หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
นั่งรถไฟฟรีไปเชียงใหม่ 5 วัน 4 คืน
กระทู้สนทนา
รถไฟ
จังหวัดเชียงใหม่
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกของการไปเชียงใหม่ แต่เป็นครั้งแรกของการเขียนพันทิป หากผิดพลาดประการใดต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย
ว่าแล้วเรามาเริ่มกันเลยดีกว่า การเดินทางครั้งนี้ เราเดินทางกัน 4 คน พวกเราเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องสมัยเรียนมัธยมด้วยกัน ซึ่งตอนนี้เรียนมหาวิทยาลัยกันแล้ว (ยังไม่แก่เท่าไหร่ 555) ช่วงนี้ปิดเทอม เลยอยากพักผ่อนก่อนกลับไปสู่โลกของการเรียนสักหน่อย
เสาร์ 2 มกราคม 2559
หลังจากปีใหม่ได้เพียง 1 วัน เราก็เริ่มออกเดินทางกันโดยรถไฟ(ฟรี) ขึ้นที่สถานีรถไฟลพบุรี รถไฟขบวนที่ 109 ออกจากหัวลำโพง 12.45 น. ถึงลพบุรี 14.30 และถึงเชียงใหม่ 04.05 น. (เที่ยวนี้รถไฟล่าช้าไปประมาณครึ่งชั่วโมงเลยถึงเชียงใหม่ 05.00 น.) ระหว่างเดินทางก็กินกันไป คุยกันไป ตกดึกก็หลับยาว เช้าถึงเชียงใหม่
อาทิตย์ 3 มกราคม 2559
ฝุ่นควัน กลิ่นสนิมปนกลิ่นเหงื่อ ขออาบน้ำที่ห้องน้ำสถานีรถไฟก่อนก่อนแล้วกัน ค่าอาบน้ำ 15 บาท ทำใจอยู่สักพักเพราะน้ำเย็น 555 เมื่อเสร็จภารกิจส่วนตัวกันแล้ว โทรนัดพี่คนขับรถที่ติดต่อไว้มารับที่หน้าสถานีรถไฟแล้วไปกันเลย
เราได้ทำการยึดพื้นที่หน้าห้องน้ำเรียบร้อยแล้ว 555
รองท้องมื้อเช้าเบาๆกับโจ๊กหมูไข่ลวกถ้วยนี้
เพียง 25 กิโลเมตร จากสถานีรถไฟเชียงใหม่ ก็ถึงที่หมายแรกของเรา Grand canyon Chiangmai เปิดตั้งแต่เวลาประมาณ 08.30 น. เรามากันก่อนครึ่งชั่วโมงเป็นกลุ่มแรกเลย ค่าเข้าคนละ 50 บาท แลกน้ำสมุนไพรฟรี 1 แก้ว
10.00 น. ออกจาก Grand canyon ไปยัง The giant Chiangmai เป็นที่ที่สอง ใช้เวลาเดินทางไป 1 ชั่วโมง 30 นาที ทางขึ้นเขาหักศอกมากพอสมควร จนพี่ขับถึงกับเอ่ย “ทางอย่างนี้ก็ยังมากันนะ” 555 แต่เราไม่หวั่น เพื่อร้านกาแฟต้นไม้ยักษ์ของเรา 11.30 น. ถึงที่หมายแล้ว ร้านนี้เปิด 11.00 น. - 15.00 น. (คนต่อคิวเยอะมากขนาดมาเร็วนะเนี่ย)
13.00 น. ออกจาก The Giant ไปที่ ดอยอินทนนท์ที่หมายสุดท้ายของวันแรก ระหว่างทางขึ้นดอยอินทนนท์ ผ่านน้ำตกวชิรธารก็แวะสักนิด
15.30 น. ถึงที่พัก เราพักกันที่ดอยชัวร์ญ่า วิวที่นี้สวยเลยที่เดียว ค่ากางเต็นท์คนละ 100 บาท ถ้าเช่าเต๊นท์ของที่พักก็เสียค่าเต๊นท์เพิ่ม แต่เราแบกเต็นท์มาเอง ประหยัดไปได้เยอะ กางเต็นท์ด้วยวิชาลูกเสือ - เนตรนารี เสร็จเรียบร้อยแล้ว เริ่มหิว ไปหาอะไรเติมพลังกันหน่อยดีกว่า เราเดินเท้าลงมาจากที่พัก เพื่อมาหาอะไรกินที่ลานกางเต็นท์ดงสนหน้าอุทยาน มีร้านอาหาร เครื่องดื่มเล็กๆอยู่ 3-4 ร้าน
มาเหนือแต่มากินอาหารอีสานซะงั้น 5555
เมื่อกินอิ่มแล้ว หลังจากนี้คือจุดเริ่มต้นของพวกเรา “สายโบก” โบกที่ว่านี้คือ โบกรถ นั่นเอง 555 ขาลงเดินลงมาผลปรากฏว่าเหนื่อยใช่ได้ ขากลับจึงเป็นการโบกครั้งที่ 1
ดอยชัวร์ญ่ามีหมูกระทะขายชุดเล็ก 400 บาท ชุดใหญ่ 600 บาท แต่พวกเราไม่ได้กินกัน ค่ำๆอากาศเริ่มหนาวแล้ว รีบอาบน้ำอาบท่า กินขนม กินนม รีบก่อนกันดีกว่า พรุ่งนี้ต้องตื่นเช้า (เอ้อ ที่นี้มีเครื่องทำน้ำอุ่นนะ ที่ชาทแบตโทรศัพท์มือถือครั้งละ 20 บาท แบตสำรอง 40 บาท ต่อพวงปลั๊กแต่ต้องเอาปลั๊กมาเอง 200 บาท) คืนนี้หลับสนิทตลอดคืนนะทุกคน Zzz
จันทร์ 4 มกราคม 2559
04.30 น. ตื่นๆ ล้างหน้า แปรงฟัน (น้ำไม่อาบ) เก็บข้าวของไว้ เตรียมตัวไปกิ่วแม่ปาน และนี้คือการโบกครั้งที่ 2 เราเดินมาที่ทางออกที่พัก เพื่อรอรถที่จะออกไปกิ่วแม่ปานที่เดียวกัน เจอรถเก๋งหนึ่งคันจอดเตรียมของอยู่ จึงเข้าไปถาม “ พี่ฮะ พี่ไปกิ่วแม่ปานรึเปล่าฮะ อ๋อ ไม่ได้ไปครับ แต่ไปส่งได้” เย้ ใจดีจริงๆ การโบกรถครั้งนี้ทำให้เราได้เพื่อนใหม่เฉยเลย
โฉมหน้ารูปงามของเหล่าชายหนุ่มที่มาส่งเรา 555
หาอะไรอุ่นๆดื่มกันก่อนระหว่างรอ เช้านี้ 5 องศาเซลเซียส สบายมาก ควันออกปากเบาๆ ก่อนจะเดินป่าศึกษาธรรมชาติ ขอดูพระอาทิตย์ขึ้นก่อน
การเดินป่านี้คิดค่าไกด์นำ กลุ่มละ 200 บาท (กลุ่มละ 1-10 คน) 07.15 น.เริ่มเดินกัน เส้นทางช่วงแรก เป็นบันได้ขึ้นๆลงๆ ทางไม่ลำบากมาก แต่ก็เหนื่อยเหมือนกัน อาจเพราะอากาศหนาวด้วยมั้ง ถึงช่วงที่กลางๆที่เป็นทุ่งหญ้าเริ่มโอเคขึ้นแล้ว อากาศโปร่ง โล่ง สบาย มีแลนด์มาร์คให้ถ่ายรูป คนต่อคิวกันเพียบ พอเข้าสู่กิโลเมตรที่ 3 กิโลเมตรสุดท้าย เป็นทางลงซะส่วนใหญ่ มีขึ้นบ้างเล็กน้อยพองาม
เดินป่าไปเก็บกินไป สนุกดีนะ
09.30 น. เป็นเวลาที่เราเดินป่ากันเสร็จ ทำเวลาได้ดีทีเดียว 2 ชั่วโมง โดยประมาณ หาอะไรกินกันหน่อยก่อนเดินทางต่อ เราออกมาโบกรถตรงที่เราดูพระอาทิตย์ขึ้นเมื่อเช้า อาจเพราะเป็นทางลง อันตรายเลยไม่มีใครจอด เราจึงนั่งรถสองแถวฟรีไปยังวัดพระมหาธาตุเจดีย์นภพลภูมิสิริที่อยู่ใกล้ๆกัน
หลังจากไหว้พระกันเสร็จ การโบกครั้งที่ 3 จึงให้พี่อ้วนพี่ทหารที่คอยจัดการเรื่องที่จอดรถให้นักท่องเที่ยว หารถกลับที่พักให้ รถเหลืองพี่ๆกลุ่มนี้เค้าเหมากันมา แต่เค้าลงแค่ที่ตลาดของฝาก ไม่เป็นไร เราขอติดไปด้วยนะ
การโบกครั้งที่ 4 เห็นรถที่ซื้อของฝากเสร็จแล้วกำลังจะออกพอดีจึงขอติดไปด้วยแต่เขาไปแพร่จึงส่งเราที่สามแยกโครงการหลวง
การโบกครั้งที่ 5 รถขนไผ่จากโครงการหลวงผ่านมาขอติดไปด้วย พี่เค้าใจดีไปส่งถึงที่พักดอยชัวร์ญ่าเลย เก็บเต็นท์ เก็บข้าวของกันด้วยความรวดเร็วเพราะล่วงเลยเวลาที่วางแผนไว้มาพอสมควรแล้ว เดินมารอที่เดิมหน้าทางเข้าออกที่พัก
การโบกครั้งที่ 6 เจอรถโครงการหลวงอีกแล้วไปส่งถึงสามแยกเดิมเลย ใจดีจริงๆ ตอนแรกคิดว่าจะนั่งรถสองแถวสีเหลืองเพื่อไปจอมทองแล้วต่อรถเข้าเมือง แต่ไหนๆก็โบกรถมาขนาดนี้ลองโบกอีกสักทีจะเป็นไรไป การโบกครั้งที่ 7 เกิดขึ้นจนได้ โชคดีมากรถกระบะคันนี้ผ่านทางที่เราจะไปพอดี สงสัยเพราะที่เราพากันไปไหว้พระธาตุแน่ๆ จริงๆพี่เค้าชวนให้นั่งข้างหน้าแหละ แต่เราเกรงใจนั่งข้างหลังดีกว่า รับแสงแดดและสายลมกันหน่อย พี่เค้าขับด้วยความเร็วสูงมากจริงๆ แซงทุกโค้ง ไม่มีหลุด ไฟแดงก็ต้องมาจอดเป็นคันหน้าทุกไฟแดงถ้าทำได้ แอบกลัวอยู่เหมือนกัน ตอนแรกเราคิดว่าพี่เค้าเมาด้วยซ้ำ
พอถึงทางผ่านที่พี่เค้าจอดให้ลง พี่เค้าก็ลงไปหารถแดงสองแถวต่อให้เราที่เราจะไปคือร้านเช่ามอเตอร์ไซค์ AYA ใกล้กับสถานีรถไฟเชียงใหม่ เพราะเป็นนักท่องเที่ยวเลยโดนไปคนละ 50 บาท ถ้าปกติแค่ 20 บาท พี่เค้าว่าอย่างนั้น “โชคดี เที่ยวให้สนุก แล้วเจอกันใหม่ ” คำลาจากปากพี่คนขับรถกระบุสุดซิ่ง(พอล วอคเกอร์ เมืองเชียงใหม่คนนี้ 555)
ถึงแล้วร้านเช่ามอเตอร์ไซค์ AYA จริงๆมีอีกร้านนึงอยู่ใกล้ๆกันแต่แพงกว่าเราเลยเลือกร้านนี้ ระหว่างรอนักท่องเที่ยวเอารถมาคืน ก็กินข้าวกันที่ร้านข้างๆ อิ่มแล้วรถมาพอดี ทำเรื่องเช่ามอเตอร์ไซค์เสร็จสับ ค่าเช่ารถคันละ 140 บาท ค่าประกัน 40 บาท (เอาหรือไม่เอาแล้วแต่เรา) ค่ามัดจำหมวกกันน็อคใบละ 100 บาท ค่ามัดจำรถคันละ 2,000 บาท พร้อมแล้ว ที่หมายที่ 4 ม่อนแจ่ม เป็นระยะทางประมาณ 45 กิโลเมตรที่เราขับกันมา ระหว่างทางมีแวะซื้อเสื้อผ้าชาวดอย ก่อนจะถึงที่หมาย คืนนี้เรานอนที่นี้แต่ไม่ได้แพลนไว้ว่านอนม่อนไหน(มีหลายม่อนซะเหลือเกิน 555)
ม่อนตะวันมีพื้นที่กางเต๊นท์ แต่ราคาพอๆกับกระท่อมที่สวนอีเดน เลือกกระท่อมสิเนอะ รอไร 5555
18.30 น. เป็นเวลาที่เราถึงม่อนแจ่ม แต่ที่นี้ไม่มีลานกางเต๊นท์ให้ เราจึงต้องลองหาที่อื่นๆ จากที่ลองเช็คเปรียบเทียบราคาและความเหมาะสมแล้ว ได้ที่พักเป็นกระท่อมที่สวนอีเดนระหว่างแยกทางขึ้นไปม่อนแจ่ม ราคา 800 บาทเท่านั้น
(อบอุ่น มีปลั๊กไฟพร้อม ห้องน้ำรวม มีเครื่องทำน้ำอุ่น) เก็บของในกระท่อมเสร็จแล้ว สมควรแก่เวลาออกไปหาอะไรกิน ก็เหนื่อยมาทั้งวันกันแล้วนี่
ใกล้ๆสวนอีเดนมีร้านอาหารพวก ส้มตำ ไก่ย่าง (มาเหนือแต่มากินส้มตำอีกแล้ว 555)
หนังท้องตึงหนังตาหย่อน ขอตัวทำความสะอาดร่างกายที่เผชิญอะไรมาทั้งวัน สำหรับคืนนี้ราตรีสวัสดิ์ Zzz
อังคาร 5 มกราคม 2558
เช้านี้ตื่นสายเลยไม่ทันดูพระอาทิตย์ขึ้นเลย เสร็จภารกิจส่วนตัวกันแล้ว ขับมอเตอร์ไซค์คู่กายไปม่อนแจ่มกันนนน
แก้ไขข้อความเมื่อ
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
ทริป5 วัน4 คืน เชียงใหม่ขอคำแนะนำหน่อยค่าา
คือเรากับกลุ่มเพื่อนมีแพลนจะไปสัมผัสอากาศหนาวที่เชียงใหม่ เลยคิดแพลนไว้5 วัน4 คืนค่ะ มีใครแนะนำรถโดยสารราคาเป็นกันเองบ้างมั้ยคะและอยากทราบว่าที่คิดไว้พอจะเป็นไปได้ไหมคะ ใครอยากหาเพื่อนร่วมทริปทักมาได้
สมาชิกหมายเลข 4204497
เทียวเชียงใหม่
รบกวนบอกหลายละเอียด หรือ ควรเสริมตรงไหนบอกครับ เที่ยว 3 วัน 2 คืน -เดินทางด้วยรถไฟฟรี กรุงเทพ-เชียงใหม่ มีเวลาไหนบ้างครับ?? -แนะนำร้านเช่ามอไซด้วยครับ วันแรก ไป ดอยสุเทพ ดอนปุย ดอยอินทนน แล้วนอนกางเต
สมาชิกหมายเลข 3571824
แนะนำที่เที่ยวเชียงใหม่
จัดทริป3วัน2คืน มีที่อยากไป ขุนช้างเคี่ยน ม่อนแจ่ม ดอยอินทนนท์ กิ่วแม่ปาน - คืนแรกตั้งใจจะนอนในเมือง คืนที่สองอยากกางเต้นท์นอน ตื่นเช้าขึ้นกิ่วแม่บ้าน กลับประมาณ 2 ทุ่มค่ะ น่าจะเหมารถ
สมาชิกหมายเลข 1547477
เที่ยวดูทะเลหมอกที่ม่อนหมื่นจอก ดอยม่อนหมาก แม่แจ่ม เชียงใหม่
ฤดูนี้ต้องล่าทะเลหมอก เชียงใหม่ https://youtu.be/EP1u0-qOzKk?si=isnDgJkr5Eu-gegQ และไปต่อที่ บาหลู่โข่ https://youtu.be/ALB45If4jwc?si=nWmFj34XGshoVd4d
สมาชิกหมายเลข 6318867
รบกวนช่วยเรียงทริป @เชียงใหม่ ให้หน่อยค่าา ^^
เดินทางโดยรถไฟ 🚞🚉🚊🚇 ไปเชียงใหม่ เที่ยงที่ 20 Dec กลับ กทม เช้าที่ 27 Dec ผญ ไปกัน 2 คนค่ะ (อาจจะมีอีกคนไปเเจมด้วย กดดู spoil ข้างล่างนะคะ) ไปถึงที่โน่นจะไปเช่ามอไซด์เเว้นไปเรื่อยอ่ะค่ะ ที่พักถ้าเป็
ติ่งผู้ชายเกาหลี
บันทึกการเดินทาง EP.13-7 ณ แซท สกาย แคมป์ปิ้ง จ.เชียงใหม่
30.11.2567 วันนี้เดินทางออกจากปายมาตอนสายๆ มาถึงห้วยน้ำดังยังไม่เที่ยงเลย เราคิดไว้ว่าจะไปกางเต็นท์นั่งรับลมชิวๆ รอดูพระอาทิตย์ตกสวยๆในตอนเย็น เราจ่ายค่าเข้าเข้ามาข้างใน และลองเข้าไปดูลานกางเต็นท์ลาน
อันโกะแมวหน้าเหวี่ยง
10 สถานที่ท่องเที่ยวหน้าหนาวในไทยที่ต้องไปให้ได้สักครั้ง
“หน้าหนาวมาแล้ว! 🌬️ ช่วงเวลาที่ทุกคนรอคอยเพื่อใส่เสื้อกันหนาวไปถ่ายรูปสวย ๆ กับวิวธรรมชาติสุดฟิน แต่ถ้าปีนี้ยังไม่รู้จะไปที่ไหน ผมรวบรวม 10 สถานที่ท่องเที่ยวหน้าหนาวในไทย ที่สวยสะกดใจและเหมาะกับ
Panukorn Bn
บันทึกการเดินทาง EP.13-3 ณ ม่อนกิ่วลม อุทยานแห่งชาติแม่เมย จ.ตาก
26.11.2567 ออกเดินทางกันต่อ มุ่งหน้าขึ้นเหนือ แต่ก็ยังไม่พ้นจังหวัดตากสักที 555+ ขับรถอยู่ในเขาที่ 2 ข้างทางเห็นแต่ต้นไม้ นานๆ จะเห็นหมู่บ้านสักที มองไปทางไหนมันก็เขียวไปหมด ถนนแทบไม่มีทางตรงเลย ผ่านม
อันโกะแมวหน้าเหวี่ยง
เชียงดาว กับ ม่อนแจ่ม
สวัสดีคะ มีแพลนเที่ยวไปเชียงใหม่ เดือนมกราคม นั่งรถไฟจากกรุงเทพไปเชียงใหม่ และเช่ารถขับ เชียงดาวกับม่อนแจ่มที่ไหนสวยกว่ากันคะ อยากได้วิวภูเขาแบบจริงๆ ช่วยแนะนำด้วยนะคะ ขอบคุณมากๆคะ
lovebecktoby
กางเต็นท์ดอยผ้าห่มปก
สอบถามคับพอดีผมจะไปดอยผ้าห่มปก28/12/67นี้ครับ เลยมาถามคนเคยไปหน่อยครับว่า จุดกางเต็นท์กิ่วลม มีอาหารอะไรขายไหม หมูกระทะชุดละเท่าไหร่ ต้องจองที่กางเต็นท์ไหมครับ
สมาชิกหมายเลข 6501338
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
รถไฟ
จังหวัดเชียงใหม่
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ : 12
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
นั่งรถไฟฟรีไปเชียงใหม่ 5 วัน 4 คืน
ว่าแล้วเรามาเริ่มกันเลยดีกว่า การเดินทางครั้งนี้ เราเดินทางกัน 4 คน พวกเราเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องสมัยเรียนมัธยมด้วยกัน ซึ่งตอนนี้เรียนมหาวิทยาลัยกันแล้ว (ยังไม่แก่เท่าไหร่ 555) ช่วงนี้ปิดเทอม เลยอยากพักผ่อนก่อนกลับไปสู่โลกของการเรียนสักหน่อย
เสาร์ 2 มกราคม 2559
หลังจากปีใหม่ได้เพียง 1 วัน เราก็เริ่มออกเดินทางกันโดยรถไฟ(ฟรี) ขึ้นที่สถานีรถไฟลพบุรี รถไฟขบวนที่ 109 ออกจากหัวลำโพง 12.45 น. ถึงลพบุรี 14.30 และถึงเชียงใหม่ 04.05 น. (เที่ยวนี้รถไฟล่าช้าไปประมาณครึ่งชั่วโมงเลยถึงเชียงใหม่ 05.00 น.) ระหว่างเดินทางก็กินกันไป คุยกันไป ตกดึกก็หลับยาว เช้าถึงเชียงใหม่
อาทิตย์ 3 มกราคม 2559
ฝุ่นควัน กลิ่นสนิมปนกลิ่นเหงื่อ ขออาบน้ำที่ห้องน้ำสถานีรถไฟก่อนก่อนแล้วกัน ค่าอาบน้ำ 15 บาท ทำใจอยู่สักพักเพราะน้ำเย็น 555 เมื่อเสร็จภารกิจส่วนตัวกันแล้ว โทรนัดพี่คนขับรถที่ติดต่อไว้มารับที่หน้าสถานีรถไฟแล้วไปกันเลย
เพียง 25 กิโลเมตร จากสถานีรถไฟเชียงใหม่ ก็ถึงที่หมายแรกของเรา Grand canyon Chiangmai เปิดตั้งแต่เวลาประมาณ 08.30 น. เรามากันก่อนครึ่งชั่วโมงเป็นกลุ่มแรกเลย ค่าเข้าคนละ 50 บาท แลกน้ำสมุนไพรฟรี 1 แก้ว
10.00 น. ออกจาก Grand canyon ไปยัง The giant Chiangmai เป็นที่ที่สอง ใช้เวลาเดินทางไป 1 ชั่วโมง 30 นาที ทางขึ้นเขาหักศอกมากพอสมควร จนพี่ขับถึงกับเอ่ย “ทางอย่างนี้ก็ยังมากันนะ” 555 แต่เราไม่หวั่น เพื่อร้านกาแฟต้นไม้ยักษ์ของเรา 11.30 น. ถึงที่หมายแล้ว ร้านนี้เปิด 11.00 น. - 15.00 น. (คนต่อคิวเยอะมากขนาดมาเร็วนะเนี่ย)
13.00 น. ออกจาก The Giant ไปที่ ดอยอินทนนท์ที่หมายสุดท้ายของวันแรก ระหว่างทางขึ้นดอยอินทนนท์ ผ่านน้ำตกวชิรธารก็แวะสักนิด
15.30 น. ถึงที่พัก เราพักกันที่ดอยชัวร์ญ่า วิวที่นี้สวยเลยที่เดียว ค่ากางเต็นท์คนละ 100 บาท ถ้าเช่าเต๊นท์ของที่พักก็เสียค่าเต๊นท์เพิ่ม แต่เราแบกเต็นท์มาเอง ประหยัดไปได้เยอะ กางเต็นท์ด้วยวิชาลูกเสือ - เนตรนารี เสร็จเรียบร้อยแล้ว เริ่มหิว ไปหาอะไรเติมพลังกันหน่อยดีกว่า เราเดินเท้าลงมาจากที่พัก เพื่อมาหาอะไรกินที่ลานกางเต็นท์ดงสนหน้าอุทยาน มีร้านอาหาร เครื่องดื่มเล็กๆอยู่ 3-4 ร้าน
เมื่อกินอิ่มแล้ว หลังจากนี้คือจุดเริ่มต้นของพวกเรา “สายโบก” โบกที่ว่านี้คือ โบกรถ นั่นเอง 555 ขาลงเดินลงมาผลปรากฏว่าเหนื่อยใช่ได้ ขากลับจึงเป็นการโบกครั้งที่ 1
ดอยชัวร์ญ่ามีหมูกระทะขายชุดเล็ก 400 บาท ชุดใหญ่ 600 บาท แต่พวกเราไม่ได้กินกัน ค่ำๆอากาศเริ่มหนาวแล้ว รีบอาบน้ำอาบท่า กินขนม กินนม รีบก่อนกันดีกว่า พรุ่งนี้ต้องตื่นเช้า (เอ้อ ที่นี้มีเครื่องทำน้ำอุ่นนะ ที่ชาทแบตโทรศัพท์มือถือครั้งละ 20 บาท แบตสำรอง 40 บาท ต่อพวงปลั๊กแต่ต้องเอาปลั๊กมาเอง 200 บาท) คืนนี้หลับสนิทตลอดคืนนะทุกคน Zzz
จันทร์ 4 มกราคม 2559
04.30 น. ตื่นๆ ล้างหน้า แปรงฟัน (น้ำไม่อาบ) เก็บข้าวของไว้ เตรียมตัวไปกิ่วแม่ปาน และนี้คือการโบกครั้งที่ 2 เราเดินมาที่ทางออกที่พัก เพื่อรอรถที่จะออกไปกิ่วแม่ปานที่เดียวกัน เจอรถเก๋งหนึ่งคันจอดเตรียมของอยู่ จึงเข้าไปถาม “ พี่ฮะ พี่ไปกิ่วแม่ปานรึเปล่าฮะ อ๋อ ไม่ได้ไปครับ แต่ไปส่งได้” เย้ ใจดีจริงๆ การโบกรถครั้งนี้ทำให้เราได้เพื่อนใหม่เฉยเลย
การเดินป่านี้คิดค่าไกด์นำ กลุ่มละ 200 บาท (กลุ่มละ 1-10 คน) 07.15 น.เริ่มเดินกัน เส้นทางช่วงแรก เป็นบันได้ขึ้นๆลงๆ ทางไม่ลำบากมาก แต่ก็เหนื่อยเหมือนกัน อาจเพราะอากาศหนาวด้วยมั้ง ถึงช่วงที่กลางๆที่เป็นทุ่งหญ้าเริ่มโอเคขึ้นแล้ว อากาศโปร่ง โล่ง สบาย มีแลนด์มาร์คให้ถ่ายรูป คนต่อคิวกันเพียบ พอเข้าสู่กิโลเมตรที่ 3 กิโลเมตรสุดท้าย เป็นทางลงซะส่วนใหญ่ มีขึ้นบ้างเล็กน้อยพองาม
09.30 น. เป็นเวลาที่เราเดินป่ากันเสร็จ ทำเวลาได้ดีทีเดียว 2 ชั่วโมง โดยประมาณ หาอะไรกินกันหน่อยก่อนเดินทางต่อ เราออกมาโบกรถตรงที่เราดูพระอาทิตย์ขึ้นเมื่อเช้า อาจเพราะเป็นทางลง อันตรายเลยไม่มีใครจอด เราจึงนั่งรถสองแถวฟรีไปยังวัดพระมหาธาตุเจดีย์นภพลภูมิสิริที่อยู่ใกล้ๆกัน
หลังจากไหว้พระกันเสร็จ การโบกครั้งที่ 3 จึงให้พี่อ้วนพี่ทหารที่คอยจัดการเรื่องที่จอดรถให้นักท่องเที่ยว หารถกลับที่พักให้ รถเหลืองพี่ๆกลุ่มนี้เค้าเหมากันมา แต่เค้าลงแค่ที่ตลาดของฝาก ไม่เป็นไร เราขอติดไปด้วยนะ
การโบกครั้งที่ 5 รถขนไผ่จากโครงการหลวงผ่านมาขอติดไปด้วย พี่เค้าใจดีไปส่งถึงที่พักดอยชัวร์ญ่าเลย เก็บเต็นท์ เก็บข้าวของกันด้วยความรวดเร็วเพราะล่วงเลยเวลาที่วางแผนไว้มาพอสมควรแล้ว เดินมารอที่เดิมหน้าทางเข้าออกที่พัก
การโบกครั้งที่ 6 เจอรถโครงการหลวงอีกแล้วไปส่งถึงสามแยกเดิมเลย ใจดีจริงๆ ตอนแรกคิดว่าจะนั่งรถสองแถวสีเหลืองเพื่อไปจอมทองแล้วต่อรถเข้าเมือง แต่ไหนๆก็โบกรถมาขนาดนี้ลองโบกอีกสักทีจะเป็นไรไป การโบกครั้งที่ 7 เกิดขึ้นจนได้ โชคดีมากรถกระบะคันนี้ผ่านทางที่เราจะไปพอดี สงสัยเพราะที่เราพากันไปไหว้พระธาตุแน่ๆ จริงๆพี่เค้าชวนให้นั่งข้างหน้าแหละ แต่เราเกรงใจนั่งข้างหลังดีกว่า รับแสงแดดและสายลมกันหน่อย พี่เค้าขับด้วยความเร็วสูงมากจริงๆ แซงทุกโค้ง ไม่มีหลุด ไฟแดงก็ต้องมาจอดเป็นคันหน้าทุกไฟแดงถ้าทำได้ แอบกลัวอยู่เหมือนกัน ตอนแรกเราคิดว่าพี่เค้าเมาด้วยซ้ำ
พอถึงทางผ่านที่พี่เค้าจอดให้ลง พี่เค้าก็ลงไปหารถแดงสองแถวต่อให้เราที่เราจะไปคือร้านเช่ามอเตอร์ไซค์ AYA ใกล้กับสถานีรถไฟเชียงใหม่ เพราะเป็นนักท่องเที่ยวเลยโดนไปคนละ 50 บาท ถ้าปกติแค่ 20 บาท พี่เค้าว่าอย่างนั้น “โชคดี เที่ยวให้สนุก แล้วเจอกันใหม่ ” คำลาจากปากพี่คนขับรถกระบุสุดซิ่ง(พอล วอคเกอร์ เมืองเชียงใหม่คนนี้ 555)
ถึงแล้วร้านเช่ามอเตอร์ไซค์ AYA จริงๆมีอีกร้านนึงอยู่ใกล้ๆกันแต่แพงกว่าเราเลยเลือกร้านนี้ ระหว่างรอนักท่องเที่ยวเอารถมาคืน ก็กินข้าวกันที่ร้านข้างๆ อิ่มแล้วรถมาพอดี ทำเรื่องเช่ามอเตอร์ไซค์เสร็จสับ ค่าเช่ารถคันละ 140 บาท ค่าประกัน 40 บาท (เอาหรือไม่เอาแล้วแต่เรา) ค่ามัดจำหมวกกันน็อคใบละ 100 บาท ค่ามัดจำรถคันละ 2,000 บาท พร้อมแล้ว ที่หมายที่ 4 ม่อนแจ่ม เป็นระยะทางประมาณ 45 กิโลเมตรที่เราขับกันมา ระหว่างทางมีแวะซื้อเสื้อผ้าชาวดอย ก่อนจะถึงที่หมาย คืนนี้เรานอนที่นี้แต่ไม่ได้แพลนไว้ว่านอนม่อนไหน(มีหลายม่อนซะเหลือเกิน 555)
18.30 น. เป็นเวลาที่เราถึงม่อนแจ่ม แต่ที่นี้ไม่มีลานกางเต๊นท์ให้ เราจึงต้องลองหาที่อื่นๆ จากที่ลองเช็คเปรียบเทียบราคาและความเหมาะสมแล้ว ได้ที่พักเป็นกระท่อมที่สวนอีเดนระหว่างแยกทางขึ้นไปม่อนแจ่ม ราคา 800 บาทเท่านั้น
(อบอุ่น มีปลั๊กไฟพร้อม ห้องน้ำรวม มีเครื่องทำน้ำอุ่น) เก็บของในกระท่อมเสร็จแล้ว สมควรแก่เวลาออกไปหาอะไรกิน ก็เหนื่อยมาทั้งวันกันแล้วนี่
หนังท้องตึงหนังตาหย่อน ขอตัวทำความสะอาดร่างกายที่เผชิญอะไรมาทั้งวัน สำหรับคืนนี้ราตรีสวัสดิ์ Zzz
อังคาร 5 มกราคม 2558
เช้านี้ตื่นสายเลยไม่ทันดูพระอาทิตย์ขึ้นเลย เสร็จภารกิจส่วนตัวกันแล้ว ขับมอเตอร์ไซค์คู่กายไปม่อนแจ่มกันนนน