัตกรรมล้ำยุคที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งในปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 และต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 สิทธิบัตรของเทสลาและผลงานเชิงทฤษฎีของเขากลายเป็นพื้นฐานของระบบไฟฟ้ากระแสสลับ ได้แก่ ระบบจ่ายกำลังหลายเฟส และมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ ซึ่งเขามีส่วนผลักดันเป็นอย่างมากในช่วงปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่สอง
https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B8%B2_%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%AA%E0%B8%A5%E0%B8%B2
ปล  แก้ไขเพิ่มเติม   ได้เพิ่ม    ข้อที่  4และ  5
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่